A Warrior Exiled by the Hero and His Lover 16

ตอนที่ 16

แกร๊ก แกร่ก

 

เสียงเหมือนกระจกแตกขัดจังหวะคำพูดของฉัน

 

《ประกาศ: เนื่องจากเลเวล สะสม ถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว คุณจะได้ค่าตอบแทนเพื่อเลื่อนระดับ》

 

《ประกาศ: การตอบแทนค่าประสบการณ์ได้รับการอัปเดตเนื่องจากผลของเอฟเฟกต์สกิลเพิ่มขึ้น》

 

《ประกาศ: คุณได้รับอาชีพ อัศวินมังกร》

 

《ประกาศ: คุณได้รับอาชีพ ผู้เชี่ยวชาญการฝึกสัตว์》

 

《ประกาศ: คุณได้รับอาชีพ ผู้ปลอมแปลง》

 

《ประกาศ: คุณได้รับอาชีพ จอมโจร》

 

《ประกาศ: สะสม ได้รับความเสียหาย ต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมสักพัก》

 

ตัวอักษรประกาศปรากฎขึ้นในสายตาของฉัน

 

ในกรณีนี้การสะสมค่าประสบการณ์จำนวนการตอบแทนจะถูกเพิ่มขึ้นสองเท่า

 

และดูเหมือนว่าอาชีพจะถูกจัดอันดับและถูกส่งมอบให้ด้วย

 

ปัญหาคืออาชีพพวกนั้น

 

 

อัศวินมังกร อาชีพนี้หาได้ยากมาก พอๆกับอัศวินศักดิ์สิทธิ์

 

ปวดหัวจัง

 

นอกจากนี้ยังมีอาชีพผู้เชี่ยวชาญการฝึกสัตว์ที่เป็นคลาสสูงสุดของอาชีพผู้ฝึกสัตว์อีก แถมยัง จอมโจร? คลาสสูงสุดของเหล่าโจร

 

มีคลาสสูงสุดแค่อาชีพเดียวก็ถือได้ว่าอยู่ระดับเดียวกับผู้กล้าแล้ว

 

ยังไงก็เถอะ ฉันไม่เข้าใจอาชีพผู้ปลอมแปลงเลย

 

เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นอาชีพนี้

 

คงจะดีกว่าที่จะไม่ใช้มันจนกว่าจะไปถามผู้เชี่ยวชาญในการประเมินอาชีพเสียก่อน

 

ฉันเปิดหน้าต่างสเตตัสและทำการตรวจสอบ

 

เลเวล 300

 

ชื่อ : โทรุ – เอวาน

 

อายุ : 25 ปี

 

เพศ : ชาย

 

เผ่าพันธ์ : ดราโกนอยด์

 

 

[ อาชีพ ]

 

-นักรบ

 

-อัศวินมังกร

 

-ผู้เชี่ยวชาญการฝึกสัตว์

 

-ผู้ปลอมแปลง

 

-จอมโจร

 

 

[ สกิล ]

 

ลดความเสียหาย [ เลเวล 50 ]

 

เสริมความแข็งแกร่งทางร่างกาย [ เลเวล 50 ]

 

สะสมค่าประสบการณ์ [ กำลังซ่อมแซม ]

 

สะสมค่าเวทมนตร์ [ กำลังซ่อมแซม ]

 

สะสมค่าประสบการณ์สกิล [ กำลังซ่อมแซม ]

 

สะสมอาชีพ [ กำลังซ่อมแซม ]

 

สะสมสกิล [ เลเวล 48 ]

 

เอฟเฟกต์สกิลเพิ่มขึ้น [ เลเวล 50 ]

 

ยืมพลังเวทมนตร์ [ เลเวล 50 ]

 

ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นสองเท่า / ทั้งหมด [ เลเวล 50 ]

 

 

[ การควบคุม ]

 

ดันเจี้ยน [ เลเวล 3 ] x 1

 

หืม…..การควบคุม? มันคืออะไรน่ะ

 

