บทที่ 399 ป้องกัน
ลูกศรสีแดงลูกแรกเชื่อมต่อกับเขตเมืองชั้นในของแม่ทัพเจี้ยนผิงถู ในไม่ช้า ลูกศรสีแดงลูกที่สอง ลูกศรสีแดงลูกที่สาม…
ป้อมปราการหกเจ็ดแห่งของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ได้รับการซ่อมแซมแล้ว และกองกำลังในป้อมปราการเหล่านี้ได้โจมตีผู้นำพันธมิตรของ ‘สงครามมังกร’ ในเวลาเดียวกัน
ขณะนี้มีกองกำลัง ‘สงครามมังกร’ สิบนายประจำการอยู่ที่นั่น กองกำลังเหล่านี้เป็นกองกำลังหลักที่สมาชิกส่งมาซึ่งค่อนข้างอยู่ใกล้กับผู้นำพันธมิตรจึงมาถึงค่อนข้างเร็ว
กองทหารชุดแรกรบกับศัตรู หมายเลขสิบสีแดงสดบนกองทหารกลายเป็นเลขเก้า
เจิ้งหงซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าผู้คนที่มาจากอีกฝั่งหนึ่งไม่ได้มีความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับกลไกการต่อสู้ขนาดนั้น
หลังจากดูบันทึกการต่อสู้แล้ว เจิ้งหงซีพบว่ากองทัพของฝ่ายตรงข้ามไม่แข็งแกร่งมากนัก และโดยพื้นฐานแล้วอยู่ในระดับเดียวกับของเขาเอง เขาพูดได้เพียงว่านักเรียนคนนี้ทำงานหนักและไม่ได้จ่ายเงินในเกม
แต่ในขณะที่เจิ้งหงซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก กองกำลังศัตรูกองที่สองก็ปะทะกัน และจำนวนกองกำลังกองทหารรักษาการณ์ก็เปลี่ยนจากเก้าเป็นสี่ทันที!
กองกำลังศัตรูนี้ได้ทำลายกองกำลังทหารรักษาการณ์ห้าคนโดยตรง!
เจิ้งหงซีตื่นตระหนก เขารีบเปิดรายงานการต่อสู้และพบว่าอีกฝ่ายเป็นกลุ่มทหารม้าเว่ยขนาดเล็กที่ประกอบด้วยทหารม้าเว่ยสามนาย นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาสามารถเจาะกองทหารทั้งห้าที่อยู่ฝั่งนี้ได้โดยตรง
“ทหารระดับสูงของพวกเขางั้นเหรอ”
“ให้ตายเถอะ พวกเขาตั้งทีมเร็วขนาดนี้เลยเหรอ การผสมผสานของทหารม้าเว่ยนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ!”
“แต่เขายังมีกองทหารที่เหลืออยู่ เขาสามารถบุกทะลวงได้อีกครั้งเมื่อเขาถอยกลับไปที่ป้อมปราการ!”
“เราจะทำยังไงดี”
“คนที่อยู่ใกล้ๆ มีใครออนไลน์บ้าง ดึงกองกำลังทั้งหมดมาที่นี่! นำกองกำลังโจมตีเข้ามาด้วยให้มากที่เท่าที่คุณจะทำได้!”
“คนที่เดินทางมาที่นี่ภายในสามสิบนาทีได้รีบมา ส่วนคนที่ไกลออกไปไม่ต้อง มันไม่ทัน!”
“กองกำลังหลักของเมฆหนาปกคลุมอยู่ไหน พวกเขาจะใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะมาถึง”
“สิบนาที รอก่อน!”
มีความตื่นตระหนกเล็กน้อยในกลุ่มแชตเนื่องจากทุกคนกำลังพูดคุยถึงสถานการณ์การต่อสู้แบบเรียลไทม์
ผู้เล่นตัวจริงใน ‘Land of Land’ นั้นแตกต่างจากเกมสามก๊กเกมอื่นๆ เกมอื่นสนับสนุนให้มีการผสมผสานและจับคู่อาวุธ แต่ ‘Land of Land’ สนับสนุนค่ายเดียวกันและกองทหารประเภทเดียวกัน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากแม่ทัพทั้งสามของหน่วยเดียวกันมาจากค่ายเดียวกันและอาวุธประเภทเดียวกัน พวกเขาจะได้รับโบนัสเพิ่มเติม ทหารม้าเว่ยหมายถึงกัวเจีย[1] เฉาจาง[2] เฉาเหริน[3] แม่ทัพเหล่านี้ล้วนเรียกว่าแม่ทัพสี่ดาวและพวกเขาก็แข็งแกร่งอย่างมากในช่วงแรกของสงคราม
อย่างไรก็ตาม ทหารม้าเว่ยขนาดเล็กมีประโยชน์ในช่วงแรกเท่านั้น ในช่วงกลางแม้แต่ทหารม้าเว่ยที่ยิ่งใหญ่(เซี่ยโหวยวน[4] สวินอวี้[5] โจโฉ) ก็เป็นเพียงเด็กส่งอาหารของอู๋กงเท่านั้น
แต่ตอนนี้ทหารม้าเว่ยในตอนนี้ก็เพียงพอที่จะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับการต่อสู้ของ ‘สงครามมังกร’
ในไม่ช้า กองทัพที่สอง กองทัพที่สาม…
กองกำลังของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ยังคงปะทะกับกองทหารรักษาการณ์ หลังจากการสู้รบรอบแรก กองทหารรักษาการณ์ทั้งหมดของ ‘สงครามมังกร’ ก็พ่ายแพ้ทั้งหมดและส่งกลับบ้าน!
ในเวลานี้ กองทหารทั้งหมดในป้อมปราการของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ได้รับการระดมกำลัง และลูกศรสีแดงหนาแน่นชี้ไปที่ใจกลางเมืองซึ่งผู้นำ ‘สงครามมังกร’ ไม่มีทหารประจำการอีกต่อไป!
“มันจบแล้ว!”
“ฉันควรทำยังไงดี มันสายไปแล้ว!”
“ทำไมเมฆหนาปกคลุมยังมีเวลาสามนาที ฉันกังวลมาก”
ทุกคนในกลุ่มแชตต่างตื่นตระหนก หากมีกองกำลังปิดล้อมมากขึ้นในหมู่กองกำลังของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ค่าการป้องกันเมืองทั้งหมดของผู้นำพันธมิตรสามารถถูกทำลายได้ในรอบเดียว อย่างไรก็ตาม เมืองของผู้เล่นไม่ได้สูงเท่ากับเมือง NPC ภายใต้การยิงที่เข้มข้นมันจะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม อาจต้องใช้เวลาอีกสามนาทีก่อนที่เมฆหนาปกคลุมจะมาถึง การต่อสู้สูงสุดของ ‘สงครามมังกร’ ขึ้นอยู่กับว่าเมืองของผู้นำพันธมิตรจะถูกทำลายในรอบนี้หรือไม่
ชะตากรรมของเหลียงโจวทั้งหมดขึ้นอยู่กับสามนาทีนี้ ไม่ว่าเมืองจะถูกทำลายหรือไม่ก็ตาม เหลียงโจวก็จะเดินไปบนเส้นทางที่แตกต่างกันสองเส้นทาง
“การปะทะกันครั้งแรกเป็นการปะทะกับหน่วยทหารม้า โชคดีที่การป้องกันของเมืองเสียไปน้อยกว่ายี่สิบคะแนน”
“มีนักธนูอยู่ในหน่วยที่สอง แต่คราวนี้เขาเสียไปเจ็ดสิบ”
“หน่วยที่สามคือหน่วยทหารม้าอีกครั้ง พวกเขาเสียไปสามสิบสามคะแนน”
ทุกคนต่างให้ความสนใจกับคุณค่าการป้องกันเมืองของเมืองของผู้นำพันธมิตร ในตอนแรกค่าการป้องกันเมืองของผู้เล่นอยู่ที่เพียงเก้าร้อยคะแนน หากเป็นกองกำลังทหารราบที่ใช้โจมตีเมืองโดยเฉพาะ พวกเขาจะเสียคะแนนหนึ่งหรือสองร้อยแต้มในการปะทะแต่ละครั้ง
โชคดีที่การเตรียมการของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ เร่งรีบมากและกองกำลังที่สามารถรวบรวมได้ส่วนใหญ่เป็นทหารม้า แม้ว่าพวกเขาจะวิ่งเร็ว แต่คะแนนการโจมตีของพวกเขาก็ต่ำมาก ดังนั้นความทนทานของพวกเขาจึงลดลงช้ามาก
ในช่วงเวลานี้ มีทหารอีกสองคนมาถึงซึ่งทำให้การล้อมของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ล่าช้าออกไป
“ห้ามไว้!”
“เชี่ย ยังเหลือการป้องกันเมืองอีกสามร้อยคะแนน คู่ต่อสู้ยังมีความแข็งแกร่งอีกมาก!”
“เมฆหนาปกคลุมใกล้มาถึงแล้ว!”
“ดีมาก เมฆหนาปกคลุมเฝ้าระวัง!”
ในที่สุด เมืองหลักของหัวหน้าพันธมิตรมีคะแนนการป้องกันเหลือเพียงสองร้อยสิบคะแนน กองกำลังหลักจากเมฆหนาปกคลุมก็มาถึงในที่สุด ตั้งมั่นและรักษาการณ์เมืองหลักของแม่ทัพเจี้ยนผิงถูได้สำเร็จ
กองกำลังศัตรูยังคงมุ่งหน้าไปยังเมืองหลักทีละคน แต่กองกำลังทั้งหมดเหล่านี้ปะทะกับกองทหารรักษาการณ์ของเมฆหนาปกคลุม กองทหารห้าหรือหกกองวิ่งเข้ามาหาพวกเขาติดต่อกัน แต่กองทหารรักษาการณ์ยังคงนิ่งเฉย!
ผู้คนใน ‘ฉีเยว่หวู่อี’ สับสนอย่างเห็นได้ชัด เดิมทีพวกเขาคิดว่าชัยชนะอยู่ใกล้ตัว แต่ในท้ายที่สุดกองกำลังมากกว่าสิบนายที่บุกโจมตีพวกเขากลับไม่ประสบผลสำเร็จ!
