เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]บทที่ 1128 กุมภาแห่งความหมองหม่น

บทที่ 1128 กุมภาแห่งความหมองหม่น

บทที่ 1128 กุมภาแห่งความหมองหม่น

Content Warning: เนื้อหาบางส่วนมีความรุนแรง

บทที่ 1128 กุมภาแห่งความหมองหม่น

ตระกูลซูไม่ได้เกร็งกับผู้นำที่มาหาขนาดนั้น

ผู้นำของกระทรวงพาณิชย์ก็ได้พบกันแล้ว แถมไม่ได้อยู่ในสายตาเราเลยด้วย

แต่ในเมื่อเป็นผู้นำระดับมณฑล เราย่อมเตรียมตัวต้อนรับอยู่แล้ว

เราแขวนโคมสีแดงไว้ต้อนรับปีใหม่ และจัดบ้านอย่างเป็นระเบียบ

แต่ในเมื่อเราเป็นแขกจึงวางผลไม้สดและผลไม้แห้งเอาไว้ด้วย

ตอนที่พาณิชย์จังหวัดเคอของสำนักงานพาณิชย์มาถึงที่บ้านก็ต้องตกใจกับลานอันวิจิตรงดงามและโอ่อ่า

ตอนแรกก็คิดไว้อยู่แล้วนะว่าพวกเขามีชีวิตที่ดีกว่าคนทั่ว ๆ ไป

อาจจะมีเรือนหลังน้อย ๆ พอให้ทุกคนอาศัยอยู่อย่างไม่แออัด

แต่พอได้มาเห็นจริง ๆ ก็ตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่ธรรมดา

เรือนสี่ประสานได้รับการดูแลอย่างดี ลานบ้านกว้าง ดูเหมือนจะมีเรือนด้านหลังซึ่งเป็นเรือนที่ต่อให้ดิ้นรนทั้งชีวิตก็ไม่อาจซื้อมาได้

ในฐานะคนตะวันตกเฉียงเหนือ นี่เป็นครั้งแรกที่พาณิชย์จังหวัดเคอได้เห็นเรือนสี่ประสาน

เขาอดมองอีกหลาย ๆ รอบไม่ได้ แม้จะไม่รู้มูลค่าแต่บอกได้เลยว่าราคาของมันไม่ใช่น้อย ๆ แน่

หลายปีมานี้คุณภาพชีวิตคนค่อย ๆ ดีขึ้น แล้วก็มีการแสวงหาความสุขทางวัตถุเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่อยู่อาศัยซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

แม้แต่ราคาบ้านในพื้นที่ชนบทยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงเช่นกัน ที่ดินทุกตารางนิ้วในเมืองหลวงคงราคาแพงหูฉี่

“พาณิชย์จังหวัดเคอ ท่านนี้คือปู่ซูชวนของตระกูลซู และเป็นปู่ของซูเสี่ยวเถียนด้วยครับ”

ซูฉางจิ่วทำหน้าที่เป็นคนกลางแนะนำแต่ละฝ่ายให้ได้รู้จัก

อันที่จริงเราเองก็เพิ่งได้พบกับพาณิชย์จังหวัดเคอเป็นวันแรกเช่นกัน เขาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่แต่สัมผัสได้ว่าเป็นคนดีมาก

ไม่ได้ดูถูกเจ้าหน้าที่แบบเรา ๆ และไม่ได้เข้าถึงยาก

“ลุงชวน ท่านนี้คือพาณิชย์จังหวัดเคอของเราเองครับ วันนี้เดินทางมาเยี่ยมลุงโดยเฉพาะเลย”

