อยากกินไหมล่ะ 780

ตอนที่ 780

 โจ๊ก

“งั้นก็ได้ครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะ หยวนน้อย” เสี่ยวซิ่งกล่าวหลังจากวางบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาถือมาลง

“ด้วยความยินดีครับ” หยวนโจวพยักหน้าแล้วเริ่มทำโจ๊ก

เป็นที่กล่าวขวัญกันว่าเสี่ยวซิงทำเงินได้มาก ข้าวที่เขามีอยู่ที่บ้านเป็นข้าวหอมยี่ห้อดังในประเทศไทย เมล็ดข้าวเรียวยาวสีขาวสะอาดและเมื่อสูดกลิ่นเมล็ดข้าวเข้าไปก็จะสามารถได้กลิ่นหอมหวานเล็กน้อย

“เมล็ดข้าวของเราดีใช่ไหมล่ะครับ? นักท่องเที่ยวชาวจีนหลายคนจะซื้อไปหลายสิบชั่งทุกครั้งที่พวกเขามาประเทศไทยเลยล่ะ” เสี่ยวซิ่งกล่าวด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“อืม ไม่เลวเลยทีเดียว แต่พวกเราก็มีเมล็ดข้าวที่ดีกว่านี้ในประเทศของเราเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสคุณก็ลองไปชิมเมล็ดข้าวพวกนั้นดูบ้างสิครับ” หยวนโจวกล่าว

ควรรู้ว่าหยวนโจวก็เป็นยุวชนผู้มีเลือดรักชาติในหัวใจ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขากล่าวเช่นนั้นออกมา ถึงอย่างไรเสี่ยวซิ่งก็มีเชื้อสายจีน แม้ว่าจะไม่ได้เติบโตขึ้นมาที่ประเทศจีนหรือถือสัญชาติจีนก็ตามที

หยวนโจวรู้สึกเหมือนถูกเสี่ยวซิ่งบังคับให้ศึกษาทรัพยากรที่มีอยู่มากมายมหาศาลในประเทศจีนอย่างไรอย่างนั้นเลย

“ผมคิดว่าประเทศไทยดีมากเลยล่ะครับ อาหารก็อร่อย สาวงามก็เยอะ แถมอากาศดีอีกต่างหาก” เสี่ยวซิ่งส่ายหน้าโดยอัตโนมัติและตอบพร้อมยิ้ม

“อืม” หยวนโจวไม่กล่าวอะไรให้มากความแล้วพยักหน้า

“ที่นี่มีแม้แต่หม้อตุ๋นเลย” หยวนโจวรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นหม้อสีขาวในขณะที่กำลังค้นหาหม้อ

“อืม แฟนผมเป็นคนเอาหม้อมาไว้ที่นี่เองแหละครับ” เสี่ยวซิ่งกล่าวพลางยิ้มยิงฟัน

หยวนโจวถึงกับพูดไม่ออกไปแล้ว “คนๆนี้ต้องมุ่งไปที่เรื่องเขามีแฟนแล้วทุกครั้งที่มีโอกาสให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย?”

แต่หยวนโจวกลับไม่รู้สึกประหลาดใจเลยที่มีหม้ออยู่ที่นี่ ถึงอย่างไรอาหารไทยก็ได้รับอิทธิพลบางส่วนมาจากประเทศทางแถบเอเชียและตะวันตก ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวซิ่งก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีนอีกด้วย

หยวนโจวไม่พูดอะไรอีก เขาเริ่มล้างหม้ออย่างเงียบๆ

ดูเหมือนว่าหม้อใบนี้จะเคยถูกใช้งานมาก่อนแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าแทบไม่เคยใช้งานเลย ดังนั้นหยวนโจวจึงใช้เวลาไม่นานนักในการทำความสะอาดให้เอี่ยมอ่อง

“คุณเป็นเชฟจริงๆเสียด้วย คุณสามารถล้างหม้อได้ไวกว่าคนทั่วไปเสียอีกแน่ะ” เสี่ยวซิ่งอุทาน

“แน่นอนอยู่แล้วครับ” หยวนโจวพยักหน้า

“คุณอยากให้ผมช่วยอะไรไหมครับ?” เสี่ยวซิ่งยื่นข้อเสนออีกครั้ง

“ไม่ต้องหรอกครับ” หยวนโจวปฏิเสธในทันที

“โอเคครับ” เสี่ยวซิ่งยักไหล่แล้วมองดูหยวนโจวทำอาหารต่อไป

ขั้นตอนการทำอาหารของหยวนโจวเป็นสิ่งที่น่าดู ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมล็ดข้าวเพื่อนำไปล้างหรือการแช่เมล็ดข้าวที่ผ่านการทำความสะอาดแล้วในหม้อ การขับเขยื้อนเคลื่อนไหวทุกครั้งลื่นไหลราวกับแม่น้ำตามธรรมชาติทว่ากลับรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตอนที่เขาทำอยู่นั้นยังไม่มีน้ำกระเซ็นออกมาสักหยด

ควรรู้ว่าแต่ละครั้งที่แฟนของเสี่ยวซิ่งมาที่นี่ เสี่ยวซิ่งจะช่วยล้างผักและเคาน์เตอร์ก็จะเปียกไปหมดทันที

แน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ความผิดของเสี่ยวซิ่งอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่เป็นเพราะก๊อกน้ำติดตั้งเอาไว้สูงเกินไปทำให้น้ำสาดกระเซ็นไปทั่วได้ง่าย

หยวนโจววางหม้อที่แช่เมล็ดข้าวเอาไว้อยู่ข้างในเสียงดังตุ้บ จากนั้นเขาก็เริ่มล้างผัก เขากำลังล้างผักบุ้งจีน

หลังจากได้กลิ่นผักบุ้งจีนและศึกษาอย่างละเอียดลออ เขาก็พบว่านอกเหนือไปจากลักษณะภายนอกและกลิ่นที่แตกต่างกันเล็กน้อยก็แทบจะเหมือนกับที่มีอยู่ในประเทศจีนเลย

ผักบุ้งจีนที่นี่ทั้งเรียวยาวและเละกว่าเมื่อเทียบกับผักบุ้งจีนในประเทศจีนที่ทั้งอวบสั้นและกรุบกรอบมากกว่า

หยวนโจวระมัดระวังตอนที่ล้างผักบุ้งจีนเพื่อมิให้ส่วนใบเสีย ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็สามารถทำความสะอาดผักบุ้งได้ทุกสายพันธุ์อยู่ดีนั่นแหละ

หลังจากล้างเสร็จแล้ว เขาก็เทลงหม้อต้ม ถึงตอนนี้เขาก็หยิบเนื้อไก่เสี้ยวหนึ่งที่ละลายน้ำแข็งจนเกือบหมดแล้วออกมาด้วย

“หยวนน้อย คุณนี่ยอดเยี่ยมไปเลย คุณสามารถล้างผักได้อย่างรวดเร็วโดยไม่มีน้ำกระเซ็นออกมาแม้แต่หยดเดียวเลย” เสี่ยวซิ่งเดินวนไปวนมารอบตัวหยวนโจวแล้วกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ยกมือสูงๆแล้วก็อย่างแกว่งผักไปมาน่ะครับ” หยวนโจวให้คำอธิบายอย่างง่ายๆ

“โอ? ผมเข้าใจแล้วล่ะครับ” เสี่ยวซิ่งมองดูต่อไป

“ผมจะเก็บน่องไก่ไว้ให้คุณนะครับ” จู่ๆหยวนโจวก็กล่าวขึ้นมา

“อา? โอ้ ได้ครับ” เสี่ยวซิ่งพยักหน้าอย่างโง่งม

ทันทีที่เสี่ยวซิ่งตอบตกลง หยวนโจวก็หยิบมีดทำครัวขึ้นมาแล้วเริ่มหั่นอกไก่

น่องไก่ยังไม่ถูกแตะต้องขณะที่ส่วนอื่นๆรวมไปถึงกระดูกก็ยังไม่ถูกทิ้งไป พวกมันต่างถูกพักเอาไว้ด้านข้างเพื่อรอนำมาใช้ในภายหลัง

“ว้าว เชฟหยวน ตอนที่คุณจับมีดดูหล่อชะมัดเลย” เสี่ยวซิ่งรู้สึกประทับใจมากที่เขาพูดกับหยวนโจวให้ต่างออกไปได้บ้าง

ใช่แล้วล่ะ หลังจากก่อนหน้านี้เสี่ยวซิ่งตอบตกลงที่จะให้เหลือน่องไก่ไว้อันเดียว หยวนโจวก็หยิบมีดขึ้นมา จากนั้นเสี่ยวซิ่งก็เห็นมีดที่กำลังปัดซ้ายป่ายขวาไม่กี่ทีก่อนที่เนื้อไก่จะแยกออกจากกัน ส่วนอก น่องและกระดูกที่แยกออกจากกันแบบนั้นจึงสะอาดราวกับใช้เวทมนตร์

“นี่เป็นทักษะเบื้องต้นของเชฟครับ” หยวนโจวถ่อมตัว

“จึ๊ จึ๊ คุณใช้มีดเก่งจริงๆ สุดยอดไปเลยครับ” เสี่ยวซิ่งยกนิ้วโป้งให้หยวนโจว

หยวนโจวพยักหน้าแล้วยิ้มโดยไม่พูดอะไรออกมา

หลังจากเขาจัดการกับไก่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมล็ดข้าวที่แช่เอาไว้ก็เกือบได้ที่แล้ว หยวนโจวจึงเริ่มทำโจ๊กแล้ว

เพื่อร่นเวลากว่าครึ่งในกระบวนการแช่ หยวนโจวจึงเติมน้ำแข็งก้อนลงในข้าวไปด้วย

ประเทศไทยไม่เคยขาดแคลนน้ำแข็งก้อนเลย แม้แต่ในบ้านของเสี่ยวซิ่งก็มีน้ำแข็งก้อนเช่นเดียวกัน ปกติแล้วเขาจะใส่น้ำแข็งก้อนกับน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มเนื่องจากผู้คนในประเทศไทยมีนิสัยดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ

ขวับ! ขวับ! หยวนโจวเริ่มเทเมล็ดข้าว

หลังจากเขาเทแล้ว เขาก็หยิบน้ำมันขวดหนึ่งบนเคาน์เตอร์ขึ้นมาดมกลิ่น เขาพบว่าไม่มีกลิ่นอะไรจึงอนุมานว่าเจ้าสิ่งนี้น่าจะเป็นน้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากถั่วเหลือง จากนั้นเขาก็หยดน้ำมันสองหยดลงในเมล็ดข้าว

หลังจากคนเมล็ดข้าวด้วยตะเกียบคู่หนึ่งแล้ว เขาก็เทเมล็ดข้าวลงในถ้วย จากนั้นเขาก็ล้างหม้อก่อนที่เขาจะเติมน้ำลงไปครึ่งหม้อแล้วเริ่มต้ม

หยวนโจวกำลังหุงข้าวให้เพียงพอสำหรับสองที่และผลลัพธ์สุดท้ายก็จะได้เป็นสองถ้วยสำหรับพวกเขาแต่ละคน

หลังจากนั้นไม่นาน หยวนโจวก็เทเมล็ดข้าวลงไปทันที ในทันทีที่เมล็ดข้าวเย็นๆลงน้ำไปก็จะหยุดต้ม หลังจากผ่านไปสักครู่จึงค่อยต้มใหม่อีกครั้ง

คราวนี้เมล็ดข้าวเรียวยาวขาวสะอาดก็อยู่ในน้ำเดือดแล้วเช่นเดียวกัน เมื่อดูจากน้ำระหว่างที่กำลังเดือดก็จะรู้ว่าอัตราส่วนของน้ำกับเมล็ดข้าวช่างแสนเหมาะเจาะ

หลังจากนั้นประมาณห้านาที หยวนโจวก็หรี่ไฟให้อ่อนลง จากนั้นเขาก็ปิดฝาแล้วปล่อยให้เมล็ดข้าวหุงต่อไป ในขณะที่กำลังรอโจ๊กได้ที่ หยวนโจวก็เริ่มเตรียมยำ

หยวนโจววางแผนที่จะทำยำผักบุ้งจีนกับยำไก่ฉีก อาหารทั้งสองจานนี้น่าจะเข้ากันได้ดีกับโจ๊กเชียวล่ะ

ยำผักบุ้งจีนเป็นอาหารที่เตรียมได้ง่ายมาก เขาแค่ต้องทำความสะอาดผักบุ้งจีนแล้วจัดใส่จานก่อนที่จะเติมซอสลงไป รสชาติก็จะซึมซ่านเข้าสู่ผักบุ้งจีนอย่างช้าๆแล้วอาหารก็จะพร้อมรับประทานแล้ว

ผักบุ้งจีนที่เขาเตรียมทั้งหอมและเผ็ดจัดจ้าน เครื่องปรุงที่เขาใช้กับอาหารจานนี้ก็เป็นเครื่องปรุงที่ตนเองคุ้นเคยอีกต่างหาก ส่วนยำไก่ฉีกนั้น หยวนโจวก็วางแผนที่จะใช้เครื่องปรุงในท้องถิ่น

อย่างไรก็ตามแต่ หยวนโจวยังไม่คิดที่จะทานเนื้อเนื่องเขายังรู้สึกไม่สบายท้องนัก อาหารจานนี้เป็นอาหารที่เตรียมขึ้นมาให้เสี่ยวซิ่ง

ขวับ! ขวับ! ขวับ! ตึง! ตึง! ตึง! นี่เป็นเสียงของมีดที่สับลงเขียง

นับตั้งแต่หยวนโจวเริ่มทำอาหารมา เสี่ยวซิ่งก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างๆ ถึงอย่างไรเขาก็ได้รับการยืนยันไปหลายครั้งแล้วว่าหยวนโจวไม่ต้องการให้ช่วย เขาจึงไม่สนใจในการทำอาหารอีก

เขาถือโอกาสส่งข้อความหาแฟนเสียเลย

หยวนโจวมีความเชี่ยวชาญในการจับเวลายามทำอาหาร ทันทีที่เขาเปิดฝาขึ้นมา โจ๊กก็เดือดแล้ว อย่างไรเสียเขาก็จับเวลาได้เหมาะเจาะจึงทำให้โจ๊กไม่ล้นออกมา แถมเครื่องเคียงสองอย่างก็เสร็จแล้วเช่นกัน

“ทานได้แล้วครับ” หยวนโจวกล่าวขณะที่เขาเสิร์ฟเครื่องเคียงทั้งสองอย่างพร้อมหม้อเดือดๆ

“กลิ่นหอมจังเลย” เสี่ยวซิ่งกล่าวเมื่อได้กลิ่นโจ๊กหลังจากเปิดฝาแล้ว

หยวนโจวเพิ่งจะเปิดฝาหลังจากวางหม้อลงบนโต๊ะ ก่อนหน้านั้นห้องปราศจากกลิ่นโดยสิ้นเชิง

ถึงเวลาที่เสี่ยวซิ่งจะแสดงทักษะที่มีอยู่ออกมาบ้างแล้ว

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset