Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 205

ตอนที่ 205

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 205: ย่ำยีสตรีผู้โง่เขลา

มู่ซื่อหรงกล่าวได้เพียงแค่นั้น ร่างกายของนางก็ถูกควบคุมโดนมู่เอ๋อทันที ในตอนนี้มีเพียงปากของนางเท่านั้นที่สามารถขยับได้ แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่มู่เอ๋อมอบมันให้กับนางเพื่อให้กล่าวต่อให้จบเท่านั้น

หลังจากที่ได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น เจ้าอ้วนอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาพร้อมกล่าวว่า “เจ้าเพิ่งรู้งั้นหรือ? เกรงว่ามันคงจะสายเกินไปเสียแล้ว! มู่เอ๋อจะควบคุมร่างกายของเจ้าและเข้าพบปู่เจ้าพร้อมข้าในวันพรุ่งนี้เพื่อขอร้องให้เขาอนุญาตเจ้าติดตามข้าไปยังทะเลตะวันออก! ทำไมเจ้าไม่ลองคิดดูล่ะว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะว่าอย่างไรเมื่อเจ้าไปขอร้องเขาด้วยตนเอง?”

ในขณะนั้นมู่ซื่อหรงรู้สึกถึงความเย็นชาที่อยู่ภายในจิตใจของตน นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคำตอบคืออะไร? แม้ว่าจะโง่เง่าสักเพียงไหนก็ต้องรู้คำตอบอยู่แล้ว แน่นอนว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะไม่ห้ามนาง หนึ่งคือมู่ซื่อหรงเป็นคนโปรดของเขาและส่วนใหญ่เขาไม่เคยปฏิเสธคำขอของนาง อีกทั้งเขายังชอบเจ้าอ้วนมากและเชื่อในฝีมือที่ล้นเหลือของเจ้าอ้วนอีกต่างหาก ดังนั้นผลลัพธ์ของมันง่ายมากคือเขาจะยินยอมให้นางไปและไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตคู่ของทั้งสอง อีกทั้งคงหวังว่าทั้งสองคนนี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการผ่านพ้นอันตรายไปด้วยกัน!

แต่อย่างไรแล้วเมื่อพวกเขาไปถึงทะเลตะวันออก และห่างไกลจากการมองเห็นของนักบวชฮัวอวิ๋น แน่นอนว่าเจ้าอ้วนต้องกล่าวบางอย่างปิดท้ายสักหน่อย แม้ว่าเขาจะต้องการเล่นกับนางจนตายตกไป แต่ไม่ว่าจะฉลาดสักเพียงใดก็จะคิดว่านางตกอยู่ในอันตราย แน่นอนว่าทุกคนนั้นสามารถตายตกได้เมื่อเข้าสู่สถานที่แห่งนี้

เมื่อคิดเช่นนี้มู่ซื่อหรงนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวพร้อมรีบขอร้องเจ้าอ้วนทันที “ศิษย์พี่ซ่ง ไม่นะ ศิษย์พี่ซ่ง ข้าผิดไปแล้ว ข้าเพียงแต่เหย้าแหย่ท่านเล่นเท่านั้น! เหตุใดต้องจริงจังด้วยล่ะ?”

“อย่างนั้นหรือ?” เจ้าอ้วนถอนหายใจพร้อมกล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “จากนี้ข้าจะเล่นตลกกับเจ้า อย่างเช่นที่เจ้าทำกับข้าแล้วกัน!” เมื่อเขากล่าวจบ

จากนั้นตามด้วยเสียงเสื้อผ้าถูกฉีกขาด ชุดคลุมทั้งหมดกองอยู่บนพื้นพร้อมกับเผยผิวขาวด้านในออกมาสู่สายตาของทุกคน

“อ๊ะ!” มู่ซื่อหรงร้องออกมาอย่างตกใจ แต่เจ้าอ้วนไม่รอให้นางได้ทันตั้งตัวแต่อย่างใด เขาจับนางนอนลงบนตักพร้อมกับใช้มือขวาขย้ำเข้าที่หน้าอกของนางอย่างรุนแรงพร้อมด้วยมือซ้ายตบบั้นท้ายของนางไปด้วย

ด้วยการตบที่รุนแรงทำให้ผิวขาวของมู่ซื่อหรงนั้นเกิดรอยแดงขึ้นมา แล้วร่างกายของนางจะอดทนต่อความแข็งแกร่งของเจ้าอ้วนได้อย่างไร? ความแข็งแกร่งของมือเขานั้นสามารถบดขยี้เหล็กได้ด้วยการกำมือ! แม้ว่าเขาจะแสดงความเมตตาอยู่บ้างแต่มู่ซื่อหรงก็ยังไม่อาจอดทนความเจ็บปวดได้และร่ำไห้ออกมา

แต่เสียงร้องของนางไม่ได้ทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกสงสารแต่อย่างใด และในตอนนี้สิ่งที่นางได้กล่าวออกมาก่อนหน้านี้ได้ทำลายหัวใจของเขาอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่เขากำลังเอาชนะนาง เขายังคงสบถออกมาอย่างต่อเนื่อง “นังสารเลว เจ้าต้องการสวมเขาให้ข้าอย่างนั้นหรือ? ได้เลย งั้นข้าจะให้เจ้าสวมได้มากเท่าที่เจ้าต้องการ!”

ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาโบกมือและตบนางอย่างต่อเนื่อง

“อ๊ะ! อา! ข้าเจ็บ! หยุดเสียที!” มู่ซื่อหรงอ้อนวอนอย่างสมเพช “ศิษย์พี่ซ่งข้าผิดไปแล้ว ปล่อยข้าไปเถอะ!”

“พี่ซ่งงั้นหรือ? นังเพศยาเช่นเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกข้าว่าพี่!” เจ้าอ้วนตอบกลับพร้อมตบนางอย่างรุนแรง

“อา! หยุดสักที!” มู่ซื่อหรงรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “หรือจะให้ข้าเรียกท่านว่าศิษย์พี่ ได้หรือไม่?”

“ไม่ได้เช่นกัน!” ในขณะที่เขาตอบเช่นนั้น เขายังคงตบนางต่อไป

“อา! หยุดตีข้าเสียที!” มู่ซื่อหรงอ้อนวอน “แล้วท่านต้องการให้ข้าเรียกท่านว่าอะไร? เพียงแค่ท่านบอกมา ข้าจะทำตามทุกอย่าง!”

“สตรีชั่วช้าเช่นเจ้า เป็นเพียงสุนัขตนนึงของข้าเท่านั้น เจ้าต้องเรียกข้าว่านายท่าน!” เจ้าอ้วนตะคอก

“ตกลง ตกลงนายท่าน” เมื่อมู่ซื่อหรงได้ยินเช่นนั้น นางร้องไห้ออกมา “ข้าจะเป็นสุนัขรับใช้นายท่านตลอดไป ได้โปรดปล่อยข้าไป!”

ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น ใบหน้าของมู่ซื่อหรงแดงจัดและร่างกายของนางเริ่มร้อนขึ้นเพราะที่สิ่งแล้วนางรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้

เจ้าอ้วนยังรู้สึกได้กับความเปลี่ยนแปลงของนางเช่นนี้เพราะมีของเหลวไหลออกมาจากจุดเร้นลับของนาง เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามู่ซื่อหรงจะชอบใจกับการกระทำเช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะถามนางออกไป “เจ้า! อย่าบอกข้านะว่าในตอนนี้เจ้ากลายเป็นหญิงเพศยาจริงแล้ว? เหตุใดเจ้าจึงดูมีความต้องการหลังจากถูกทุบตี?”

“ข้า… ข้าไม่รู้!” มู่ซื่อหรงตอบอย่างหมดหวัง

“นายท่าน แต่ข้ารู้!” ในขณะนั้นมู่เอ๋อที่ควบคุมมู่ซื่อหรงอยู่เอ่ยปากออกมา “นางฝึกเคล็ดวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหาร! มันเป็นการฝึกฝนแบบคู่ที่ลึกซึ้งอย่างมาก ยิ่งผู้ที่ฝึกถูกย่ำยีและกดขี่มากเท่าไหร่ นางก็จะยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น!”

“สวรรค์ ยังมีใครที่คิดจะฝึกวิชาที่บัดซบเช่นนี้ด้วยงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนถามออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “อย่าบอกข้านะว่านางเกิดมาเพื่อเป็นอีตัว?”

“นายท่าน มู่ซื่อหรงเพียงแต่ยอมเป็นนักโทษของท่านเพียงชั่วคราว แต่เหตุผลที่แท้จริงก็คือนางต้องการจะดูดความแข็งแกร่งทั้งหมดของท่านไป!” มู่เอ๋ออธิบาย

“อย่างไร?” เจ้าอ้วนถามอย่างสับสน “มันเป็นการฝึกที่แข็งแกร่งมากงั้นหรือ?”

“ใช่แล้ว มันแข็งแกร่งมาก!” มู่เอ๋อกล่าวอย่างเคร่งเครียด “มันสามารถดูดซับพลังปราณจิตวิญญาณหรือจิตวิญญาณของบุรุษเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเอง! เป็นเคล็ดวิชาคุณภาพสูง น่าเสียดายที่มันจะต้องใช้เวลาสักหน่อยก่อนที่จะใช้มันได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน ดังนั้นจึงไม่อาจเปรียบเทียบกับพวกเราทั้งเก้าได้เลย!”

ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาพ่นลมหายใจเย็นเยือกออกมาและกล่าวว่า “นังสารเลว เจ้ามันเลวทราม! เจ้าต้องการดูดข้าจนแห้งเหือดงั้นหรือ! ยอดเยี่ยม!”

เจ้าอ้วนอุทานออกมา “ข้านั้นเล่นสนุกกับสุนัขตนนี้หลายครั้งแล้ว แต่ข้ายังไม่เคยพ่ายแพ้ให้นางเลยสักครั้ง ด้วยเหตุใดกัน?”

“นายท่านไม่ต้องกังวล!” มู่เอ๋อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “วิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหารที่นางฝึกนั้นแข็งแกร่งจริง แท้จริงแล้วมันแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า แต่มู่ซื่อหรงไม่สามารถดูดอะไรจากท่านได้ ความจริงคือท่านดูดบางสิ่งบางอย่างจากนางไปต่างหาก!”

“อะไรนะ?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาถามต่อด้วยความงุนงง “เรื่องจริงงั้นหรือ นี่ไม่ใช่เรื่องจะมาล้อข้าเล่นนะ”

“นายท่าน ทาสผู้นี้มีชีวิตมากว่าหมื่นปีและคุ้นเคยกับเรื่องเหล่านี้อย่างมาก ตอนนี้ข้าอยู่ในร่างกายของมู่ซื่อหรง หลังจากที่ตรวจสอบนางเพียงไม่นานและไม่พบว่านางมีปราณจิตวิญญาณที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ความจริงแล้วปราณจิตวิญญาณของนางกำลังลดลงแต่กลับบริสุทธิ์มากขึ้น แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีต่อนาง สำหรับสตรีอื่นๆของท่านแน่นอนว่ามันจะเกิดขึ้นกับพวกนางด้วยเช่นกัน!” มู่เอ๋ออธิบาย

“ยอดเยี่ยม!” เพียงเท่านั้นเจ้าอ้วนผ่อนคลายทันทีพร้อมถามออกไปอีกครั้ง “มู่ซื่อหรงอยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นต้นเท่านั้น เหตุใดนางจึงครอบครองวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหาร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครมอบมันให้กับนาง?”

“แน่นอน ข้ารู้!” มู่เอ๋อรีบตอบกลับ “ในความทรงจำของนาง ทาสผู้นี้ได้ยินนางเรียกผู้นั้นว่าฮัวเฉียนหวู่ เป็นคนมอบเคล็ดวิชานี้ให้กับนาง เป็นหญิงสาวที่มู่ซื่อหรงเรียกว่าท่านป้า!”

“ป้าของมู่ซื่อหรง? ฮัวเฉียนหวู่?” เจ้าอ้วนตกใจไปชั่วขณะพร้อมกล่าวออกมาอย่างตกใจ “ข้าจำได้แล้ว รู้สึกว่านางจะเป็นผู้ฝึกตนระดับจินตันอาศัยอยู่ในสำนักเสวียนเทียน! ข้าคิดมาตลอดว่านางเป็นลูกสาวคนเล็กของนักบวชฮัวอวิ๋น นาง… นาง…”

“นางอะไร?” มู่เอ๋อถาม

“ว่ากันว่านางเคยเจ็บช้ำจากพ่อของข้าเมื่อยังเยาว์และขอร้องให้นักบวชฮัวอวิ๋นจัดงานแต่งงานให้ แต่ในตอนสุดท้ายนางถูกปฏิเสธโดยพ่อของข้า!” เจ้าอ้วนกล่าว “ข้าคิดว่าฮัวเฉียนหวู่คงเจ็บแค้นจากเรื่องนั้นและคิดว่ามันคือความอัปยศของนาง นางเข้าสู่การฝึกฝนแบบปิดและไม่ยอมพบหน้าใคร! เหตุใดนางจึงออกมาปรากฏตัวและมอบสิ่งนี้ให้กับมู่ซื่อหรง?”

“นายท่าน ข้าค้นพบบางอย่างในความทรงจำของมู่ซื่อหรง!” มู่เอ๋อรีบกล่าว “คิดว่ามันน่าจะสำคัญกับท่าน!”

“มันคืออะไร?” เจ้าอ้วนรีบถาม

“มู่ซื่อหรงเดาว่าวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหารที่ฮัวเฉียนหวู่ให้นางนั้นมาจากสำนักพันปีศาจ จากนั้นนางก็คิดถึงเรื่องที่นายท่านถูกซุ่มโจมตีจากตาเฒ่าเฟิงหลังจากออกไปค้นหาครอบครัว ดังนั้นนางจึงเดาออกไปว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฮัวเฉียนหวู่!” มู่เอ๋อหยุดนิ่งไปชั่วครู่พร้อมกล่าวต่อ “มู่ซื่อหรงเดาต่อไปว่าเรื่องของครอบครัวท่านก็อาจจะเกี่ยวกับฮัวเฉียนหวู่นี้ด้วย!”

ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น ร่างกายของเขาราวกับถูกฟ้าผ่าและกลายเป็นใบ้ทันที เขาเรียกสติคืนกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับตะโกนออกมาสุดเสียง “เอามู่ซื่อหรงออกมาคุยกับข้า!”

“ตกลงนายท่าน!” เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนโกรธจัด มู่เอ๋อรีบตอบรับพร้อมกับให้หยุดควบคุมปากของมู่ซื่อหรงทันที

เจ้าอ้วนตบนางพร้อมกับคำรามออกมา “มู่ซื่อหรง!!!!”

“อา นายท่าน นายท่าน! ข้าอยู่นี่ หยุดทุบตีข้า!” มู่ซื่อหรงอ้อนวอน

“ข้าต้องการจะถามเจ้า ฮัวเฉียนหวู่เป็นคนมอบเคล็ดวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหารจากสำนักพันปีศาจให้กับเจ้าใช่หรือไม่?” เจ้าอ้วนถามออกมาอย่างโกรธจัด

“นายท่าน ข้าเพียงคาดเดาว่าเคล็ดวิชานี้มาจากสำนักพันปีศาจ ท่านป้าไม่ยอมรับว่านางได้รับมันมาจากที่นั่น ข้าจึงไม่กล้าพูดได้เต็มปากว่านางคือคนนั้น!” มู่ซื่อหรงตอบอย่างรวดเร็ว

“แล้วอะไรที่ทำให้เจ้าคิดว่านางอาจจะเป็นคนนั้น?” เจ้าอ้วนถามต่อ

“เรื่องนั้น…” มู่ซื่อหรงลังเล

เมื่อเห็นเช่นนั้น เจ้าอ้วนโกรธจัดพร้อมกับตบนางอีกครั้งโดยไม่สนใจสิ่งใด

หลังจากที่ก้นของมู่ซื่อหรงฟกช้ำจนไม่เหลือเนื้อที่สีขาว เขาหยุดมือลงและคำรามออกมา “รีบพูดออกมา! หรือเจ้าต้องการให้ข้าทุบตีเจ้าจนตาย?”

“ข้าพูดแล้ว ข้าจะพูด!” มู่ซื่อหรงไม่กล้าที่จะต่อกรอีกต่อไป นางร้องไห้และกล่าวว่า “ข้าเดาว่ามันเป็นนาง!”

“อะไรทำให้เจ้าคิดเช่นนั้น?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาขมวดคิ้วทันที

“มีสองเหตุผล ประการแรกคือวิชาเบญจสตรีศักดิ์สิทธิ์สังหารมีความลึกซึ้งอย่างยิ่ง แน่นอนว่าสำนักพันปีศาจไม่อาจมอบมันให้ผู้ใดโดยไม่ไตร่ตรองได้ ฮัวเฉียนหวู่จะต้องสร้างความประทับใจอย่างมากให้กับพวกเขา เช่นกำจัดศิษย์คนสำคัญของจ้าวสำนัก!” มู่ซื่อหรงอธิบายอย่างระมัดระวัง

“แล้วอีกอย่างล่ะ?” เจ้าอ้วนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

“เหตุผลที่สองนั้นง่ายมาก ครอบครัวของท่านมีชื่อเสียงในสำนักเสวียนเทียนและไม่เคยมีศัตรูที่ไหน อีกทั้งพ่อของท่านเป็นศิษย์ของจ้าวสำนักและอยู่ในชนชั้นสูง ไม่มีคนธรรมดาที่ไหนจะกล้ามีปัญหากับพวกเขา ดังนั้นจึงมีเพียงคนเดียวที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ก็คือฮัวเฉียนหวู่!” มู่ซื่อหรงตอบกลับอย่างหวาดกลัว

“บัดซบ!” เจ้าอ้วนคำรามและยกมู่ซื่อหรงขึ้นมา เขาจับสะโพกของนางไว้พร้อมกับทะลวงเข้าไปอย่างดุเดือด! ในขณะนั้นเขาคำรามออกมาเพื่อระบายความโกรธ “นังสารเลว!”

“อา!” มู่ซื่อหรงกรีดร้องออกมา ยิ่งนางส่งเสียงดังมากเท่าไหร่ ความโกรธแค้นของเจ้าอ้วนยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้น หลังจากที่ทุกอย่างได้ถูกปลดปล่อยออกไป มู่ซื่อหรงอยู่ในอาการตาค้างและอ้าปากค้างอย่างน่าเวทนา!

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset