Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 209

ตอนที่ 209

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 209: เปลือยกาย

หลังจากที่พูดคุยและหัวเราะกับฮัวจิงซือ เจ้าอ้วนรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับให้เป็นครอบครัวเดียวกับเขามากขึ้น ความวิตกกังวลต่าง ๆ เริ่มหายไป ในจังหวะเวลาเช่นนี้ ฮัวจิงซือรู้สึกว่าบรรยากาศดูดีขึ้นเขาจึงเริ่มตั้งคำถามบ้าง “จริงสิ แล้วพวกเจ้าทั้งคู่วางแผนไว้ว่าจะเริ่มต้นทีมอย่างไรล่ะ?”

เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาถามออกไปอย่างสับสน “ทีมอะไร? ข้าไม่เข้าใจ!”

“ฮ่าฮ่า ความผิดข้า ความผิดข้าเอง! ข้าลืมไปว่ายังไม่ได้อธิบายให้เจ้าฟัง!” ฮัวจิงซือหัวเราะออกมาพร้อมกับอธิบาย “นี่คือโครงสร้างของเหล่าอสูรกายในทะเลตะวันออก!”

จากนั้นฮัวจิงซือพยายามอธิบายให้เจ้าอ้วนฟังอย่างช้า ๆ เมื่อเขาได้ยินทุกอย่างแล้ว เจ้าอ้วนเข้าใจทันทีว่าในทะเลตะวันออกไม่มีนักล่าอสูรกายผู้ใดที่ทำงานเพียงคนเดียว จะต้องมีทีมอย่างน้อยสิบคน ทุกคนจะถูกแบ่งออกตามความแข็งแกร่งตามลำดับเซียนเทียน ปฐมภูมิ และจินตัน

ทีมของเซียนเทียนนั้นย่อมตั้งมาจากเหล่าศิษย์ระดับเซียนเทียน และทีมระดับปฐมภูมินั้นจะผสมไปด้วยศิษย์ระดับเซียนเทียนและปฐมภูมิ แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของทีมระดับปฐมภูมินั้นมากกว่า สำหรับจินตันนั้นง่ายมาก แม้ว่าทีมจะมีผู้ฝึกตนระดับจินตันเพียงคนเดียวก็สามารถเรียกว่าทีมระดับจินตันได้ เพราะจำนวนนั้นไม่สำคัญมากกว่าตำแหน่งที่มีอยู่

ด้วยความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันของทีม พวกเขานั้นรับผิดชอบด้านต่าง ๆ ของทีมในหมู่เกาะที่นับไม่ถ้วนในทะเลตะวันออก ความแข็งแกร่งของอสูรกายในทะเลตะวันออกนั้นจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอเทียบได้จากระยะห่างจากพื้นมหาสมุทร เหล่าอสูรที่อ่อนแอที่สุดมักจะถูกดูแลโดยเหล่าผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียน

ถัดออกไปอีกสักหน่อยก็จะเป็นอสูรกายขั้นสามถึงสี่ ซึ่งผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิจะเป็นผู้ดูแล ถ้าหากผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนถูกส่งไปที่นั่น ก็คงจะเป็นได้แค่อาหารของอสูรกายเท่านั้น ในทำนองเดียวกันก็คือเหล่าอสูรกายที่แข็งแกร่งสามารถถูกดูแลโดยเหล่าผู้ฝึกตนระดับจินตันเท่านั้น

การดูแลนั้นเรียกได้ว่าเป็นการกวาดล้างเสียมากกว่า สังหารให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การสังหารทั้งหมดจะเป็นการถอนรากถอนโคน แต่การจะทำเช่นนั้นได้ต้องอาศัยพลังอันยิ่งใหญ่ด้วย

ตามกฏของทะเลตะวันออก ทุกทีมจะต้องดูแลอย่างน้อยสองเกาะตามความแข็งแกร่งของทีม นอกจากนี้พวกเขาจะต้องได้รับหลักฐานว่าได้ทำลายครั้งยิ่งใหญ่ ถ้าหากว่าไม่บรรลุเป้าหมายนี้ทีมทั้งหมดจะต้องถูกลงโทษ การลงโทษนี้ไม่ใช่การทารุนแต่อย่างใด แต่กลับเป็นการฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งมันรุนแรงอย่างมากในทะเลตะวันออก

นักล่าอสูรกายทุกคนจะมีตราประจำตัวเก็บไว้ และจะไม่สามารถหลบหนีได้ หลังจากที่ได้ทำการกวาดล้างแล้วทะเลตะวันออกจะส่งคนเพื่อไปตรวจสอบผลลัพธ์ ถ้าหากถูกรายงานว่าทุกอย่างเป็นเท็จ แน่นอนว่ามันจะเป็นอาชญากรรมขนาดใหญ่

แน่นอนว่าในการลงโทษจะมีความรุนแรงอย่างมาก แต่รางวัลก็ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นมันจะเป็นผลประโยชน์ของทีมสำหรับเหล่าวัสดุที่ได้จากอสูรกาย เหล่าพันธมิตรในทะเลตะวันออกจะมอบหินจิตวิญญาณและยาอายุวัฒนะสำหรับเป็นของรางวัล ถ้าหากพวกเขาทำได้เหนือความคาดหมาย แน่นอนว่ารางวัลก็จะใหญ่มากตาม นอกจากนี้ทุกสามปีพวกเขาจะถูกตรวจสอบผลงานทั้งหมดที่ผ่านมาและได้รับรางวัลสำหรับทีมที่ทำได้ดีที่สุดสิบทีมแรก โดยเฉพาะทีมอันดับต้นๆ ของรางวัลจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์วิเศษระดับสูง

สำหรับนักล่าอสูรกายที่ไม่ได้มีผลงานที่ยิ่งใหญ่มากนัก ชีวิตของพวกเขาก็ราวกับแขวนอยู่บนเส้นด้ายและเปรียบเหมือนผักชิ้นหนึ่งเท่านั้น

ภายใต้สถานการณ์ปกติ มันไม่ยากนักที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ เพราะว่าก่อนหน้านั้นคณะสำรวจแห่งทะเลตะวันออกจะทำการประเมินสถานการณ์ให้ก่อนเสมอ ทั้งชนิดและความแข็งแกร่งของเหล่าอสูรกาย ตราบใดที่ทีมนั้นไม่ได้โง่เขลาจนเกินไปมันไม่ยากเลยที่จะจัดการกับเหล่าอสูรกายที่อ่อนแอกว่า เหล่าคณะสำรวจนั้นเข้ามาอยู่ในทะเลตะวันออกนานหลายปีแล้ว และพวกเขาค่อนข้างจะเข้าใจอสูรกายเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นพวกเขารู้ว่าอสูรกายชนิดนี้จะกลัวพิษบางอย่าง และนั่นจะทำให้พวกเขาแพร่พิษเข้าไปในสายลมเพื่อจัดการพวกมันอย่างง่ายดาย

การทำเช่นนั้นนับว่าเป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมและจะได้รับรางวัลที่ดี ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้นมักจะตื่นเต้นกับของรางวัลที่ได้รับอย่างบ้าคลั่ง ทั้งกระดูก เนื้อ ผิวหนังและแกนกลางของเหล่าอสูรกาย พร้อมทั้งเหล่าสมุนไพรต่าง ๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นซึ่งมันมากเพียงพอที่จะแบ่งให้กับคนสิบคน

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้คนในทะเลตะวันออกมักจะร่ำรวยกว่าบุคคลที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาใหญ่ ถ้าหากเปรียบเทียบกันภายในเทือกเขาใหญ่จะเป็นผู้ฝึกตนระดับจินตันเท่านั้นที่สามารถครอบครองสมบัติวิเศษระดับสูง แต่ถ้าหากเป็นทะเลตะวันออกเพียงแค่อยู่ในระดับปฐมภูมิก็สามารถครอบครองมันได้แล้ว

แต่ในความเป็นจริงการเป็นนักล่าอสูรกายนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ประการแรกเหล่าอสูรกายนั้นไม่โง่เขลา พวกมันมีสมองและความหลักแหลม บางครั้งพวกมันรู้วิธีที่จะปกปิดพลังของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้ไม่ใช่ว่าทุกสถานที่ในทะเลตะวันออกจะสามารถเดินไปมาได้อย่างง่ายดาย เหล่านักสำรวจเคยทำผิดพลาดและไม่เหลือพวกพ้องเคียงข้างแม้แต่คนเดียว นั้นทำให้พวกเขาไม่กล้าเดินต่อเข้าไปลึกกว่านี้

ตัวอย่างเช่น บางครั้งมีอสูรกายขั้นสองที่อยู่ด้านนอกและเมื่อได้รับรายงานเช่นนี้ เหล่าทีมเซียนเทียนจะรับภารกิจและเมื่อเดินทางมาถึงพวกเขาจึงค่อยรู้ว่ามีอสูรกายขั้นสามและสี่หลบอยู่ด้านข้าง ในเวลานั้นสิ่งเดียวที่เฝ้ารอพวกเขาอยู่คือความตาย แน่นอนว่าเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นทุกปี

นอกเหนือจากนั้น เหล่าอสูรกายนั้นไม่รวมตัวอยู่เพียงเกาะเดียวหรืออาศัยอยู่ในสถานที่เดิม ๆ พวกมันเคลื่อนไหวไปมาราวกับเป็นนก ดังนั้นจึงมีผู้ฝึกตนที่ถูกโจมตีจากเหล่าอสูรกายขนาดใหญ่ที่บังเอิญได้พบเจอภายในทะเลตะวันออก เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น แม้กระทั่งบางทีมถูกสังหารระหว่างทางก่อนที่จะไปถึงจุดหมายเสียด้วยซ้ำ

นอกเหนือจากสัตว์ร้าย สภาพอากาศที่แปรปรวนของทะเลตะวันออกยังเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรงสำหรับผู้ฝึกตน ตัวอย่างเช่นมักจะมีพายุที่รุนแรงเกิดขึ้น แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ หรือในบางพื้นที่ที่แปลกประหลาด หากผู้ใดพลัดหลงเข้าไปก็จะไม่ได้กลับออกมาอีก แม้แต่การส่งผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินเข้าไปตรวจสอบก็ยังไม่ได้กลับออกมาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้สถานที่เหล่านั้นจึงกลายเป็นสถานที่ต้องห้ามแห่งทะเลตะวันออกและมันมีมากกว่าสิบแห่ง

เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันเหล่านี้ จึงส่งผลให้อัตราการตายในทะเลตะวันออกพุ่งสูงมาก

หลังจากที่อธิบายสถานการณ์ของที่นี่ให้เจ้าอ้วนฟัง ฮัวจิงซือถามด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าต้องการที่จะสร้างทีมของตนเองด้วยการเริ่มต้นใหม่กับระดับเซียนเทียนมือใหม่? หรือเจ้าต้องการเข้าร่วมกับทีมขั้นปฐมภูมิ? หรือว่าเจ้าต้องการจะเข้าทีมจินตันล่ะ? ข้าแนะนำให้เจ้าเข้าร่วมทีมเดียวกับพวกข้าเป็นการส่วนตัวนะ ข้าไม่กล้าจะรับประกันอะไรเลย แต่ข้าสามารถสัญญาได้ว่าเจ้าจะไม่พบเจอกับอันตราย!”

เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้พร้อมกล่าวออกมาอย่างขื่นขม “ข้าขอขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน แต่ข้าคงจะประเมินตนเองสูงเกินไปถ้าหากเข้าร่วมในทีมจินตันทันทีที่มาถึงที่นี่ แน่นอนว่าสถานที่ที่ท่านต้องไปจะต้องอันตรายอย่างมากและข้าจะเป็นเพียงภาระให้กับท่านเท่านั้น!”

