(กลับรึยังแก ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปเป็นเพื่อน) พิรุณรักโทรมาหาเธอจากบริษัท
“กลับมาแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจ วันจันทร์เจอกัน” ทีแรกพิรุณรักจะลางานเพื่อไปเป็นเพื่อนเธอแต่เนื่องจากวันนี้ที่บริษัทมีการลงโปรแกรมตัวใหม่ให้พนักงาน เธอเลยต้องอยู่ช่วย หทัยรัตน์ก็ลาไปคนหนึ่งแล้วถ้าพิรุณรักลาอีกงานก็จะไม่ทันเอา
เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องก็เจอกับคนที่เธอไม่เห็นหน้าเขามาเกือบสามอาทิตย์ หลังจากที่ส่งข้อความไปบอกเขาเรื่องยาย เขาก็โทรกลับมาหาเธอ เพื่อแสดงความเสียใจด้วยและบอกว่าจะจัดการทุกอย่างให้โดยผ่านเลขาของเขา แต่เขาคงไม่ได้มาร่วมงานด้วยเนื่องจากติดธุระ
ซึ่งหทัยรัตน์เองก็ไม่ได้คัดค้านหรือถามอะไรเขาอีก เธอแค่บอกว่าเข้าใจ เขาไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ แค่ที่เขาให้เลขามาช่วยก็มากพอแล้ว
แต่เธอก็รู้สึกน้อยใจเสียใจ แต่จะทำไรได้ เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง เธอต้องใช้เวลาตัดสินใจกับชีวิตตัวเองว่าจะเอายังไงต่อไป
“กลับมาแล้วเหรอ มานั่งนี่สิ” ร่างบางเดินเข้าไปหาคนที่เรียกโดยไม่อิดออด ถึงเธอจะน้อยใจเขาแค่ไหนตอนนี้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะปฏิเสธอะไรเขาทั้งนั้น เธอยังต้องการอ้อมกอดของเขาอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะกอดคนอื่นมาก็ตาม
เมื่อเธอนั่งลงความอบอุ่นที่เธอโหยหาก็ปกคลุมไปทั่วร่างทันที แขนเล็กยกขึ้นกอดที่เอวสอบ น้ำตาที่กักเก็บไว้พรั่งพรูออกมาร้องไห้สะอื้นกับอกแกร่ง
“ขอโทษที่ไม่ได้มา” มือใหญ่ลูบอยู่ที่หัวเธอเบาๆ ขึ้นลง กรวิทย์รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับเธอในวันที่เธออ่อนแอที่สุด เขาทำอะไรไม่ได้เลย ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาสองปีกว่าเขาเองก็มีความผูกพันกับเธอมาก มากจนไม่รู้ว่าถ้าวันหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเขาจะเป็นอย่างไร
“หวานเข้าใจค่ะ” ถึงตอนนี้เธอก็รู้ตัวเองดีว่าอยู่ในฐานะไหน เธอไม่มีสิทธิ์ถาม ถ้าเขาไม่อยากเล่า ไม่มีสิทธิ์งอนหรือโกรธ กฎพวกนี้เขาเป็นคนตั้งไว้และเธอก็ทำมันได้ดีตลอด
ถึงแม้วันนี้เธอไม่รู้ว่าเขาทำผิดข้อตกลงสำคัญของเรารึเปล่าเธอก็ไม่กล้าถาม
“อยากทานอะไรไหม ฉันทำให้” ดันร่างบางขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาให้เธอ จูบซับเบาๆ เพื่อปลอบประโลม
เขาก็เป็นซะอย่างนี้จะไม่ให้เธอหลงรักได้ยังไง ถึงกรวิทย์จะเย็นชาบ้างบางครั้ง แต่เขาก็อบอุ่น ใส่ใจเธออยู่บ้าง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา มันทำให้เราเข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดยังไง ต้องการอะไร แต่ก็ไม่เคยล้ำเส้นกันสักครั้ง
“อะไรก็ได้ค่ะ คุณทำหวานกินหมด” ร่างบางพยักหน้าตอบ
“งั้นเข้าไปอาบน้ำ เดี๋ยวฉันจะไปทำอาหาร”
“ค่ะ”
หทัยรัตน์ทำตามที่เขาบอก โดยพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หทัยรัตน์ใช้เวลาพอสมควรในห้องน้ำ พอเสร็จก็เดินออกมา ตรงไปยังห้องครัว ก็เห็นกรวิทย์กำลังทำอาหารให้เธอทานจริงๆ
ไม่บ่อยนักที่เขาจะเป็นคนทำอาหาร
“ทำอะไรกินคะ”
“ต้มจืดกับไข่เจียว ในตู้เย็นมีของแค่นี้” หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจ เพราะหลายวันที่ผ่านมาเธอไม่ได้กลับมาที่คอนโด เลยไม่ได้ซื้อของมาไว้
“นั่งรอก่อนจะเสร็จแล้ว” ร่างบางนั่งลงที่โต๊ะอาหารตามที่เขาบอก มือบางค้ำไว้ที่คางมองแผ่นหลังคนตัวใหญ่ที่เดินหยิบจับนั่นนี่อยู่หน้าเตา
วันนี้เป็นวันสุดท้ายรึเปล่านะที่เธอจะเห็นเขาทำแบบนี้
“เสร็จแล้ว” ต้มจืดพร้อมกับไข่เจียวถูกนำมาวางบนโต๊ะ
“น่าทานจังค่ะ”
“น่าทานก็ทานเยอะๆ เธอผอมไปมากรู้ไหม”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จทั้งสองคนก็พากันมานั่งที่โซฟา ร่างบางอิงซบอยู่บนอกแกร่ง มือใหญ่ลูบอยู่ที่หัวเธอขึ้นลงตัดสินใจว่ามันคงถึงเวลาที่เธอจะคุยกับเขาสักที
“คุณบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับหวานหลังจากกลับมา คุยเรื่องอะไรเหรอคะ” เธอถามขึ้นทันที เธอเองก็มีเรื่องอยากจะคุยกับเหมือนกัน
“ไว้วันหลังก็ได้”
“แต่หวานมีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ” เธอดันตัวลุกขึ้นมองสบตากับเขา
“ว่ามาสิ” ปากบางเม้มเข้าหากันก้มมองที่มือตัวเองเพื่อหลบสายตาเขา
“เรื่องของเรา” เธอกลั้นใจพูดออกไป
“หวานอยากหยุดค่ะ” ทั้งที่ในใจอยากพูดออกไปใจจะขาดว่าอยากหยุดเป็นเด็กเขาและอยากให้เขามองเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง อยากถามว่าเขารักเธอบ้างรึเปล่า เรามีโอกาสจะอยู่ด้วยกันจริงๆ แบบสามีภรรยาได้ไหม ซึ่งคำถามพวกนี้เธอก็ได้แต่เก็บไว้ในใจ เพราะรู้ตัวเองดีว่าต่ำต้อยแค่ไหน
ใครจะเอาผู้หญิงแบบเธอเป็นเมียจริงๆ คนที่ยอมขายศักดิ์ศรีแลกเงิน
เสียงถอนหายใจดังขึ้นจากคนตัวใหญ่
“แน่ใจแล้วเหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน หทัยรัตน์พยักหน้าเบาๆ ถึงเธอจะไม่แน่ใจอะไรเลย แต่เธอไม่อยากอยู่แบบนี้อีก ในเมื่อตอนนี้เธอไม่มีอะไรต้องห่วง ไม่จำเป็นต้องใช้เงิน เธอก็ควรหยุด
หยุดทำให้ตัวเองเจ็บปวดไปมากกว่านี้
หญิงสาวก้มหน้างุดน้ำตาหยดเล็กๆ ไหลลงมากระทบหลังมือ เธอไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอร้องไห้
กรวิทย์มองผู้หญิงที่ก้มหน้าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ตอนแรกที่เขารู้จักกับหทัยรัตน์เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมาทำอาชีพนี้แต่เพราะเขาเองก็ไม่ได้ถามถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย
จนกระทั่งมารู้ทีหลังว่าที่เธอทำอาชีพแบบนี้เพราะต้องหาเงินรักษายาย เขาก็มองเธอใหม่ เธอเป็นเด็กกตัญญูคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรัก และหทัยรัตน์เป็นคนรักษาคำพูด เขาบอกให้ทำยังไงเธอก็ทำอย่างงั้น เธอรักษากฎที่เขาตั้งขึ้นได้ดีทุกข้อ มันทำให้เขาพอใจและอยู่กับเธอได้นานจากที่คิดว่าอีกไม่นานเขาคงเบื่อเธอ
แต่จนถึงวันนี้เขาก็ยังไม่เคยเบื่อเธอ