Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต 131

ตอนที่ 131

บทที่ 131: เริ่มการล่า

ปรากฏแสงสีขาวขึ้นนำพาให้เจ้าอ้วนเข้าสู่พื้นที่มืดมิด สถานที่รอบตัวของเขาเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่ากลัวและชุ่มชื้น รวมกับกลิ่นอับคล้ายกับว่าเขาอยู่ในถ้ำ

เจ้าอ้วนอยู่ด้านบนของอุปกรณ์เคลื่อนย้าย เพียงแค่ไม่กี่นาทีถัดมา เขาและพวกพ้องทั้งหมดถูกส่งออกจากพื้นที่ทันที

ตามที่นักบวชฮัวอวิ๋นได้กล่าวไว้ในตอนต้น ว่าพวกเขาจะถูกส่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ แบบไม่เจาะจง ซึ่งจะแยกย้ายกันไปตามสถานที่ต่าง ๆ บนเส้นทางแห่งนี้ ภายในภูเขาขนาดใหญ่นี้มันเต็มไปด้วยหมอกหนาตลอดทั้งปีและยังส่งผลกับสัมผัสจิตวิญญาณของผู้ฝึกตนอีกด้วย อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังมีสายฟ้าที่ทรงพลังซ่อนอยู่ แม้กระทั่งผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินยังไม่อาจบินในสถานที่แห่งนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงทำได้เพียงเดินอย่างช้า ๆ เท่านั้น ไม่อาจใช้งานดาบบินได้เลย สถานที่แห่งนี้มีรัศมีความกว้างใหญ่กว่าพันลี้ ซึ่งเพียงพอแล้วที่พวกเขาทั้งหมดจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในเวลาไม่กี่เดือนเพื่อสำรวจมัน

หลังจากที่เจ้าอ้วนรู้ตัวว่าอยู่ในถ้ำ เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวทันทีและพยายามค้นหาทางออก แต่ทันทีที่เขากำลังตรวจสอบมันอยู่นั้น สิ่งแวดล้อมเหล่านี้กลับทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนกทันที

รอบตัวของเขาคืออสรพิษขนาดยักษ์ที่อยู่ข้างกาย ร่างกายของมันสีเขียวและพิษของมันทำให้มึนงง อีกทั้งผนังถ้ำยังหนามาก มีเหล่าอสรพิษหลายสิบตัวและพวกมันครอบครองถ้ำนี้อย่างสมบูรณ์

เห็นได้ชัดว่าเพื่อนตัวน้อยเหล่านี้ตกใจกับการมาของเจ้าอ้วน เมื่อแสงสีขาวจางหายไปและเหลือเพียงเจ้าอ้วนที่ยืนอยู่ในที่แห่งนี้ เพื่อนตัวน้อยเริ่มการก่อกวนราวกับว่ามีอาหารอันโอชะส่งมาให้มันถึงที่นอน

“บัดซบ!” เมื่อเห็นฉากตรงหน้า เจ้าอ้วนบ่นออกมาอย่างเหลืออด“เจ้าบ้าคนไหนมันบอกนะว่าจะส่งมายังที่ปลอดภัย? ตัวบัดซบเหล่านี้ต้องการจะสังหารข้าอย่างเห็นได้ชัด!”

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาสบถออกไปจะไม่มีผู้ใดรับรู้ ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงกลับสู่ความสงบอย่างรวดเร็วพร้อมกับวางแผนในใจด้วยท่าทีที่หยั่งลึก

ประการแรก ปราณจิตวิญญาณเล็ดลอดออกมาจากเกล็ดของอสรพิษ พวกมันเหล่านี้อาจเป็นอสูรกายขั้นสาม สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดในตอนนี้คือพวกมันมีนับสิบตัวหรืออาจจะมากกว่านั้น นอกจากนี้เขายังถูกพวกมันล้อมไว้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะมองยังไง ท้ายที่สุดเขาก็คงจะต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