สำหรับคนที่ฉลาดเช่นฮัวจิงซือเขาเข้าใจทันทีว่าเจ้าอ้วนไม่ยินยอมที่จะอยู่ใต้เท้าของเขา ด้วยความสามารถของการต่อสู้กับเหล่าพี่น้องหัวล้านทั้งสี่ เจ้าอ้วนน่าจะต่อสู้กับฮัวจิงซือได้อย่างไม่มีปัญหา แล้วเขาจะเป็นภาระได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่านี่เป็นข้อแก้ตัวเท่านั้น

เมื่อฮัวจิงซือเห็นแล้วว่าเจ้าอ้วนไม่ต้องการที่จะอยู่ในทีมของเขา แน่นอนว่าเขาก็ไม่ต้องการคนหัวดื้อเช่นเขาเหมือนกัน เมื่อเจ้าอ้วนได้ปฏิเสธเขาแล้ว เขามีความสุขและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เด็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ต้องการอยู่ภายใต้การนำทีมของอาวุโสและต้องการออกไปสร้างความเสียหายด้วยตนเองสินะ ถูกไหม?”

ใบหน้าของเจ้าอ้วนกลายเป็นสีแดงพร้อมกับจะอธิบายบางอย่าง แต่ฮัวจิงซือหยุดเขาไว้ “ฮ่าฮ่า ไม่จำเป็นต้องอธิบายสิ่งใดอีกแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าก็เป็นอย่างเช่นเจ้า ก็ตามนี้ ข้าเข้าใจความรู้สึกเจ้าดี ดังนั้นบอกข้ามาว่าเจ้าเลือกอะไร ข้ามีอำนาจนิดหน่อยในสถานที่แห่งนี้และสามารถส่งเจ้าไปอยู่กับทีมอื่นได้!”

“ขอขอบคุณอาวุโสด้วยถ้าหากเป็นเช่นนั้น!” เจ้าอ้วนคำนับ จากนั้นเขาไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะพร้อมตอบกลับว่า “ศิษย์ต้องการไปอยู่ในทีมที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ ทีมที่แข็งแกร่งและเหมาะกับข้าที่สุด!”

เหตุผลที่เขาเลือกทีมปฐมภูมิเพียงเพราะว่าเขาไม่ต้องการที่จะเลี้ยงดูเด็กใหม่เพิ่งหัดเดินอย่างเช่นเซียนเทียน นอกจากนั้นถ้าหากเขาต้องการเป็นหัวหน้าทีม เขาก็ต้องการผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาที่แข็งแกร่งเช่นกัน สำหรับสถานการณ์เช่นนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่เจ้าอ้วนจะเกรงกลัวให้กับผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีอยู่ตอนนี้นั้นสามารถจัดการกับผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิขั้นสุดท้ายได้อย่างง่ายดาย หากเป็นเช่นนี้ตำแหน่งหัวหน้าทีมก็จะกลายเป็นของเขาอย่างง่ายดาย

สำหรับฮัวจิงซือเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขายิ้มออกมาพร้อมกับชื่นชม “เจ้ามีความคิดที่ดีมาก ทีมที่เจ้าเลือกจะเข้าสู่ระดับจินตันในอนาคต ถ้าเป็นเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้แน่นอนว่าอนาคตของเจ้าจะสดใสอย่างมากภายในทะเลตะวันออก อา ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ ข้าขอคิดสักครู่ว่าทีมไหนกันที่เหมาะกับเจ้า”

หลังจากนั้นชั่วขณะ ฮัวจิงซือกล่าวออกมา “ในทีมนับพันภายในทะเลตะวันออก มีเพียงไม่กี่ร้อยทีมเท่านั้นที่เป็นผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิเต็มทีม และมีเพียงสามทีมเท่านั้นที่แข็งแกร่ง ข้าอยากรู้ว่าเจ้าชอบทีมไหนมากที่สุด?”