ช่องพันธมิตรของ ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น มีกองกำลังเหลืออีกไหม รีบเข้าไปชนพวกมันซะ! ผู้นำของ ‘สงครามมังกร’ เหลือเลือดเพียงสองร้อยคะแนน อีกสองรอบก็จะเสร็จแล้ว!”
“ให้ตายเถอะ กองกำลังต่อสู้ระดับสูงจากฝั่งตรงข้ามมาถึงแล้ว หนึ่งต่อสิบ! นายดูรายงานการต่อสู้สิ”
“อะไรวะเนี่ย ทำไมเมฆหนาปกคลุมถึงทรงพลังขนาดนี้”
“ดูแม่ทัพทั้งสองของเขาสิ หลู่เหมิงกับโจวอวี๋!”
“ล้อกันเล่นหรือเปล่า ทำไมถึงมีเศรษฐีบ้าในกลุ่มทหารระดับสูงได้ หลู่เหมิงออกมาเหรอ”
“ให้ตายเถอะ เขายังมีกองกำลังอีกมาก โจมตีไม่ไหว”
“แต่กองทหารของเรายังไปต่อได้”
“ไม่มีประโยชน์ ประสิทธิภาพการต่อสู้ต่ำเกินไป พวกเราส่วนใหญ่เหมือนเด็กส่งอาหาร!”
“จัดการมากกว่านี้ไม่ไหว ไม่มีทางหันหลังกลับ คืนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด หากเราไม่สามารถชนะแล้วยังต่อสู้กันอยู่แบบนี้ สถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวยต่อเราอย่างมาก! กองทัพแนวหน้าทั้งหมดที่เคลื่อนไหวได้พุ่งโจมตี! ต้องฆ่าเศรษฐีนี่ให้ตายให้ได้!”
ผู้คนใน ‘ฉีเยว่หวู่อี’ ส่งกองกำลังของพวกเขาออกไปอย่างบ้าคลั่ง พยายามสังหารกองกำลังหลักในเมฆหนาปกคลุม
แต่มันก็ไร้ประโยชน์ จะสามสี่กองกำลังที่ส่งออกไปถูกฆ่าตายทันที
ในเกม หลู่เหมิงกับโจวอวี๋เป็นแม่ทัพระดับห้าดาวทั้งคู่ ผู้เล่นตัวจริงของ ‘แม่ทัพภาค’ ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ในช่วงกลางเกมและอาจมีประโยชน์ในช่วงท้ายเกมคือการรวมกันของหลู่เหมิง[6] ซุนเฉวียน[7] โจวอวี๋[8]ซึ่งเป็นนักธนูทั้งสามของแคว้นอู๋
ทักษะของหลู่เหมิงคือชุดขาวข้ามแม่น้ำ ซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้ศัตรูโจมตีตามปกติในสองรอบแรกของการต่อสู้ หลังจากเอฟเฟกต์นี้สิ้นสุดลง เขาสามารถโจมตีศัตรูเชิงกลยุทธ์ (คาถา) ได้ทันที
ทักษะของโจวอวี๋คือการโจมตีเชิงกลยุทธ์ต่อศัตรูและทำให้ศัตรูอยู่ในสภาวะหวาดกลัว ทำให้พวกเขาไม่สามารถโจมตีได้ตามปกติเป็นเวลาสองรอบ
กล่าวได้ว่าเมื่อแม่ทัพทั้งสองนี้จับคู่กัน แม่ทัพของอีกฝ่ายที่อาศัยการโจมตีทางกายภาพทำได้เพียงเฝ้าดูอย่างช่วยไม่ได้ ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆ ได้เลย ความเสียหายจากแม่ทัพทั้งสองก็สูงมากเช่นกัน ผลงานของแม่ทัพทั้งสองแข็งแกร่งมากด้วยการโจมตีด้วยคาถาต่างๆ ที่ทำให้คู่ต่อสู้สับสน
…………………..
[1] กัวเจีย : กุยแก (郭嘉) เป็นกุนซือฝ่ายโจโฉในยุคสามก๊ก
[2] เฉาจาง : ลูกชายของโจโฉ
[3] เฉาเหริน : ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ
[4] เสี้ยโหวยวน : แม่ทัพคนสำคัญของโจโฉ
[5] สวินอวี้ : ที่ปรึกษาคนสำคัญของโจโฉ
[6] หลู่เหมิง : หนึ่งในแม่ทัพคนสำคัญยิ่งของง่อก๊ก
[7] ซุนเฉวียน : จักรพรรดิผู้ก่อตั้งรัฐง่อก๊กซึ่งเป็นหนึ่งรัฐในยุคสามก๊กของจีน
[8] โจวอวี๋ : แม่ทัพคนสำคัญของง่อก๊ก
———————————
![เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]](https://i2.wp.com/www.xn--q3cmiag1gmn.com/wp-content/uploads/2022/08/bmn54u2yvhx9x9it.jpeg?resize=60,85 "เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]")
