เล่ห์รักกลกาล 182 เสด็จแม่ตาถั่วไปแล้วหรือยังไง

ตอนที่ 182 เสด็จแม่ตาถั่วไปแล้วหรือยังไง

“ฮองเฮามีพระราชเสาวนีย์ องค์ชายสี่เป่ยเฉินเสียเยี่ยน เยี่ยเม่ยรับพระราชเสาวนีย์” 

 

 

หลังจากเสียงสูงของขันที เยี่ยเม่ยก็เลิกคิ้วขึ้น ฮองเฮาผู้นี้ข่าวสารแม่นยำเสียจริง ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงตอนนี้ นางบอกชื่อกับ เป่ยเฉินเสียเยี่ยนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนั้นมีบ่าวอยู่แค่ไม่กี่คน คิดไม่ถึงเลยว่าข่าวนี้ถ่ายทอดไปถึงพระกรรณฮองเฮาได้เร็วนัก 

 

 

หลังจากประโยคนั้นของขันทีจบลง เขาก็มองเป่ยเฉินเสียเยี่ยนอย่างระวัง หัวเราะด้วยความประหม่า “องค์ชายสี่ ข้าน้อยล่วงเกินแล้ว” 

 

 

เห็นได้ชัดเลยว่าเขาเอ่ยคำขอโทษ ก็เพราะตามธรรมเนียมการประกาศพระราชเสาวนีย์จำเป็นต้องเรียกชื่อของเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ออกมาตามตรง 

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนเลิกคิ้วเรียว สายตาแฝงไปด้วยความสนใจ ถามเนิบๆ ว่า “ในพระราชเสาวนีย์นี้ยังมีเรื่องของเยี่ยนด้วยหรือ” 

 

 

 “พ่ะย่ะค่ะเตี้ยนเซี่ย” ขันทีรีบตอบรับทันที 

 

 

ยามนี้อวี้เหว่ยเลิกคิ้วสูงอย่างทนไม่ไหว พระราชเสาวนีย์ฉบับเดียวมีทั้งเรื่องของเตี้ยนเซี่ยและแม่นางเยี่ยเม่ย หรือว่าฮองเฮาจะพระราชทานสมรสให้องค์ชายสี่กับแม่นางเยี่ยเม่ย  

 

 

แต่ฮองเฮามีเมตตาเพียงนี้เชียวหรือ 

 

 

อวี้เหว่ยแปลกใจ 

 

 

ในขณะที่สงสัยนั้น เป่ยเฉินเสียเยี่ยนกวาดตามองขันทีที่นำพระราชเสาวนีย์มาคำรบหนึ่ง น้ำเสียงเบาสบายค่อยๆ กล่าวว่า “อ่านเถอะ รีบฉวยโอกาสตอนที่เยี่ยนยังมีอารมณ์ฟังอยู่” 

 

 

เยี่ยเม่ยเบือนหน้ามองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน เห็นเขามีท่าทีคล้ายไม่ใส่ใจ ไม่มีแววจะทำการคารวะเลยสักน้อย นางค่อยวางใจ ก็ดีเหมือนกัน นางก็ไม่คิดจะทำการคารวะ 

 

 

ยามนี้ขันทีน้อยยังมีเวลาใส่ใจว่าคนทั้งสองแสดงความเคารพหรือไม่ที่ไหนกัน ทั้งไม่สนใจว่าพวกเขาทำได้ถูกต้องตามระเบียบหรือเปล่า ยามนี้เขาคิดเพียงอ่านพระราชเสาวนีย์ในมือให้จบโดยไว 

 

 

จากนั้นมีชีวิตรอดกลับไป  

 

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงกางพระราชเสาวนีย์ในมือออก เริ่มอ่านว่า “ฮองเฮามีรับสั่ง…” 

 

 

เยี่ยเม่ยหาวหวอด ฟังขันทีน้อยเอ่ยถึงชื่อตัวนางอย่างรวดเร็ว บอกว่านางมีสติปัญญา มากด้วยคุณธรรม ทั้งยังชื่นชมนางอีกมากมายก่ายกอง นางเพียงรู้สึกว่าพระราชเสาวนีย์ฉบับนี้ รวมถึงฮองเฮาผู้นี้อธิบายตัวนางเอาไว้ได้ไม่เลว 

 

 

จากนั้นประโยคสุดท้ายกลับบอกว่า “พระราชทานสมรสให้เป็นพระชายารององค์ชายใหญ่” 

 

 

 “ซี๊ด..” 

 

 

เหล่าทหารจำนวนไม่น้อยในที่นี้ล้วนสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ อย่าว่าแต่ความสัมพันธ์ที่แสดงออกอย่างชัดเจนของแม่นางเยี่ยเม่ยกับองค์ชายสี่เลย ต่อให้เป็นนิสัยของแม่นางเยี่ยเม่ย ที่หลายวันนี้พวกเขาได้ตระหนักชัด รู้ได้เลยว่านางไม่มีทางเป็นพระชายารองแน่  

 

 

แต่ว่า 

 

 

แม่นางเยี่ยเม่ยมีฐานะที่มาไม่ชัดเจน องค์ชายใหญ่คือคนที่มีโอกาสนั่งบัลลังก์มังกร อาศัยที่มาไม่ชัดเจนของนาง คิดเป็นฮองเฮามารดาของแผ่นดินนั้นเป็นไปไม่ได้ 

 

 

ทุกคนในที่นี้ต่างมีอาการ “ฮ่องเต้ไม่ร้อนใจแต่ขันทีรีบ” ต่างพากันช่วยเยี่ยเม่ยวิเคราะห์… 

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนเผยความดุร้ายออกมา เขาค่อยๆ ยกเท้าขึ้นแล้วกระทืบลงพื้น เพียงแค่การกระทำเบาๆ นั้น ก็ทำให้แสงสีแดงแผดส่องไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง 

 

 

ผู้ติดตามสองคนที่อยู่ด้านหลังขันทีผู้นั้น เวลานี้ถูกกระแสปราณนั้นจู่โจม ร่างกายแตกออกกลายเป็นผงธุลีกลางอากาศ เลือดสดกระเซ็นลงพื้น 

 

 

บุรุษจำนวนไม่น้อยเห็นฉากนี้ แทบสำรอกแห้งๆ ออกมา ทว่าเยี่ยเม่ยเป็นหญิงสาวที่นิยมการสังหารโหด มองฉากนี้ด้วยสีหน้าสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เพียงมีความพอใจอยู่ที่หว่างคิ้ว นั่นคือความไม่พอใจที่ฮองเฮาพระราชทานสมรสให้นางกับเป่ยเฉินเสียง ซ้ำยังเป็นพระชายารองอีก 

 

 

ขันทีผู้นั้นตกใจจนหน้าซีดเซียว 

 

 

เขาตัวสั่นงกหันกลับไปมองด้านหลังตน ผู้ติดตามสองคนที่ไม่เหลือแม้แต่ศพ น้ำคลอเต็มหน่วยตามองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน “องค์ชายสี่ เตี้ยนเซี่ย เตี้ยนเซี่ย บ่าว บ่าว….” 

 

 

เขารู้อยู่แก่ใจดีว่านี่คือการแสดงออกอย่างไม่พอใจของเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ทั้งเขาใจว่าเป็นการข่มขู่เขา แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าไม่เชื่อฟังฮองเฮานิ พระราชเสาวนีย์ยังเหลืออีกครึ่งฉบับ เขาสมควรอ่านต่อไปดีหรือไม่ 

 

 

เขากลัวเหลือเกิน กลัวว่าคนที่ไม่เหลือแม้แต่ศพรายต่อไปจะเป็นตนเอง 

 

 

เยี่ยเม่ยมองเป่ยเฉินเสียเยี่ยนทีหนึ่ง กลับพูดแทนขันทีผู้น่าสงสารผู้นั้นประโยคหนึ่ง “ไม่ต้องฆ่าคนหรอก เขาก็แค่มาถ่ายทอดรับสั่งเท่านั้น” 

 

 

ถึงเยี่ยเม่ยจะเอ่ยออกมา แต่คนทั้งหลายในที่นี้ต่างคิดว่า เป่ยเฉินเสียเยี่ยนไม่หยุดสังหารคนแน่ อย่างไรเสียยามที่องค์ชายสี่เกิดโทสะ แม้แต่ฝ่าบาทยังต้องหนีเอาตัวรอด ขันทีน้อยผู้มาถ่ายทอดพระราชเสาวนีย์กังวลว่า เมื่อเยี่ยเม่ยเอ่ยคำพูดนี้จบ จะยั่วโมโหจนองค์ชายสี่ลงมือสังหารคนหรือไม่ 

 

 

จากนั้นเรื่องที่ทำให้เขาตกตะลึงจนอ้าปากกว้างก็เกิดขึ้นโดยฉับพลัน 

 

 

เป่ยเฉินเสียเยี่ยนกลอกตามองเยี่ยเม่ย ใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายยังมีความเดือดดาล ทว่าเอ่ยอย่างร่วมมือ “เยี่ยนรู้แล้ว น้อมรับคำสั่งฮูหยิน” 

 

 

 “เอ๋” ขันที่น้อยผู้ส่งสารสงสัยว่าตนฟังผิดไปหรือเปล่า 

 

 

เหล่าหทารทั้งหลายพากันกระตุกมุมปาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นภาพหลังจากองค์ชายสี่โมโหแล้ว ยังมีคนควบคุมความโกรธของเขาไว้ได้ด้วย 

 

 

คิดไม่ถึงว่าคำพูดประโยคเดียวของแม่นางเยี่ยเม่ย ความอำมหิตจากร่างขององค์ชายสี่หายไปแล้ว 

 

 

เยี่ยเม่ยปรายตามองขันทีน้อย ถามเสียงเย็นชาว่า “ฮองเฮายังมีรับสั่งอะไรอีก เจ้าพูดมาเถอะ” 

 

 

เวลานี้เยี่ยเม่ยรู้สึกว่า เป่ยเฉินเสียเยี่ยนรังเกียจฮองเฮา ไม่ใช่เพราะไม่มีเหตุผล ในเวลานี้คนทั้งชายแดนต่างล่วงรู้ความสัมพันธ์ของนางกับเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ฮองเฮากลับส่งพระราชเสาวนีย์ฉบับนี้มา หรือว่าพระองค์กินอิ่มนอนหลับ อยากหาเรื่องกันแน่ 

 

 

ขันทีน้อยได้สติทันใด ไม่กล้ายืดเยื้ออีก รีบอ่านต่อไป “ซือถูเฉียงมีชาติกำเนิดสูงส่ง นิสัยดี…” 

 

 

จากนั้นก็เป็นคำสรรเสริญเยินยอซือถูเฉียงยกใหญ่ 

 

 

เยี่ยเม่ยตัดบทขันทีน้อย “เอ่ยแต่ประเด็นสำคัญ” 

 

 

 “เอ๋ ใจความสำคัญหรือ” ขันทีน้อยชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ตอบสนองได้ทันที รีบข้ามประโยคชื่นชมซือถูเฉียงไป อ่านประโยคสุดท้ายทันที “อ้อ นั่นคือพระราชทานสมรสให้ท่านหญิงซือถูเฉียงแต่งเป็นพระชายาองค์ชายสี่”  

 

 

คราวนี้ 

 

 

ความสงบเกิดขึ้นจนน่าหวาดกลัว 

 

 

แม้กระทั่งเหล่าทหารทั้งหลายที่รู้สึกไม่ดีต่อองค์ชายสี่ในใจยังคิดว่า ฮองเฮาลำเอียงเหลือเกิน  

 

 

แม่นางเยี่ยเม่ยแต่งให้กับองค์ชายใหญ่ เรียกว่าเกาะเบื้องสูงหรือว่าลดตัวพวกเขาไม่กล้าวิจารณ์ 

 

 

แต่ว่าก็เป็นคู่เหมาะสม ให้ท่านหญิงซือถูเฉียงแต่งงานเป็นพระชายาองค์ชายสี่ ถึงท่านหญิงจะฐานะสูงส่ง แต่พวกเขาต่างรู้ดีว่าท่านหญิงขาขาดแล้ว ซ้ำองค์ชายสี่ยังเป็นคนทำด้วย คนขาขาดเป็นพระชายาองค์ชายสี่ ฮองเฮาวิกลจริตไปแล้วหรือเปล่า 

 

 

พวกเขายังสงสัยด้วยซ้ำว่า องค์ชายสี่ไม่ใช่บุตรของฮองเฮาใช่หรือไม่ มีใครทำร้ายลูกชายแท้ๆ ของตัวเองแบบนี้ 

 

 

เยี่ยเม่ยฟังแล้ว ภายใต้ความโมโหกลับหัวเราะออกมา 

 

 

ก็ได้ 

 

 

พระราชเสาวนีย์ฉบับนี้เป็นงานสมรสสองคู่ ตัวนางต้องเป็นชายารองเป่ยเฉินเสียง ส่วนซือถูเฉียงเป็นพระชายาเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ยังไม่ต้องสนใจว่าใครเป็นคนพระราชทานสมรส เอาแค่เรื่องฐานะพระชายากับพระชายารอง ตามความหมายของฮองเฮาก็คือ นางไม่อาจสู้ซือถูเฉียงได้ หมายความเช่นนี้อย่างนั้นหรือ 

 

 

นางที่เห็นตัวเองสูงส่งมาตลอด เวลานี้ไม่อาจสะกดกลั้นเพลิงโทสะได้อีก หันขวับมองเป่ยเฉินเสียเยี่ยน ถามเสียงเย็นชาว่า “เสด็จแม่ของท่านตาถั่วหรือไง”  

 

 

 

เล่ห์รักกลกาล

เล่ห์รักกลกาล

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 121 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


ขณะเดินทางกลับจากทำภารกิจ เฮลิคอปเตอร์ที่ เยี่ยเม่ย นักฆ่าสาวจากโลกปัจจุบันนั่งก็ปะทะเข้ากับพายุและเกิดการขัดข้องจนตกลงไปในน้ำวนบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นั่นยังไม่น่าแปลกเท่าไหร่ สิ่งที่ประหลาดกว่านั้นคือเธอกลับทะลุมิติเข้ามาอยู่ในยุคโบราณที่ไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์หน้าไหนๆ และได้พบกับเขา ชายหนุ่มฉายาปีศาจร้ายกระหายเลือดผู้เป็นองค์ชายสี่แห่งราชวงศ์เป่ยเฉิน เป่ยเฉินเสียเยี่ยน การพบกันของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นในการไขปริศนาความทรงจำที่หายไปของเยี่ยเม่ย เพราะอะไรเธอถึงต้องมาที่นี่และตัวเธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับโลกนี้ ปริศนานี้เธอจะต้องไขมันให้ได้

กล่าวกันว่าความบังเอิญไม่มีในโลก หรือบางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาของเธอ?

Options

not work with dark mode
Reset