เล่ห์รักกลกาล 333 นางไม่อาจสู้เจ้าได้

ตอนที่ 333 นางไม่อาจสู้เจ้าได้

 

 

ชายแดน

 

 

เยี่ยเม่ยกำลังนั่งกินข้าวกับเสินเซ่อเทียน หมูหันร้านนี้รสชาติไม่เลวเลยจริงๆ ความสามารถในการหาของอร่อยของเฉิงเสี่ยวจวนก็ไม่เลวเลยเช่นกัน

 

 

ในขณะที่คนทั้งสองกำลังกิน

 

 

เฉิงเสี่ยวจวนมองอยู่ด้านข้างด้วยความอิจฉา หลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่ว่ากินอย่างไรจวินซ่างก็ไม่อ้วน ทำไมเยี่ยเม่ยที่เป็นสตรีนางหนึ่ง กินเนื้อคำโตขนาดนี้โดยไม่กังวลว่าตัวเองจะอ้วนเลยสักน้อย

 

 

โดยเฉพาะ

 

 

เมื่อเฉิงเสี่ยวจวนสำรวจเยี่ยเม่ย นางมีรูปร่างสมส่วนมาก ส่วนที่ควรสมบูรณ์ก็สมบูรณ์ ส่วนใดที่สมควรบอบบางก็บอบบาง เป็นรูปร่างดีสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ

 

 

ในใจเฉิงเสี่ยวจวนอิจฉาอยู่บ้างเล็กน้อย

 

 

นางรู้สึกว่าตัวเองที่อยู่บ้านดื่มแต่น้ำเปล่ายังอ้วนได้ หากมิใช่ต้องออกตระเวนไปทั่วหล้าอยู่ตลอด ทำให้เหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากจึงส่งผลให้น้ำหนักลด มิเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าตัวเองอ้วนไปถึงขั้นไหนแล้ว

 

 

ในขณะคิด

 

 

เซียวเยว่ชิงมาถึงโรงเตี๊ยม เอ่ยปากว่า “แม่นางเยี่ยเม่ย ท่านหญิงเหยาฉือมาแล้ว!”

 

 

“ท่านหญิงเหยาฉือ?” เยี่ยเม่ยมองเซียวเยว่ชิง ทำไมไม่เคยได้ยินชื่อคนผู้นี้เลย มีความสัมพันธ์อะไรกับซือถูเฉียงหรือไม่

 

 

เซียวเยว่ชิงรีบอธิบาย “ท่านหญิงเหยาฉือคือธิดากำพร้าของตระกูลมู่หรง ตระกูลนางจงรักภักดีมาทุกยุคสมัย ดังนั้นหลังจากบิดานางเสียชีวิต ฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้นางเป็นท่านหญิง”

 

 

ระหว่างเล่าน้ำเสียงเซียวเยว่ชิงแฝงไปด้วยความเคารพนับถือ นั่นคือความนับถือที่มีต่อตระกูลมู่หรงที่จงรักภักดี ดังนั้นเขาจึงเคารพต่อมู่หรงเหยาฉืออยู่หลายส่วน

 

 

ไม่ว่าจะเอ่ยอย่างไร นางก็เป็นทายาทที่เหลืออยู่ของแม่ทัพมู่หรง

 

 

“อ้อ ข้าทราบแล้ว” เยี่ยเม่ยไม่สนใจ ถามอีกประโยคว่า “นางมาทำไม ฝ่าบาทต้องให้ท่านหญิงผู้หนึ่งมานำทัพแทนข้าหรือ”

 

 

นางรู้สึกว่าฮ่องเต้คงไม่ได้โง่ปานนี้กระมัง

 

 

เซียวเยว่ชิงรีบพยักหน้า ตอบ “มิใช่ ท่านหญิงบอกว่านางมาเที่ยวเล่นที่ชายแดนเท่านั้น”

 

 

เมื่อเขาตอบ เยี่ยเม่ยมุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย

 

 

ต่อให้จะมาเที่ยวเล่น ไม่เลือกสถานที่ที่ทิวทัศน์สวยงามก็ไม่สมควรเลือกมาชายแดนหรอกกระมัง ที่นี่อย่าว่าแต่ไม่มีอะไรน่าสนุกเลย เลือดยังไหลนองส่งกลิ่นคาวคลุ้ง ไม่รู้ว่าคนจะตายเมื่อใดด้วยซ้ำ นางจะมาเที่ยวเล่นที่นี่จริงๆ อย่างนั้นหรือ

 

 

เยี่ยเม่ยหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ “ดูท่านางไม่คิดหาเหตุผลจริงๆ จังๆ ตอบก็ตามใจนางเถอะ นางอยากทำอะไรก็ทำ”

 

 

เซียวเยว่ชิงรู้ว่าเยี่ยเม่ยมีนิสัยเช่นนี้เสมอ ดังนั้นเห็นเยี่ยเม่ยไม่เกรงใจท่านหญิงเหยาฉือก็ไม่พูดอะไร

 

 

กลับถามว่า “ท่านหญิงเหยาฉือบอกว่า ได้ยินว่าท่านเป็นวีรสตรีแห่งชายแดน เป็นบุคคลที่เหล่าทหารเคารพนับถือ ดังนั้นจึงอยากพบท่านสักครั้ง”

 

 

“บอกนางว่าข้ากำลังกินหมูหัน ไม่ว่าง” เยี่ยเม่ยตอบแล้วก็ยัดเนื้อเข้าปากคำหนึ่ง

 

 

มุมปากเซียวเยว่ชิงกระตุกเล็กน้อย

 

 

ความจริงในการคาดเดาของเขา ไม่ว่าเยี่ยเม่ยมีนิสัยแบบไหน แต่ยามนี้มีจวินซ่างนั่งอยู่ นางไม่มีทางไปพบท่านหญิงเหยาฉือ ไม่ว่าอย่างไรหน้าของท่านหญิงเหยาฉือจะเทียบกับจวินซ่างได้อย่างไร ในโลกนี้คงไม่มีใครเห็นแก่มู่หรงเหยาฉือท่านหญิงผู้หนึ่ง สลัดจวินซ่างทิ้งไปไม่ใส่ใจได้

 

 

“อย่างนั้นข้าจะกลับไปรายงานนาง” เซียวเยว่ชิงลอบถามหยั่งเชิงว่า “แต่ว่าแม่นางเยี่ยเม่ย ท่านพอจะบอกได้หรือไม่ว่าเมื่อไรมีเวลาว่างพบนาง”

 

 

เห็นเซียวเยว่ชิงยืนหยัดขนาดนี้ เยี่ยเม่ยกลับแปลกใจ

 

 

นางจ้องเซียวเยว่ชิง ถามว่า “ทำไมข้าต้องไปพบนางด้วย”

 

 

“นี่…” เซียวเยว่ชิงพลันสะอึกไปแล้ว ก็ไม่แปลก แม่นางเยี่ยเม่ยไม่มีเหตุผลให้พบท่านหญิงเหยาฉือให้ได้จริงๆ

 

 

ฝ่ายเยี่ยเม่ยรีบเอ่ยต่อว่า “นางคิดคบหากับข้าหรือ”

 

 

“ก็มิใช่!” เซียวเยว่ชิงเข้าใจแล้ว ไม่รู้ว่าสมองเขาถูกลาเหยียบเละไปแล้วหรือไง แม่นางเยี่ยเม่ยไม่รู้จักท่านหญิงเหยาฉือเลยด้วยซ้ำ ทำไมต้องไปพบอีกฝ่ายด้วยเล่า

 

 

เขาเพียงหลงคิดว่า ท่านหญิงเหยาฉือเป็นสตรีที่ใจกว้าง แม่นางเยี่ยเม่ยอาจชอบ บางทีอาจยินยอมไปพบสักครั้งก็เท่านั้นเอง

 

 

เวลานี้ดูท่าเขาคงคิดมากไปเอง แม่นางเยี่ยเม่ยยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านหญิงเหยาฉือเป็นคนใจกว้างเลย

 

 

เซียวเยว่ชิงรีบตอบว่า “อย่างนั้นข้าขอตัวก่อน!”

 

 

เซียวเยว่ชิง เอ่ยจบก็หมุนกายจากไปแล้ว

 

 

เสินเซ่อเทียนฟังถึงยามนี้ พลันยิ้มออกมา น้ำเสียงทรงอำนาจแฝงไปด้วยความน่าเชื่อถือ เอ่ยว่า “ดูท่านางจริงใจกับเจ้าหนูนั่นจริงๆ! ออกเดินทางหลังจากข้าสองสามวัน กลับมาถึงชายแดนเวลาใกล้เคียงกับข้า!”

 

 

เฉิงเสี่ยวจวนกลอกตาทีหนึ่ง นั่นคงไม่ใช่เพราะผู้อื่นเดินทางไวหรอก ท่านเองต่างหากที่พบของอร่อยระหว่างทางหลายรอบจนเดินต่อไปไม่ไหว กินจนพอใจแล้วค่อยเดินทาง ในใจท่านไม่รู้บ้างหรือไง

 

 

เยี่ยเม่ยชะงักงัน

 

 

ดังนั้นเสินเซ่อเทียนหมายความว่า ท่านหญิงเหยาฉือผู้นี้มาเพราะเป่ยเฉินเสียเยี่ยนอีกแล้วอย่างนั้นหรือ

 

 

คิดถึงยามนี้ นางได้แต่หัวเราะเย็นชา เอ่ยปากว่า “น่าเสียดายนักเป่ยเฉินเสียเยี่ยนออกจากชายแดนไปได้หลายวันแล้ว นางมาก็ไม่อาจพบคนที่อยากพบ รอนแรมมาถึงชายแดนนับพันลี้ ผลคือไม่ได้พบใครทั้งนั้น ข้ารู้สึกเห็นใจนางเหลือเกิน!”

 

 

พูดว่าเห็นใจ แต่ว่าหัวใจเยี่ยเม่ยยังไม่พอใจนัก นางรู้ว่าเป่ยเฉินเสียเยี่ยนมีวาสนาด้านความรักไม่ใช่แย่ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องซือถูเฉียงคนหนึ่งยังไม่ทันสะสางหมด ก็มีท่านหญิงเหยาฉือโผล่มาอีกแล้ว

 

 

เพียงแต่หวังว่าสตรีนางนี้จะสงบเสงี่ยม อย่าได้เพิ่มความวุ่นวายให้กับนาง

 

 

คิดถึงตรงนี้ นางก็ดื่มสุราอย่างกลุ้มใจคำหนึ่ง

 

 

ท่าทางดื่มสุราของเยี่ยเม่ย ตกอยู่ในสายตาของเสินเซ่อเทียนทำให้เขาเข้าใจว่า ในใจเยี่ยเม่ยไม่ว่าอย่างไรก็มีที่ว่างสำหรับเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ต่อให้พวกเขาเลิกรากันแล้วก็ตาม

 

 

แต่ว่าเขาก็ไม่ถามมาก

 

 

ทว่าค่อยๆ เล่าว่า “มู่หรงเหยาฉือผู้นี้เป็นอัจฉริยะหญิงอันดับหนึ่งแห่งเป่ยเฉิน รูปงาม ฉลาดหลักแหลม มีความรู้ความสามารถ เป็นต้นแบบสตรีที่เพียบพร้อม ในเมืองหลวงบุรุษที่คิดแต่งงานกับนางมีจำนวนมาก กระทั่งเป่ยเฉินอี้ ก็รู้สึกดีกับนางเช่นกัน”

 

 

เสินเซ่อเทียนทางหนึ่งก็กินหมูหันด้วยท่าทางสง่างาม อีกทางหนึ่งก็เล่าเรื่องเหล่านี้ให้เยี่ยเม่ยฟัง

 

 

เยี่ยเม่ยปรายตามองเขา ถาม “เจ้าเองก็คิดแต่งงานกับนางหรือ”

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” เสินเซ่อเทียนพลันหัวเราะออกมา น้ำเสียงทรงพลังแฝงไปด้วยความหยอกเอิน จ้องมองเยี่ยเม่ย “คนที่ข้าคิดตบแต่งด้วยคือใคร เจ้ามองไม่ออกหรือ”

 

 

ยามนี้เยี่ยเม่ยไม่ตอบ

 

 

ก็ถูก ป้ายคำสั่งของเสินเซ่อเทียนยังอยู่กับนาง ทั้งยังบอกว่าเป็นความจริงใจของเขาดังนั้นคิดโยนทิ้งก็ไม่อาจทิ้งได้

 

 

สตรีทั่วไปในเวลานี้สมควรประหม่าอยู่บ้าง

 

 

แต่สีหน้าของเยี่ยเม่ยไม่มีเงาของคำว่าประหม่าเลย ราวกับนางไม่รู้สึกว่าการสนทนาเรื่องการแต่งงานมีอะไรสมควรให้ขัดเขิน

 

 

นางเอ่ยว่า “ในเมื่อมู่หรงเหยาฉือดีเช่นนี้ ทำไมเจ้าไม่ชอบนาง ในเมื่อคนมากมายชอบนางไม่ใช่หรือ”

 

 

แววตาของเสินเซ่อเทียนเจือรอยยิ้ม ตอบตามสัตย์ “แต่ข้าคิดว่านางสู้เจ้าไม่ได้”

 

 

“สู้ไม่ได้ที่ใดกัน” เยี่ยเม่ยมองเขา จากความเคารพที่เซียวเยว่ชิงมีต่อมู่หรงเหยาฉือ นางรู้สึกไม่สบายใจเท่าไร มู่หรงเหยาฉือผู้นี้บางทีอาจไม่ใช่สตรีธรรมดาๆ แล้ว

เล่ห์รักกลกาล

เล่ห์รักกลกาล

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 121 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ขณะเดินทางกลับจากทำภารกิจ เฮลิคอปเตอร์ที่ เยี่ยเม่ย นักฆ่าสาวจากโลกปัจจุบันนั่งก็ปะทะเข้ากับพายุและเกิดการขัดข้องจนตกลงไปในน้ำวนบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นั่นยังไม่น่าแปลกเท่าไหร่ สิ่งที่ประหลาดกว่านั้นคือเธอกลับทะลุมิติเข้ามาอยู่ในยุคโบราณที่ไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์หน้าไหนๆ และได้พบกับเขา ชายหนุ่มฉายาปีศาจร้ายกระหายเลือดผู้เป็นองค์ชายสี่แห่งราชวงศ์เป่ยเฉิน เป่ยเฉินเสียเยี่ยน การพบกันของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นในการไขปริศนาความทรงจำที่หายไปของเยี่ยเม่ย เพราะอะไรเธอถึงต้องมาที่นี่และตัวเธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกนี้ ปริศนานี้เธอจะต้องไขมันให้ได้

กล่าวกันว่าความบังเอิญไม่มีในโลก หรือบางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของเธอ?

Options

not work with dark mode
Reset