คุณปู่ซูเห็นท่าทางซูฉางจิ่วก็ยกยิ้มแสดงการต้อนรับ

พาณิชย์จังหวัดเคอยิ้มตอบแล้วยื่นมือจับ

ชายชราอยู่เมืองหลวงมานาน จึงชินกับการทักทายเช่นนี้แล้ว

จากนั้นก็นำอีกฝ่ายไปยังห้องรับแขก

ตัวพาณิชย์จังหวัดเคอซึ่งมาทำภารกิจในวันนี้มีความสุภาพอ่อนน้อมต่อตระกูลซูไม่น้อย

ได้เห็นพวกเขาก็เป็นไปอย่างที่คาดเดาไว้ว่า ข่าวลือในมณฑลเราคงเป็นเรื่องจริง

หากไม่มีการสนับสนุนอันแข็งแกร่ง ตระกูลซูจะตั้งหลักในเมืองหลวงและมีชีวิตที่ดีแบบนี้ได้ยังไง

และตระกูลซูเองก็เป็นคนจากมณฑล ไม่อยากทำให้พาณิชย์จังหวัดเคอต้องขุ่นเคืองใจ

ต่างฝ่ายต่างมีมารยาทและเหตุผล การสร้างสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาผ่านไปได้ด้วยดี

แม้ว่าจุดประสงค์ของการมาในวันนี้คือเพื่อบรรลุข้อตกลงการลงทุนร่วมกับซูเสี่ยวเถียน แต่พาณิชย์จังหวัดเคอก็ยังทักทายผู้อาวุโสของบ้านก่อน

จากนั้นก็เบนหัวข้อไปยังธุรกิจของซูเสี่ยวเถียน

นัยแฝงชัดแจ้ง

เด็กสาวตัดสินใจที่จะประกอบอาชีพทางธุรกิจในอนาคตแล้ว และการแสดงความปรารถนาของท่านพาณิชย์จังหวัดถือได้ว่ามาเสิร์ฟถึงที่

ทั้งสองฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันจึงตกลงเห็นพ้องเป็นที่แน่นอน

ในไม่ช้า ความตั้งใจเรื่องลงทุนเป็นอันบรรลุผล

ด้วยความเอาใจใส่ของผู้นำมณฑล เธอเชื่อว่าเส้นทางสู่การพัฒนาที่บ้านเกิดจะง่ายขึ้นเยอะ

พาณิชย์จังหวัดเคอใช้เวลาช่วงบ่ายอยู่ที่ตระกูลซู พร้อมทั้งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

ยิ่งทำให้ความประทับใจที่มีต่อพวกเขาเพิ่มขึ้นสูง

แถมการจากสร้างสัมพันธ์ก็ทำให้ได้รู้ว่าตระกูลซูมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำหลายท่าน

ถึงพาณิชย์จังหวัดเคอจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่ซูเสี่ยวเถียนเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

ซึ่งเธอไม่ได้พูดอะไร แต่บอกให้อีกฝ่ายรอถึงวันที่สามสิบเดือนสอง ตัดสินใจว่าช่วย ๆ เขาสักหน่อย

ส่วนเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปเธอไม่สามารถคาดเดาได้ คงต้องพึ่งพาความสามารถพาณิชย์จังหวัดเคอแล้วละ

ซูเสี่ยวเถียนไปเยี่ยมรัฐมนตรีฉาง

หลังจากที่อีกฝ่ายได้รู้จุดประสงค์ก็กำหนดเวลากับพาณิชย์จังหวัดเคอ

ส่วนเหตุผลที่เด็กสาวแนะนำเขาไปเพราะทั้งสองทำงานอยู่ในแวดวงเดียวกัน

และตอนนี้ก็เป็นโอกาสดีในการพัฒนาเศรษฐกิจด้วย การได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์จะเป็นประโยชน์ต่อมณฑลเรามากกว่าการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ น่ะ

ตัวพาณิชย์จังหวัดเคอเพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่ เขาเคยได้ยินเรื่องรัฐมนตรีฉางมาบ้าง แต่ไม่เคยได้พบตัวจริง

และไม่คิดว่าซูเสี่ยวเถียนจะแนะนำให้เป็นการส่วนตัว

สิ่งนี้ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม และยกความสำคัญที่มีต่อตระกูลซูเพิ่มขึ้นอีก

เขาเองก็ถือว่ามีความสามารถ หลังจากได้พบกับรัฐมนตรีฉางจึงคว้าโอกาสเอาไว้

เรื่องราวพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับซูเสี่ยวเถียน เธอทำงานในส่วนของตัวเองต่อไป

ชั่วพริบตาเดียวปีใหม่ที่แสนรื่นเริงและเงียบสงบก็ได้ผ่านไปแล้ว

ปีใหม่นี้เราไม่ได้กลับบ้านเกิด

ส่วนเฉินจื่ออันงานยุ่งขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่ได้พาลูกและภรรยาขึ้นมาเมืองหลวง

สองผู้อาวุโสผิดหวังเล็กน้อย แต่เข้าใจดีว่าสักวันหนึ่งพอลูกหลานโตก็ต้องออกไปมีชีวิตของตัวเอง

หลังจากปีใหม่ ข่าวคราวหนึ่งก็แพร่สะพัดไปทั่วประเทศ

ทางรัฐบาลกำลังใช้มาตรการหนักเพื่อควบคุมตลาดดอกไม้

เบื้องบนเชื่อว่าสถานการณ์ที่ ‘คนทั้งประเทศปลูกดอกไม้ ไร้แรงจูงใจในการทำงาน’ ไม่เอื้อต่อความมั่นคงของประเทศ

ไม่เอื้อต่อความมั่นคงของประเทศในระยะยาว!

หลังจากใช้มาตรการแก้ไขแล้ว ผลลัพธ์ย่อมตามมาอย่างรวดเร็ว

ส่วนเอกสารที่เกี่ยวข้องก็ได้รับการเผยแพร่

เทียบกับดอกไม้พันธุ์อื่น ๆ ราคาของคลีเวียยังถือว่าสูง แต่ไม่มากเท่าเมื่อก่อนแล้ว

ตอนนี้เป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่อากาศหนาวเล็กน้อย

คลีเวียมูลค่าหลายหมื่นไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป

บางคนล้มละลาย บางคนเข้าคุก บางคนก็เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย

ความฝันอันไร้สาระในตอนนั้นกระจายหายในชั่วข้ามคืน

ท่ามกลางความสับสนอลหม่าน ต้นกล้าดอกไม้หลายพันต้นถูกทิ้งเกลื่อนกลาดไปตามถนน และล้มตายจากหนาวเย็น

เดือนกุมภาพันธ์นี้จึงถูกเรียกว่า ‘กุมภาแห่งความหมอกหม่น’ ของคลีเวีย

สุดท้ายคลีเวียที่แสนงดงามก็ถูกตั้งไว้ในมุมหนึ่งของบ้าน หวนคืนสู่ความเรียบง่าย ไม่ได้เป็นของสร้างเงินอีกต่อไป

ช่วงนี้เธอได้ยินเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับดอกไม้ด้วย

เช่น มีคนรวยจากเหตุการณ์นี้ ในขณะที่บางคนฆ่าตัวตายเพราะหมดเนื้อหมดตัวจนไม่สามารถทนรับแรงกดดันไหว

เธอรู้สึกเศร้าแต่ก็แค่นิดเดียว

เรื่องเก็งกำไรดอกไม้ในยุคนี้ก็เหมือนยุคปัจจุบันนี่แหละ

เงินก็แบบนี้แหละ คนหนึ่งได้เงิน คนหนึ่งขาดทุน

ถ้าชนะก็ถือว่าอดทนต่อความยากลำบากได้

แต่ถ้าแพ้ก็ต้องมีราคาที่จ่าย ซึ่งอาจไม่สามารถชดใช้ได้ตลอดชีวิต

แต่ใครจะไปตำหนิได้ล่ะ?