“รบกวนท่านอธิบายให้ข้าฟังมากกว่านี้!” เจ้าอ้วนรีบตอบ

“ได้!” ฮัวกล่าวออกมา “ในหมู่พวกเขาที่แข็งแกร่งที่สุดคือทีมนักบวชดำ มีบุรุษเก้าคนอยู่ภายใต้การดูแลของเขาและมีสามคนที่เป็นผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิขั้นแรก สี่คนขั้นสุดท้ายและสองคนขั้นกลาง”

“ฟังดูยอดเยี่ยมมาก!” เจ้าอ้วนแสดงความเห็น

“ใช่ มันยอดเยี่ยมมากแต่ทีมนี้เต็มอยู่ จะต้องมีสองคนที่ถูกลบออกจากทีมถ้าหากเจ้าต้องการจะเข้าไป ถ้าหากเป็นทีมอื่น ข้าสามารถจัดการเรื่องเช่นนี้ได้เพียงแค่ดีดนิ้ว แต่สำหรับนักบวชดำนี้มีปัญหาเล็กน้อย ผู้สนับสนุนพวกเขาแข็งแกร่งและไม่สนใจที่จะฟังข้า!” ฮัวจิงซือกล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าอ้วนไม่พยายามถามอะไร เขารีบกล่าวออกมา “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น จงลืมมันไปเถิด แน่นอนว่าข้าคงเลือกเขาไม่ได้! แล้วอีกสองทีมที่เหลือล่ะ?”

“โอ้ ใช่!” ฮัวจิงซือกล่าวต่อ “พวกเขาเป็นบุรุษแปดคน หัวหน้าทีมเป็นผู้ฝึกตนปีศาจประเภทแมลง เขาเชี่ยวชาญในการใช้แมลงมีพิษอย่างมาก และเขาจะจารึกคำสาปลงบนร่างกายของผู้ที่ร่วมทีมเพื่อป้องกันปัญหาการหักหลังกันในภายหลัง นี่ก็นับว่าเป็นปัญหาเช่นกัน!”

“ลืมเรื่องนี้ไปได้เลย!” เจ้าอ้วนโบกมือพร้อมกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการที่จะโดนคำสาป!”

“ย่อมได้!” ฮัวจิงซือกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะอย่างขื่นขม “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น เจ้าเหลือเพียงทางเลือกสุดท้าย ด้วยความสัตย์จริงทั้งหมดข้าอยากจะบอกว่าเหล่าบุรุษทั้งเจ็ดคนนี้อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด!”

“ว่าอะไร? ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?” เจ้าอ้วนถาม

“เพราะว่าหัวหน้าทีมนั้นเป็นแม่มดมาจากสำนักพันปีศาจ!” ฮัวจิงซือกล่าวพร้อมกับยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้

“แม่มด?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกประหลาดใจทันที “นางเป็นอีตัวประเภทไหนกัน?”

เมื่อฉัวจิงซือได้ยินเช่นนั้น เขาจ้องมองเจ้าอ้วนด้วยท่าทีแปลก ๆ พร้อมกับตอบกลับ “เกรงว่าเจ้าจะต้องผิดหวัง แม้ว่านางจะชั่วร้าย แต่นางกลับปกป้องร่างกายของตนเองได้อย่างดี! นางไม่ได้ยอมให้ผู้ใดหลับนอนกับนางได้!”

เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาตกใจทันทีพร้อมกับถามออกไป “เดี๋ยวนะ อะไรกัน? ปกป้องร่างกายตนเอง? นี่มันเรื่องอะไรในโลกนี้? ใครบางคนที่มาจากสำนักพันปีศาจปกป้องร่างกายของตนเอง?”

“นางเป็นข้อยกเว้น!” ฮัวจิงซืออธิบาย “นั่นเป็นเพราะว่านางฝึกฝนเคล็ดวิชาที่วิปริตที่สุดของสำนักพันปีศาจ นั่นคือการเผาไหม้ปรารถนาศักดิ์สิทธิ์!”

“การเผาไหม้ปรารถนาศักดิ์สิทธิ์?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาอุทานออกมา “ข้าคิดว่าข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเคล็ดวิชานี้มาก่อน ว่ากันว่าผู้ที่ฝึกฝนมันจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกเผาทุกวัน ยิ่งต้องทุกข์ทรมานมากเท่าไหร่ ศักยภาพของพวกเขาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นรวมถึงความเร็วของการฝึกฝนด้วย แต่บุคคลที่ฝึกเคล็ดวิชานี้จะไม่สามารถสูญเสียพรหมจรรย์ได้ มิเช่นนั้นจะพิการหรือตายตกไป!”

“ถูกต้อง!” ฮัวจิงซือหยักไหล่พร้อมกล่าวต่อ “นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนางต้องปกป้องร่างกายของตนเอง! มันไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการนอนกับผู้คนที่อยู่รอบ ๆ แต่นางไม่สามารถทำมันได้ต่างหาก ถ้าหากทำเช่นนั้นสิ่งเดียวที่รอนางอยู่คือความตาย!”

“โอ้!” เจ้าอ้วนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องพบเจอกับความบิดเบือนเช่นนี้บนโลก ว่ากันว่าเป็นการเร่งความเร็วในการฝึกฝนเท่านั้น อีกอย่างผู้ที่ฝึกฝนมันจะมีความต้องการเรื่องบนเตียงอย่างมาก ถ้าหากไม่สามารถปลดปล่อยมันออกมาได้ แน่นอนว่าจะต้องทุกข์ทรมานอย่างมาก เมื่อเวลาผ่านไปบุคคลเหล่านั้นจะป่วย จริงหรือไม่?”

“เห็นได้ชัดว่าเป็นเช่นนั้น!” ฮัวจิงซือกล่าวออกมา “อย่างไรก็ตาม นางเป็นคนวิปริต! ชื่นชอบการทรมานให้ผู้อื่นตายอย่างช้าๆ ว่ากันว่านางเคยต่อสู้กับใครบางคนในตลาดและเปลือยกายของตนเองหลังจากที่ได้รับชัยชนะ จากนั้นนางเริ่มลูบไล้ตนเองและปลดปล่อยเสียงครวญครางออกมาท่ามกลางบุคคลที่บาดเจ็บสาหัส ว่ากันว่าอีกฝ่ายตายหลังจากถูกนางหั่นเป็นสามชิ้น ตั้งแต่นั้นมา ชื่อเล่นของนางคือแม่มดเปลือยกายและไม่มีผู้ใดจำชื่อจริงของนางได้อีกเลย!”

“แม่มดเปลือยกาย?” เจ้าอ้วนเช็ดเหงื่อที่เย็นเยือกบนใบหน้าของเขาพร้อมกล่าวอย่างขื่นขม “ข้าขอกล่าวอะไรสักหน่อย ทะเลตะวันออกนี้เปิดโลกให้กับข้าอย่างมาก หลังจากที่ข้ามีชีวิตอยู่มาสองสามทศวรรษ ข้าไม่เคยคิดฝันว่าจะต้องพบเจอกับความวิปริตเช่นนี้มาก่อน แต่ในวันนี้ข้ามายืนอยู่ตรงนี้แล้ว!”

“ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าในอนาคตเจ้าจะได้เห็นเรื่องเช่นนี้มากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน!” ฮัวจิงซือกล่าวออกมาอย่างสบาย ๆ “เจ้าจงเตรียมใจให้พร้อม!”

“มากกว่านี้งั้นหรือ?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาไม่รู้จะกล่าวอะไรนอกจากหัวเราะออกมาเบา ๆ “ลืมมัน ลืมมันไปก่อน เอาล่ะ ข้าจะไปเตรียมตัว!”

“ฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม!” ฮัวกล่าวออกมา “จริงสิ เจ้าจะไปที่ทีมของแม่มดเปลือยกายงั้นหรือ? ถ้าหากเจ้าไม่ต้องการ ข้าจะหาทีมอื่นให้เจ้า!”

“ไม่จำเป็น!” เจ้าอ้วนรีบโบกมือพร้อมกล่าวว่า “ข้าคิดว่ามันยอดเยี่ยมถ้าหากเป็นนาง!”

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset