Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 222

ตอนที่ 222

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 222: หลอกลวง

“อะไร?” เมื่อซ่งจงกล่าวออกมาเช่นนั้น ซูหยู่และซูหยุนต่างก็ตกใจ “เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? เจ้าจะต่อสู้กับราชันฉลามดำได้อย่างไรและต่อสู้เพียงคนเดียวน่ะหรือ?”

“ถูกต้อง อย่างมากที่สุดเราเพียงฆ่าตัวบัดซบนี้ทั้งหมด! อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากเกินไป!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างเร่งรีบ

“ไม่ ไม่ได้!” ซ่งจงรีบบอกมือพร้อมกล่าวว่า “เจ้าไม่ควรโจมตีพวกเขาในตอนนี้!”

เมื่อมู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น นางกล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “พี่ชายซ่ง เรื่องราวมันมาถึงขั้นนี้แล้วแต่ท่านยังต้องการดูแลไอ้พวกนี้อีกงั้นหรือ?”

“ไม่ใช่ว่าข้าดูแลพวกมัน เพียงแค่เวลานี้ยังไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้น!” ซ่งจงตอบกลับพร้อมกับหัวเราะออกมา “แม้ว่าพวกมันจะบาดเจ็บ แต่ก็ยังสามารถต่อสู้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตามการสังหารคนทั้งห้าสิบคนนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร ราชันฉลามดำนั่นก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อเขาเห็นว่าเราต่อสู้กัน เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะยืนดูเงียบๆ? เขาจะฉวยโอกาสนี้ทันทีในการลงมือและเราจะถูกรายล้อมไปด้วยศัตรูถ้าเป็นเช่นนั้น! แทนที่จะปล่อยให้เรื่องราวต่างๆเป็นไปเช่นนั้น ทำไมเราจึงไม่ปล่อยเหล่าเห็บหมัดเหล่านี้ออกไป เพื่อที่จะได้ไม่มีสิ่งผิดพลาดในการต่อสู้!”

“ถูกแล้ว!” ดันฉิงซีกล่าว “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เราจะส่งเขาออกไป! ข้าจะอยู่ตรงนี้กับเจ้า!”

สำหรับซูหยู่และซูหยุนได้ยินเช่นนั้น นางรีบกล่าวทันที “พวกเราก็จะอยู่ตรงนี้เช่นกัน!”

แม้ว่าหินจะไม่ได้กล่าวอะไร เขายืนชิดด้านหลังของซ่งจงเพื่อแสดงเจตนาที่ชัดเจน เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ซาบซึ้งในบุญคุณคนเช่นกันและมีแผนที่จะตอบแทนซ่งจงหลังจากช่วยเขาออกมาจากมือของเหลยซานเอ๋อ สำหรับตาเฒ่าพิษเขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรและไม่พูดอะไรสักคำ!

ซ่งจงรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากและไม่มีพลังที่จะจัดการกับตาเฒ่าพิษในตอนนี้ ดังนั้นซ่งจงจึงไม่สนใจ เขาหันไปกล่าวกันดันฉิงซี ซูหยุน ซูหยู่และหิน “ข้าขอบคุณความตั้งใจของพวกท่าน แต่ข้าคงจะเปิดเผยอะไรมากไม่ได้ พวกท่านมีแต่จะสร้างปัญหาให้กับข้าถ้าหากยังอยู่ตรงนี้! ที่จริงแล้วการที่ข้าอยู่ตรงนี้เพียงผู้เดียวไม่ใช่การแสวงหาความตาย แต่มันเป็นเพราะข้ามั่นใจว่าข้าจะหลบหนีได้! ได้โปรดเชื่อใจข้าและฟังข้าได้หรือไม่?”

เมื่อทุกคนได้ยินเขากล่าวเช่นนั้น พวกเขารู้ทันทีว่าคงไม่ดีถ้าหากยังอยู่ตรงนี้ต่อไปและพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อเห็นเช่นนั้นซ่งจงพยักหน้าจากนั้น เขายกมือขึ้นพร้อมกับฟาดลงที่หลังคอของมู่ซื่อหรงอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าทำให้นางหมดสติไปทันที

เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น พวกเขาตกใจทันที ซูหยุนและซูหยูรีบถามทันที “ศิษย์น้องซ่งเจ้าทำอะไรน่ะ?”

“อ่า อย่างนี้แหละ!” ซ่งจงทำเป็นไม่สนใจอะไรพร้อมกับอธิบาย “พวกท่านก็รู้มู่ซื่อหรงนั้นดื้อด้านและไม่ยอมที่จะห่างจากข้า ถ้าหากข้ากล่าวว่าให้นางไปกับพวกท่าน แน่นอนว่านางคงไม่ฟังสิ่งใด ดังนั้นข้าจึงทำเช่นนี้ และข้าขอร้องให้พวกท่านดูแลนางแทนข้าด้วย ได้หรือไม่?”

ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น ซ่งจงยกมู่ซื่อหรงที่หมดสติยื่นให้กับซูหยุ่นและซูหยู่ ทุกคนเข้าใจการกระทำของเขา ทำให้พวกเขาประทับใจอย่างมากเกี่ยวกับความห่วงใยที่ซ่งจงมีต่อนาง ซูหยู่และซูหยุนเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วและตอบกลับ “ไม่ต้องห่วง เราจะปกป้องนางด้วยชีวิตของเรา!”

“ฮ่าฮ่า ไม่ต้องทำเช่นนั้นก็ได้!” ซ่งจงตอบกลับพร้อมกับคิดในใจ ‘แท้จริงแล้ว ข้าให้ความสำคัญกับเจ้าสองคนมากกว่านังสารเลวนี้ พวกเจ้าควรจะดูแลตัวเองให้ดีเสียมากกว่า!’

เหตุผลที่ซ่งจงทำมู่ซื่อหรงหมดสติไม่ใช่เพราะเขาต้องการปกป้องนาง เขาทำให้มู่เอ๋อเป็นอิสระเพื่อที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเขาไม่อาจปล่อยให้มู่เอ๋อจากไปได้ ดังนั้นเขาจึงจัดการมู่ซื่อหรง ด้วยวิธีเช่นนี้ นางจะไม่สามารถกล่าวอะไรได้ เมื่อเขามีชีวิตรอดกลับไป แน่นอนว่าเขาจะปลุกนางเอง

อย่างไรก็ตาม ซูหยู่และซูหยุนเข้าใจผิดและคิดว่าเขากล่าวติดตลกไปเช่นนั้น ดังนั้นใบหน้าของพวกนางจึงเปลี่ยนเป็นสีแดง ทำให้ซ่งจงรู้สึกมึนงงทันที

อย่างไรก็ตาม เขาฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็วและยิ้มออกมาอย่างไร้กังวล “เอาล่ะ นั่นคือทั้งหมดที่ข้าจะบอก ข้าจะอยู่ตรงนี้เอง!”

เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขาเพิกเฉยต่อทุกคนและบินไปด้านหน้าทันที จากนั้นเขากล่าวกับราชาฉลามดำอย่างสุภาพ “ราชาฉลามดำ ถ้าหากเจ้าสามารถสัญญาว่าจะปล่อยพวกเขาไป ข้าจะอยู่ตรงนี้!”

“งั้นหรือ?” เมื่อราชาฉลามดำได้ยินเช่นนั้น เขาตอบออกมาอย่างร่าเริง “เรื่องจริงงั้นหรือ?”

“แน่นอน!” ซ่งจงกล่าวเสริม “อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องปล่อยพวกเขาออกไปก่อน!”

“ว่าอะไร?” เมื่อราชาฉลามดำได้เยินเช่นนั้น เขาถามออกมาด้วยความระมัดระวัง “เด็กน้อย อย่าบอกนะว่าเจ้าวางแผนอะไรอยู่?”

“แผนอะไรที่ข้าจะทำได้?” ซ่งจงกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด “แม้ว่าพวกเขาจะจากไป ข้ายังยืนอยู่ตรงนี้ อย่าบอกนะว่าราชาฉลามดำที่มีลูกน้องมากมายเช่นนี้จะกลัวว่าข้าจะหลบหนี?”

เมื่อราชาฉลามดำได้ยินเช่นนั้น เขาไตร่ตรองดูพบว่ามันก็สมเหตุผล ดังนั้น เขาตะโกนออกมา “เรื่องตลกอะไรกัน ทำไมข้าต้องกลัวว่าเจ้าจะหนีด้วย? ลืมมันไป ข้าจะทำตามที่เจ้าต้องการ เด็ก ๆ ปล่อยพวกเขาออกไป!”

สิ้นสุดคำสั่งของฉลามดำ ทุกคนพบว่ามีรอยแยกเล็ก ๆ เพียงพอให้เรือของพวกเขาแล่นออกไป

เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขามั่นใจว่าราชาฉลามดำนั้นไม่มีกับดักอะไรอยู่ เพราะถ้าหากเขาทำเช่นนั้นจะทำให้เรื่องราวมันแย่ลงไปอีก ดังนั้นเขาคำนับและกล่าวว่า “ทุกคนได้โปรดออกไป!”

“ลาก่อน!” พวกเขาตอบกลับอย่างตื่นเต้น สำหรับดันฉิงซี ซูหยู่ ซูหยุน และหินมีใบหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวด

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มและกล่าวออกมาอย่างสบายใจ “ไป หลังจากที่พวกเจ้าออกไปแล้ว จงจัดการเห็บหมัดพวกนั้นทันทีและกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้! บางทีข้าอาจจะไปรอพวกเจ้าอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว!”

หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนรู้สึกมีพลังขึ้นมาทันที จากนั้นพวกเขาทั้งหมดออกไป

ก่อนที่จะจากไป ซูหยู่และซูหยุนกล่าวกับซ่งจงผ่านสัมผัสวิญญาณ “ศิษย์น้องซ่ง! เวลานี้พวกข้าขอให้คำสัญญา ถ้าหากเจ้ากลับมาได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ เราทั้งสองจะยอมให้เจ้าเล่นกับร่างกายของเรา!” เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น นางมองหน้าซ่งจงด้วยความรู้สึกที่ล้ำลึกพร้อมกับรีบออกไป

เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มออกมาทันที

ราชาฉลามดำนั้นเมื่อเห็นซ่งจงยิ้มออกมา เขายิ้มตามพร้อมกับคิดในใจ ‘เหตุใดเจ้าไขมันบัดซบนี่จึงยิ้มออกมา ทั้งที่มันจะต้องตายอย่างแน่นอน?’ เขาจึงถามออกมาด้วยความอยากรู้ “ซ่งจง เจ้านั้นกำลังจะตายแล้วเหตุใดจึงยังมีความสุขอยู่?”

“ช่วยไม่ได้ ข้าเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี!” ซ่งจงตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ

สำหรับราชาฉลามดำที่ได้ยินเช่นนั้น เขาตอบกลับอย่างงุนงง “มองโลกในแง่ดี? ข้าไม่คิดเช่นนั้น อย่าบอกนะว่าเจ้ามีแผนอะไรอยู่?”

“ข้านั้นอยู่ในพลังของท่านและเหล่าฉลามนับร้อยตน ท่านคิดว่าข้าจะมีแผนอะไรได้?”  ซ่งจงยิ้มเยาะ

“เรื่องนั้น…” เมื่อราชาฉลามดำได้ยินเช่นนั้น เขาหมดคำพูด เขาไม่รู้เลยว่าแผนของซ่งจงนั้นเป็นแบบไหน

เมื่อเห็นเช่นนั้น ซ่งจงไม่ได้รบกวนเขาและลอยขึ้นไปในอากาศด้วยรอยยิ้ม เพลิดเพลินกับเหล่าเม็ดฝนรอบตัวของเขาอย่างเงียบสงบ

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ราชาฉลามดำหมดความอดทนและกล่าวออกมา “ซ่งจง ถึงเวลาแล้ว พวกเขาหายไปนานแล้วในตอนนี้ ถึงเวลาของเจ้าแล้ว!”

“ท่านจะรีบไปไหน?” ซ่งจงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ด้วยเคล็ดวิชาที่ท่านใช้ มันมีระยะถึงหนึ่งหมื่นลี้ แม้ว่าเราจะอยู่ตรงกลางของพายุ พวกเขาจะต้องบินด้วยความเร็วห้าพันลี้จึงจะสามารถหลบหนีพ้น และด้วยความเร็วเต่าของพวกเขาเพียงชั่วโมงเดียวนั้นไม่เพียงพออย่างแน่นอน น้อยที่สุดพวกเขาต้องการอย่างน้อยสองชั่วโมง! ไม่ว่าจะอย่างไรท่านคือราชาฉลามดำที่มีชื่อเสียงที่สุดในทะเลแห่งนี้ อย่าบอกข้านะว่าท่านไม่สามารถอดทนรอได้?”

“เหอะ!” วิธีที่ซ่งจงเถียงออกมาทำให้เขาหมดคำพูด เนื่องจากเขารอมาเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว การรออีกหนึ่งชั่วโมงก็ไม่ได้ยากเย็นเกินไป เขาจึงทำได้เพียงถอนหายใจและไม่กล่าวอะไรต่อ

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงอย่างรวดเร็ว ราชาฉลามดำตะโกนออกมา “ซ่งจง ตอนนี้ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว พวกเขาควรออกไปจากพายุนี้ได้แล้ว ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะต้องทำตามสัญญา!”

“ไม่ต้องรีบร้อน!” ซ่งจงส่ายหัวพร้อมกล่าวอีกครั้ง “พวกเขาช้ากว่านั้น และการติดกับพายุของท่านมันยิ่งทำให้พวกเขาช้าลงไปอีก ถ้าหากข้ายอมแพ้ ท่านจะกลับไปไล่ล่าพวกเขาทันที ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ข้าจะยอมตายไปเพื่ออะไร?”

เมื่อราชาฉลามดำได้ยินเช่นนั้น เขาคำรามออกมา “ซ่งจง เจ้ากล้าที่จะดูถูกชื่อเสียงของข้างั้นหรือ?”

“โธ่พี่ใหญ่!” ซ่งจงตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทะเลตะวันออกนั้นไร้กฏเกณฑ์ และท่านเป็นถึงราชาฉลามดำแห่งจักรวรรดิทะเลตะวันออก สามารถสร้างชื่อเสียงในทะเลตะวันออกไว้อย่างมากมาย ท่านยังมีหน้ามาพูดเรื่องชื่อเสียงของข้าอีกหรอ? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการดูถูกสติปัญญาของข้า! ท่านช่วยฟังเสียงที่ไร้สาระของข้าบ้างได้หรือไม่?”

เมื่อราชาฉลามดำได้ยินเช่นนั้น เขาไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่เขากลับหัวเราะออกมา “ยอดเยี่ยม เจ้าช่างพูดช่างจายิ่งนัก ด้วยความสัตย์จริงทั้งหมด ข้ามีความคิดว่าจะดูแลเจ้าก่อนและไล่ล่าพวกเขาในภายหลัง แต่เจ้านั้นฉลาดเกินไป ถ้าอย่างนั้นจงลืมมันไป ข้าจะปล่อยพวกเขาไป!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าขอขอบคุณ!” ซ่งจงตอบกลับ

“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า ท้ายที่สุดมันเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างเรา! อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ข้าปล่อยพวกเขาไป เจ้าจะได้ใช้เวลาเท่าที่ต้องการและสุดท้ายต้องยอมแพ้ต่อข้า ถูกต้องไหม?”

“แน่นอน เป็นเช่นนั้น ข้าคาดเดาว่าถ้าผ่านไปครึ่งวัน ท่านจะไม่สามารถไล่ล่าพวกเขาได้ ถ้าถึงเวลานั้นข้ายินดีที่จะยอมแพ้!” ซ่งจงกล่าวอย่างสงบ

“ครึ่งวัน? เจ้าล้อเล่นหรือไม่!?” ราชาฉลามดำกล่าวออกมาอย่างงุนงง

“แน่นอนว่าข้าพูดความจริง!” ซ่งจงตอบกลับ

“เอาล่ะ ข้าจะให้เวลาเจ้าครึ่งวัน!” ราชาฉลามดำตอบกลับพร้อมกับตบต้นขาของตนเอง

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าขอขอบคุณ!” ซ่งจงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ข้าไม่ต้องการคำขอบคุณ ข้าเพียงหวังว่าเจ้าจะไม่เล่นแง่อะไรกับข้าในครึ่งวันถัดไป!” ราชาฉลามดำตอบกลับ

“ข้าไม่มีทางทำเช่นนั้น!” ซ่งจงยิ้มออกมา

เขาตอบโดยไม่ลังเล อย่างไรก็ตามเมื่อครึ่งวันผ่านไป ราชาฉลามดำถามเขาอีกครั้ง ซ่งจงตอบกลับพร้อมกับยักไหล่ “ครึ่งวัน? ท่านต้องได้ยินผิดพลาดอย่างแน่นอน ข้ากล่าวว่าสามวัน!”

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset