Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 192

ตอนที่ 192

ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ

Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

บทที่ 192: ทำก่อนค่อยคุยทีหลัง

“ประเสริฐ!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม “เจ้าจงรอข้าอยู่ที่นี่ ไม่นานข้าจะกลับมา!” ในขณะที่เขากล่าวออกมาเช่นนั้น เขาบินออกไปทันทีโดยที่ไม่รอให้หานหลิงเฟิงกล่าวอะไรต่อ

แม้ว่าหานหลิงเฟิงจะกังวล แต่นางจะไม่เข้าไปยุ่งความขัดแย้งระหว่างผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ นางทำได้เพียงรอเจ้าอ้วนกลับมาเท่านั้น

หลังจากผ่านไปสองถึงสามนาที เจ้าอ้วนมาถึงหลังภูเขาด้วยดาบบินของเขา ที่แห่งนี้เป็นป่าไผ่มีความกว้างใหญ่หลายร้อยลี้ ป่าไผ่หนาแน่นและอุดมสมบูรณ์อย่างมาก อีกทั้งบรรยากาศยังดูดียิ่งนักเมื่อรวมกับทะเลสาปขนาดเล็กที่อยู่ใกล้เคียง

ในขณะนั้นมู่ซื่อหรงยืนอยู่ที่ศาลาและปล่อยปราณจิตวิญญาณของดาบลงไปในทะเลสาป ปรากฏภาพพลังของดาบเริงระบำอยู่เหนือทะเลสาปเป็นภาพที่น่าหวั่นเกรง

หลังจากที่เจ้าอ้วนปรากฏตัว มู่ซื่อหรงเก็บดาบของนางพร้อมกับมองมาที่เจ้าอ้วนด้วยความหงุดหงิด จากนั้นนางถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เจ้ามาทำอะไรที่นี่? หรือว่าเจ้ามาเพื่อสอดแนมการฝึกดาบของข้า?”

“การฝึกดาบงั้นหรือ?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “แม่นางมู่ซื่อหรง ไม่ใช่ว่าข้าต้องการจะสรรเสริญเจ้า แต่ทว่าเจ้าเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจเกินไป อาจกล่าวได้ว่าเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจมากที่สุดบนโลกใบนี้ก็ได้!”

ด้วยปัญญาที่หลักแหลมของนางจึงสามารถเข้าใจคำพูดของเจ้าอ้วนได้อย่างรวดเร็ว นางโกรธจัดพร้อมกับโต้กลับทันที “ไขมันบัดซบ เจ้ากล้าดูถูกข้างั้นหรือ?”

“ดูถูกเจ้า?” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “แค่ดูถูกเจ้ามันง่ายเกินไป วันนี้ข้ามาเพื่อเอาชนะเจ้า!”

“เจ้ากล้างั้นหรือ?” มู่ซื่อหรงที่ได้ยินเช่นนั้น นางรีบกล่าวโต้ตอบทันที “ไขมันบัดซบ ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน แล้ววันนี้เจ้าเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมา? ทำไมเจ้าจึงเดินออกมาเพื่อสร้างปัญหาให้กับข้า?”

“ไม่มีความแค้นต่อกันงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างเหยียดหยาม “งั้นข้าขอถามเจ้า ทำไมยินถึงรู้เรื่องราวเกี่ยวกับหานหลิงเฟิง? ทำไมเขารู้ว่าหานหลิงเฟิงหลบซ่อนอยู่ที่ใด? เจ้าเป็นคนบอกเขาใช่หรือไม่?”

“ไม่!” มู่ซื่อหรงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอย่างรวดเร็ว “ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร”

“เหอะ แน่นอนว่าเจ้าสามารถปฏิเสธมันอย่างง่ายดาย!” เจ้าอ้วนถามออกไปอีกครั้ง “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะอธิบายเรื่องของอาวุโสฉิงเฟิงซีที่บาดเจ็บสาหัสเพราะเจ้าได้อย่างไร?”

“ข้ายอมรับว่าที่เขาบาดเจ็บเพราะออกไปช่วยเหลือข้า เกี่ยวกับเรื่องนี้ข้าก็รู้สึกเสียใจอย่างมากเช่นกัน แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นเหตุผลที่เจ้าเดินเข้ามาเพื่อสร้างปัญหาให้กับข้า!” มู่ซื่อหรงกล่าวตอบอย่างสงบ

“ข้าคิดว่าสามารถทำได้!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะชั่วร้าย “เจ้าทำผิดต่ออาจารย์ลุงฉิงเฟิงซีของข้าและสร้างปัญหาให้กับหานหลิงเฟิง เพียงเท่านี้ข้าก็มีเหตุผลมากพอที่จะแก้แค้น ถูกต้องหรือไม่?”

“เหอะ!” มู่ซื่อหรงสบถออกมาด้วยน้ำเสียงรำคาญและไม่กล่าวสิ่งใดต่อ

เมื่อเจ้าอ้วนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เขาตะโกนออกมาทันที “มู่ซื่อหรงถ้าหากเจ้ากล้าทำเช่นนั้น จงยอมรับมันเสียเถิด อย่าให้ข้าต้องรังเกียจเจ้าไปมากกว่านี้!”

เมื่อนางได้ยินเจ้าอ้วนกล่าวเช่นนั้น มู่ซื่อหรงที่เย่อหยิ่งในตนเองไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป นางตะโกนโต้กลับทันที “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากข้ายอมรับ? ข้าเป็นเพียงสตรีที่ต้องการแก้แค้นเจ้า ข้าเป็นอันตรายต่อทุกความสัมพันธ์ที่เจ้ามี แล้วอย่างไรกัน? เจ้าจะสามารถทำอะไรข้าได้?”

เมื่อได้ยินว่ามู่ซื่อหรงยอมรับทุกอย่างแล้ว เขาโกรธจัดพร้อมกับหยิบดาบแห่งธาตุทั้งห้าออกมาทันทีพร้อมชี้ไปยังมู่ซื่อหรง “นังสารเลว วันนี้บิดาของเจ้าจะสั่งสอนบทเรียนเล็กน้อยให้เจ้าได้เรียนรู้!” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาปลดปล่อยดาบแห่งธาตุทั้งห้าไปยังมู่ซื่อหรงทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่ซื่อหรงปลดปล่อยพลังของดาบตนเองทันทีพร้อมเกิดออร่ามากมาย ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ข้างทะเลสาป

ทั้งสองคนยืนอยู่ห่างกันราวหนึ่งพันฟุต การโจมตีทั้งหมดคือการสั่งงานจากดาบบินให้โจมตีกันอย่างดุเดือด ปราณของดาบเจ้าอ้วนนั้นแข็งแกร่งอย่างมากมันผ่านการปรับแต่งมาแล้วโดยทาสของเขา การโจมตีของเขาจึงดุเดือดและต่อเนื่อง

แม้ว่ามู่ซื่อหรงจะอ่อนแอกว่าเจ้าอ้วน และสมบัติวิเศษของนางก็อ่อนแอกว่ามาก แต่นางเป็นผู้ฝึกตนประเภทดาบโดยสมบูรณ์ การควบคุมดาบของนางนั้นดีกว่าเจ้าอ้วนอยู่มาก นางสามารถควบคุมพลังของมันได้ราวกับมันเป็นแขนขาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันหรือการโจมตี ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างพลิ้วไหวและสวยงาม เช่นนี้นางจึงต่อสู้กับเจ้าอ้วนได้อย่างสูสีและไม่เกรงกลัวต่อสมบัติวิเศษที่แข็งแกร่งกว่า

แต่ทว่าเรื่องราวดี ๆ นั้นคงอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อมู่ซื่อหรงเริ่มที่จะเพิ่มพลังของการโจมตี เจ้าอ้วนเริ่มต้นการขัดขวางการโจมตีของนาง จากนั้นเขาเผยพลังที่แท้จริงของสมบัติวิเศษของตนเอง มันทุบตีดาบของมู่ซื่อหรงได้อย่างแข็งแกร่ง และในตอนสุดท้ายมันต้อนมู่ซื่อหรงจนไร้หนทางหนีราวกับหมาตัวหนึ่งเท่านั้น

ในตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป มู่ซื่อหรงรู้ตัวแล้วว่านางไม่สามารถเอาชนะได้ นางเริ่มล่าถอยและตะโกนออกมา “เจ้ากล้าที่จะข่มเหงข้าด้วยสมบัติของปู่ข้างั้นหรือ? นี่เจ้ายังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่?”

“ฮ่าฮ่า ข้าเป็นบุรุษหรือไม่ เจ้าจะสามารถรู้ได้หลังจากที่ใช้ร่างกายของเจ้าพิสูจน์มัน!” เจ้าอ้วนเย้าแหย่อย่างเจ้าเล่ห์ “สำหรับสมบัตินี้ มันไม่ใช่ของปู่เจ้าอีกแล้วแต่มันเป็นของข้า อีกอย่างข้าก็ต้องการจะใช้มัน เจ้ามีปัญหากับเรื่องนี้งั้นหรือ?”

เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เจ้าอ้วนเพิ่มปริมาณของปราณจิตวิญญาณเข้าไปในดาบของเขา ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวสามารถทำลายการป้องกันของดาบเทวะเงาครามได้อย่างราบคาบ มู่ซื่อหรงตกใจอย่างมาก เสื้อผ้าของนางเริ่มฉีกขาดจากพลังของปราณดาบที่เจ้าอ้วนโจมตี ในตอนนี้ต้นขาและแผ่นหลังของนางถูกเปิดเผยต่อสายตาเจ้าอ้วนแล้ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าอ้วนไม่กล้าที่จะสังหารนาง เพียงแต่ใช้วิธีนี้เพื่อให้นางรู้สึกถึงความอัปยศเท่านั้น

มู่ซื่อหรงเกือบจะกรีดร้องออกมาเมื่อเสื้อผ้าของนางหายไปเกือบทั้งหมด แต่ทว่านางไม่อาจทำเช่นนั้นต่อหน้าเจ้าอ้วนได้ มันจะเป็นการกระตุ้นเขามากขึ้น เจ้าอ้วนบินไปที่ศาลาและกล่าวชื่นชมภาพลักษณ์ของนางในตอนนี้ด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ “ฮ่าฮ่า ศิษย์พี่มู่ ผิวของท่านขาวยิ่งนัก!”

“สารเลว!” มู่ซื่อหรงตะโกนออกมา

“ฮ่าฮ่า อย่าได้กล่าวเช่นนั้น!” เจ้าอ้วนไม่ได้โกรธนางแต่กลับหัวเราะอย่างร่าเริง “ข้ากล้าที่จะดูมัน แต่แน่นอนว่าข้าไม่ต้องการจะจัดการกับเจ้า แน่นอนว่าข้าไม่อาจทนให้ตนเองทำเรื่องเช่นนั้นได้! ข้าไม่สามารถกระทำตนเช่นเจ้าที่วางแผนให้ยินทำการข่มขืนสตรีของข้า นี่เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?”

“เจ้าสมควรที่จะได้รับมัน!” มู่ซื่อหรงร้องไห้ออกมาเนื่องจากความโกรธ “ใครกันที่ให้เจ้าทำร้ายข้ามากขนาดนั้น? แล้วข้าผิดอะไรที่ต้องการจะแก้แค้น?”

“บัดซบ!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาตะโกนออกมา “เห็นได้ชัดเจนว่าทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะตัวเจ้าเอง! ข้าไม่ได้โจมตีเจ้าสักครั้งเดียวเพียงแค่ปกป้องตนเองเท่านั้น เจ้าบาดเจ็บสาหัสเพราะว่าเจ้ามันไร้ความสามารถ แล้วเจ้ามีสิทธิ์อะไรที่จะโกรธแค้นข้า?”

“ข้าต้องการที่จะไม่พอใจเจ้า! ไม่พอใจ! เจ้าทำให้ข้ากลายเป็นเรื่องตลกขบขันภายในสำนัก แน่นอนว่าตลอดชั่วชีวิตนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป!” มู่ซื่อหรงกล่าวออกมาอย่างโหดเหี้ยม “อย่าคิดว่าเจ้าจะสามารถสุขสบายเพียงแค่ข้าไม่อาจเอาชนะเจ้าได้ แม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เหมาะสมของเจ้า ข้าก็สามารถจะดูแลหานหลิงเฟิง ฉิงเฟิงซี และเจ้าลิงน่าขยะแขยง! ข้าจะแก้แค้นทุกคนที่ใกล้ชิดกับเจ้า!”

เจ้าอ้วนโกรธจัดทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่เคยคาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะไร้เหตุผลมากขนาดนี้ ถ้าหากเขาปล่อยนางไปแน่นอนว่านางจะดำเนินการเหล่านี้ต่อไป แล้วทุกคนที่อยู่รอบตัวเขาจะไม่ตายตกไปหมดงั้นหรือ?

ในขณะที่เขาคิดเช่นนั้น เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปจึงเงื้อมือตบหน้านางไปหนึ่งครั้ง นางกระเด็นออกไปอยู่ด้านนอกทันที จากนั้นเขาชี้หน้านางพร้อมทั้งตะโกนทันที “นังสารเลว อย่าบังคับให้ข้าส่งเจ้าไปโลกหน้า!”

มู่ซื่อหรงไม่ได้อ้อนวอนอีกทั้งยังหัวเราะเยาะอีกด้วย “สังหารข้าซะถ้าหากเจ้าเป็นบุรุษ!”

“เจ้า!” ตอนนี้เจ้าอ้วนไร้หนทาง เขาไร้คนคุ้มครอง แต่ทว่ามู่ซื่อหรงยังมีนักบวชฮัวอวิ๋นอยู่เบื้องหลัง และเป็นคนที่เขาไม่ควรไปสร้างปัญหาด้วยอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเจ้าอ้วนไม่สามารถสังหารนางได้ แต่ถ้าหากเขาปล่อยนางไป เขาก็กลัวว่านางจะสร้างปัญหากับคนใกล้ตัวเขา ในตอนนี้เขาตกอยู่ในสภานการณ์ที่ยากลำบากและไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร

เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนลังเลใจ นางรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังสับสน นางจึงเริ่มเยาะเย้ยเขาทันที “เหอะ พวงสวรรค์ของเจ้าคงยังเล็กเกินกว่าจะเรียกตัวเองว่าบุรุษสินะ หรือว่าเจ้าเป็นขันที?”

บุรุษที่ยืนอยู่บนโลกใบนี้จะสามารถอดทนต่อคำดูถูกเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าอ้วนก็ไม่ต่างกัน ความโกรธปะทุขึ้นภายในใจของเขาทันที โดยไม่ต้องกล่าวสิ่งใดต่อ เขาฉีกชุดของมู่ซื่อหรงออกพร้อมกับขู่นางทันที “นังสารเลว ถ้าหากเจ้าเรียกข้าว่าขันที ข้าจะข่มขืนเจ้าที่นี่ตรงนี้!”

ในตอนแรกมู่ซื่อหรงรู้สึกตื่นกลัวเจ้าอ้วน แต่ฉับพลันนางเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วพร้อมกับเริ่มตะโกนออกไปอย่างต่อเรื่อง “เจ้าเป็นขันที ขันที เจ้าคนบัดซบที่เป็นเพียงขันที! ถ้าหากเจ้ายังมีพวงอยู่ก็ข่มขืนข้าเสียวันนี้เลย! ข้าจะถือว่าข้าเพียงถูกหมากัดเท่านั้น!”

“สารเลว!” เจ้าอ้วนโกรธจัดจนไม่สามารถคิดสิ่งอื่นใดได้อีก เขาไม่ใส่ใจเหตุผลอันใดอีกต่อไปพร้อมกับเริ่มฉีกเสื้อผ้าของมู่ซื่อหรงทันที ในขณะนั้นนางกลายเป็นแกะน้อยที่เปลือยกายอยู่ต่อหน้าของเขา

แม้ว่าจะถูกบุรุษจับเปลือยกายในตอนกลางวันแสก ๆ แต่มู่ซื่อหรงผู้เย่อหยิ่งก็ยังเก็บกดความกลัวไว้ นางสัมผัสร่างกายของตนเองอย่างยั่วยวนพร้อมกล่าวเชิญชวนเขา “เจ้าไขมันบัดซบ เข้ามาสิถ้าหากเจ้ากล้าพอ! ไม่ต้องกล่าวอะไรอีกแล้ว!”

“เจ้า! เจ้าอย่าบังคับให้ข้าทำ!” นี่เป็นครั้งแรกในชั่วชีวิตของเขาที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขารู้สึกไม่อาจทนรับสภาพเช่นนี้จึงได้แต่เบือนหน้าหนีไป

“เหอะ!” เมื่อเห็นเช่นนั้น มู่ซื่อหรงกระตุ้นเขาต่อไป “อะไรกัน? เจ้ากล้าถอดเสื้อผ้าของข้า แต่กลับไม่กล้าที่จะมองมัน? เหอะ เจ้ามันเป็นเพียงคนขี้ขลาด!”

“บัดซบ! ข้าไม่ใช่ขันที!” เจ้าอ้วนโกรธจัดโดยสมบูรณ์ เขาสูญเสียการทรงตัวและถูกความปรารถนาควบคุมทันที พร้อมกับคิดในใจ ‘ใครจะสนกันล่ะว่าสถานะของนางคืออะไร ในตอนนี้ข้าเพียงต้องทำมันก่อนแล้วค่อยว่ากันในภายหลัง!’

หลังจากนั้นเจ้าอ้วนฉีกเสื้อคลุมของตนเองออกพร้อมกับพุ่งเข้าหานางราวกับพยัคฆ์เข้าหากวางน้อย หลังจากนั้นมังกรขนาดใหญ่ได้เข้าสู่ร่างกายของมู่ซื่อหรงนางรู้สึกตื่นกลัวราวกับสวรรค์กำลังจะพังทลายลงมา หลังจากนั้นน้ำตาเริ่มไหลอาบทั่วแก้มทั้งสองของนาง

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset