เล่ห์รักกลกาล 87

ตอนที่ 87
ตอนที่ 87 เตี้ยนเซี่ย แม่นางเยี่ยเม่ยต้องอยากทุบตีท่านแน่

 

 

 

เขาเอ่ยเช่นนี้ออกมา สายตาจิ่วหุนฉาบไปด้วยความดุดันอีกครั้ง

 

 

เยี่ยเม่ยปรายตามองเป่ยเฉินเสียเยี่ยนอย่างจนคำพูด เตือนเสียงเย็นชา “ข้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเรา เป็นเพียงแค่สหาย ท่านอย่าได้เอาแต่คิดเองเออเองพูดถึงแต่สามีเป็นใหญ่ ภรรยาเป็นใหญ่… ”

 

 

นางเอ่ยออกไปเช่นนี้ สีหน้าจิ่วหุนสงบลงทันที ท่าทางอยากยกดาบสังหารคนแบบเมื่อครู่ก็ไม่มีแล้ว

 

 

อวี้เหว่ยหลงคิดว่าเมื่อเตี้ยนเซี่ยได้ฟังประโยคนี้แล้วจะหน้าเปลี่ยนสี จนถึงกระทั่งเกิดโทสะ

 

 

คิดไม่ถึงว่า เป่ยเฉินเสียเยี่ยนฟังแล้วกลับยิ้มออกบางๆ ท่าทางน่าสงสารก็หายไปไม่เหลืออีก มองเยี่ยเม่ยด้วยสายตาล้ำลึก เอ่ยช้าๆ ว่า “คิดเองเออเองหรือไม่ ถกเถียงกันในยามนี้นับว่าเร็วไป เยี่ยนมีเวลาและความอดทนมากพอเพื่อให้แม่นางเยี่ยเม่ยยอมรับเยี่ยน”

 

 

เยี่ยเม่ยคร้านตอบโต้ ถอนสายตากลับมา

 

 

ถกเถียงกันในตอนนี้ก็เร็วเกินไปจริงๆ เพราะยามนี้นางไม่มีความรู้สึกชอบเขาเลยสักน้อย แต่ก็มีความรู้สึกดีๆ ให้หลายส่วน

 

 

เยี่ยเม่ยมองหลูเซียงฮั่ว สั่งการว่า “จับตาดูคนของต้ามั่วไว้ หากราบรื่นละก็ คืนนี้พวกเราจะบุกโจมตี”     

 

 

 “ขอรับ” หลูเซียงฮั่วรีบรับคำสั่ง

 

 

ในเวลานี้ ซือหม่าหรุ่ยเดินเข้ามาแล้ว ทั้งได้ยินคำสั่งของเยี่ยเม่ยที่มีต่อหลูเซียงฮั่ว

 

 

นางมองเยี่ยเม่ย ถามขึ้น “แม่นางเยี่ยเม่ย หากพวกเจ้าจะลงมือในคืนนี้ ข้ากับซินเยว่เยี่ยนจะฉวยโอกาสชุลมุนลอบเข้าค่ายทหาร เพื่อหาตัวโย่วอี้อ๋องแห่งต้ามั่ว สอบถามร่องรอยของพี่ชายบุญธรรม ไม่ทราบแม่นางอนุญาตให้พวกเราติดตามไปในคืนนี้ได้หรือไม่”   

 

 

เยี่ยเม่ยปรายตามองนาง ตอบรับ “พวกเจ้าอยากไปตอนไหนก็ได้ หากไม่ทำลายแผนการของข้า”

 

 

 “ดี” ซือหม่าหรุ่ยพยักหน้า ส่งสายตามองซินเยว่เยี่ยนทีหนึ่ง

 

 

ซินเยว่เยี่ยนก็พยักหน้า มองตอบ “กลับไปเตรียมตัวลงมือคืนนี้”

 

 

จากนั้น เยี่ยเม่ยก็มองซินเยว่เยี่ยน พยักหน้าให้อีกฝ่าย กล่าวขอบคุณเสียงนิ่ง “ขอบคุณเคล็ดวิชาของเจ้ามาก ข้าขอตัวไปพักผ่อนแล้ว”

 

 

คืนนี้ยังมีศึกอีก นางกลับไปพักผ่อนก่อน

 

 

 “ไม่ต้องเกรงใจ จำเรื่องที่เจ้ารับปากข้าก็พอ” ซินเยว่เยี่ยนกระพริบตาปริบใส่เยี่ยเม่ยด้วยสีหน้าพึงพอใจ

 

 

ซือหม่าหรุ่ยมองเยี่ยเม่ยด้วยความแปลกใจ จากนั้นมองซินเยว่เยี่ยน คิดไม่ถึงเลยว่าเยี่ยเม่ยจะได้รับการยอมรับจากซินเยว่เยี่ยนได้รวดเร็วเช่นนี้

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนกลับใช้สายตาอีกอย่างมองซินเยว่เยี่ยน แววตาปีศาจนั้นทำให้ซินเยว่เยี่ยนตัวสั่นเล็กน้อย นางไม่เอ่ยมากความ เอ่ยเสียงดังว่า “ข้ายังมีเรื่องอีก ขอตัวก่อน”

 

 

สิ้นคำพูด นางดึงซือหม่าหรุ่ยรีบทะยานออกไป

 

 

เยี่ยเม่ยไม่ใส่ใจอีก หมุนกายเตรียมจากไป เอ่ยกับทุกคนว่า “นอกจากกินข้าว เรื่องอื่นไม่ต้องเรียกข้า”

 

 

สิ้นเสียง นางเห็นสายตาของเป่ยเฉินเสียเยี่ยนมองมาที่ใบหน้านางด้วยความพินิจพิเคราะห์อย่างตั้งใจ

 

 

เยี่ยเม่ยชะงักฝีเท้า หันหน้ากลับไปมองเขา ยื่นมือออกไปอย่างงุนงง จับใบหน้าตัวเอง ถามว่า “หน้าข้ามีอะไรติดอยู่หรือ”

 

 

 “ไม่มี” เป่ยเฉินเสียเยี่ยนค่อยๆ หัวเราะ กล่าวว่า “จู่ๆ พลันรู้สึกว่า ความจริงแล้วรูปโฉมของแม่นางเยี่ยเม่ยแสนธรรมดา ห่างจากความงดงามของเยี่ยนมากนัก”

 

 

ทุกคน “…?”

 

 

อวี้เหว่ยเบือนหน้ามองเตี้ยนเซี่ยของเขาอย่างแปลกใจ หรือว่าเตี้ยนเซี่ยสำนึกได้ว่าการกระทำที่เขาปล่อยงูคราวก่อนไม่ถูกต้อง คราวนี้จึงคิดใช้คิดวิธีเช่นนี้เพื่อ…

 

 

เยี่ยเม่ยเลิกคิ้ว ความจริงในใจเริ่มเกิดโทสะ

 

 

เมื่อพิจารณาใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายของเป่ยเฉินเสียเยี่ยน มีความสง่างามราวเทพบุตรและกลิ่นอายชั่วร้ายราวปีศาจจากโบราณกาล ถึงแม้ตัวนางก็นับเป็นสาวงาม แต่หากเอ่ยกันตามตรงแล้วก็ยังห่างกับเขามาก

 

 

ดังนั้นเมื่อต้องยอมรับความจริงนี้ ในใจนางย่อมไม่ยินดี แต่สุดท้ายก็ไม่คัดค้านออกไป

 

 

นางสูดลมหายใจลึก มองเขา น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ถาม “ท่านคิดเอาอย่างไรกันแน่ ท่านจะแสดงออกว่าอะไร เป้าหมายของท่านคืออะไร”

 

 

เมื่อเอ่ยไป เยี่ยเม่ยยังคิดถึงเรื่องที่เขาปล่อยงูใส่ที่นอนนาง

 

 

คิดไปแล้ว เยี่ยเม่ยก็เสริมขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “บางทีท่านคงอยากให้ข้าคิดบัญชีสองเรื่องไปพร้อมกันเลย ทำไมถึงปล่อยงูไว้ที่เตียงข้า”

 

 

เห็นน้ำเสียงนางไม่พอใจ สีหน้าไม่เป็นมิตร แม้กระทั่งคำพูดที่ออกมายังแสดงออกว่านางไม่พอใจ

 

 

องค์ชายสี่เลิกคิ้วสูง พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น ทว่าเขายังยิ้มสง่างาม ตอบตามตรงสบายๆ ว่า “เรื่องนี้ แม่นางเยี่ยเม่ยยังดูไม่ออกอีกหรือ เยี่ยนทำเรื่องพวกนี้ เอ่ยคำพูดเหล่านี้ ความจริงก็เพื่อเรียกร้องความสนใจของแม่นาง”

 

 

อวี้เหว่ย “…”

 

 

เป็นดังคาด เขาเข้าใจไม่ผิด นับตั้งแต่ได้รับการสั่งสอนเรื่องงูคราวก่อน เรื่องเรียกร้องความสนใจจากสตรีของเตี้ยนเซี่ยไม่มีความก้าวหน้าเลยสักน้อย เขากลอกตา ยืนมองเงียบๆ เช็ดเหงื่อเม็ดโป้งบนหน้าผากตน…  

 

 

ทุกคน “…?”

 

 

เมื่อเห็นคนทั้งหลายสีหน้าว่างเปล่า โดยเฉพาะอวี้เหว่ยที่กลอกตาไม่หยุด จนถึงยื่นมือออกมาเช็ดเหงื่อ

 

 

อย่างไรเสียเป่ยเฉินเสียเยี่ยนหาใช่คนโง่ เข้าใจได้ทันทีว่าเขาน่าจะใช้วิธีผิดอีกแล้ว

 

 

แล้วก็เป็นดังคาด เมื่อเยี่ยเม่ยฟังจบ เพียงมองเขาหัวเราะเสียงเย็นชา สายตาคมกริบราวใบมีด “จริงหรือ ท่านทำเพื่อดึงดูดความสนใจของข้า? ข้าเกือบเข้าใจผิดคิดว่าท่านต้องการเป็นศัตรูกับข้า”

 

 

เมื่อเอ่ยจบ นางก็เดินจากไป

 

 

ไม่อาจไม่พูดว่า สำหรับสตรีนางหนึ่งแล้ว นางเกลียดที่ผู้อื่นบอกว่าตัวเองนางหน้าตาธรรมดา หรือไม่ก็งามสู้ใครไม่ได้ ต่อให้เรื่องนั้นจะเป็นจริงก็ตาม นางก็ไม่ชอบฟัง คิดจะด่าเขาสักคำ

 

 

แต่ที่ทำให้นางแปลกใจก็คือ เมื่อนางฟังจบก็โมโหมาก แต่กลับไม่พุ่งเข้าไปลงมือกับเขา เมื่อคิดถึงจุดนี้นางก็เดินจากไปไกลแล้ว กลับไปลงมือก็ไม่ดีแน่ ได้แต่สะกดความรู้สึกไว้

 

 

จิ่วหุนเองก็หันหน้ามามองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน สายตาไม่อยากเชื่อ สุดท้ายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีหน้าวางใจ เอ่ยต่อไปอีกประโยคว่า “เห็นท่านโง่งมขนาดนี้ ข้าก็วางใจแล้ว”

 

 

โดยเฉพาะคนที่ล้อมอยู่ด้านข้าง ใช้สายตาประเภทมอง ‘อัจฉริยะบุคคล’ มองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ต่างคนต่างกลืนน้ำลายลงคออย่างจนปัญญาและหวาดกลัว พากันประสานมือกล่าวว่า “ข้าน้อยขอตัวก่อน”

 

 

 “ข้าน้อยขอตัวก่อน”

 

 

คนทั้งหมดคล้ายนกแตกออกจากรังจากไปจนหมดสิ้น

 

 

อวี้เหว่ยอดไม่ไหวมองเตี้ยนเซี่ยของตนที่คล้ายตระหนักได้ว่าเอ่ยคำผิดไปแล้ว กุมหน้าผากเอ่ยว่า “เตี้ยนเซี่ย ท่านช่วยแม่นางเยี่ยเม่ยสั่งสอนองค์ชายใหญ่ ความรู้สึกดีๆ ที่อยู่ในใจนาง เกรงว่าจะถูกคำพูดเมื่อครู่ของท่านลบล้างจนหมดสิ้นแล้ว” 

 

 

เมื่อเป่ยเฉินเสียเยี่ยนฟัง ใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายเผยความครุ่นคิดและไม่เข้าใจ แต่มิได้เอ่ยอะไร

 

 

อวี้เหว่ยเอ่ยต่ออีกว่า “กลัวว่าจะไม่ใช่เพียงเท่านั้น ตอนนี้นางคงอยากต่อยตีท่านแน่ ไม่แน่จะผูกความแค้นกับท่านแล้ว”

 

 

อวี้เหว่ยพูดไป ตัวเขาเองอยากร้องไห้ดังๆ ให้กับวิธีการจีบสตรีของเตี้ยนเซี่ยขึ้นมาบ้าง

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนนิ่งเล็กน้อย ก่อนมองอวี้เหว่ย ค่อยๆ ถาม “คำพูดของเยี่ยนเมื่อครู่โง่เขลานักจริงๆ หรือ ไม่อาจดึงความความสนใจของแม่นางเยี่ยเม่ยได้สักน้อยเลยหรืออย่างไร

 

 

           “ไม่” อวี้เหว่ยส่ายหน้า เขาอยากร้องออกมาแล้ว “โง่เขลาจริงไม่ผิดแน่ ทว่ายังดึงความสนใจไว้ได้ เพียงแต่ที่ดึงดูดมาล้วนเป็นความเลวร้าย ลองคิดดู จะมีสตรีนางใดที่ชอบบุรุษที่บอกว่านางหน้าตาธรรมดาบ้าง ท่านช่าง…ท่านลองคิดดูเถิดว่าจะแก้ไขอย่างไร”

เล่ห์รักกลกาล

เล่ห์รักกลกาล

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 121 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ขณะเดินทางกลับจากทำภารกิจ เฮลิคอปเตอร์ที่ เยี่ยเม่ย นักฆ่าสาวจากโลกปัจจุบันนั่งก็ปะทะเข้ากับพายุและเกิดการขัดข้องจนตกลงไปในน้ำวนบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นั่นยังไม่น่าแปลกเท่าไหร่ สิ่งที่ประหลาดกว่านั้นคือเธอกลับทะลุมิติเข้ามาอยู่ในยุคโบราณที่ไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์หน้าไหนๆ และได้พบกับเขา ชายหนุ่มฉายาปีศาจร้ายกระหายเลือดผู้เป็นองค์ชายสี่แห่งราชวงศ์เป่ยเฉิน เป่ยเฉินเสียเยี่ยน การพบกันของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นในการไขปริศนาความทรงจำที่หายไปของเยี่ยเม่ย เพราะอะไรเธอถึงต้องมาที่นี่และตัวเธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกนี้ ปริศนานี้เธอจะต้องไขมันให้ได้

กล่าวกันว่าความบังเอิญไม่มีในโลก หรือบางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของเธอ?

Options

not work with dark mode
Reset