Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ 3040 กำราบสิ้น

ตอนที่ 3040 กำราบสิ้น

ตอนที่ 3040 กำราบสิ้น

พลังระเบียบระดับเทพแปดสายลอยกลางอากาศ อบอวลด้วยอานุภาพระเบียบที่แตกต่างกัน บ้างเหมือนตะวันแผดเผาทั่วหล้า บ้างราวคืนนิรันดร์กลบทับสรรพสิ่ง บ้าง…

อานุภาพที่แตกต่างกันผสานกับระเบียบปฐม กดดันจนระเบียบระดับเทพสองสายของฝ่ายตรงข้ามส่งเสียงครวญไม่หยุด

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่นมาย่อมเกิดรู้สึกราวกับกฎระเบียบมรรคสวรรค์มากมายกำลังคำรามต่อสู้ น่าสะพรึงหาใดเปรียบ

นี่ทำให้สีหน้าพวกจี้กุยเจินสามคนล้วนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

เป็นดังในข่าวลือในจริงๆ หลินสวินกำจัดเผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าเหล่านั้นไปแล้ว ไม่เช่นนั้นย่อมไม่มีทางมีพลังระเบียบระดับเทพมากเช่นนี้

“ลงมือ!”

จี้กุยเจินออกโจมตีแทบจะในทันที

จับโจรต้องจับหัวหน้า ขอแค่กำราบหลินสวินได้ ระเบียบระดับเทพพวกนั้นย่อมพ่ายไปเองโดยไม่ต้องโจมตี

ตูม!

เขาชูมือขึ้นฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ พลังกฎเกณฑ์ที่เย็นเยียบเสียดกระดูกควบรวมเป็นประทับฝ่ามือ กลางฟ้าดินราวกับจมสู่ถ้ำหนาวเหน็บหมื่นกาลทันที ห้วงอากาศจับตัวแข็ง สรรพสิ่งแข็งค้าง

นั่นคืออานุภาพของขั้นสรรสร้าง ทรงพลังถึงขั้นน่าเหลือเชื่อ!

หากเปลี่ยนเป็นขั้นล่วงกฎคนอื่นต้องถูกพลังอันเย็นเยียบนี้ผนึกแช่แข็ง เอาชีวิตไม่รอดแน่

ทว่าหลินสวินที่เผชิญหน้าการโจมตีนี้กลับซัดหมัดหนึ่งออกมาทันใด

ตูม!

หมัดนี้อหังการไร้ใดเปรียบ ทำลายประทับฝ่ามือเย็นเยียบนั่นทั้งอย่างนั้น พลังที่สาดออกมาไหลบ่าสลายไป ฟ้าดินล้วนจมลงตามไปด้วย

จี้กุยเจินนัยน์ตาหดรัดทันที ไม่กล้าเชื่อสักนิดว่าพลังของตนจะถูกทำลายได้ง่ายดายเช่นนี้

ต้องรู้ว่าบนมรรคานิรันดร์ เขาเหนือกว่าหลินสวินถึงหนึ่งขั้นใหญ่!

ภาพนี้ทำให้ในใจเกาหยางหลีและเจียงเจวี๋ยคร่ำเคร่งเช่นกัน

พวกเขาไม่ได้ดูแคลนหลินสวิน

เพียงแต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังของหลินสวินจริงๆ พวกเขาถึงได้รู้ว่าสุดท้ายข่าวลือก็แค่ข่าวลือ ความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ของหลินสวินเหนือกว่าจินตนาการของคนทั่วหล้านัก

“ฆ่า!”

เกาหยางหลีและเจียงเจวี๋ยลงมือโจมตีขนาบหลินสวินจากสองด้านโดยไม่ลังเล

“มา!”

รอบกายเกาหยางหลีปรากฏกระบี่เทพสามสิบหกเล่ม กลายเป็นกระบวนค่ายกลกระบี่เร้นลับแน่นขนัด เสียงชิ้งๆ ดังก้องเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน กระบี่เทพไร้เทียมทานนั่นม้วนซัดอย่างบ้าคลั่งราวกับน้ำวน ทุกกระบี่ล้วนปลดปล่อยพลังกฎเกณฑ์นิรันดร์น่าขนลุกออกมา

“ไป!”

นิ้วเรียวยาวของเจียงเจวี๋ยกรีดวาด ดาบบินดำบางเฉียบโฉบออกมาทันที ปลายดาบมืดทึบ แต่ความเร็วกลับเร็วหาใดเปรียบ เพิกเฉยต่อพันธนาการห้วงอากาศ ตวัดพุ่งแปลกประหลาด พาให้คนยากป้องกัน

การโจมตีขนาบของทั้งสองเรียกได้ว่ารวดเร็วยิ่ง แต่ละคนล้วนแข็งแกร่ง เห็นชัดว่าใช้พลังทั้งหมดโดยไม่เก็บกักใดๆ

กลับเห็นหลินสวินไม่หลบไม่เลี่ยง เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งทะยานออกมา ไอรีนโนเวล

ตูม!

ละอองแสงคลุมเครือไพศาลไหลหลั่ง ปลดปล่อยอานุภาพที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน น้ำวนกระบวนค่ายกลกระบี่ที่แปลงจากจากกระบี่เทพทั้งสามสิบหกเล่มนั่นของเกาหยางหลี พริบตาเดียวก็ถูกตีแตกกระเจิง กระบี่เทพแต่ละเล่มกระจัดกระจายสะเปะสะปะ

“นี่…” เกาหยางหลีสีหน้าตะลึง

แต่ไม่รอให้เขาตอบโต้ เสียงตูมดังสนั่นคราหนึ่ง กระบี่เทพสามสิบหกเล่มล้วนแตกหัก ระเบิดออกกลางอากาศ ถึงขั้นต้านการกำราบครั้งเดียวของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งไม่อยู่!

พรูด!

เกาหยางหลีกระอักเลือดถอยออกไปอย่างทุลักทุเล ไม่ได้สุขุมอย่างก่อนหน้านี้อีก

ฉัวะ!

และเวลานี้เองดาบบินสีดำของเจียงเจวี๋ยก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวหลินสวินอย่างน่าประหลาด ฟันลงมาอย่างไร้สุ้มเสียง เร็วจนน่าเหลือเชื่อ

เคร้ง!!!

เสียงปะทะสนั่นหูดังขึ้น ดาบบินสีดำถูกกระบี่มรรคที่โผล่มากะทันหันต้านไว้

เจียงเจวี๋ยหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ ตั้งท่าจะเปลี่ยนกระบวนท่า

ก็เห็นหลินสวินยื่นมือออกมาคว้า ดาบบินสีดำนี่ก็ถูกจับไว้แน่น และเมื่อเขาออกแรงที่ฝ่ามือ ศาสตรามรรคนิรันดร์ที่มีอานุภาพเกินคาดนี้พลันแตกละเอียดทุกกระเบียด กลายเป็นฝุ่นผงปลิวว่อน

ภายใต้การโจมตีนี้ ร่างบางของเจียงเจวี๋ยพลันสั่นเทา ใบหน้างามเย็นเยียบซีดขาวลงไปสามส่วนในพริบตา นางเองก็รู้สึกใจสะท้านยากจะเชื่อเช่นกัน

“ให้ข้าเอง”

จี้กุยเจินในชุดขาวหิมะพุ่งเข้ามา มือกุมทวนศึกทองอร่าม ทั่วร่างเปล่งแสงหมื่นจั้ง กฎเกณฑ์มรรคนิรันดร์ไพศาลไหลหลั่งลงมา ความยิ่งใหญ่ของอานุภาพสะเทือนฟ้าดิน

ตูม!

ทวนศึกทองอร่ามพาดกวาด บดขยี้เวิ้งฟ้าเป็นแนวยาว รุนแรงหาใดเปรียบ แสงเทพที่ฉายขึ้นมาคล้ายกระแสน้ำปั่นป่วนโลกกระหน่ำกลางฟ้าดิน

อานุภาพของเขาแข็งแกร่งสุดขีด อย่างไรก็เป็นขั้นสรรสร้าง ทันทีที่ลงมือก็ทำเอาเกาหยางหลีและเจียงเจวี๋ยอับแสงลงอย่างเห็นได้ชัด

“ขั้นสรรสร้างแข็งแกร่งมากนักหรือ”

ในเสียงราบเรียบเฉยชา หลินสวินก้าวไปข้างหน้า อานุภาพทั่วร่างพุ่งถึงขีดสุด ทั้งให้กายมรรคทั้งห้าออกเคลื่อนไหว โจมตีพร้อมกับร่างต้น

ไม่มีใครรู้ว่าในใจหลินสวินโกรธเพียงใด

ยามรู้ว่าหลินฝานโดนจับไป เขาก็เหมือนถูกสัมผัสเกล็ดย้อน ในสภาวะจิตบังเกิดไอสังหารรุนแรง หากไม่ใช่ว่าเขาฝืนข่มไว้อย่างเอาเป็นเอาตายคงระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

และตอนนี้เขาก็ระเบิดออกมาโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่มัวสนใจอะไรอีกต่อไป!

ตูม โครม!

ศึกใหญ่ปะทุขึ้น ฟ้าดินแถบนี้ล้วนจมสู่สภาพโกลาหล ก็เห็นเงาร่างหลินสวินกับจี้กุยเจินต่างเข้าปะทะ ประหนึ่งยอดราชันกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

คนหนึ่งมือกุมทวนศึกเหลืองทอง ผงาดผยองอหังการ พลังที่ปลดปล่อยออกมายามโบกมือทำเอาระเบียบระดับเทพที่ปกคลุมกลางฟ้าดินถูกโจมตีรุนแรง

อีกคนเงาร่างดุจหมื่นกาลไม่แปรเปลี่ยน ออกโจมตีพร้อมกับกายมรรคทั้งห้า ต่อให้มรรควิถีเพียงขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ แต่สลายการโจมตีของจี้กุยเจินได้ทั้งหมด แข็งแกร่งถึงขั้นน่าตกใจ

พริบตาเดียวเท่านั้น

ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดไปหลายร้อยกระบวนท่า ฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยง สูสีกัน

ศึกเช่นนี้ทำให้เกาหยางหลีกับเจียงเจวี๋ยล้วนหนาวสะท้านในใจ เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสสอดมือแม้แต่น้อย ทันทีที่ยื่นมือเข้าไปต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่

เพียงแต่พวกเขากลับไม่อาจจิตนาการ ว่าเหตุใดหลินสวินซึ่งมีระดับปราณเท่ากับพวกเขา กลับมีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าเช่นนี้ ถึงขั้นสามารถต่อสู้อย่างสูสีกับจี้กุยเจินซึ่งเป็นขั้นสรรสร้างได้!

ตูม!

การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น บนใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของจี้กุยเจินปรากฏแววแปลกใจและเคร่งขรึมแล้ว ในใจพลิกม้วนไม่หยุด

เห็นได้ชัดว่าถูกพลังต่อสู้ของหลินสวินทำเอาตกใจเช่นกัน

“หึ!”

จี้กุยเจินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง นัยน์ตาพลุ่งพล่านไปด้วยไอสังหาร ปลดปล่อยอานุภาพทั่วร่างและเริ่มใช้ไพ่ตาย

ตูม!

ทวนศึกเหลืองทองแทงออกไป คล้ายกับทวนศึกจำนวนมหาศาลแทงออกไปพร้อมกัน ปกฟ้าคลุมดิน ส่งเสียงครืนครันราวกับธารยาวหมื่นกาล ผู้เชื่อฟังย่อมรุ่งเรือง ผู้ต่อต้านย่อมพินาศ

นี่เป็นสถานการณ์ที่ทำเอาจิตใจผู้คนหวั่นไหว!

แต่ก็เป็นเวลานี้เอง…

แสงพร่างพราวราวมายาสายหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากในเรือนิรันดร์บนร่างจี้กุยเจิน

ชิ้ง!

แทบจะในเวลาเดียวกันเสียงครวญใสสะท้านใจสายหนึ่งดังขึ้น ตามมาด้วยทวนศึกกระดูกขาวเล่มหนึ่งแทงออกมา

จี้กุยเจินที่เดิมทีเก็บเรือนิรันดร์ไว้ในแขนเสื้อ มีหรือจะคิดว่าจู่ๆ จะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในยามต่อสู้ จึงหลบไม่ทันแม้แต่น้อย

พรูด!

เมื่อทวนศึกกระดูกขาวแทงออกมา ร่างของจี้กุยเจินก็ถูกแทงทะลุโดยตรง เลือดแดงฉานร้อนผะผ่าวไหลทะลัก

“สารเลว!”

ท่ามกลางเสียงตะโกนลั่นอย่างเจ็บปวด ร่างของจี้กุยเจินแยกออกคล้ายถูกผ่า ภาพน่าตระหนกนั่นทำให้เกาหยางหลีกับเจียงเจวี๋ยอึ้งไป ต่างรับมือไม่ทัน

ทว่าหลินสวินกลับเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว แทบจะในตอนที่จี้กุยเจินถูกโจมตี เขาก็ทะยานผ่านห้วงอากาศโดยพลัน ล้อมโจมตีพร้อมกายมรรคทั้งห้า

ตูม!

พริบตาเดียวร่างที่แยกออกของจี้กุยเจินก็ถูกทำลาย ส่วนพลังจิตของเขาก็ถูกร่างต้นของหลินสวินจับไว้

“เจ้าพวกต่ำช้า!”

พลังจิตของจี้กุยเจินตะโกนอย่างเดือดดาลหาใดเปรียบ

เขามีหรือจะคิดว่าในสมบัติอย่างเรือนิรันดร์จะถึงกับซ่อนการโจมตีอื่นไว้

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนการที่หลินสวินวางไว้ล่วงหน้า!

“ต่ำช้าหรือ พวกเจ้าไม่กล้าสู้กับข้าหลินสวินอย่างผ่าเผย กลับจับลูกศิษย์กับลูกชายข้าเป็นตัวประกัน ใครกันที่ต่ำช้า!”

เพียะ!

ขณะพูดหลินสวินก็หวดฝ่ามือใส่หน้าจี้กุยเจินอย่างแรง ฟาดจนพลังจิตฝ่ายหลังสั่นไหวรุนแรง ส่อแววจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“ไป!”

ไกลออกไป เกาหยางหลีกับเจียงเจวี๋ยเลือกเผ่นหนีอย่างไม่ลังเล

จู่ๆ จี้กุยเจินซึ่งเป็นขั้นสรรสร้างก็ถูกกำราบ นี่ทำให้พวกเขาตั้งตัวไม่ทันโดยสิ้นเชิง และรู้สึกว่าท่าไม่ดีเช่นกัน

“คิดจากไปหรือ ฝันไปเถอะ!”

กายมรรคทั้งห้าของหลินสวินทะยานมา แต่ละคนสีหน้าเย็นชา นัยน์ตาสาดไอสังหาร ปิดตายทางหนีของเกาหยางหลีและเจียงเจวี๋ยทันที

“หลินสวิน เจ้าทำเช่นนี้มีแต่จะเป็นผลเสียต่อลูกชายและลูกศิษย์เจ้า จะทำไปเพื่ออะไรกัน” เกาหยางหลีสีหน้าขมขื่นและไม่หน้าดู

ปัง!

จากนั้นเขาก็ถูกกายมรรคเพลิงแดงซัดร่างไปหนึ่งฝ่ามือ เลือดออกเจ็ดทวาร ทั้งร่างล้วนแตกเป็นรอยแยก เลือดสดไหลริน เจ็บจนร่างกระตุกบิดเบี้ยว

เจ้าคนที่เอาแต่ปั้นหน้ายิ้มแต่ที่จริงเสแสร้งผู้นี้ หลินสวินรังเกียจถึงที่สุดจริงๆ

“ฆ่า!”

เงาร่างของเจียงเจวี๋ยเปลี่ยนเป็นร่างมายานับไม่ถ้วนทันที เผ่นหนีไปทั่วทิศ แน่นขนัดถี่ยิบจนทำให้คนแยกไม่ออกว่าร่างต้นของนางคือร่างไหนกันแน่

นี่เป็นวิชาหลบหนีที่ร้ายกาจที่สุดวิชาหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

“น่าขัน” กายมรรควารีดำยิ้มเยาะ พริบตาเดียวก็แปลงร่างเป็นสามพันสายแล้วออกโจมตีเต็มกำลัง

ปึงๆๆ!

ก็เห็นร่างพวกนั้นของเจียงเจวี๋ยระเบิดออกไปทั้งหมด

พริบตาเดียวร่างต้นของนางก็ถูกบีบให้ปรากฏตัว และถูกกายมรรคไม้เขียวคว้าคอไว้ราวหิ้วลูกไก่

จนถึงตอนนี้ จี้กุยเจิน เกาหยางหลี และเจียงเจวี๋ยล้วนถูกจับทั้งหมด!

หลินสวินเก็บกายมรรคทั้งห้า เงยมองฟ้าแล้วโบกแขนเสื้อคราหนึ่ง

ตูม โครม!

ระเบียบระดับเทพสองสายที่ถูกเกาหยางหลีกับเจียงเจวี๋ยเรียกออกมาก่อนหน้านี้ล้วนถูกระเบียบระดับเทพเก้าสายของหลินสวินกำราบนานแล้ว ตอนนี้นอกจากระเบียบปฐม ที่เหลือล้วนถูกหลินสวินเก็บมาทั้งหมดแล้ว

นี่ย่อมนับว่าเป็นผลเก็บเกี่ยวใหญ่ที่คาดไม่ถึง

เพียงแต่หลินสวินแทบจะไม่สนใจของพวกนี้สักนิด

“ควรจัดการพวกเขาอย่างไร”

ร่างงามของซย่าจื้อเดินออกมาจากเรือนิรันดร์ นัยน์ตากระจ่างกวาดมองพวกจี้กุยเจิน บนใบหน้าเล็กที่งดงามหาใดเปรียบปกคลุมไปด้วยไอสังหาร นางสัมผัสถึงความเดือดดาลประหนึ่งเพลิงโหมบ้าคลั่งในใจหลินสวินได้อย่างชัดเจน

“ให้ข้าจัดการเอง”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย

ยามนี้พลังจิตของจี้กุยเจิน เกาหยางหลีและเจียงเจวี๋ยล้วนถูกกำราบ ผนึกอยู่เบื้องหน้าเขาราวกับนักโทษที่คุกเข่าอยู่ตรงนั้น สีหน้าแต่ละคนซีดเผือดและฉายแววกราดเกรี้ยว

ครั้งนี้พวกเขาเตรียมตัวมาอย่างไร้ที่ติ คิดว่าภายใต้ภัยคุกคามของเคราะดับสิ้นไร้ชีพ ทั่วทั้งในโลกยอดนิรันดร์ย่อมไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้

กลับคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะถูกกำราบ…

“หลินสวิน ถ้าพวกเราตายแล้ว ลูกและศิษย์ของเจ้าก็ต้องตายโดยไม่ต้องสงสัย” จี้กุยเจินพยายามทำให้ตัวเองสงบ น้ำเสียงเย็นชา

เพียะ!

ฝ่ามือหนึ่งฟาดใส่หน้าเขาอย่างแรง ตบจนเบื้องหน้าสายตาเขามีดาวทองผุดพราย รู้สึกอัปยศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ในฐานะขั้นสรรสร้าง มีหรือจะเคยถูกคนทำให้ขายหน้าเช่นนี้!

……………….

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1100 อ่านนิยาย


ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์

ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง

หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้

แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

Options

not work with dark mode
Reset