เธอไม่ได้สนใจเท่าไร

ผลสรุปก็ไปฝึกงานที่กระทรวงการต่างประเทศ

ผู้นำของทางกระทรวงต้อนรับเธออย่างอบอุ่น

ส่วนเหล่ารูมเมตห้อง 314 ก็ได้ทำงานและเริ่มชีวิตฝึกงานเช่นกัน

เฉียนเสี่ยวเป่ยฝึกงานเป็นบรรณาธิการอยู่ที่สำนักหนังสือพิมพ์

เจ้าตัวชอบงานนี้มาก

แต่ว่ามีคนไปฝึกสามคน และมีเพียงคนเดียวที่จะได้เป็นพนักงานประจำเท่านั้น

เธอกลัวมากว่าจะไม่ได้รับเลือก

หลี่เจี้ยนหงเลยบอกให้เพื่อนเชื่อมั่นในโชคชะตาและใช้ความพยายามเข้าสู้ แล้วจะได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอ

ส่วนเธอคนนี้ฝึกงานที่สมาพันธ์สตรี เป็นหน่วยงานที่ดีนะ มีคนอยากไปเยอะมากแต่ไม่ได้ไป

หลังจากได้ไปทำก็ได้พบกับหยางลี่หมิง หญิงชราก็ประทับใจหลี่เจี้ยนหงเด็กสาวจากชนบทผู้ต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง

จ้าวหงเหมยและฉีเสี่ยวฟางฝึกงานที่กระทรวงพาณิชย์ ด้วยนิสัยชอบเก็บตัว การได้ทำงานที่นั่นถือว่าเหมาะแล้ว

แต่ตัวจ้าวหงเหมยบอกว่าฝึกเพื่อทำความเข้าใจอุตสาหกรรมให้ดีขึ้น เผื่อจะทำธุรกิจในอนาคต

ทางต่งเยี่ยนอันทำงานที่สำนักพิมพ์ เธอตัดสินใจว่าจะทำดูก่อน อนาคตไว้ว่ากัน

ส่วนฉู่เยว่เลือก ๆ ไปก่อน

ที่บ้านจะให้เข้าร่วมกองทัพหลังเรียนจบน่ะ

ที่ฝึกงานก็เลยมีค่าแค่นั้นแหละ!

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ [九个哥哥团宠小甜包]

Score 10
Status: Completed
เรื่องย่อ ซูเสี่ยวเถียนผู้มีชีวิตล้มลุกคลุกคลานได้ย้อนเวลามายังยุค 70 แล้วเกิดใหม่ในร่างเดิมครั้งเมื่ออายุ 7 ขวบ ผู้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยพี่ชายสุดคลั่งรักเก้าคน โดยการทะลุมิติในครั้งนี้มีระบบวิเศษติดตัวมาด้วย คือ ‘ระบบอ่านหนังสือ’ ซึ่งมาพร้อมกับห้องสมุดส่วนตัว เธอสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีปัญหาใดที่หนังสือไม่อาจแก้ไขได้ แต่หากแก้ไขไม่ได้ล่ะ? ก็อ่านหนังสือเพิ่มอีกสักสองเล่มแล้วกัน! หากว่ายังไม่พอก็อ่านเพิ่มอีกสักหลายเล่มหน่อย เธอไม่เพียงแต่อ่านมันคนเดียวเท่านั้น แต่ยังโน้มน้าวพี่ชายสุดแสบทั้งเก้าให้อ่านหนังสือกับเธออีกด้วย ทั้งยังชักชวนให้ผู้เป็นบิดาและมารดาให้มาอ่านหนังสือด้วย แม้แต่คุณปู่และคุณย่าก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้! เมื่อทำภารกิจสำเร็จ จะได้รับรางวัลเป็นของตอบแทน ยิ่งทำภารกิจสำเร็จมากเท่าไร ก็จะได้รางวัลมากขึ้นเท่านั้น! ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้นจากการอ่านหนังสือจะทำให้เส้นทางชีวิตของเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset