เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1212 ผลาญจิตวิญญาณระเบิดโชค
แปลโดย iPAT
“เจี๊ยก เจี๊ยก !” ลิงตัวเมียขนเหลืองวิ่งไปรอบๆก่อนจะหยุดยืนอยู่ด้านหน้าฟางหยวนและมอบลูกท้อให้เขา
ฟางหยวนรับมันไว้โดยไม่กล่าวสิ่งใดก่อนจะโยนมันลงไปด้านล้างต้นไม้
ลิงตัวเมียตกใจและกระโดดไปรอบๆทำให้กิ่งไม้ที่ฟางหยวนยืนอยู่สั่นไหว
ฟางหยวนยกมือขึ้นปิดใบหน้าของตนและถอนหายใจ
ลิงตัวเมียเข้าหาฟางหยวนอีกครั้ง
ฟางหยวนเตะส่งมันลงไปจากกิ่งไม้
ลิงตัวเมียล้มลงบนพื้นและกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด มังมองขึ้นไปที่ฟางหยวนด้วยความหวาดกลัวก่อนจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ฟางหยวนอยู่ในรูปลักษณ์ของลิงตัวผู้ !
ด้วยเหตุนี้เขาจึงดึงดูดความสนใจของลิงตัวเมีย
ที่นี่คือยอดเขาไร้นามแห่งหนึ่ง
ฟางหยวนมาที่นี่โดยปลอมตัวเป็นลิงภูเขา เขาอยู่บนภูเขาลูกนี้มาครึ่งเดือนแล้ว
เขาปกปิดตัวตนและเฝ้าสังเกตค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป
ถูกต้อง เขาอยู่ด้านหน้าอาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้
น่าเสียดายที่อาณาจักรแห่งความฝันขนาดใหญ่ถูกผลึกไว้ในค่ายกลวิญญาณของฝ่ายธรรมะ หากมองด้วยตาเปล่า คนผู้หนึ่งจะเห็นเพียงภูเขาสีเขียวเท่านั้น
แม้ฟางหยวนจะใช้วิธีการบางอย่างที่สามารถมองทะลุค่ายกลวิญญาณ แต่เขาก็เห็นเพียงภาพที่พร่ามัว
‘น่าเสียดายที่วิธีการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพที่สุดของข้าคือท่าไม้ตายอมตะภาพอนาคตสามลมหายใจ มันไม่สามารถจัดการค่ายกลวิญญาณนี้ นอกจากนั้นยังมีวิญญาณอมตะมากมายเป็นแกนกลางของมัน ’
‘ผู้สร้างค่ายกลวิญญาณนี้คือผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อ จื่อชิวหยู คนผู้นี้เป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งค่ายกล ค่ายกลวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาสร้างขึ้นคือค่ายกลวิญญาณเก้าสระสามชั้น ในสงครามห้าภูมิภาค ตระกูลจื่อใช้มันสังหารผู้อมตะภาคกลางจำนวนมาก ค่ายกลวิญญาณสามชั้นฟ้าเก้ามหาสมุทรกสร้างขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของจื่อชิวหยู แต่ตอนนี้เขายังห่างไกลจากความสำเร็จ บางทีข้าอาจสามารถเรียนรู้บางสิ่งจากค่ายกลวิญญาณที่อยู่ตรงหน้านี้ หลังจากทั้งหมดมันเป็นค่ายกลวิญญาณที่ทับซ้อนกันคล้ายกับค่ายกลวิญญาณสามชั้นฟ้าเก้ามหาสมุทร’
‘ตอนนี้ค่ายกลวิญญาณถูกใช้งานเพียงบางส่วน วิญญาณอมตะยังไม่ถูกกระตุ้นใช้งาน ’
‘แต่ถึงกระนั้นข้าเพียงผู้เดียวก็ยังไม่สามารถทำลายค่ายกลวิญญาณระดับนี้โดยไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะฝ่ายธรรมะอีกอย่างน้อยสิบสามคนที่เฝ้าระวังอยู่รอบๆ!’
ค่ายกลวิญญาณนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมมือของกองกำลังพันธมิตรฝ่ายธรรมะ
เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน แต่ละกองกำลังจึงส่งผู้อมตะระดับสูงอย่างน้อยหนึ่งคนมาปกป้องมันเอาไว้ มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์
‘การป้องกันของมันหนาแน่นเกินไป หากข้าต้องการเข้าไปและคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าต้องวางแผนอย่างชาญฉลาด ’ ฟางหยวนส่ายศีรษะอยู่ภายใน
แต่เขาควรใช้แผนการใด ตอนนี้เขายังไม่รู้
ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
เนื่องจากปัญหานี้เกี่ยวข้องกับกองกำลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดของภาคใต้ พวกเขาสร้างความร่วมมือและมีการกระจายผลประโยชน์ที่สมเหตุสมผล
ฟางหยวนอยู่ตัวคนเดียว แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด แต่เปรียบเทียบกับกองกำลังขนาดใหญ่ เขาก็ไม่ถือเป็นสิ่งใด
เช่นเดียวกันก่อนหน้านี้ ฟางหยวนโจมตีและปล้นสะดมทรัพยากรของเผ่าหลิว นั่นทำให้กองกำลังฝ่ายธรรมะทั้งหมดของภาคเหนือรวมถึงชูตู๋ต่อต้านเขา
ฟางหยวนเป็นผู้กลับชาติมาเกิด แต่ด้วยการคงอยู่ของเจตจำนงสวรรค์ ข้อได้เปรียบของเขาจึงลดลงอย่างมาก
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือในชีวิตแรกของเขาอาณาจักรแห่งความฝันและค่ายกลวิญญาณนี้ไม่เคยเกิดขึ้น
‘ข้าควรทำเช่นไร ?’ ฟางหยวนรู้สึกหนักใจ
ด้านไป่หนิงปิง เขาสามารถเข้าสู่ถ้ำสวรรค์ไป่เซียง แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกหนักใจไม่แพ้ฟางหยวนเมื่อมองไปที่จิตวิญญาณสวรรค์
“ข้าทะลวงผ่านสามสิบห้องโถงและทำลายอุปสรรคทั้งหมดเพื่อมาพบเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธที่จะยอมรับข้าเป็นเจ้านายงั้นหรือ ?” ไป่หนิงปิงมองจิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ำสวรรค์ไป่เซียงด้วยสายตาเย็นชา
จิตวิญญาณสวรรค์ของถ้ำสวรรค์ไป่เซียงอยู่ในรูปลักษณ์ของชายชราผู้หนึ่ง
เขานั่งอยู่บนขั้นบันไดและสูบยาสูบอย่างสะดวกสบาย เขาถอนหายใจกล่าว “คนหนุ่มสาวยุคนี้ช่างใจร้อนนัก ก่อนหน้านี้ข้าบอกให้เจ้าเดินทางผ่านสามสิบห้องโถงเพื่อมาพบข้าที่นี่ แต่ข้าไม่เคยบอกว่าข้าจะยอมรับเจ้าเป็นเจ้าหน้าคนใหม่ เมื่อเจ้ามาถึงที่นี่ นั่นหมายความว่าเจ้ามีคุณสมบัติเบื้องต้นที่จะรับการทดสอบต่อไปเท่านั้น”
“การทดสอบต่อไปคือสิ่งใด ?” ไป่หนิงปิงถามเสียงเย็น
“นำทรัพยากรอมตะกลับคืนมา ” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงมองไป่หนิงปิงและหัวเราะเบาๆ
“ทรัพยากรอมตะใด ?” ไป่หนิงปิงถาม
“เจ้าเห็นรูบนเพดานห้องหรือไม่ ?” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงชี้นิ้วขึ้นไป
“ข้าเห็นมันทันทีที่มาถึง มันสะดุดตาเกินไป ” ไป่หนิงปิงกล่าวเสียงเรียบ
จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงถอนหายใจอีกครั้ง “ความสามารถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามสิบคลังสมบัติสวรรค์แห่งนี้คือการจัดเก็บทรัพยากรอมตะจำนวนมาก แต่เมื่อไม่กี่พันปีที่ผ่านมา ทรัพยากรอมตะชิ้นหนึ่งหลุดออกมาและบินออกไป ”
“อันใด !?” ไป่หนิงปิงรู้สึกประหลาด
“อย่าพึ่งตกใจ หนุ่มน้อย โลกใบนี้กว้างใหญ่เกินจินตนาการของเจ้า มีรูปแบบชีวิตมากมายที่เจ้าจะได้พบเห็นในอนาคต ” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงถอนหายใจ
“หยุดไร้สาระ กล่าวเข้าประเด็น !” ไป่หนิงปิงตะคอก
“โอ้ เด็กน้อย เจ้าช่างไร้ความอดทน คำกล่าวของคนแก่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับเจ้า ” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงกล่าว
ไป่หนิงปิงเงียบและจ้องมองจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงด้วยดวงตาสีฟ้าของเขา
จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงกล่าวต่อ “เอาล่ะ ข้าจะบอกเจ้า ข้าต้องการให้เจ้ากำหราบเปลวเพลิงที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลทางทิศตะวันตก ในช่วงเวลาปกติ เจ้าจะไม่พบมันเพราะมันสามารถหลอมรวมกับน้ำทะเลได้อย่างสมบูรณ์ แต่นานๆครั้งมันจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำและเล่นสนุกไปรอบๆ นั่นเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเจ้าที่จะจับมัน ”
ไป่หนิงปิงทำตามคำแนะนำของจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงและไปถึงชายหาดทางทิศตะวันตก
มันเป็นทะเลขนาดใหญ่ที่งดงาม
ไป่หนิงปิงซ่อนตัวอยู่ที่นี่นานกว่าสิบวัน ในที่สุดเขาก็พบโอกาสที่จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงกล่าวถึง
“ครืน …”
คลื่นน้ำสูงกว่าร้อยเมตรก่อตัวขึ้นกลางทะเลก่อนที่เสียงคำรามอันดุร้ายจะดังขึ้น
ไป่หนิงปิงค้นพบเป้าหมายของเขา
เดิมทีมันเป็นดวงไฟสีส้มขนาดเล็กเท่ากับกำปั้นมนุษย์
แต่เมื่อเวลาผ่านไปมันกลับเปลี่ยนร่างเป็นมังกรเพลิงสีส้มบินไปรอบๆ
เห็นสิ่งนี้ ไป่หนิงปิงที่เย็นชายังแสดงออกด้วยความตกใจ
‘แสงจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าและยังมีชีวิต นี่เป็นทรัพยากรอมตะระดับเก้า !’
ทรัพยกรอมตะระดับเก้าเป็นสมบัติหายากอย่างที่สุด
ทรัพยากรประเภทนี้สามารถใช้หลอมรวมวิญญาณอมตะระดับเก้า
ไป่หนิงปิงไม่คาดคิดว่าจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงจะขอให้เขานำทรัพยากรอมตะระดับเก้ากลับไป!
เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความสามารถของไป่หนิงปิง ดังนั้นเขาจึงต้องกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบางดวงเพื่อติดต่อกับอิงอู๋เซี่ยที่อยู่ด้านนอก
“ข้าไม่ได้บอกเจ้างั้นหรือว่าอย่าติดต่อข้า หากจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงค้นพบ มันอาจเกิดปัญฆา ” อิงอู๋เซี่ยกล่าว
“ข้ากำลังพบปัญหา ข้าต้องจับทรัพยากรอมตะระดับเก้า มังกรเพลิงสีส้ม …”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยก็เปลี่ยนแปลงไป “เจ้าบอกว่ามังกรเพลิงสีส้มงั้นหรือ ?”
“ถูกต้อง มันกำลังบินเล่นอยู่ในทะเล แต่น้ำทะเลราวกับหวาดกลัวมันและแยกออกจนถึงจุดต่ำสุด ข้ายังมองเห็นห้วงมิติที่ว่างเปล่าที่ขยายตัวออกไป ” ไป่หนิงปิงกล่าวเสริม
ร่างกายของอิงอู๋เซี่ยสั่นสะท้านขึ้นเล็กน้อย “เจ้าต้องเคยอ่านตำนานมนุษย์คนแรกมาก่อน ตำนานกล่าวว่ามีเปลวเพลิงสามชนิดอยู่บนโลกใบนี้ เพลิงสวรรค์ เพลิงปฐพี และเพลิงมนุษย์ นี่คือเพลิงมนุษย์ มันมีชื่อว่าเพลิงมังกรล่องคลื่น ”
“เพลิงมังกรล่องคลื่น !?” ไป่หนิงปิงตกใจ
เขาหยุดก่อนถามต่อ “แล้วข้าควรทำอย่างไร ?”
อิงอู๋เซี่ยถอนหายใจ “มันยากมาก ด้วยระดับการบ่มเพาะของเจ้า ไม่มีความหวังที่จะกำหราบมัน แต่ข้ามีสามวิธีให้เจ้าทดลอง ”
“มีโอกาสมากน้อยเท่าใด ?” ไป่หนิงปิงถาม
อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้าไม่แน่ใจ พวกมันมีโอกาสประสบความสำเร็จทั้งหมด แต่มากน้อยขึ้นอยู่กับโชคของเจ้า ”
ทั้งคู่สนทนากันในช่วงเวลาสั้นๆเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา อิงอู๋เซี่ยเป็นคนตัดการเชื่อมต่อ
เขาไม่ได้มองโลกในแง่ดีและรู้สึกติดอยู่ในความมืด
“เพลิงมนุษย์ ข้าเกรงว่ามีเพียงร่างหลักของข้าเท่านั้นที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ”
“ดูเหมือนข้าต้องช่วยไป่หนิงปิง หากเขาล้มเหลว มันจะเป็นปัญหาสำหรับแผนการในอนาคตของข้า ”
อิงอู๋เซี่ยตัดสินใจกระทำการบางอย่าง
แม้ไป่หนิงปิงจะอยู่ในถ้ำสวรรค์ไป่เซียง แต่อิงอู๋เซี่ยก็มีวิธีการมากมายที่สามารถช่วยไป่หนิงปิง
อันดับแรก โชค !
อิงอู๋เซี่ยมีท่าไม้ตายอมตะผลาญจิตวิญญาณระเบิดโชค
อิงอู๋เซี่ยเคยใช้ท่าไม้ตายนี้ในช่วงเวลาที่เขาพยายามหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะในถ้ำนรกใต้พิภพของภาคกลางมาก่อน มันทำให้โชคของเขาปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่การหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะล้มเหลวเพราะวังสวรรค์ชิงหลอมรวมวิญญาณดวงนี้ไปก่อนแล้ว
วิญญาณอมตะแต่ละดวงมีเพียงหนึ่งไม่มีสอง แม้อิงอู๋เซี่ยจะโชคดีแต่เขาก็ไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะที่เหมือนกันดวงที่สอง
ก่อนที่ไป่หนิงปิงจะออกเดินทาง อิงอู๋เซี่ยใช้วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคกับไป่หนิงปิงไว้แล้ว
ตอนนี้เมื่อไป่หนิงปิงต้องจับเพลิงมังกรล่องคลื่นทรัพยากรอมตะระดับเก้า ไป่หนิงปิงสามารถพึ่งพาเพียงโชคเท่านั้น
กลับไปที่อาณาจักรแห่งความฝันของภาคใต้
‘โอ้ มีบางสิ่งเกิดขึ้น !’ ฟางหยวนในร่างลิงซ่อนตัวอยู่หลังกิ่งไม้
ผู้อมตะสองคนปรากฏตัวขึ้นด้านล่างต้นไม้ที่ฟางหยวนซ่อนตัวอยู่
ลูกท้อที่ฟางหยวนโยนทิ้งก่อนหน้านี้อยู่ที่ปลายเท้าของผู้อมตะผู้หนึ่ง
“พี่ลั่ว ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้ ” ผู้อมตะคนหนึ่งกล่าว
“ข้าสามารถนำเจ้าเข้าไป แต่หากเกิดสิ่งใดขึ้นและเจ้าถูกค้นพบ มันจะไม่เกี่ยวกับข้า ” ผู้อมตะอีกคนตอบกลับ