A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 21

ตอนที่ 21

กาแฟแก้วหนึ่งถูกวางไว้ข้างหน้าฉัน

 

 

“ไม่เลย ฉันไม่คิดว่าคุณจะสามารถหยุดรถม้าชนส่งของเราได้ด้วยตัวคนเดียวเลย คุณจะต้องเป็นนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงแน่!”

 

 

“ผมไม่ได้โด่งดังขนาดนั้น ก็จริงที่เมื่อก่อนผมเคยได้เข้าร่วมกับปาร์ตี้ระดับ S มาก่อน แต่ตอนนี้ผมเป็นเพียงแค่นักเดินทางธรรมดาเท่านั้น”

 

 

พวกเราอยู่ในห้องๆหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ ที่นี่เราพูดคุยอยู่กับคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น รองประธาน

 

 

จุดเริ่มต้นของเรื่องก็คือการที่ฉันหยุดรถลากเซราท๊อปได้

 

 

ถึงจะมีรอยขีดข่วนกับตัวรถบ้าง แต่คนขับนั้นปลอดภัย กระเป๋าสินค้าส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา และเซราท๊อปก็ยังปกติดี

 

 

คนจากบริษัทขนส่งที่ได้ยินเรื่องวุ่นวายนี้แนะนำให้เรามาที่นี่

 

 

และตอนนี้เราสองคนก็กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่

 

 

ใช่แล้ว กาแฟอร่อยมาก

 

 

กลิ่นหอมกำลังดี ทั้งความขมและความเป็นกรดของมันอยู่ในระดับปานกลาง

 

 

คล้ายกับรสชาติของถั่วคุณภาพสูงที่ฉันเคยดื่มเมื่อนานมาแล้ว

 

 

“ว่าแต่เราจะคุยกันเรื่องอะไรครับ?”

 

 

“แน่นอนว่ามันเกี่ยวกับค่าตอบแทน ขอบคุณมากสำหรับการหยุดรถขนส่งในครั้งนี้ มันอาจจะเล็กน้อย แต่ได้โปรดรับมันไว้ด้วยเถอะ”

 

 

มีเหรียญเงินประมาณ 20 เหรียญวางอยู่บนโต๊ะ

 

 

ฉันไม่ได้ช่วยเพราะต้องการเงินหรอกนะ

 

 

ถึงอย่างไร ถ้าเขายินดีให้ ฉันก็ยินดีรับ

 

 

ด้วยเงินนี้ฉันควรจะพาคาเอเดะไปหาของอร่อยๆกินกัน

 

 

“นายท่าน ควรจะถามเรื่องนั้นรึเปล่า?”

 

 

คาเอเดะกระซิบเบาๆที่ข้างหูฉัน

 

 

ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะเสียงของเธอมันน่ารักและใส

 

 

ถาม? อะไร?

 

 

“จดหมายแนะนำน่ะค่ะ”

 

 

“อ๊ะ!”

 

 

นั่นสินะที่นี่ก็เป็นบริษัทขนส่ง

 

 

ถ้าหากว่าอยู่ในธุรกิจแบบเดียวกันเขาก็น่าจะรู้ว่าคุณโจนาธานเป็นเจ้าของบริษัทใด

 

 

“ขอถามอย่างหนึ่ง คุณพอจะรู้จักบริษัทที่คุณโจนาธานเป็นเจ้าของอยู่รึเปล่า”

 

 

“เขาเป็นท่านประธานของที่นี่เองแหล่ะ”

 

 

“ที่จริงแล้ว ผมมีจดหมายแนะนำจากท่านเคานต์โรอาน คุณสามารถติดต่อท่านประธานให้ผมได้รึเปล่า”

 

 

“ฉันขอยืนยันก่อนได้มั้ย?”

 

 

ฉันยืนซองจดหมายให้รองประธาน เขาตรวจสอบทุกซอกมุมของจดหมาย แล้วส่งคืนให้ฉัน

 

 

“ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสงสัย รอสักครู่นะ”

 

 

รองประธานลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากห้องไป

 

 

มีงี้ด้วย บังเอิญว่ารถที่ฉันช่วยเอาไว้เป็นของบริษัทเป็นหมายพอดี

 

 

โชคดีจริงๆที่ไม่ต้องไปเดินตามหาคน

 

 

ก๊อก ก๊อก..

 

 

ประตูถูกเคาะและมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง

 

 

ผู้ชายที่ฉันพูดคุยอยู่ก่อนหน้านี้ ‘รองประธาน ‘ มีรูปร่างอ้วนท้วม แต่ชายที่เข้ามาตอนนี้เป็นชายวัยกลางคนที่มีผมสีแดงยาวและมีเคราสวยงามอยู่ใต้จมูกเขา

 

 

เขานั่งลงบนโซฟาแล้วหันหน้าเข้าหาเรา

 

 

“ฉันประธานบริษัทนี้ โจนาธาน ร๊อคเบล คุณมีจดหมายจากเคานต์โรอานสินะ ขอฉันดูหน่อยได้มั้ย?”

[ คำว่า 君 = คิมิ นี่มันควรใช้ว่าอะไรดีอ่ะ ไม่ค่อยแม่นญี่ปุ่นเท่าไหร่

คุณ,เธอ,นาย ในกรณีที่เรียกเด็กที่อายุน้อยกว่า ]

 

 

“นี่ครับ”

 

 

เมื่อรับจดหมายเขาก็ตรวจสอบชื่อผู้ส่ง ก่อนที่จะเปิดซองจดหมาย

 

 

มีกระดาษหลายแผ่นอยู่ด้านใน

 

 

หลังจากอ่านแล้วเขาก็ยิ้มเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเนื้อหาด้วยในนั้นน่าสนใจ

 

 

“ดูเหมือนคุณจะมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือเมืองไอนาร์ค โทรุโดโนะ”

 

 

“มันไม่ใช่การกระทำที่มากมายอะไรครับ ผมแค่ทำสิ่งที่ควรทำ”

 

 

“งั้นเหรอ คุณเป็นคนที่น่าสนใจดี ไม่แปลกที่เคานต์จะชอบคุณ”

 

 

“เอ๋ เขานะเหรอ?”

 

 

“มีคำชมคุณมากมายอยู่ในนี้”

 

 

เขาสะบัดจดหมายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 

 

ฉันอยากจะอ่านสิ่งที่เขาเขียนจัง แต่เขาคงไม่ยอมให้ฉันทำแน่

 

 

ยังไงก็ตาม ฉันได้คุยกับเคานต์โรอานเพียงแค่ 2-3 ครั้ง และไม่คิดว่าเราจะสนิทกันถึงขนาดนั้น

 

 

สุดท้ายแล้วฉันก็อ่านอารมณ์ของขุนนางไม่ออก

 

 

หรือว่าฉันแค่ไม่รู้สึกตัวนะ?

 

 

“โอเค งั้นก็ทำตามที่เคานต์ขอกันเถอะ ถือว่าเป็นคำขอจากเพื่อนเก่า”

 

 

“เขาขออะไรเหรอครับ?”

 

 

“ฉันบอกที่นี่ไม่ได้”

 

 

เอ๋ แล้วที่ไหนถึงจะพูดได้ล่ะ

 

 

แล้วทำไมถึงพูดที่นี่ไม่ได้

 

 

“ขอโทษทีนะแต่ฉันต้องใช้เวลาสักพัก ฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณจะมาที่นี่อีกครั้งในคืนวันพรุ่งนี้”

 

 

“คุณจะช่วยเล่าเรื่องทุกอย่างเมื่อถึงตอนนั้นได้มั้ย”

 

 

เขาตอบกลับฉันว่า “ฉันสัญญา”

 

 

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย

 

 

อยากให้ฉันมาที่นี่คืนพรุ่งนี้งั้นเหรอ

 

 

ขี้โกงนี่คุณโจนาธาน

 

 

ฉันตัดสินใจแล้วว่าคืนพรุ่งนี้ฉันจะมาทีนี่อีกครั้ง

 

 

 

 

เมื่อถึงเวลานัดหมายฉันกับคาเอเดะก็มารออยู่ที่หน้าบริษัทอีกครั้ง

 

 

มีรถม้าจอดรออยู่ราวกับว่ากำลังรอให้เรามาถึง

 

 

ตัวรถมีสีดำและถูกตัดแต่งอย่างไม่เป็นทางการนัก

 

 

ดูเหมือนว่าพวกขุนนางมักจะใช้ในการซ่อนเร้นยามคํ่าคืน

 

 

หน้าต่างนั้นมีม่านปิดอยู่และเราก็ไม่สามารถมองเข้าไปข้างในได้

 

 

กึกกึก

 

 

โจนาธานเป็นคนเปิดประตูออกมา

 

 

“มาแล้วสินะ ฉันกำลังรอพวกคุณอยู่”

 

 

เมื่อเราเข้าไปในรถม้าเราก็เห็นว่ามีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่ในรถ

 

 

ในไม่ช้ารถม้าก็เริ่มเคลื่อนตัวไปที่ใดที่หนึ่ง

 

 

“อย่าบอกใครว่าเรากำลังจะไปที่ไหน”

 

 

“เป็นสถานที่อันตรายงั้นเหรอครับ?”

 

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉันพูดตรงๆไม่ได้ แต่ที่ที่คุณจะไปพบไม่ใช่สถานที่ที่สามัญชนจะสามารถเข้าไปได้ เพราะงั้นจงจับตาดูและรับชมอย่างไม่เป็นทางการซะ”

 

 

รับชม? อย่าบอกนะว่า

 

 

ความคิดของฉันนั้นถูกต้อง เพราะรถม้ากำลังมุ่งหน้าไปที่วังที่อยู่ด้านหลังของเมือง

 

 

“คำขอของโรอานคือให้คุณไปพบกับคนสำคัญ รายละเอียดฉันจะเก็บไว้ก่อน มันไม่ใช่เรื่องแย่หรอก อันที่จริงฉันมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นประโยชน์กับคุณแน่ๆ”

 

 

“งั้นผมจะยอมรับสภาพแล้วกันครับ”

 

 

ผ่านประตูที่งดงาม ผ่านสวนที่กว้างใหญ่ และแล้วรถม้าก็มาหยุดที่หน้าอาคารขนาดใหญ่

 

 

คุณโจนาธานลงจากรถก่อน แล้วฉันกับคาเอเดะก็ลงจากรถตามมา

 

 

ที่ทางเข้ามีชายหนุ่มที่ดูเป็นพ่อบ้านทักทายเราและเชิญเราเข้าไปข้างใน

 

 

“ว้าว!!!”

 

 

“สวยงามมากเลยค่ะ”

 

 

ทางเข้าที่มีเพดานสูงเป็นดั่งผลงานชิ้นเอก

 

 

ส่วนหน้ามีบันไดที่กางออก ทุกๆส่วนที่ฉันเห็นมีการประดับประดาอย่างงดงาม

 

 

ต่างกับบ้านของเหล่าเศรษฐี

 

 

แม้แต่ขุนนางก็ยังไม่สามารถครอบครองอาคารหลังนี้ได้

 

 

ฉันมีคำตอบอยู่แล้วว่าฉันอยู่ที่ไหน

 

 

เราเดินผ่านห้องบนชั้นสอง และนั่งรอที่โซฟา

 

 

ทุกอย่างงดงามและทำให้ไม่สบายใจเลย

 

 

ฉันกำลังวิตกกังวล

 

 

ฉันเป็นผจญภัยที่ได้ผ่านสถานที่ต่างๆมามากมาย แต่ยังไม่เคยมาสถานที่แบบนี้มาก่อน

 

 

ประตูเปิดเข้ามาโดยไม่มีการเตือนใดๆทั้งนั้น

 

 

มีอัศวินเดินเข้ามาสองคน และชายชราคนหนึ่งอยู่ตรงกลาง

 

 

ชายชรานั่งลงบนโซฟาข้างหน้าเรา ส่วนอัศวินก็ยืนขนาบข้างซ้ายและขวาของเขา

 

 

ชายชราคนนั้นเริ่มพูด

 

 

“นี่เป็นการพบปะกันส่วนตัว เธอไม่เคยพบฉันและฉันไม่เคยพบเธอ จงเข้าใจเอาไว้เช่นนี้”

 

 

“ครับ”

 

 

คุณโจนาธานตอบสั้นๆและโค้งคำนับเล็กน้อย

 

 

“คืนนี้ฉันอนุญาติให้เธอมาเยี่ยมเป็นพิเศษได้ เพราะมีบางอย่างที่ฉันอยากให้เธอทำในฐานะนักผจญภัย”

 

 

ตอบกลับไปดีมั้ย?

 

 

คุณโจนาธานคิดว่ายังไง?

 

 

เขาสังเกตุเห็นปฏิกิริยาของฉันแล้วเขาก็พยักหน้า

 

 

“ต้องการให้ผมทำอะไรงั้นเหรอครับ?”

 

 

“ความจริงคือเมืองแห่งนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย ประเทศที่จะถูกทำลายในไม่ช้า หากเหตุการณ์ต่างๆเลวร้ายลง ฉันอยากให้เธอแก้ไขปัญหานี้”

 

 

“วิกฤตในเมืองหลวง ขอโทษนะครับแต่ช่วยบอกรายละเอียดมากกว่านี้จะได้มั้ย?”

 

 

ฉันไม่ชอบอะไรอ้อมค้อม

 

 

ฉันอยากได้รายละเอียดที่ชัดเจนมากกว่านี้ว่าเขาอยากให้ฉันทำอะไร

 

 

ชายชรานิ่งไปครู่หนึ่ง

 

 

“ถ้าเช่นนั้นก็เข้าประเด็น ฉันอยากให้เธอจัดการกับราชินีมดแห่งความตาย”

 

 

ฉันไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของเขาสักเท่าไหร่ ฉันนั่งคิดอยู่ประมาณ 1 นาที แล้วตอบกลับ

 

 

“คุณอยากให้คนสองคนเอาชนะมอนสเตอร์ที่สามารถทำลายกองกำลังนับหมื่นคนได้งั้นเหรอครับ?”

 

 

“พูดให้ถูกก็คือฉันอยากให้เธอจัดการเพียงแค่ราชินีตัวเดียวเท่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เธอกำจัดมดทุกตัว”

 

 

“แต่ราชินีมดมันถูกขังไว้ในส่วนลึกของรัง สุดท้ายมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ปกติแล้วทางคุณต้องเป็นฝ่ายจัดการ ไม่ใช่ร้องขอผม”

 

 

“………”

 

 

ทำไมถึงเงียบไป

 

 

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะนำกองทัพไปจัดการมัน

 

 

หรือจะมีสถานการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถทำได้?

 

 

“กองทัพของเราถูกทำลายหมดแล้ว มันล้มเหลว”

 

 

ฉันตกใจมาก

 

 

พวกเขาทำพลาดเพราะงั้นเขาเลยมาขอให้ฉันเป็นคนทำ เพราะพวกเขาไม่มีพลังที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเองอีกต่อไปแล้ว

 

 

อา ฉันสามารถเข้าใจได้แล้ว

 

 

เคานต์โรอานคิดว่าฉันจะสามารถช่วยเมืองหลวงได้เพราะฉันสามารถเอาชนะพวกปีศาจได้ มิฉะนั้นพวกเขาจำเป็นต้องละทิ้งเมืองหลวง

 

 

เดดแอนท์เป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้ายกระหายเลือดอย่างมาก มันสามารถทำลายหมู่บ้านหรือเมืองได้ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน

 

 

ลำพังพวกมดแต่ละตัวไม่ได้มีความอันตรายอะไรมากนัก แต่ที่มันอันตรายเพราะมันอยู่เป็นฝูง

 

 

มันเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านบนสุดของรายชื่อมอนสเตอร์ที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย

 

 

“ฉันอยากรู้ว่าเธอทำได้หรือไม่”

 

 

“ผมทำได้”

 

 

“ห๊ะ! ว่าอะไรนะ”

 

 

ไม่เพียงแค่ชายชราเท่านั้นที่ตกใจ อัศวินทั้งสองคนและคุณโจนาธานด้วย

 

 

มีเพียงคาเอเดะเท่านั้นที่มีสีหน้าปกติ

 

 

“ถ้าเธอทำสำเร็จ ฉันจะมอบตำแหน่งและอาณาเขตให้แก่เธอ ฉันจะมอบชื่อผู้กล้าให้แก่เธอด้วย!”

 

 

“ผมขอโทษด้วยแต่ผมไม่สนใจของพวกนั้น ถ้าเป็นไปได้ผมขอรับเป็นเงินดีกว่า”

 

 

ภายในห้องมีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าคำตอบของฉันจะทำให้พวกเขาคาดไม่ถึง

 

 

มีเพียงชายชราที่พึมพำ “เงินสินะ”

 

 

“ตกลงฉันจะจ่ายให้เธอถ้าเธอทำตามคำขอสำเร็จ”

 

 

“จะให้เท่าไหร่ครับ?”

 

 

“300 ล้าน”

 

 

สุดยอดไปเลย แต่ยังไงก็ตามมันก็ถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับวิกฤตที่เมืองหลวงจะต้องเจอ

 

 

แน่นอนว่าฉันสามารถปฏิเสธได้ เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ท่านเคานต์โรอานเป็นคนเสนอไม่ใช่ฉัน

 

 

แต่ฉันไม่สามารถมองข้ามถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นได้ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อฉันมีพลังพอที่จะแก้ปัญหาได้

 

 

ยุ่งยากแต่ก็เพื่อความสบายใจของตัวเอง

 

 

“เธอไม่ต้องการชื่อผู้กล้าจริงๆงั้นเหรอ?”

 

 

“ผมไม่ชอบทำตัวเด่น ไม่เป็นอะไรหรอก จะดีเสียอีกถ้าคุณไม่ต้องพูดถึงชื่อผม”

 

 

เอาล่ะ เจรจาเสร็จแล้วและเราก็ลุกขึ้นยืน

 

 

 

เมื่อฉันกำลังจะเดินออกไป ฉันได้ยินเสียงจากข้างหลังพูดว่า

 

 

“ฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่มอบฉายาให้กับเธอนะ”

 

 

 

 

 

 

ปล.ช่วงท้ายๆนี้ดำนํ้าบุ๋งๆเลยครับ งง ทั้งญี่ปุ่นทั้งอิ้ง

 

 

 

Options

not work with dark mode
Reset