มีบางคำที่ฉันไม่รู้จักปรากฏขึ้นมา ฉันได้แต่เอียงคอสงสัย

 

ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อน

 

จากโน๊ตที่บอกไว้คือฉันควบคุมดันเจี้ยนได้แต่ไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย มันหมายความว่ายังไงกันแน่

 

หรือมันจะเกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนที่หายไปนั่นกัน

 

ถ้ามีเวลาว่างค่อยมาลองดูแล้วกัน

 

แต่ตอนนี้มุ่งเป้าไปที่การสำรวจโบราณสถานก่อนดีกว่า

 

“โทรุซามะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

 

“ไม่มีอะไรครับ  ยังไงก็เถอะ ตอนนี้ผมเข้าใจความจริงการของมาเรียแล้วครับ ถ้าคุณต้องการแข็งแกร่งกว่านี้ผมก็จะช่วย เพียงแต่..”

 

ฉันเพิ่มคำว่า “แต่..”

 

“ฟังผมให้ดี ถ้าผมสั่งให้ถอย คุณต้องถอยโดยไม่มีข้อแม้ นั่นคือเงื่อนไขของผม”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้าเช่นนั้น โปรดให้ฉันได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกปาร์ตี้ของโทรุซามะด้วย ไม่ใช่ถาวร แต่เพียงแค่ระยะเวลาที่คุณอยู่ในเมืองแห่งนี้เท่านั้นค่ะ”

 

อุราระพยักหน้ารับกับคำพูดของมาเรียด้วย

 

หรือการคือทั้งสองคนจะเป็นสมาชิกชั่วคราวของปาร์ตี้ฉันตั้งแต่นี้ไป

 

มันไม่ใช่การบังคับแต่มันแสดงถึงความไว้วางใจที่พวกเธอมีให้ต่อเรา

 

“งั้นเราจะไปที่เขตอันตราย”

 

“”” ค่ะ “””

 

จากนั้นเราก็เริ่มเคลื่อนไหว

 

 

 

ผลคือไม่มีสิ่งมีชีวิตใดก็ลงเหลืออยู่ในเขตอันตรายเลยแม้แต่ตัวเดียว

 

สิ่งที่ฉันทำมีเพียงแค่ เดินเก็บวัตถุดิบที่ได้จากมอนสเตอร์และสมุยไพรเท่านั้น

 

ยังไงก็เถอะมีพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่สำหรับมาเรีย

 

เธอต่อสู้หลายครั้งด้วยการสนับสนุนของอุราระ

 

ส่งผลให้เลเวลเธอขึ้นมาถึง 6 และตอนนี้เธอก็เลเวล 36 แล้ว

 

ขึ้นมาเร็วด้วยความเร็วที่เหนือธรรมชาติมาก

 

แน่นอนว่ามันมาจากสกิล [ เพิ่มค่าประสบการณ์สองเท่า / ทั้งหมด ] ของฉันเอง

 

“ว้าว!!! น่าทึ่งมากเลย ตอนนี้ฉันเลเวลขึ้นอีกแล้วค่ะ”

 

“จริงด้วยค่ะคุณหนู ก่อนหน้านี้ฉันยังเลเวล 50 อยู่เลย แต่ตอนนี้ฉันเลเวล 70 ซะแล้วค่ะ มันแปลกมากๆเลยล่ะค่ะที่เลเวลฉันขึ้นง่ายขนาดนี้”

 

ทั้งสองคนวิ่งไปข้างหน้าด้วยความหื่นกระหายในการเลเวลอัพ

 

ฉันก็ไม่รู้นะว่าพวกเธอรู้สึกยังไง แต่พวกเธอคงคิดว่าพวกเธอสามารถที่จะเป็นผู้กล้าได้ในเร็วๆนี้

 

โดยเฉพาะมาเรียที่จะได้รับการปกป้องที่น้อยลง

 

คาเอเดะยิ้มให้กับสถานการณ์ของหน้า

 

“อะไรเหรอ”

 

“คือว่า..ฉันสงสัยว่าตัวเองก็เป็นแบบนั้นเหรอคะ?”

 

“แน่นอน แต่ฉันคิดว่าเธออาการหนักกว่านั้นอีกนะ”

 

“นายท่าน!!!?”

 

ถึงแม้คาเอเดะจะรู้สึกกลัว แต่เธอก็วิ่งไล่ตามศัตรูอย่างตะกละตะกราม

 

แน่นอนฉันรู้ว่าเธอพยายามอย่างยิ่งที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องฉัน

 

แต่ฉันก็รู้สึกสนุกดี

 

“ยังไงก็เถอะนายท่าน ตอนนี้ฉันคิดว่าได้เวลากลับขึ้นไปข้างบนแล้วล่ะค่ะ”

 

“ใช่แล้ว แล้วมาเรียคิดว่ายังไงครับ”

 

“ฉันยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อย ฉันคิดว่าจะไปสำรวจที่ที่ยังไม่ได้สำรวจ บางทีอาจจะมีสมบัติซ่อนอยู่ก็ได้นะคะ”

 

แน่นอนว่าตอนนี้มาเรียยังมีเวลาอีกนิดหน่อย

 

และพื้นที่ที่ยังไม่ได้สำรวจก็อยู่ใกล้ๆอีกด้วย มันเป็นระยะทางที่เราสามารถมองเห็นได้

 

นั่นคือเหตุผลที่เราจะไปกันต่อ

 

 

“ทางนี้ค่ะ”

 

มาเรียชี้ไปที่ทางเดินด้านหลัง

 

แม้จะเป็นพื้นที่บริเวณที่ยังไม่ได้สำรวจ แต่ทิวทัศน์ก็เหมือนเดิม

 

ดูไม่เหมือนพื้นที่อันตรายที่มีมอนสเตอร์อาศัยอยู่เลย

 

ฉันเป็นคนนำหน้า ตามด้วยมาเรีย อุราระ และคาเอเดะอยู่ท้ายสุด

 

ยิ่งฉันก้าวไปข้างหน้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้ทางตันมากเท่านั้น

 

“ดูเหมือนจะว่างเปล่านะคะคุณหนู”

 

“ขอโทษด้วยนะคะ”

 

ทั้งสองคนอาจจะเห็นไม่ชัดเจน แต่ฉันมองกำแพงที่สุดทางเดิน

 

มีบางอย่างแปลกๆ มันแปลกมาก รู้สึกไม่สบายใจเลย

 

นี่น่าจะเป็นความสามารถของอาชีพจอมโจรที่ได้มาใหม่

 

ดวงตาฉันคมกริบกว่าเดิม และฉันสามารถเห็นจุดผิดสังเกตุแม้เป็นเพียงจุดเล็กๆนิดเดียว

 

“นายท่าน?”

 

“เงียบก่อน”

 

ฉันเอาหูแนบกับผนังและฟังดู มีเสียงเบาๆ อีกด้วยหน้าจะเป็นโพรง

 

ฉันตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันสามารถเลื่อนไปด้านข้างได้หรือเปล่า

 

ยังไงก็ตามมันถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนาไม่มีร่องรอยที่บ่งบอกว่ามันสามารถเคลื่อนที่ได้

 

ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำลายมันงั้นสินะ

 

“ทั้งสามคนถอยไปก่อน”

 

จากนั้นฉันก็ต่อยไปที่กำแพง

 

กำแพงพังทลายลงในทันที ที่ด้านหลังกำแพงปรากฎเป็นทางเดินขึ้น

 

ทางเดินนั้นสั้นมากและมีประตูอยู่ที่ปลายทางเดินนั้น

 

ฉันเปิดประตูก่อนจากนั้นก็มองเข้าไป

 

“ดูเหมือนจะเป็นห้อง..”

 

“มีฝุ่นเต็มไปหมด”

 

ฉันกับคาเอเดะเข้าไปก่อน แล้วจึงตามด้วยมาเรียกับอุราระ

 

ห้องมีขนาดใหญ่พอสมควรและดูเหมือนว่าจะมีวัตถุโบราณหลายชิ้นถูกเก็บไว้ในนี้

 

ฉันดึงดาบที่ฉันเห็นแล้วดึงออกมาจากฝัก ใบดาบเงางามดั่งกระจกสะท้อนให้เห็นใบหน้าของตัวฉันเอง

 

ตัวโดยถูกสร้างโดยโลหะที่ฉันไม่รู้จัก มันไม่เป็นสนิม และดูเหมือนว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดี

 

ที่น่ากลัวกว่าคือการที่ดาบนี่มีอยู่ทุกที่

 

ถ้าหากดาบนี่เป็นเพียงแค่รุ่นผลิตจำนวนมากล่ะก็ เทคโนโลยีของเผ่าพันธุ์โบราณจะมีความก้าวหน้าและทักษะที่น่าหวาดกลัวขนาดไหนกัน

 

ไม่สิฉันคิดว่ามันน่ากลังจริงๆ

 

“นายท่านคะ มาทางนี้หน่อยค่ะ”

 

“หืม…”

 

คาเอเดะเรียกฉันแล้วฉันก็เดินไป

 

เธอก้มมองอะไรสักอย่างอยู่ แถมกำลังหมอบอยู่ด้วย

 

“นี่มันคืออะไรกันน่ะ?”

 

“ฉันคิดว่ามันเป็นไข่ค่ะ”

 

“อืม..ที่นี่มันก็ถูกทิ้งร้างมาเป็นระยะเวลานานฉันไม่คิดว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่นะ”

 

“ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นค่ะ ว่าแต่มันเป็นไข่ตัวอะไรกันนะ”

 

มีไข่สองฟองอยู่บนแท่น

 

มันมีสีขาวและสีม่วงเปลือกมันมีสัมผัสยืดหยุ่นเมื่อสัมผัสด้วยนิ้ว

สีขาวมีผิวเรียบในขณะที่สีม่วงนั้นขรุขระ

 

ฉันไม่เคยเห็นไข่แบบนี้มาก่อน

 

คาเอเดะมีทักษะในการประเมินตัวตนของสิ่งต่างๆ

 

“ดูเหมือนจะเป็นไข่ของสัตว์ค่ะ”

 

“อะไรนะ?”

 

“เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างโดยเผ่าพันธ์โบราณค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่ช่วยสนับสนุนในการใช้ชีวิต แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยสนับสนุนในการต่อสู้ได้ด้วยค่ะ อยู่ที่สายพันธุ์”

 

เผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่สมัยก่อนสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตได้ด้วย?

 

ฟอสซิลจากสมัยโบราณดูเหมือนจะเป็นดั่งเครื่องราวในนิยาย

 

“ดูเหมือนว่าไข่นี่จะอยู่ในสถานะจำศีลอยู่ค่ะ เพื่อการเก็บไว้ในระยะยาวนาน สัญญาณชีพจะถูกปลุกขึ้นมาหากได้รับพลังเวทย์จำนวนมหาศาลค่ะ”

 

ตามที่คาเอเดะบอกสิ่งมีชีวิตนี้จะเกิดขึ้นมาต่อเมื่อเราหยดเลือดลงไปบนไข่ที่ถูกปลุกแล้ว เมื่อมันเกิดขึ้น มันจะจำไว้ว่าเจ้าของเลือดเป็นเจ้านายของมัน และจะฟังคำสั่งคนคนนั้น

 

เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

 

ความอยากรู้อยากเห็นของฉันถูกกระตุ้นขึ้นว่าสิ่งมีชีวิตชนิดใดกันที่จะเกิดจากไข่เหล่านี้

 

“ฉันจะปลุกแกเอง”

 

ฉันถ่ายเทพลังเวทย์ลงไปที่ไข่ใบนี้

 

 

มาไวเพราะขยันเฉยๆ ว่างก็เลยรีบแปลให้

Options

not work with dark mode
Reset