ในขณะที่เพื่อนตัวน้อยคืบคลานเข้ามาใกล้ เจ้าอ้วนยิ่งรู้สึกอับจนหนทางมากขึ้น ตอนนี้เขาตกใจมาก ยิ่งพวกมันยิ่งเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ มันจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับเจ้าอ้วนมากขึ้นเท่านั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการสังหารพวกมันจากระยะไกล ถึงเขาจะต้องการทำเช่นนั้นแต่ก็หมายความว่าต้องใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แน่นอนว่าตั้งแต่ต่อสู้กับหานปิงเอ๋อ เขาเหลือสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์อยู่ไม่มากนัก ความคิดแรกของเขาคือจะใช้มันในยามจำเป็นเท่านั้น แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะต้องพบเจอสถานการณ์เช่นนั้นก่อนที่จะเริ่มการล่า สวรรค์! เขาตัดใจหยิบสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกมาเจ็ดลูก จากนั้นยิงมันที่ประตูของถ้ำ

ด้วยธรรมชาติของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นลบ และอสรพิษกลัวไฟ ดังนั้นเมื่อสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีถูกโยนออกไป จึงทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงสำหรับพวกมัน ผนังถ้ำถูกระเบิดอย่างรุนแรงพร้อมกับทิ้งร่องรอยคราบเลือดไว้เต็มพื้นที่ เมื่อเกิดเสียงระเบิด อสรพิษทั้งหลายรีบหลบหนีทันที เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ราวกับว่าฟ้าเปิดทางหนีให้กับเจ้าอ้วนแล้ว เขาไม่กล้าที่จะล่าช้า เมื่อคิดเช่นนั้นเขาวิ่งตรงออกไปทันที

แต่สำหรับอสรพิษยักษ์นั้นไม่ได้เคลิ้มไปกับการดึงความสนใจเช่นนั้น ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังวิ่ง มันสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเริ่มต้นการไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง อสรพิษตัวน้อยอีกสองตัวที่อยู่ใกล้มันเปิดปากของมันออกพร้อมกับพ่นพิษร้ายออกมา

ในขณะนั้นเจ้าอ้วนไม่มีแม้แต่จังหวะให้หลบ แต่เขาก็ยังพยายามจะหลบ ความเร็วของเขาในตอนนี้จะถูกลดลงและจะถูกอสรพิษยักษ์ตามทันได้ เขาจึงหยิบเอาระฆังลมทองแดงออกมาเพื่อปกป้องจากด้านหลัง ในตอนท้ายพิษปะทะเข้ากับระฆังลมทองแดง เกิดเสียงเบา ๆ ขึ้นพร้อมกับควันคลุ้งขึ้นมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าลมทองแดงไม่อาจต้านทานพิษได้และมันละลายออกไป

เจ้าอ้วนรับรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็วจากสัมผัสวิญญาณของตนเอง เขากลัวว่าอสรพิษเหล่านี้จะพ่นพิษออกมามากกว่าเดิม แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งได้เร็วสักแค่ไหน เขาก็ไม่อาจรวดเร็วเท่ากับเหล่าอสรพิษได้ ในเวลาสั้น ๆ อสรพิษหลายตัวเข้าถึงระฆังลมทองแดงแล้ว และพวกมันเริ่มโจมตีทันที

เจ้าอ้วนโกรธจัดพร้อมกับสาปแช่งในใจ ‘สงสัยพวกเจ้าคงต้องการให้บิดาผู้นี้แสดงความสามารถสินะ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าคงจะมองข้าว่าเป็นเพียงแมวโง่ตัวหนึ่งเท่านั้น!’ เมื่อคิดเช่นนั้น เขาหยิบเอาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีออกมาพร้อมกับโยนออกไปอีกครั้ง จากนั้นเกิดการระเบิดขึ้นมากมาย จำนวนเพื่อนตัวน้อยลดลงกลายเป็นขี้เถ้า และอีกมากมายที่เหลือต่างหลบหนีกระจัดกระจายไปคนละทิศละทางเนื่องจากความหวาดกลัว

เจ้าอ้วนเพียงแค่จัดการเหล่าอสรพิษที่ไล่ตามหลังมาเท่านั้น ในตอนนี้เขาหลุดพ้นจากปากถ้ำพร้อมปรากฏตัวขึ้นในป่าทึบ เนื่องจากหมอกที่หนาจัดทำให้ระยะการมองเห็นของเขาไกลเพียงร้อยฟุตเท่านั้น นี่คือเวลากลางวัน ถ้าหากเป็นกลางคืน สถานการณ์คงจะหดหู่มากกว่านี้มากนัก ภายนอกถ้ำเป็นสถานที่กว้างเขาจึงสามารถเรียกพยัคฆ์ปีกแหลมออกมาเพื่อใช้หลบหนีได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวอสรพิษยักษ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเกรงกลัวจนเกินไป เขาจึงเลือกวิธีการโจมตีซึ่งทำให้เขาสูญเสียสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไปเล็กน้อย

เนื่องจากเรื่องราวทั้งหมดได้เกิดขึ้นไปแล้วและเจ้าอ้วนไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้อีก เขาทำได้เพียงส่ายศีรษะและหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ช่างเป็นการเริ่มต้นที่บ้าสิ้นดี!”

หลังจากที่ถอยออกมา เจ้าอ้วนเรียกพยัคฆ์ปีกแหลมออกมา หลังจากนั้นเขาคิดไตร่ตรองอยู่สักครู่ เขาเรียกเอาหุ่นลมทองแดงออกมาสามสิบตัวซึ่งเขาปรับแต่งมันภายในไม่กี่ปีให้หลังมานี้ แม้ว่าสหายเหล่านี้จะไม่มีการโจมตีที่รุนแรง แต่มันมีประโยชน์มากในสถานที่ที่มีวิสัยทัศน์ย่ำแย่และการใช้สัมผัสวิญญาณได้จำกัดเช่นนี้

ภายใต้คำสั่งของเจ้าอ้วน หุ่นทั้งสามสิบตัวออกมาล้อมรอบเขาไว้เป็นวงกลมรัศมีร้อยฟุต แม้ว่าเจ้าอ้วนจะมองไม่เห็นพวกมัน แต่เขาจะรับรู้การมีอยู่ของพวกมันจากจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกัน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเจ้าอ้วนจะได้รับการเตือนก่อนที่อันตรายจะมาถึงตัว หากมีผู้ใดโจมตีเข้ามา เจ้าอ้วนจะรับรู้ถึงอันตรายได้ทันทีและเตรียมพร้อมเพื่อป้องกัน ในตอนนี้เจ้าอ้วนนั่งอยู่บนพยัคฆ์ปีกแหลมและขณะค่อยเคลื่อนผ่านไปตามยอดไม้

ก่อนที่พวกเขาจะถูกส่งเข้ามา นักบวชฮัวอวิ๋นได้มอบแผ่นหยกกระจกและแผนที่ของสถานที่แห่งนี้ ในขณะนั้นมันจะบอกถึงตำแหน่งของผลไม้วิญญาณ ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำเป็นอันดับแรกคือการทำความคุ้นเคยกับสถานที่ พร้อมกับเรียนรู้จากแผนที่ว่าพวกเขายืนอยู่ในจุดไหน จากนั้นพวกเขาจึงจะรู้ว่าผลไม้วิญญาณซ่อนอยู่ที่ใด

แม้ว่าเจ้าอ้วนไม่อาจถือว่าเป็นอัจฉริยะ แต่ทว่าการทำความเข้าใจกับสถานที่และแผนที่ไม่ใช่เรื่องยากเย็นเกินไปสำหรับเขา ในตอนนี้เขาพบเส้นทางของตนเองพร้อมพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

ในตอนนี้เจ้าอ้วนอยู่ทางทิศตะวันตกซึ่งห่างไกลจากจุดนัดพบห้าร้อยลี้ จุดนัดพบดังกล่าวถูกกำหนดโดยนักบวชฮัวอวิ๋น ตลอดทางที่ย่างกรายผ่านไปล้วนแต่เต็มไปด้วยพิษ อีกทั้งทะเลสาบกว้างใหญ่ และอีกหลายพื้นที่ที่ไม่อาจเข้าถึงได้โดยง่าย เมื่อเห็นเช่นนั้นแน่นอนว่าเขาจะต้องใช้เส้นทางอ้อมไป ถ้าหากวัดจากความเร็วในการเดินทางของเจ้าอ้วนคงจะต้องใช้เวลาถึงสิบวัน แม้ว่าเขาจะมีพยัคฆ์ปีกแหลม แต่สภาพตอนนี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าไม่มีการต่อสู้ แต่มันจะยิ่งช้าลงหากเขาพบปะอสูรกายหรือว่าคนจากสำนักอื่น แล้วใครจะรู้ล่วงหน้าว่าจะเข้าสู่สถานการณ์เช่นนั้นเมื่อใด? ในขณะนั้นเขาตระหนักได้ว่าด้านหลังของเขาราวหนึ่งร้อยลี้มีผลไม้วิญญาณซ่อนอยู่ แต่ถ้าหากเขาไปที่นั่นก่อน เขาจะล่าช้าต่อการรวมตัวของกลุ่ม

หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักเจ้าอ้วนจึงตัดสินใจได้ว่าเขาจะไปค้นหาผลไม้วิญญาณก่อน จากนั้นค่อยไปรวมตัว ที่จริงคำสั่งของนักบวชฮัวอวิ๋นสามารถสั่งให้เขาอยู่หรือตายก็ได้! แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลากังวลเรื่องนั้นเพราะยังมีเวลาเหลือกว่าจะถึงเวลานัดพบกัน ทุกอย่างจะเรียบร้อยถ้าหากเขาไม่ใช่คนสุดท้าย!

เจ้าอ้วนเปลี่ยนเป้าหมายของตนเองพร้อมกับมุ่งหน้าไปค้นหาผลไม้วิญญาณทันที

ชุดหยกเขียวแปรเปลี่ยนเป็นสีขุ่นเนื่องจากที่แห่งนี้มีความชื้นมากเกินไป หลังจากที่เดินมาได้สักพัก ร่างกายของเจ้าอ้วนราวกับถูกแช่น้ำโดยสมบูรณ์ ส่วนหนึ่งมาจากเหงื่อของเขา และอีกส่วนมาจากความชื้นในอากาศ

สวรรค์คล้ายกลั่นแกล้ง เจ้าอ้วนไม่ได้สนใจร่างกายของเขาในตอนนี้แต่อย่างใด เขาถอดเสื้อด้านบนออกพร้อมกับเดินต่อไปด้วยท่อนบนที่เปลือยเปล่า

เมื่อเขาเดินต่อไปอีกสักพัก เขาพบว่าสถานที่แห่งนี้มีเรื่องที่น่ารำคาญมากมาย มันเต็มไปด้วยเพื่อนตัวน้อยที่พร้อมพ่นพิษตลอดเวลาและมีอสูรกายมากมายวิ่งพล่านไปมาราวกับพวกมันเป็นเพียงสุนัขเท่านั้น

ในไม่กี่ลี้ตลอดเส้นทาง เขาจะถูกโจมตีโดยอสูรกาย แม้ว่าพลังของพวกมันจะไม่แข็งแกร่งนัก แต่เขาก็เรียกดาบแห่งธาตุทั้งห้าออกมาใช้เพื่อจัดการพวกมันไปอย่างไม่ยากเย็น

ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าอ้วนในตอนนี้ เขาไม่อาจปลดปล่อยพลังของดาบแห่งธาตุทั้งห้าได้ อีกทั้งการใช้ดาบเพียงระยะเวลาสั้น ๆ สามารถแสดงถึงความโหดร้ายของเขาได้อย่างดี แต่เขาก็ไม่อาจควงมันดั่งเช่นแขนขาของตนเองได้ แต่นี่คือสมบัติวิเศษระดับสูง อีกทั้งมันยังมีธาตุทั้งห้าอย่างครบถ้วน ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ เมื่อเขาพบกับอสูรกายธาตุไฟ เขาจะหยิบยกดาบวารีออกมาใช้งาน ถ้าหากเขาพบกับอสูรกายธาตุน้ำ เขาก็จะหยิบดาบธาตุดินออกมา กล่าวก็คือเขาสามารถจัดการเหล่าอสูรกายด้วยจุดอ่อนของพวกมันได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ชีวิตของเขาง่ายขึ้นมาก การต่อสู้ทั้งหมดในเส้นทางแห่งนี้ทำให้เจ้าอ้วนกับดาบแห่งธาตุทั้งห้าเริ่มคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี

ในชั่วพริบตา หนึ่งวันได้หมดไปแล้ว แต่ก็อยู่ในความคาดการณ์ของเจ้าอ้วนที่สามารถเดินได้เพียงสิบลี้เท่านั้น เขาสังหารอสูรกายไปทั้งหมดเจ็ดตนตลอดเส้นทาง พร้อมกับสูญเสียหุ่นเชิดลมทองแดงไปสองตนเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกหดหู่อย่างมาก

ในขณะที่ท้องฟ้ากำลังมืดมิด เจ้าอ้วนไม่กล้าที่จะเดินทางต่อ ดังนั้นเขาจึงค้นหาสถานที่สงบพร้อมกับหยิบระฆังลมทองแดงออกมาเพื่อป้องกันภัยให้คืนนี้ผ่านไปอย่างราบลื่น

นับว่าเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการออกเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น ขณะที่ยามเช้ามาถึงในครั้งนี้เขาปล่อยหุ่นเชิดลมทองแดงไว้ที่ด้านหน้าเท่านั้น และจะเดินทางไปช้า ๆ ด้วยพยัคฆ์ปีกแหลม เมื่อกำจัดภาระไปจนหมดสิ้นแล้ว เจ้าอ้วนเดินทางได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เมื่อเขาพบเจอกับอสูรกายในเส้นทาง เจ้าอ้วนไม่ได้สังหารพวกมันแต่อย่างใด เจ้าอ้วนเพียงแค่หยิบยกดาบแห่งธาตุทั้งห้าขึ้นมาพร้อมกับคำรามให้พวกมันกลัวและหนีไปเท่านั้น อสูรกายเหล่านี้มีชีวิต พวกมันย่อมรู้ว่าสิ่งใดอันตรายและเลือกที่จะหนีไป มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะดื้อด้านต่อสู้ทั้งที่รู้ว่าไม่อาจทำได้ ซึ่งหากทำเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับละทิ้งชีวิต

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เจ้าอ้วนสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงสถานที่ที่ผลไม้วิญญาณซ่อนอยู่ในตอนเย็น!

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Chaotic Lightning Cultivation โกลาหลแห่งอัสนีบาต

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 234 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )


อัจฉริยะทั้งสองแห่งสำนักถูกลอบสังหาร!
บุตรชายกลับกลายเป็นตกอับ!
ชีวิตนับแต่นั้นเสมือนตกนรก
มีแต่ถูกกลั่นแกล้งสารพัด
เขาสาบาน สักวันหนึ่งจะเอาคืน
จะทวงคืนต่อความอยุติธรรมที่เขาและครอบครัวได้รับ
กาลเวลาผันผ่าน เวลาแห่งการเป็นผู้ใหญ่มาถึง
เขาที่ถูกทอดทิ้งโดยสำนัก
จะต้องโดนเฉดหัวออกเพราะไม่คืบหน้าในการฝึกฝน
ครั้งอับจน เขากลับได้พบมรดกชิ้นหนึ่ง
เป็นไข่มุกดำ บิดาและมารดาของเขาหลงเหลือเอาไว้งานที่เขาถูกกลั่นแกล้งให้กระทำ กลับกลายเป็นสิ่งช่วยชีวิต
ซ่งจงจะทวงคืนความยุติธรรมแก่ตนเองและครอบครัวได้หรือไม่! โปรดติดตามต่อใน โกลาหลแห่งอสนีบาต


Options

not work with dark mode
Reset