Carefree Path of Dreams 32: เทศมณฑล

ตอนที่ 32: เทศมณฑล

เจ้าคิดอะไรของเจ้าน่ะ?”

ฟางหยวนยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ใบหน้าไร้ความเห็นใจ สายตาเย็นชาทำให้ซ่งซานรู้สึกถึงความตายขึ้นมา

“รั้งมือก่อน…”

เขาตะโกน “เจ้าฆ่าซ่งอวี้เจว๋ ซ่งจงย่อมไม่ปล่อยเจ้าไปเป็นแน่ เขาบ้าไปแล้วและต้องการให้ทุกคนตายไปเป็นเพื่อนลูกชายของเขา… ข้าช่วยเจ้าได้เพราะข้ารู้จักตาแก่นั่น…”

เขาพูดได้ครึ่งทางและรู้สึกตระหนกหลังจากกระอักเลือดออกมากองใหญ่

“ข้าจะจัดการกับตาแก่นั่นด้วยตัวข้าเอง ส่วนเจ้าก็ไปตามทางของเจ้าเถอะ!”

ฟางหยวนไม่รู้ว่ามีอะไรอื่นที่สามารถแก้พิษงูจูเหว่ยได้อีกหรือไม่นอกจากบัญชาพญายม

ผู้ฝึกยุทธ์ผู้นี้ถูกพิษอย่างง่ายดายแม้ว่าจะมีวิชาระดับสูงเทียบเท่าฟางหยวน

ไม่นาน ซ่งซานก็กลายเป็นศพ ใบหน้าเขียวคล้ำ

“โชคร้ายนัก… พิษนี่รุนแรงจนฆ่าซ่งซานตายไปก่อนที่ข้าจะทันได้ข้อมูลอะไรจากเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ถ้าจะให้ยาวิเศษสักเม็ดเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ได้นานอีกสักหน่อย…”

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายนิด ๆ หลังจากเห็นซ่งซานตายไป เขาโบกมือและพูด “ฮวาหูเตียว ไปลาดตระเวนรอบ ๆ สังหารทุกคนที่กล้าเข้ามาใกล้บริเวณนี้!”

“กิกี๊!”

ประกายแสงสีขาวสว่างวาบผ่านไปและฮวาหูเตียวก็กลับมาหลังจากไปลาดตระเวนไม่นาน อุ้งเท้าของมันสะอาดและมันส่ายหัวไปมา

“ไม่มีคนอื่นแล้ว? ซ่งซานมาที่นี่เองงั้นรึ?”

ฟางหยวนสงสัย แต่ก็ถอนหายใจเมื่อมองเห็นร่างของโจวเหวินอู่ “เจ้าโชคดีไปนะ!”

ถ้าซ่งซานยอมจากไปง่าย ๆ ฟางหยวนย่อมต้องส่งโจวเหวินอู่ออกไปและจบความสัมพันธ์ของพวกเขาลง แต่ซ่งซานมีเจตนาจะเข้ามาวุ่นวายและจะลากเขาเข้าไปในปัญหา โจวเหวินอู่ช่างโชคดีจริง ๆ

แล้วอีกอย่าง โจวเหวินอู่หมดสติไปแล้วและไม่รู้จุดยืนรวมทั้งพฤติกรรมก่อนหน้าของฟางหยวน

มันย่อมคุ้มค่าที่จะรักษาชีวิตของเขาเอาไว้

“ซ่งจงเสียสติไปแล้วจริง ๆ ที่จัดการกำจัดตระกูลโจวทั้งตระกูล โชคดี ข้าได้ช่วยชีวิตโจวเหวินอู่ไว้ทำให้เขาไปขอความช่วยเหลือจากสำนักเขาได้ ไม่ว่าสำนักไหนที่รู้สถานการณ์ของเขาจะต้องยื่นมือเข้าช่วยเป็นแน่!”

เมื่อก่อตั้งเป็นสำนักขึ้นมา ย่อมไม่อนุญาตให้คนในสำนักเข่นฆ่ากันเอง ไม่อย่างนั้น จะหาความสามัคคีระหว่างคนในสำนักจากที่ใดได้?

ถ้าคนในตระกูลโจวถูกกำจัดไปหมด ไม่เหลือผู้นำไว้ ซ่งจงย่อมหาใครสักหลายคนมาเป็นแพะรับบาปให้ตัวเองรอดพ้นจากข้อกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร

แต่ตอนนี้โจวเหวินอู่ยังมีชีวิตรอดเป็นพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อทุกคนรู้เรื่องนี้ซ่งจงย่อมไม่สามารถหนีพ้นได้!

ดังนั้น ในสายตาฟางหยวน เก็บโจวเหวินอู่เป็น ๆ เอาไว้นั้นมีประโยชน์มากกว่า

ถึงอย่างไรในเมื่อฟางหยวนฆ่าซ่งอวี้เจว๋ไป ย่อมต้องจัดการกับซ่งจงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นในอนาคต

…..

“ท่านพ่อ… แม่…”

ในความฝันของเขา เขามองเห็นซ่งจงกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดได้อย่างรางเลือน

โจวเหวินอู่ตะโกนออกมา แล้วตื่นขึ้นจากความฝันด้วยความรู้สึกตกใจ

ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บที่หน้าอก แต่ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว

“ใช่แล้ว… ท่านพ่อต่อสู้กับคนพวกนั้นอย่างเต็มที่เพื่อให้น้องสาวและข้าสามารถหนีออกมาทางเส้นทางลับได้ โชคไม่ดี พวกเรายังคงถูกไล่ตามมาจนได้ จนในที่สุดพวกเราก็แยกกัน…”

เขาเริ่มได้สติและมองสำรวจรอบตัว

“ที่นี่… หุบเขาสันโดษ?”

“เจ้าตื่นแล้วเหรอ?”

ฟางหยวนยกยาชามหนึ่งเข้ามาและแสดงท่าเป็นห่วง

“ขอบคุณท่านที่ช่วยชีวิตข้าไว้!”

โจวเหวินอู่ต้องการลุกขึ้นคารวะแต่ถูกฟางหยวนหยุดเอาไว้ “เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ควรจะนอนนิ่ง ๆ บนเตียงและพักผ่อน… เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลโจวกัน?”

“ตระกูลโจว…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของโจวเหวินอู่ก็ปริ่มน้ำ “จากวันนี้ไป จะไม่มีตระกูลโจวในเมืองชิงเย่อีกต่อไปแล้ว!”

“เป็นไปได้อย่างไร? เหล่าโจวกับคุณหนูโจวเล่า?”

ฟางหยวนทำเสียงประหลาดใจและถาม “ฆาตกรคือใครกัน?”

“ซ่งจงย่อมต้องเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนฆาตกรรมนี้!”

โจวเหวินอู่กัดฟันแน่นและพูดต่อ “แม้ว่าฆาตกรจะปิดบังหน้าตาไว้ ข้าเคยเห็นเขาด้วยสองตาตัวเองมาก่อน ข้าจำไม่ผิดแน่!”

“….”

ฟางหยวนหายใจเข้าลึกก่อนถาม “นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร?”

“ซ่งจงนั่นเป็นคนสติวิปลาสผู้หนึ่ง!”

โจวเหวินอู่พยายามลุกขึ้นนั่งก่อนพูด “น้องสาวของข้ากับข้าแยกกันหลบหนี ข้าไม่แน่ใจว่าท่านพบเห็นพวกมันหรือไม่ ตอนที่ซ่งซานกับพวกไล่ตามข้ามา ข้าถึงได้รู้ว่ามันยากที่จะเอาชนะซ่งจง…”

“ข้าไม่เห็นพวกมัน…”

ฟางหยวนส่ายหน้าและพูด “คุณชายโจว เจ้าเป็นคนดี ที่นี่ค่อนข้างลับตาและซ่งซานอาจจะจากไปแล้ว…”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น!”

โจวเหวินอู่ไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเขาคิดว่าฟางหยวนจัดการกับเรื่องราวต่าง ๆ อย่างไร เขาก็เข้าใจความหมายและคำตอบของฟางหยวนขึ้นมา

“คุณชายโจว เจ้าวางแผนไว้อย่างไร?”

ฟางหยวนตัดบทด้วยการถามคำถามกลับ

“ข้าจะกลับไปที่สำนัก เพื่อขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าสำนัก!”

ดวงตาโจวเหวินอู่แดงก่ำ เขากำหมัดแน่นก่อนจะพูด “ถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องตายตกลงสักวัน!”

ตัวเขาเองรู้ดีว่าไม่สามารถรับมือซ่งจงได้ด้วยตัวเอง และจำต้องได้รับความช่วยเหลือจากสำนัก

นอกจากนี้ ซ่งจงเป็นฝ่ายผิดและควรจะได้รับการลงโทษตราบใดที่เขาสามารถเปิดโปงมันได้!

“ด้วยอาการบาดเจ็บของเจ้าตอนนี้ เจ้าไม่ควรเคลื่อนไหวมากนัก โชคดีที่มณฑลชิงเหอนั้นไม่ไกลนัก ข้าสามารถเขียนใบสั่งยาให้เจ้าได้ แต่มันเพียงพอแค่ให้เจ้ากลับไปที่สำนักเท่านั้น ไม่เพียงพอให้เจ้าฟื้นฟูวิทยายุทธ์กลับมาได้!”

ฟางหยวนพยักหน้าเห็นด้วย

“ขอบคุณท่านที่ช่วยเหลือ!”

โจวเหวินอู่รู้สึกตื้นตันกับความช่วยเหลือของฟางหยวนแต่ก็ยังรู้สึกเศร้าใจ เขานัดหมายจุดนัดพบกับโจวเหวินซินเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถไปพบได้จนกระทั่งตอนนี้ นางอาจจะถูกฆ่าไปแล้วก็ได้

ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาย่อมเป็นผู้เดียวที่เหลือรอดของตระกูลโจว

“หลังจากข้าแก้แค้นแล้ว ข้าจะยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนพระคุณของท่าน!”

“นั่นไม่จำเป็น…”

ฟางหยวนโบก ๆ มือเหลือบมองโจวเหวินอู่ “เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ให้ข้าเป็นเพื่อนเจ้าไปที่มณฑลชิงเหอดีหรือไม่?”

“หะ?”

โจวเหวินอู่รู้สึกมึนงงเมื่อได้ยิน

เดิมทีเขาก็มีความคิดเช่นนี้ แต่ไม่กล้าร้องขอเพราะแค่นี้ก็รบกวนฟางหยวนมากแล้ว แต่ในเมื่อฟางหยวนเสนอขึ้นมาเอง ก็ทำให้เขากลายเป็นคนดีในสายตาโจวเหวินอู่ไปเลย!

เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าในสายตาฟางหยวน โจวเหวินอู่นั้นมีความสำคัญเป็นที่สุดในการทำให้แน่ใจว่าซ่งจงจะต้องตาย ดังนั้นฟางหยวนจึงตัดสินใจเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อให้แน่ใจว่าโจวเหวินอู่จะไปถึงสำนักโดยสวัสดิภาพ

แน่นอนว่าโจวเหวินอู่ไม่รู้ความจริง ในสายตาเขา ฟางหยวนนั้นจิตใจงดงามและยังมีความสามารถทางการแพทย์ที่น่าตื่นตะลึงด้วย

….

“มณฑลชิงเหอ…”

บนถนน เกวียนเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ฟางหยวนสวมหมวกและสงสัยอยู่เงียบ ๆ ในใจ

ในโลกนี้ เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นนั้นหาได้ยาก อย่างเช่นเมืองชิงเย่ ตระกูลใหญ่คือผู้ปกครองและออกกฏแทนที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

ในมณฑลเองก็เช่นกัน อาจจะเรียกได้ว่าสำนักกุยหลิงนั้นควบคุมเบ็ดเสร็จ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่ถึงจะมีอยู่แต่ก็ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร

แล้วเจ้าหน้าที่ทางการระดับสูง ๆ ส่วนหนึ่งในมณฑลก็เป็นสมาชิกของสำนักกุยหลิงด้วยซ้ำ

ดังนั้น ฟางหยวนสามารถเดาสภาพอำนาจสูงสุดในการปกครองมณฑลได้ว่า คงจะคล้ายกับครั้งหนึ่งที่เขาเคยฝันถึง

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมหลังจากถูกฆ่าล้างตระกูล โจวเหวินอู่จึงไม่รายงานไปยังส่วนปกครองท้องถิ่น แต่กลับวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากสำนักตน

เกวียนเคลื่อนที่ไปอย่างนุ่มนวลด้วยความเร็วคงที่ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บาดเจ็บที่นอนอยู่ด้านใน

‘ทิ้งฮวาหูเตียวไว้ข้างหลังเพื่อให้ปกป้องหุบเขาสันโดษ ส่วนข้าก็ต้องทนทรมานเดินทางมาที่มณฑลนี่!’

‘แน่นอนว่าข้าจะไม่เปิดเผยฝ่ามือทรายดำของข้าออกไปเท่าที่จะทำได้ เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กของข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้!’

ฟางหยวนตั้งใจจะพัฒนาวิชายุทธ์ของตัวเอง เหลือบมองที่หน้าต่างสถานะตอนนี้

“ชื่อ: ฟางหยวน

พลังกาย: 2.7

พลังลมปราณ: 2.6

พลังเวทย์: 1.5

อายุ: 18

ระดับการฝึกตน: [ผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ห้า)]

วิทยายุทธ์: [ฝ่ามือทรายดำ (ระดับ 5), [กรงเล็บอินทรีเหล็ก (ระดับ 4)]]

ทักษะ: [การแพทย์ (ระดับ 2)], [การดูแลพืช (ระดับ 3)]”

“เพราะข้ามีพื้นฐานวิทยายุทธ์อยู่แล้ว จึงสามารถเพิ่มระดับเคล็ดวิชากรงเล็บอินทรีเหล็กได้อย่างรวดเร็ว…”

แม้เมื่อเขาไปตามล่าปุ๋ยวิญญาณ เขาก็ยังคงฝึกฝนอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เขายังได้ประโยชน์จากการกินเนื้อสัตว์วิญญาณ ซึ่งให้ผลดีกว่ากินข้าวหยกแดงเสียอีก

“พลังลมปราณของข้าเพิ่มขึ้น 0.1 เคล็ดวิชากรงเล็บอินทรีเหล็กของข้าก็อยู่ในระดับสูงขึ้น และยังไม่ไกลจากจุดสูงสุดก่อนเลื่อนเป็นระดับ 5 แล้ว…”

ฟางหยวนพอใจกับความก้าวหน้าของตัวเองนัก

ตอนที่เขาสังหารซ่งอวี้เจว๋ก่อนหน้านี้ เขาได้เปิดเผยวิชาฝ่ามือทรายดำออกไป ดังนั้น เขาจึงต้องพยายามปิดบังวิชายุทธ์นี้เอาไว้เท่าที่จะเป็นไปได้

ตรงกันข้าม วิชากรงเล็บอินทรีเหล็กนั้นก็ไม่ได้มีข้อเสียเปรียบเช่นนั้น และยังสามารถฝึกได้จนกระทั่งประตูทองที่สิบสอง ดังนั้น ก็คงจะได้รับความสนใจจากผู้อื่นอยู่บ้าง

ฟางหยวนนั่นเพ่งมองที่เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กก่อนที่ข้อความหนึ่งจะปรากฏขึ้นในจิตใจ

“เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็ก – เคล็ดวิชาที่ผสานกำลังภายนอกและภายในเข้าด้วยกัน เมื่อฝึกสำเร็จ ก็จะเหมือนมีเหล็กกล้าปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย ทำให้น้ำและไฟไม่อาจกล้ำกลาย รวมทั้งการบาดเจ็บภายนอกใด ๆ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับที่ 4 เคล็ดวิชานี้เพิ่มพลังภายในของเคล็ดกรงเล็บอินทรีได้ด้วย!”

บนเส้นทางการฝึกวิทยายุทธ์ ก่อนที่จะฝ่าผ่านประตูทองที่หก ประตูชาง ได้ จะมีเพียงพลังภายใน ไม่ใช่กำลังภายใน!

สำหรับฟางหยวน นี่คือความแตกต่างระหว่างพลังภายในที่สับสนไม่เป็นระเบียบกับกำลังภายในที่ร้อยพันคล้ายเชือก

อย่างไรก็ตาม การฝึกวิชายุทธ์นั้นดีต่อพลังภายในของผู้ฝึกอยู่แล้ว

เขารู้สึกได้ว่าพลังภายในที่จุดตันเถียนของตนนั้นแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถรับรู้ได้ถึงพลังแข็งแกร่งที่อยู่ภายในนั้น

ถ้าเขาประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนพลังภายใน เขาก็จะผ่านมาตรฐานระดับต่ำสุดของผู้มีพรสวรรค์ในการฝึกยุทธ์ของมณฑลชิงเหอแล้ว!

“อาจารย์… อาจารย์ฟาง!”

ตอนที่ฟางหยวนกำลังจะเข้าภวังค์ฝึกเคล็ดกรงเล็บอินทรี เสียงแผ่ว ๆ ก็ดังออกมาจากในเกวียน

“คุณชายโจว รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

ฟางหยวนเปิดม่านเกวียน มองใบหน้าเผือดซีดของโจวเหวินอู่

“ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”

โจวเหวินอู่ส่งเสียงไออีกสองสามครั้ง มีเลือดปนออกมา

“ไอ้.. ไอ้แก่นั่นมันต้องไม่ปล่อยข้าไปง่าย ๆ มันต้องส่งคนมาป้องกันไม่ให้เราเข้ามณฑลชิงเหอได้!”

“แล้วอย่างไร?”

ฟางหยวนหัวเราะพลางพูด “พวกเราไม่มีอะไรจะต้องกังวลถ้าซ่งจงไม่ได้มาหยุดเราด้วยตัวมันเอง!”

เขาจัดการซ่งซาน ผู้เป็นศิษย์ของซ่งจง ได้อย่างง่ายดาย นี่บ่งบอกระดับวิชาของเขาเทียบกับคนของซ่งจง

แล้วอีกอย่าง เส้นทางการเข้าสู่มณฑลมีมากมาย เขาสามารถเปลี่ยนไปใช้ถนนเส้นอื่นให้คนของซ่งจงหาตัวพวกเขายากขึ้นก็ได้

นอกเสียจากพวกมันจะอยากมีปัญหาภายในมณฑล

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

Score 10
Status: Completed

บทนำ

นี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา

เอ๋?

จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ?

หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Options

not work with dark mode
Reset