แม่ปากร้ายยุค​ 80 624 กินงานเลี้ยงในฮ่องกง

ตอนที่ 624 กินงานเลี้ยงในฮ่องกง

ตอนที่​ 624 กิน​งานเลี้ยง​ใน​ฮ่องกง​

หลิน​ม่าย​กลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะไม่ปลอดภัย​หาก​ขึ้น​รถไฟ​คนเดียว​ แม้ว่า​กฎระเบียบ​ตอนนี้​จะดีขึ้น​มาก​ แต่​หล่อน​ก็​ไม่ใช่หลิน​ม่าย​และ​ไม่มีความสามารถ​ที่จะ​ป้องกัน​ตัวเอง​ได้​

หลิน​ม่าย​จึงให้​เถาจืออวิ๋น​โดยสาร​เครื่องบิน​กลับ​ไป​ที่​เจียง​เฉิง

วันรุ่งขึ้น​ พวกเขา​ก็​ส่งเถาจืออวิ๋น​ไป​ที่​สนามบิน​

ฟางจั๋วเยวี่ย​แสดง​ความกังวล​อย่าง​มาก​ต่อ​เถาจืออวิ๋น​ แต่​เถาจืออวิ๋น​ไม่ได้​สนใจ​เขา​มาก​นัก​

หลังจาก​เถาจืออวิ๋น​ถูก​ส่งกลับ​ไป​ยัง​เจียง​เฉิง หลิน​ม่าย​ก็​เดินทาง​ไป​ฮ่องกง​ใน​วันเดียวกัน​

ใน​ช่วง​ปี​ 1980 ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ หลิน​ม่าย​ยังคง​ทำงาน​เป็น​คนขายของ​ริมถนน​เล็ก​ ๆ ใน​เจียง​เฉิงและ​ต้อง​ดิ้นรน​อย่าง​หนัก​ แน่นอน​ว่า​เธอ​ไม่มีโอกาส​ได้​เดินทาง​มาฮ่องกง​

ฮ่องกง​ใน​ทศวรรษ​ที่​ 1980 เต็มไปด้วย​อาคาร​สูง เมื่อ​เทียบ​กับ​ฮ่องกง​ใน​ปัจจุบัน​แล้ว​ ช่องว่าง​ระหว่าง​กว่าง​โจว​และ​ฮ่องกง​ก็​ไม่ห่างไกล​กัน​นัก​

เนื่องจาก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ต้อง​เข้าร่วม​การสัมมนา​ทางวิชาการ​ ทาง​โรงพยาบาล​อี๋​เห​อ​จึงจัด​ที่พัก​ให้​เขา​ ขณะที่​หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋วเยวี่ย​ต้องหา​โรงแรม​ด้วยตัวเอง​

อย่างไรก็ตาม​ การ​หา​โรงแรม​ที่พัก​ด้วยตัวเอง​จะดีกว่า​สำหรับ​สามคน​ เพื่อ​พวกเขา​จะได้​อยู่​ด้วยกัน​และ​ดูแล​ซึ่งกันและกัน​

พวกเขา​จึงเลือก​โรงแรม​ใกล้​โรงพยาบาล​อี๋​เห​อ​

แผนกต้อนรับ​บอก​พวกเขา​ว่า​ ตอนนี้​เป็น​ฤดู​การท่องเที่ยว​ ไม่มีห้อง​สแตนดาร์ด​หลงเหลือ​ มีเพียง​ห้อง​เดี่ยว​ที่​มีเตียงคู่​และ​ห้อง​ซูพี​เรียร์​

ห้อง​เดี่ยว​สอง​ห้อง​ก็​เพียง​พอแล้ว​สำหรับ​พวกเขา​ ห้อง​หนึ่ง​สำหรับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ และ​อีก​ห้อง​สำหรับ​หลิน​ม่าย​

ดังนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงจอง​ห้อง​คู่​ทั้งสอง​ห้อง​

เมื่อ​บริกร​จัด​ห้อง​ เขา​และ​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​จัด​ให้​อยู่​ใน​ห้อง​เดียวกัน​เป็นปกติ​

ขณะที่​หลิน​ม่าย​กำลังจะ​อธิบาย​ ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​ดึง​บริกร​ออก​ไป​พร้อมกับ​ขยิบตา​และ​กล่าว​ “ฉัน​ตัว​ใหญ่​ ฉัน​ต้อง​นอน​บน​เตียง​คนเดียว​”

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ไป​ยัง​หลิน​ม่าย​โดย​แสร้ง​ทำเป็น​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ “งั้น​เรา​มาแชร์​ห้อง​กัน​เถอะ​”

เนื่องจาก​ตอนนี้​เป็น​ฤดูร้อน​ เธอ​ต้อง​สวมใส่​เสื้อผ้า​บาง​เพื่อให้​สบาย​ตัว​ ด้วย​กลัว​ว่า​อาจ​เกิดเรื่อง​เกินเลย​ เธอ​จึงปฏิเสธ​เขา​ทันที​

เธอ​ลาก​กระเป๋าเดินทาง​ของ​เขา​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ “คุณ​ควร​แชร์​ห้อง​กับ​น้องชาย​ของ​คุณ​”

“ทำไม​ล่ะ​? เรา​ไม่เคย​นอน​ด้วยกัน​มาก่อน​เลย​นะ​” ฟางจั๋ว​หรา​น​เย​ถามอย่าง​งุนงง​

“หาก​ตอนนี้​ไม่ใช่ฤดูร้อน​ ฉัน​คง​ไม่รังเกียจ​ที่จะ​นอน​ร่วม​ห้อง​กับ​คุณ​”

หลัง​กล่าว​เพียง​ไม่กี่​คำ​ พวกเขา​ก็​มาถึงห้อง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​

หลิน​ม่าย​วาง​กระเป๋าเดินทาง​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไว้​ที่​ประตู​ห้อง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​และ​จากไป​

แต่​เมื่อ​เธอ​กลับมา​ที่​ห้อง​ กระเป๋า​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ถูก​ฟางจั๋วเยวี่ย​นำ​กลับมา​ แสดง​ชัด​ว่า​ไม่ยอมให้​พี่ชาย​อยู่ร่วม​ด้วย​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ยัง​กล่าว​ “ฉัน​ไม่อนุญาต​ให้​ใครก็ตาม​มาอยู่​ห้อง​เดียว​กับ​ฉัน​”

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ไป​ที่​หลิน​ม่าย​อย่าง​น่าสังเวช​

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​โง่ เธอ​รู้​ว่า​สอง​พี่น้อง​กำลัง​วางแผน​จะทำ​อะไร​

หาก​รู้​ว่า​ไม่มีทางเลือก​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ทำได้​เพียง​พึ่งพา​เธอ​เท่านั้น​ หลิน​ม่าย​ก็​ทำได้​เพียง​ยอมรับ​

หลังจาก​เก็บ​สัมภาระ​ก็​เป็นเวลา​ห้า​โมงเย็น​แล้ว​ ทั้ง​สามคน​ก็​ออก​ไป​รับประทาน​อาหารเย็น​ด้วยกัน​

ฟางจั๋วเยวี่ย​รู้​ว่า​พี่ชาย​ของ​เขา​ได้​มอบ​ทรัพย์สิน​ของ​ครอบครัว​ทั้งหมด​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​

แม้จะมีบางอย่าง​ที่​ยัง​ไม่สามารถ​ส่งมอบ​ได้​ชั่วคราว​เช่น​ ทรัพย์สิน​ขนาดใหญ่​ที่​ป้า​ของ​เขา​ทิ้ง​ไว้​ แต่​ก็​ยัง​ถูก​บริหาร​จัดการ​โดย​หลิน​ม่าย​ ดังนั้น​จึงเป็นที่​รู้กัน​ว่า​ผู้รับผิดชอบ​จ่าย​ค่า​อาหาร​คือ​หลิน​ม่าย​

เขา​กล่าว​ต่อ​หลิน​ม่าย​อย่าง​มีเลศนัย​ “พี่สะใภ้​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ฉัน​มาฮ่องกง​ ช่วย​พา​ฉัน​ไป​กิน​อาหาร​อร่อย​ ๆ ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​คิด​ว่า​คง​เป็นเรื่อง​น่ารังเกียจ​ไม่น้อย​หาก​เธอ​ปฏิเสธ​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียง​พยักหน้า​เห็นด้วย​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เคย​มาฮ่องกง​หลายครั้ง​ แน่นอน​ว่า​เขา​รู้​แหล่ง​อาหาร​มากกว่า​ทั้งสอง​คน​

เขา​ชี้ไป​ที่​ด้านหน้า​พลาง​กล่าว​ “ข้างหน้า​มีร้าน​อาหารจีน​ที่​อร่อย​มาก​ เรา​ไป​กิน​ข้าวเย็น​ที่นั่น​กัน​เถอะ​”

ด้าน​หน้าที่​ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​ถึงอยู่​ห่าง​ออก​ไป​เล็กน้อย​ และ​หลิน​ม่าย​ต้องการ​นั่ง​รถบัส​ไป​ที่นั่น​

ฟางจั๋วเยวี่ย​กำลัง​อึดอัด​จน​แทบจะ​ระเบิด​

ฮ่องกง​ใน​ยุค​นี้​มีความ​เป็น​ตะวันตก​มาก​ ผู้ชาย​ต้อง​ใส่สูท​และ​สวม​รองเท้าหนัง​เวลา​ออก​ไป​ข้างนอก​ และ​ผู้หญิง​ไม่สามารถ​สวมใส่​เสื้อผ้า​ที่​ดูเหมือน​ชาย​เช่น​ยุคปัจจุบัน​ได้​

ตอนนี้​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ชุด​ทางการ​ ยืน​อยู่​บน​ถนน​ใน​ฮ่องกง​ใน​เดือน​กรกฎาคม​ เขา​จึงต้องการ​นั่ง​แท็กซี่​และ​ต่อต้าน​การ​ขึ้น​รถบัส​อย่าง​เด็ดขาด​

เศรษฐกิจ​ของ​ฮ่องกง​พัฒนา​มาก​และ​ค่าครองชีพ​ก็​ค่อนข้าง​สูง การ​นั่ง​แท็กซี่​ไม่ได้​มีราคา​ถูก​สำหรับ​สามคน​ แต่​หลิน​ม่าย​มาจาก​จีน​แผ่นดินใหญ่​ จึงไม่ต้องการ​นั่ง​แท็กซี่​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​น​เริ่ม​ทน​ต่อ​อากาศ​อัน​ร้อนระอุ​ไม่ไหว​ เธอ​ก็​รู้สึก​เป็นทุกข์​ จึงกัดฟัน​และ​เรียก​รถแท็กซี่​ทันที​

ฟางจั๋วเยวี่ย​มีความสุข​มาก​ เขา​นั่ง​บน​ที่นั่ง​ผู้โดยสาร​ หันหน้า​หา​หลิน​ม่าย​แล้ว​กล่าว​ “ขอบคุณ​พี่สะใภ้​มาก​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “ฉัน​รู้สึก​สงสาร​พี่ชาย​ของ​นาย​จึงนั่ง​แท็กซี่​ ฉัน​ไม่ได้​ทำ​เพื่อ​นาย​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ปิดปาก​ด้วย​ความผิดหวัง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​มีความสุข​จึงหยิบ​บ๊วย​ขึ้น​มาหนึ่ง​คำ​แล้ว​กล่าว​ต่อ​หลิน​ม่าย​ “ที่รัก​ อา​~”

เมื่อ​เห็น​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​ป้อน​อาหาร​ให้​แก่​กัน​ ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​รู้สึก​หงุดหงิด​เป็นอย่างมาก​ และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​นึกถึง​เถาจืออวิ๋น​

หาก​เขา​และ​เถาจืออวิ๋น​อยู่​ด้วยกัน​ พวกเขา​ก็​คงจะ​ป้อน​อาหาร​ซึ่งกันและกัน​แบบนี้​

ร้าน​อาหารจีน​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​ถึงดู​ธรรมดา​มาก​เมื่อ​มอง​แวบ​แรก​ จน​ฟางจั๋วเยวี่ย​เริ่ม​สงสัย​ว่า​อาหาร​ใน​ร้าน​จะไม่อร่อย​อย่าง​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​พูด​

แต่​ลักษณะ​ภายนอก​ไม่อาจ​วัด​รสชาติ​อาหาร​ได้​

บริกร​นำ​เมนู​มาให้​ และ​ทั้ง​สามก็​รวมตัว​สั่งอาหาร​

บน​โต๊ะ​แห่ง​นี้​นั่ง​ร่วมกัน​สามคน​ แต่​มีเพียง​ฟางจั๋วเยวี่ย​คนเดียว​ที่​สั่ง

เขา​พูด​กับ​บริกร​ “ห่าน​ย่าง​ฮ่องเต้​ หมู​อบ​น้ำผึ้ง​ นก​พิราบ​ย่าง​ และ​ซุป​ไก่​ตุ๋น​มะพร้าว​ ทั้งหมด​สี่จาน​ ขอบคุณ​ครับ​”

หลิน​ม่าย​สูด​หายใจเข้า​ลึก​เมื่อ​เห็น​ราคา​ของ​อาหาร​เหล่านั้น​

อาหาร​แต่ละ​จาน​มีราคา​มากกว่า​หนึ่งร้อย​ดอลลาร์ฮ่องกง​ และ​อาหาร​สี่อย่าง​กับ​ซุป​หนึ่ง​ชามมีราคา​มากกว่า​สี่ร้อย​ดอลลาร์​!

ทันทีที่​บริกร​ออก​ไป​ หลิน​ม่าย​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กล่าว​ “สั่งอาหาร​ราคาแพง​ขนาด​นี้​ จะทำให้​ฉัน​ล้มละลาย​หรือ​ยังไง​?”

ฟางจั๋วเยวี่ย​หัวเราะ​พลาง​กล่าว​ “โอกาส​ที่จะ​ได้​เดินทาง​มาฮ่องกง​มีไม่มาก​นัก​ ดังนั้น​เรา​ต้อง​ได้​ชิมอาหาร​อร่อย​ ๆ สิ”

“งั้น​ก็​สั่งผัด​ผัก​กวางตุ้ง​ ผัด​ผักกาด​ ผัด​ฟักทอง​ และ​เผือ​กสิ​ ไม่ใช่สั่งอาหาร​ราคาแพง​ระยับ​แบบนี้​!”

ฟางจั๋ว​หรา​น​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​กำลัง​ไม่พอใจ​จึงคิด​จะช่วย​เธอ​สงบสติอารมณ์​ ทันใดนั้น​ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​แทรก​ขึ้น​

“ดู​คุณ​สิ ใน​ฐานะ​ผู้บริหาร​ของ​บริษัท​ที่​มีมูลค่า​สุทธิ​เกือบ​สิบ​ล้าน​ แต่กลับ​งกเงิน​เพียงเท่านี้​เหรอ​? คุณ​ไม่ต้อง​ใช้เงิน​ของ​ตัวเอง​ด้วยซ้ำ​!”

หลิน​ม่าย​เชิดหน้า​ขึ้น​ทัา​ที​ “เงิน​ทุก​หยวน​ของ​ฉัน​เป็น​เงิน​ที่​หา​มาอย่าง​ยากลำบาก​ แน่นอน​ว่า​ฉัน​ทน​ไม่ได้​กับ​การ​ใช้จ่าย​สุรุ่ยสุร่าย​แบบนี้​!”

“งั้น​คุณ​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้เงิน​ของ​ตัวเอง​ แล้ว​ผม​จะใช้เงิน​ที่​พี่ชาย​ผม​หา​มาไม่ได้​เลย​เหรอ​? คุณ​ไม่ใช่ผู้หญิง​ธรรมดา​ คุณ​ไม่เพียง​เป็น​ภรรยา​ของ​ศาสตราจารย์​ใน​มหาวิทยาลัย​ทางการแพทย์​ที่​มีชื่อเสียง​เท่านั้น​ แต่​ยัง​เป็น​ภรรยา​ทายาท​ของ​บริษัท​การค้า​ระหว่างประเทศ​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​สหรัฐอเมริกา​อีกด้วย​”

หลิน​ม่าย​ขัดจังหวะ​เขา​ “แต่​พี่ชาย​ของ​คุณ​และ​ฉัน​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​กัน​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ริน​น้ำชา​ให้​แก่​เธอ​ “ยัง​ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้​ แต่​เรา​จะแต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​ตุลาคม​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​โบกมือ​ “คุณ​ไม่สามารถ​หนี​จาก​พี่ชาย​ผม​ได้​ ดังนั้น​จงยอมรับ​ชะตากรรม​ของ​คุณ​ซะ”

มุมปาก​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​นย​ก​ขึ้น​ เขา​ชอบ​ที่จะ​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​

ฟางจั๋วเยวี่ย​กล่าว​ต่อ​ “ครอบครัว​ของ​คุณ​ร่ำรวย​เงินทอง​ ร่ำรวย​อย่าง​หา​ที่​เปรียบ​ไม่ได้​ มีเงิน​มากมาย​ทำไม​ถึงยัง​หุงข้าว​ด้วย​เตาถ่าน​แทน​เตาแก๊ส​?”

หลิน​ม่าย​จ้องมอง​เขา​ด้วย​สายตา​งุนงง​ “บ้าน​เรา​มีเตาแก๊ส​อยู่แล้ว​ และ​ไม่ได้​หุงข้าว​ด้วย​เตาถ่าน​…”

ฟางจั๋วเยวี่ย​กระแอม​สอง​ครั้ง​ “นั่น​ไม่ใช่ประเด็น​ ประเด็น​คือ​หาก​คุณ​มีเงิน​ แล้ว​ไม่ใช้ ก็​จะตาย​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​ หาก​คุณ​ไม่ยอม​ใช้เงิน​ที่​พี่ชาย​ผม​หา​มา คุณ​อาจ​ไม่มีโอกาส​ให้​ใช้ใน​วัน​ต่อไป​ เกิด​เป็น​หญิง​โหดเหี้ยม​ได้​ แต่​อย่า​มาก​เกิน​ พูด​ง่าย ๆ​ คือ​ต้อง​เหี้ยม​แต่​พอตัว​ เพราะ​หาก​หญิง​ไม่เหี้ยมโหด​เลย​ ฐานะ​ก็​จะไม่มั่นคง​!”

คำพูด​เหล่านี้​ดูเหมือน​จะสมเหตุสมผล​และ​หลิน​ม่าย​ก็​ตก​อยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หันหลัง​ให้​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ “นาย​กำลัง​พูดถึง​เรื่องไร้สาระ​อะไร​?

ฟางจั๋วเยวี่ย​ไม่รู้​ว่า​พี่ชาย​ของ​เขา​เป็น​คน​โหดเหี้ยม​จนถึง​ทุกวันนี้​

บริกร​นำ​อาหาร​สามอย่าง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​และ​ซุป​หนึ่ง​อย่าง​มาที่​โต๊ะ​

หลิน​ม่าย​ไม่เคย​กิน​อาหาร​สี่จาน​นี้​มาก่อน​ ดังนั้น​เธอ​จึงชิมทีละ​จาน​

ห่าน​ย่าง​ฮ่องเต้​เนื้อ​นุ่ม​หอม​ถึงกระดูก​ เนื้อ​แน่น​แต่​ไม่มันเยิ้ม​ เสิร์ฟ​พร้อม​น้ำจิ้ม​บ๊วย​รสเปรี้ยว​เป็น​เอกลักษณ์​

หมู​อบ​น้ำผึ้ง​หอม​หวาน​แต่​ไม่เลี่ยน​ เข้มข้น​และ​อร่อย​ แต่​มีรส​หวาน​นำ​ซึ่งเป็น​สิ่งที่​หลิน​ม่าย​ไม่ชอบ​มาก​นัก​

นี่​เป็น​รสนิยม​ส่วนบุคคล​และ​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​คุณภาพ​ของ​อาหาร​

ตราบใดที่​ยัง​เป็น​อาหาร​รส​เลิศ​สำหรับ​คนอื่น​ ๆ หลิน​ม่าย​ก็​จะไม่ตัดสิน​

อีก​สอง​จาน​ก็​รสชาติ​ดี​เช่นกัน​

แม้จะมีราคาแพง​ แต่​ก็​อร่อย​มาก​!

หลัง​กิน​ดื่ม​จน​อื่ม​หนำ​ พวกเขา​ก็​เช็ค​เอาท์​และ​ออกเดินทาง​

กระเป๋า​เงิน​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​สะอาด​กว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​แล้ว​ และ​คง​เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะจ่าย​อะไร​ได้​อีก​

ฟางจั๋ว​หรา​น​จงใจไม่จ่าย​เงิน​ด้วยตัวเอง​เพื่อ​แสดงว่า​เขา​เป็น​ผู้ชาย​ที่​มีภรรยา​แล้ว​

หลิน​ม่าย​หยิบ​กระเป๋า​เงิน​ออกมา​เพื่อ​จ่าย​ค่า​อาหาร​ และ​พึมพำ​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ “สิ้นเปลือง​จริง ๆ​ ค่า​อาหาร​มื้อ​ละ​สี่ห้า​ร้อย​หยวน​ เรา​จะขึ้น​รถเมล์​กลับ​ ใครก็ตาม​ที่​ร้องเรียก​การ​ขึ้น​แท็กซี่​ ฉัน​จะบีบ​คอ​คน​นั้น​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ยิ้ม​ หลังจาก​ได้ยิน​ดังนั้น​เขา​ก็​หยิบ​กระเป๋า​เงิน​ออกมา​และ​รีบ​ไป​ชำระ​ค่า​อาหาร​ก่อน​เธอ​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เดิน​จับมือ​กัน​ออก​มาจาก​ร้านอาหาร​

หลิน​ม่าย​มอง​ขนม​ใน​ร้าน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะเบน​สายตา​ไป​ยัง​ร้านขายเสื้อผ้า​

เธอ​จะไม่ยอม​ซื้อ​ของ​ที่​ไม่จำเป็น​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียง​ยืน​มอง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ติดตาม​เธอ​อย่าง​อดทน​และ​บอก​กับ​เธอ​ว่า​หาก​ต้องการ​ซื้อ​อะไร​ก็​ให้​ไป​ยัง​ห้างสรรพสินค้า​เพื่อ​ซื้มาโดย​ไม่ต้อง​เสียดาย​เงิน​

มัน​เจ็บปวด​มาก​สำหรับ​ฟางจั๋วเยวี่ย​ที่​เดิน​ตามหลัง​พวกเขา​ซึ่งเป็น​คู่รัก​ และ​ในที่สุด​ก็​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​โรงแรม​คนเดียว​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เดินเล่น​กัน​จนถึง​ประมาณ​สี่ทุ่ม​ก่อน​จะกลับ​โรงแรม​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ถือ​ถุงกระดาษ​และ​รองเท้า​หรูหรา​หลาย​ใบ​ไว้​ใน​มือ​

สิ่งอำนวยความสะดวก​ของ​โรงแรม​ใน​ฮ่องกง​นั้น​ดีมาก​

หลิน​ม่าย​อาบน้ำ​อย่าง​สบาย​ตัว​แล้ว​นอน​บน​เตียง​อย่าง​สบายใจ​

เมื่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เข้านอน​ เธอ​ก็​นอน​หนุน​ตัก​เขา​อย่าง​สบายใจ​

ขณะที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบาย​ตัว​นัก​ เขา​ใช้เวลา​อีก​คืน​ไป​กับ​ความหวาน​ชื่น​และ​ทรมาน​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ค่า​อาหาร​โหด​มาก​ กระเป๋าเบา​เลย​ทีเดียว​ แต่​ใน​เมื่อ​มาถึงที่​แล้วก็​ต้อง​กิน​ให้​คุ้ม​ล่ะ​นะ​

ไหหม่า​(海馬)

ตอนที่​ 624 กิน​งานเลี้ยง​ใน​ฮ่องกง​

หลิน​ม่าย​กลัว​ว่า​เถาจืออวิ๋น​จะไม่ปลอดภัย​หาก​ขึ้น​รถไฟ​คนเดียว​ แม้ว่า​กฎระเบียบ​ตอนนี้​จะดีขึ้น​มาก​ แต่​หล่อน​ก็​ไม่ใช่หลิน​ม่าย​และ​ไม่มีความสามารถ​ที่จะ​ป้องกัน​ตัวเอง​ได้​

หลิน​ม่าย​จึงให้​เถาจืออวิ๋น​โดยสาร​เครื่องบิน​กลับ​ไป​ที่​เจียง​เฉิง

วันรุ่งขึ้น​ พวกเขา​ก็​ส่งเถาจืออวิ๋น​ไป​ที่​สนามบิน​

ฟางจั๋วเยวี่ย​แสดง​ความกังวล​อย่าง​มาก​ต่อ​เถาจืออวิ๋น​ แต่​เถาจืออวิ๋น​ไม่ได้​สนใจ​เขา​มาก​นัก​

หลังจาก​เถาจืออวิ๋น​ถูก​ส่งกลับ​ไป​ยัง​เจียง​เฉิง หลิน​ม่าย​ก็​เดินทาง​ไป​ฮ่องกง​ใน​วันเดียวกัน​

ใน​ช่วง​ปี​ 1980 ใน​ชีวิต​ที่แล้ว​ หลิน​ม่าย​ยังคง​ทำงาน​เป็น​คนขายของ​ริมถนน​เล็ก​ ๆ ใน​เจียง​เฉิงและ​ต้อง​ดิ้นรน​อย่าง​หนัก​ แน่นอน​ว่า​เธอ​ไม่มีโอกาส​ได้​เดินทาง​มาฮ่องกง​

ฮ่องกง​ใน​ทศวรรษ​ที่​ 1980 เต็มไปด้วย​อาคาร​สูง เมื่อ​เทียบ​กับ​ฮ่องกง​ใน​ปัจจุบัน​แล้ว​ ช่องว่าง​ระหว่าง​กว่าง​โจว​และ​ฮ่องกง​ก็​ไม่ห่างไกล​กัน​นัก​

เนื่องจาก​ฟางจั๋ว​หรา​น​ต้อง​เข้าร่วม​การสัมมนา​ทางวิชาการ​ ทาง​โรงพยาบาล​อี๋​เห​อ​จึงจัด​ที่พัก​ให้​เขา​ ขณะที่​หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋วเยวี่ย​ต้องหา​โรงแรม​ด้วยตัวเอง​

อย่างไรก็ตาม​ การ​หา​โรงแรม​ที่พัก​ด้วยตัวเอง​จะดีกว่า​สำหรับ​สามคน​ เพื่อ​พวกเขา​จะได้​อยู่​ด้วยกัน​และ​ดูแล​ซึ่งกันและกัน​

พวกเขา​จึงเลือก​โรงแรม​ใกล้​โรงพยาบาล​อี๋​เห​อ​

แผนกต้อนรับ​บอก​พวกเขา​ว่า​ ตอนนี้​เป็น​ฤดู​การท่องเที่ยว​ ไม่มีห้อง​สแตนดาร์ด​หลงเหลือ​ มีเพียง​ห้อง​เดี่ยว​ที่​มีเตียงคู่​และ​ห้อง​ซูพี​เรียร์​

ห้อง​เดี่ยว​สอง​ห้อง​ก็​เพียง​พอแล้ว​สำหรับ​พวกเขา​ ห้อง​หนึ่ง​สำหรับ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ และ​อีก​ห้อง​สำหรับ​หลิน​ม่าย​

ดังนั้น​ฟางจั๋ว​หรา​น​จึงจอง​ห้อง​คู่​ทั้งสอง​ห้อง​

เมื่อ​บริกร​จัด​ห้อง​ เขา​และ​หลิน​ม่าย​ก็​ถูก​จัด​ให้​อยู่​ใน​ห้อง​เดียวกัน​เป็นปกติ​

ขณะที่​หลิน​ม่าย​กำลังจะ​อธิบาย​ ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​ดึง​บริกร​ออก​ไป​พร้อมกับ​ขยิบตา​และ​กล่าว​ “ฉัน​ตัว​ใหญ่​ ฉัน​ต้อง​นอน​บน​เตียง​คนเดียว​”

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ไป​ยัง​หลิน​ม่าย​โดย​แสร้ง​ทำเป็น​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ “งั้น​เรา​มาแชร์​ห้อง​กัน​เถอะ​”

เนื่องจาก​ตอนนี้​เป็น​ฤดูร้อน​ เธอ​ต้อง​สวมใส่​เสื้อผ้า​บาง​เพื่อให้​สบาย​ตัว​ ด้วย​กลัว​ว่า​อาจ​เกิดเรื่อง​เกินเลย​ เธอ​จึงปฏิเสธ​เขา​ทันที​

เธอ​ลาก​กระเป๋าเดินทาง​ของ​เขา​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ “คุณ​ควร​แชร์​ห้อง​กับ​น้องชาย​ของ​คุณ​”

“ทำไม​ล่ะ​? เรา​ไม่เคย​นอน​ด้วยกัน​มาก่อน​เลย​นะ​” ฟางจั๋ว​หรา​น​เย​ถามอย่าง​งุนงง​

“หาก​ตอนนี้​ไม่ใช่ฤดูร้อน​ ฉัน​คง​ไม่รังเกียจ​ที่จะ​นอน​ร่วม​ห้อง​กับ​คุณ​”

หลัง​กล่าว​เพียง​ไม่กี่​คำ​ พวกเขา​ก็​มาถึงห้อง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​

หลิน​ม่าย​วาง​กระเป๋าเดินทาง​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ไว้​ที่​ประตู​ห้อง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​และ​จากไป​

แต่​เมื่อ​เธอ​กลับมา​ที่​ห้อง​ กระเป๋า​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ก็​ถูก​ฟางจั๋วเยวี่ย​นำ​กลับมา​ แสดง​ชัด​ว่า​ไม่ยอมให้​พี่ชาย​อยู่ร่วม​ด้วย​

ฟางจั๋วเยวี่ย​ยัง​กล่าว​ “ฉัน​ไม่อนุญาต​ให้​ใครก็ตาม​มาอยู่​ห้อง​เดียว​กับ​ฉัน​”

ฟางจั๋ว​หรา​นม​อง​ไป​ที่​หลิน​ม่าย​อย่าง​น่าสังเวช​

หลิน​ม่าย​ไม่ได้​โง่ เธอ​รู้​ว่า​สอง​พี่น้อง​กำลัง​วางแผน​จะทำ​อะไร​

หาก​รู้​ว่า​ไม่มีทางเลือก​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​ทำได้​เพียง​พึ่งพา​เธอ​เท่านั้น​ หลิน​ม่าย​ก็​ทำได้​เพียง​ยอมรับ​

หลังจาก​เก็บ​สัมภาระ​ก็​เป็นเวลา​ห้า​โมงเย็น​แล้ว​ ทั้ง​สามคน​ก็​ออก​ไป​รับประทาน​อาหารเย็น​ด้วยกัน​

ฟางจั๋วเยวี่ย​รู้​ว่า​พี่ชาย​ของ​เขา​ได้​มอบ​ทรัพย์สิน​ของ​ครอบครัว​ทั้งหมด​ให้​กับ​หลิน​ม่าย​

แม้จะมีบางอย่าง​ที่​ยัง​ไม่สามารถ​ส่งมอบ​ได้​ชั่วคราว​เช่น​ ทรัพย์สิน​ขนาดใหญ่​ที่​ป้า​ของ​เขา​ทิ้ง​ไว้​ แต่​ก็​ยัง​ถูก​บริหาร​จัดการ​โดย​หลิน​ม่าย​ ดังนั้น​จึงเป็นที่​รู้กัน​ว่า​ผู้รับผิดชอบ​จ่าย​ค่า​อาหาร​คือ​หลิน​ม่าย​

เขา​กล่าว​ต่อ​หลิน​ม่าย​อย่าง​มีเลศนัย​ “พี่สะใภ้​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ฉัน​มาฮ่องกง​ ช่วย​พา​ฉัน​ไป​กิน​อาหาร​อร่อย​ ๆ ได้​ไหม​?”

หลิน​ม่าย​คิด​ว่า​คง​เป็นเรื่อง​น่ารังเกียจ​ไม่น้อย​หาก​เธอ​ปฏิเสธ​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียง​พยักหน้า​เห็นด้วย​

ฟางจั๋ว​หรา​น​เคย​มาฮ่องกง​หลายครั้ง​ แน่นอน​ว่า​เขา​รู้​แหล่ง​อาหาร​มากกว่า​ทั้งสอง​คน​

เขา​ชี้ไป​ที่​ด้านหน้า​พลาง​กล่าว​ “ข้างหน้า​มีร้าน​อาหารจีน​ที่​อร่อย​มาก​ เรา​ไป​กิน​ข้าวเย็น​ที่นั่น​กัน​เถอะ​”

ด้าน​หน้าที่​ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​ถึงอยู่​ห่าง​ออก​ไป​เล็กน้อย​ และ​หลิน​ม่าย​ต้องการ​นั่ง​รถบัส​ไป​ที่นั่น​

ฟางจั๋วเยวี่ย​กำลัง​อึดอัด​จน​แทบจะ​ระเบิด​

ฮ่องกง​ใน​ยุค​นี้​มีความ​เป็น​ตะวันตก​มาก​ ผู้ชาย​ต้อง​ใส่สูท​และ​สวม​รองเท้าหนัง​เวลา​ออก​ไป​ข้างนอก​ และ​ผู้หญิง​ไม่สามารถ​สวมใส่​เสื้อผ้า​ที่​ดูเหมือน​ชาย​เช่น​ยุคปัจจุบัน​ได้​

ตอนนี้​ฟางจั๋วเยวี่ย​อยู่​ใน​ชุด​ทางการ​ ยืน​อยู่​บน​ถนน​ใน​ฮ่องกง​ใน​เดือน​กรกฎาคม​ เขา​จึงต้องการ​นั่ง​แท็กซี่​และ​ต่อต้าน​การ​ขึ้น​รถบัส​อย่าง​เด็ดขาด​

เศรษฐกิจ​ของ​ฮ่องกง​พัฒนา​มาก​และ​ค่าครองชีพ​ก็​ค่อนข้าง​สูง การ​นั่ง​แท็กซี่​ไม่ได้​มีราคา​ถูก​สำหรับ​สามคน​ แต่​หลิน​ม่าย​มาจาก​จีน​แผ่นดินใหญ่​ จึงไม่ต้องการ​นั่ง​แท็กซี่​

เมื่อ​เห็น​ว่า​ฟางจั๋ว​หรา​น​เริ่ม​ทน​ต่อ​อากาศ​อัน​ร้อนระอุ​ไม่ไหว​ เธอ​ก็​รู้สึก​เป็นทุกข์​ จึงกัดฟัน​และ​เรียก​รถแท็กซี่​ทันที​

ฟางจั๋วเยวี่ย​มีความสุข​มาก​ เขา​นั่ง​บน​ที่นั่ง​ผู้โดยสาร​ หันหน้า​หา​หลิน​ม่าย​แล้ว​กล่าว​ “ขอบคุณ​พี่สะใภ้​มาก​”

หลิน​ม่าย​พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ “ฉัน​รู้สึก​สงสาร​พี่ชาย​ของ​นาย​จึงนั่ง​แท็กซี่​ ฉัน​ไม่ได้​ทำ​เพื่อ​นาย​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​ปิดปาก​ด้วย​ความผิดหวัง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​มีความสุข​จึงหยิบ​บ๊วย​ขึ้น​มาหนึ่ง​คำ​แล้ว​กล่าว​ต่อ​หลิน​ม่าย​ “ที่รัก​ อา​~”

เมื่อ​เห็น​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​ป้อน​อาหาร​ให้​แก่​กัน​ ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​รู้สึก​หงุดหงิด​เป็นอย่างมาก​ และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​นึกถึง​เถาจืออวิ๋น​

หาก​เขา​และ​เถาจืออวิ๋น​อยู่​ด้วยกัน​ พวกเขา​ก็​คงจะ​ป้อน​อาหาร​ซึ่งกันและกัน​แบบนี้​

ร้าน​อาหารจีน​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​นก​ล่า​ว​ถึงดู​ธรรมดา​มาก​เมื่อ​มอง​แวบ​แรก​ จน​ฟางจั๋วเยวี่ย​เริ่ม​สงสัย​ว่า​อาหาร​ใน​ร้าน​จะไม่อร่อย​อย่าง​ที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​พูด​

แต่​ลักษณะ​ภายนอก​ไม่อาจ​วัด​รสชาติ​อาหาร​ได้​

บริกร​นำ​เมนู​มาให้​ และ​ทั้ง​สามก็​รวมตัว​สั่งอาหาร​

บน​โต๊ะ​แห่ง​นี้​นั่ง​ร่วมกัน​สามคน​ แต่​มีเพียง​ฟางจั๋วเยวี่ย​คนเดียว​ที่​สั่ง

เขา​พูด​กับ​บริกร​ “ห่าน​ย่าง​ฮ่องเต้​ หมู​อบ​น้ำผึ้ง​ นก​พิราบ​ย่าง​ และ​ซุป​ไก่​ตุ๋น​มะพร้าว​ ทั้งหมด​สี่จาน​ ขอบคุณ​ครับ​”

หลิน​ม่าย​สูด​หายใจเข้า​ลึก​เมื่อ​เห็น​ราคา​ของ​อาหาร​เหล่านั้น​

อาหาร​แต่ละ​จาน​มีราคา​มากกว่า​หนึ่งร้อย​ดอลลาร์ฮ่องกง​ และ​อาหาร​สี่อย่าง​กับ​ซุป​หนึ่ง​ชามมีราคา​มากกว่า​สี่ร้อย​ดอลลาร์​!

ทันทีที่​บริกร​ออก​ไป​ หลิน​ม่าย​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กล่าว​ “สั่งอาหาร​ราคาแพง​ขนาด​นี้​ จะทำให้​ฉัน​ล้มละลาย​หรือ​ยังไง​?”

ฟางจั๋วเยวี่ย​หัวเราะ​พลาง​กล่าว​ “โอกาส​ที่จะ​ได้​เดินทาง​มาฮ่องกง​มีไม่มาก​นัก​ ดังนั้น​เรา​ต้อง​ได้​ชิมอาหาร​อร่อย​ ๆ สิ”

“งั้น​ก็​สั่งผัด​ผัก​กวางตุ้ง​ ผัด​ผักกาด​ ผัด​ฟักทอง​ และ​เผือ​กสิ​ ไม่ใช่สั่งอาหาร​ราคาแพง​ระยับ​แบบนี้​!”

ฟางจั๋ว​หรา​น​เห็น​ว่า​หลิน​ม่าย​กำลัง​ไม่พอใจ​จึงคิด​จะช่วย​เธอ​สงบสติอารมณ์​ ทันใดนั้น​ฟางจั๋วเยวี่ย​ก็​แทรก​ขึ้น​

“ดู​คุณ​สิ ใน​ฐานะ​ผู้บริหาร​ของ​บริษัท​ที่​มีมูลค่า​สุทธิ​เกือบ​สิบ​ล้าน​ แต่กลับ​งกเงิน​เพียงเท่านี้​เหรอ​? คุณ​ไม่ต้อง​ใช้เงิน​ของ​ตัวเอง​ด้วยซ้ำ​!”

หลิน​ม่าย​เชิดหน้า​ขึ้น​ทัา​ที​ “เงิน​ทุก​หยวน​ของ​ฉัน​เป็น​เงิน​ที่​หา​มาอย่าง​ยากลำบาก​ แน่นอน​ว่า​ฉัน​ทน​ไม่ได้​กับ​การ​ใช้จ่าย​สุรุ่ยสุร่าย​แบบนี้​!”

“งั้น​คุณ​ก็​ไม่จำเป็นต้อง​ใช้เงิน​ของ​ตัวเอง​ แล้ว​ผม​จะใช้เงิน​ที่​พี่ชาย​ผม​หา​มาไม่ได้​เลย​เหรอ​? คุณ​ไม่ใช่ผู้หญิง​ธรรมดา​ คุณ​ไม่เพียง​เป็น​ภรรยา​ของ​ศาสตราจารย์​ใน​มหาวิทยาลัย​ทางการแพทย์​ที่​มีชื่อเสียง​เท่านั้น​ แต่​ยัง​เป็น​ภรรยา​ทายาท​ของ​บริษัท​การค้า​ระหว่างประเทศ​ที่​มีชื่อเสียง​ใน​สหรัฐอเมริกา​อีกด้วย​”

หลิน​ม่าย​ขัดจังหวะ​เขา​ “แต่​พี่ชาย​ของ​คุณ​และ​ฉัน​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน​กัน​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ริน​น้ำชา​ให้​แก่​เธอ​ “ยัง​ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้​ แต่​เรา​จะแต่งงาน​กัน​ใน​เดือน​ตุลาคม​”

ฟางจั๋วเยวี่ย​โบกมือ​ “คุณ​ไม่สามารถ​หนี​จาก​พี่ชาย​ผม​ได้​ ดังนั้น​จงยอมรับ​ชะตากรรม​ของ​คุณ​ซะ”

มุมปาก​ของ​ฟางจั๋ว​หรา​นย​ก​ขึ้น​ เขา​ชอบ​ที่จะ​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​

ฟางจั๋วเยวี่ย​กล่าว​ต่อ​ “ครอบครัว​ของ​คุณ​ร่ำรวย​เงินทอง​ ร่ำรวย​อย่าง​หา​ที่​เปรียบ​ไม่ได้​ มีเงิน​มากมาย​ทำไม​ถึงยัง​หุงข้าว​ด้วย​เตาถ่าน​แทน​เตาแก๊ส​?”

หลิน​ม่าย​จ้องมอง​เขา​ด้วย​สายตา​งุนงง​ “บ้าน​เรา​มีเตาแก๊ส​อยู่แล้ว​ และ​ไม่ได้​หุงข้าว​ด้วย​เตาถ่าน​…”

ฟางจั๋วเยวี่ย​กระแอม​สอง​ครั้ง​ “นั่น​ไม่ใช่ประเด็น​ ประเด็น​คือ​หาก​คุณ​มีเงิน​ แล้ว​ไม่ใช้ ก็​จะตาย​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​ หาก​คุณ​ไม่ยอม​ใช้เงิน​ที่​พี่ชาย​ผม​หา​มา คุณ​อาจ​ไม่มีโอกาส​ให้​ใช้ใน​วัน​ต่อไป​ เกิด​เป็น​หญิง​โหดเหี้ยม​ได้​ แต่​อย่า​มาก​เกิน​ พูด​ง่าย ๆ​ คือ​ต้อง​เหี้ยม​แต่​พอตัว​ เพราะ​หาก​หญิง​ไม่เหี้ยมโหด​เลย​ ฐานะ​ก็​จะไม่มั่นคง​!”

คำพูด​เหล่านี้​ดูเหมือน​จะสมเหตุสมผล​และ​หลิน​ม่าย​ก็​ตก​อยู่​ใน​ห้วง​ความคิด​

ฟางจั๋ว​หรา​น​หันหลัง​ให้​ฟางจั๋ว​เย​วี่ย​ “นาย​กำลัง​พูดถึง​เรื่องไร้สาระ​อะไร​?

ฟางจั๋วเยวี่ย​ไม่รู้​ว่า​พี่ชาย​ของ​เขา​เป็น​คน​โหดเหี้ยม​จนถึง​ทุกวันนี้​

บริกร​นำ​อาหาร​สามอย่าง​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​และ​ซุป​หนึ่ง​อย่าง​มาที่​โต๊ะ​

หลิน​ม่าย​ไม่เคย​กิน​อาหาร​สี่จาน​นี้​มาก่อน​ ดังนั้น​เธอ​จึงชิมทีละ​จาน​

ห่าน​ย่าง​ฮ่องเต้​เนื้อ​นุ่ม​หอม​ถึงกระดูก​ เนื้อ​แน่น​แต่​ไม่มันเยิ้ม​ เสิร์ฟ​พร้อม​น้ำจิ้ม​บ๊วย​รสเปรี้ยว​เป็น​เอกลักษณ์​

หมู​อบ​น้ำผึ้ง​หอม​หวาน​แต่​ไม่เลี่ยน​ เข้มข้น​และ​อร่อย​ แต่​มีรส​หวาน​นำ​ซึ่งเป็น​สิ่งที่​หลิน​ม่าย​ไม่ชอบ​มาก​นัก​

นี่​เป็น​รสนิยม​ส่วนบุคคล​และ​ไม่มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​คุณภาพ​ของ​อาหาร​

ตราบใดที่​ยัง​เป็น​อาหาร​รส​เลิศ​สำหรับ​คนอื่น​ ๆ หลิน​ม่าย​ก็​จะไม่ตัดสิน​

อีก​สอง​จาน​ก็​รสชาติ​ดี​เช่นกัน​

แม้จะมีราคาแพง​ แต่​ก็​อร่อย​มาก​!

หลัง​กิน​ดื่ม​จน​อื่ม​หนำ​ พวกเขา​ก็​เช็ค​เอาท์​และ​ออกเดินทาง​

กระเป๋า​เงิน​ของ​ฟางจั๋วเยวี่ย​สะอาด​กว่า​ใบหน้า​ของ​เขา​แล้ว​ และ​คง​เป็นไปไม่ได้​ที่​เขา​จะจ่าย​อะไร​ได้​อีก​

ฟางจั๋ว​หรา​น​จงใจไม่จ่าย​เงิน​ด้วยตัวเอง​เพื่อ​แสดงว่า​เขา​เป็น​ผู้ชาย​ที่​มีภรรยา​แล้ว​

หลิน​ม่าย​หยิบ​กระเป๋า​เงิน​ออกมา​เพื่อ​จ่าย​ค่า​อาหาร​ และ​พึมพำ​อย่าง​ช่วยไม่ได้​ “สิ้นเปลือง​จริง ๆ​ ค่า​อาหาร​มื้อ​ละ​สี่ห้า​ร้อย​หยวน​ เรา​จะขึ้น​รถเมล์​กลับ​ ใครก็ตาม​ที่​ร้องเรียก​การ​ขึ้น​แท็กซี่​ ฉัน​จะบีบ​คอ​คน​นั้น​”

ฟางจั๋ว​หรา​น​ยิ้ม​ หลังจาก​ได้ยิน​ดังนั้น​เขา​ก็​หยิบ​กระเป๋า​เงิน​ออกมา​และ​รีบ​ไป​ชำระ​ค่า​อาหาร​ก่อน​เธอ​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เดิน​จับมือ​กัน​ออก​มาจาก​ร้านอาหาร​

หลิน​ม่าย​มอง​ขนม​ใน​ร้าน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะเบน​สายตา​ไป​ยัง​ร้านขายเสื้อผ้า​

เธอ​จะไม่ยอม​ซื้อ​ของ​ที่​ไม่จำเป็น​ ดังนั้น​จึงทำได้​เพียง​ยืน​มอง​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ติดตาม​เธอ​อย่าง​อดทน​และ​บอก​กับ​เธอ​ว่า​หาก​ต้องการ​ซื้อ​อะไร​ก็​ให้​ไป​ยัง​ห้างสรรพสินค้า​เพื่อ​ซื้มาโดย​ไม่ต้อง​เสียดาย​เงิน​

มัน​เจ็บปวด​มาก​สำหรับ​ฟางจั๋วเยวี่ย​ที่​เดิน​ตามหลัง​พวกเขา​ซึ่งเป็น​คู่รัก​ และ​ในที่สุด​ก็​เดิน​กลับ​ไป​ยัง​โรงแรม​คนเดียว​

หลิน​ม่าย​และ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เดินเล่น​กัน​จนถึง​ประมาณ​สี่ทุ่ม​ก่อน​จะกลับ​โรงแรม​

ฟางจั๋ว​หรา​น​ถือ​ถุงกระดาษ​และ​รองเท้า​หรูหรา​หลาย​ใบ​ไว้​ใน​มือ​

สิ่งอำนวยความสะดวก​ของ​โรงแรม​ใน​ฮ่องกง​นั้น​ดีมาก​

หลิน​ม่าย​อาบน้ำ​อย่าง​สบาย​ตัว​แล้ว​นอน​บน​เตียง​อย่าง​สบายใจ​

เมื่อ​ฟางจั๋ว​หรา​น​เข้านอน​ เธอ​ก็​นอน​หนุน​ตัก​เขา​อย่าง​สบายใจ​

ขณะที่​ฟางจั๋ว​หรา​น​รู้สึก​ไม่ค่อย​สบาย​ตัว​นัก​ เขา​ใช้เวลา​อีก​คืน​ไป​กับ​ความหวาน​ชื่น​และ​ทรมาน​

………………………………………………………………………………………………………………………….

สาร​จาก​ผู้แปล​

ค่า​อาหาร​โหด​มาก​ กระเป๋าเบา​เลย​ทีเดียว​ แต่​ใน​เมื่อ​มาถึงที่​แล้วก็​ต้อง​กิน​ให้​คุ้ม​ล่ะ​นะ​

ไหหม่า​(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80

แม่ปากร้ายยุค​ 80

Score 10
Status: Completed
หลินม่ายได้กลับมาเกิดใหม่ในวันแต่งงานของตัวเอง​ และพบว่าทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตัวเองหรือครอบครัวสามีต่างก็ยังเป็นเศษสวะกันเหมือนเดิม​ แต่ขอโทษเถอะ…หลินม่ายคนนี้ไม่ใช่หลินม่ายคนเดิมแล้ว​ ใครหน้าไหนมารังแกฉัน​ คราวนี้แม่จะซัดให้หงาย​​ จะงัดมารยาสาไถทุกกระบวนมาใช้แก้เผ็ดมันให้หมด! จากนั้นก็จะหย่ากับสามีกะหลั่วแยกตัวออกมาสร้างฐานะแบบสวยๆ​ ไม่ต้องสนใจใครอีกแล้ว!

Options

not work with dark mode
Reset