อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》 133 พบกันอีกครั้งที่เมืองแห่งการศึกษา

ตอนที่ 133 พบกันอีกครั้งที่เมืองแห่งการศึกษา

              “เริ่มหนาวขึ้นมากแล้วนะเนี่ย……”

              ลมหายใจที่พ่นออกมาเป็นไอสีขาว ฮิคารุที่มาถึงสกาล่าซาร์ดลงจากรถม้าแล้วมุ่งหน้าไปที่บ้านของตัวเอง

              หลังออกจากเมืองหลวงของจักรวรรดิควินแบรนด์ก็มุ่งตรงกลับมาโดยไม่แวะข้างทาง ที่เมืองหลวงยังคงมีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่ แต่สกาล่าซาร์ดกลับหนาวถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าให้เลือกอยู่อาศัยก็คงเลือกที่อบอุ่นกว่า……เขาคิดอะไรเช่นนั้น

              ทิวทัศน์ของเมืองสกาล่าซาร์ดยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ถึงบอเดอร์ซาร์ดจะมีมอนสเตอร์จำนวนมากบุกเข้ามา หรือจะมีการประชุม 7 ประเทศก็ตาม แต่สำหรับเมืองเมืองหนึ่งแทบจะไม่มีผลกระทบสักเท่าไร พอคิดอย่างนั้นทำให้รู้สึกเลยว่ารีกที่ต้องการ “ทำให้พรมแดนระหว่าง 7 ประเทศหายไป” หรือ “ให้ความบาดหมางระหว่างคิรีฮาลกับลูดันช่าหายไป” มันเป็นอะไรที่ยากเอาเรื่อง เพราะอย่างนั้นรีกเลยพยายามอย่างเต็มที่หรือเปล่า

              “กลับมาแล้ว—-”

              พอกลับเข้าไปในบ้านที่อยู่ตรงชั้น 3 ข้างๆ ศูนย์วิจัยนานาชาติ

              “ฮิคารุ?”

              “!!”

              ลาเวียดื่มชาอยู่ตรงโต๊ะ ส่วนพอลล่าที่ทำอาหารอยู่ในห้องครัวมีการตอบสนองกลับมา

              “ใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้เยอะ โทษ……”

              พอพูดไปแค่นั้นแล้วก็หยุด

              “ท่านฮิคารุ!!”

              จู่ๆพอลล่าก็ก้มกราบ

              “ต้องขอประทานโทษด้วยคร้าาาาาา!!”

              ฮิคารุแสดงความตกตะลึงและมองไปที่ลาเวีย ก่อนที่เธอจะเอ่ยออกมาอย่างลำบากใจ

              “เอ่อ……ยินดีต้อนรับกลับมานะ ฮิคารุ”

              เธอให้ฮิคารุที่เดินทางกลับมาเหนื่อยๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนอน ถึงกระนั้นพอลล่ายังคงก้มกราบอยู่อย่างนั้น แล้วก็การก้มกราบของโลกนี้ถือเป็นการแสดงความขอโทษขั้นสูงสุด

              “แล้วนี่ มันหมายความว่าไงเหรอ?”

              พอลล่าอธิบายออกมารวดเดียวต่อคำถามของฮิคารุทั้งที่ยังก้มกราบอยู่

              “……อืม อย่างนี้นี่เอง ผมช่วยชีวิตเธอ—-ไว้ 3 ครั้งแล้วสินะ? —-ถึงอย่างนั้นยังฝ่าฝืนสิ่งเรื่องที่บอกว่าห้ามใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูต่อหน้าคนอื่น  แถมยังไร้ประโยชน์ตอนที่ลาเวียโดนลักพาตัวไปอีก”

              ตอนที่ฮิคารุกลับมาหลังจากช่วยลาเวียที่โดนลักพาตัว ยังไม่ได้บอกเรื่องที่ใช้เวทมตร์ฟื้นฟูกับนักผจญภัยที่ไม่รู้จัก

              หลังจากนั้น พอกลับมาถึงบ้านพร้อมบอกเรื่องนี้กับลาเวีย ทำให้สีหน้าของลาเวียตึงขึ้นพร้อมกับพูดออกมาว่า “ผิดสัญญากับฮิคารุอย่างนี้……ช่างไม่กลัวตายเลยนะ”

              “ต้องขอประทานโทษจริงๆด้วยค่ะ……”

              “ฮิคารุ การที่ฉันโดนลักพาไม่เกี่ยวกับพอลล่านะ”

              “ตะ แต่ว่าถ้าฉันไม่ทำตัวเด่น คุณลาเวียคงไม่มีทางโดนพบตัวก็ได้นี่คะ……!”

              “ไม่มีใครรู้หรอกว่าที่ตรงนั้นจะมีหน่วยพิเศษของพอนโซเนียอยู่ด้วย”

              “แต่!”

              “อ้า พอได้แล้ว”

              ฮิคารุสะบัดมือ เพื่อหยุดทั้งสองคน

              “พอลล่า ยืนขึ้น”

              “แต่……”

              “ช่วยไม่ได้ เอาแต่หมอบอย่างนี้มันพูดด้วยลำบาก”

              พอโดนบอกอย่างนั้นพอลล่าเลยค่อยๆยืนขึ้น

              พอสังเกตสีหน้าดีๆก็รู้ได้เลยว่าเธอรู้สึกเสียใจ ลาเวียเลยเข้ามากระซิบกับฮิคารุ

              (ดูเหมือนฮิคารุไม่ยอมกลับมาสักทีเลยเป็นห่วงว่าจะเข้าไปพัวพันกับปัญหาอะไรหรือเปล่าน่ะ)

              (……ลาเวียล่ะ?)

              (หือ?)

              (ลาเวียไม่เป็นห่วงเหรอ?)

              (ฮึๆ ฮิคารุของฉันไม่มีทางแพ้ให้กับปัญหาพวกนั้นอยู่แล้วนี่)

              ได้รับความเชื่อใจแบบสุดๆ

              อย่างนั้นมันก็น่าดีใจอยู่หรอก แต่การที่กลุ้มใจว่าอยากได้รับการเป็นห่วงมันก็ดูกระไรอยู่หรือเปล่านะ?

              ลาเวียนั่งอยู่ข้างๆฮิคารุ ส่วนพอลล่านั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

              “เอ่อ ท่านฮิคารุ……”

              “พอลล่า”

              ทำการห้ามพอลล่าที่กำลังจะขอโทษ

              “ผมบอกไปแล้วนี่ว่า ‘พอได้แล้ว’ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรไปมากกว่านั้น—-มนุษย์เราทำผิดพลาดกันได้ จงศึกษาจากความผิดพลาดแล้วอย่าทำอีกเป็นครั้งที่สองก็พอ”

              “……ค่ะ”

              “คงเศร้าสินะที่ต้องบอกลากับเพื่อนๆ? พยายามได้ดีมาก”

              “ท่านฮิคารุ……”

              ดวงตาของพอลล่ามีน้ำตาไหลออกมา เห็นอย่างนี้พอลล่าอายุเยอะกว่าตั้ง 2 ปี

              “อะ เอ่อ ท่านฮิคารุ มีอะไรที่ฉันพอจะทำเพื่อท่านฮิคารุได้บ้างคะ? ถึงจะบอกว่าให้มอบร่างกายนี้ก็ตามที……”

              “อ้อ อืม ยังไม่ได้คิดอะไรไว้เลยน่ะ”

              “……เอ๊ะ?”

              “ผมเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเหมือนกันว่าควรจะทำอะไรที่โลกนี้ดี จนกว่าจะถึงตอนนั้นคงขอให้พอลล่าทำอะไรเป็นครั้งๆไป ดังนั้นก็ใช้ชีวิตอย่างอิสระไปก่อน จะไปเป็นนักผจญภัยต่อหรือจะไปเป็นนักเรียนก็ได้”

              “แต่ว่า……มันออกจะพูดยากไปสักหน่อย……ฉันไม่มีอะไร……ติดตัวมาเลยค่ะ……”

              “เงินเหรอ? ผมออกให้ก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก”

              “ไม่ได้ค่ะ! อย่างนี้เท่ากับว่าฉันมีแต่ได้กับได้นี่คะ!?”

              “แล้วเธอจะทำอะไรได้ เวทมนตร์ฟื้นฟูของพอลล่าห้ามใช้จนกว่าผมจะบอก ถ้าใช้เวทมนตร์ฟื้นฟูไม่ได้ พอลล่าก็แทบจะไม่มีวิธีหาเงินเลยไม่ใช่เหรอ? แล้วผมเป็นคนบอกเองว่าห้ามใช้เวทมนตร์ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอก”

              “เรื่องนั้น—-ก็ใช่ค่ะ……”

              ถึงพอลล่าจะดูซึมๆไป แต่เหมือนจะนึกอะไรออก

              “ถะ ถ้าอย่างนั้นจะทำงานค่ะ!”

              “เอ๊ะ?”

              “เห็นอย่างนี้ก็อ่านออกและคำนวณเป็นนะคะ! จะไปทำงานที่ร้านอาหารค่ะ!”

              “อะ โอ้ว……ถ้าอยากทำก็ได้อยู่หรอก”

              “จะรบกวนพวกคุณไปตลอดก็ไม่ได้ด้วยค่ะ!”

              ดูเหมือนก่อนที่ฮิคารุจะกลับมาจะอาศัยอยู่กับลาเวียแค่สองคน

              “สำหรับฉันการที่ได้พอลล่ามาทำอาหารก็สะดวกดีอยู่หรอก”

              “หือ พอลล่าทำอาหารเก่งเหรอ?”

              “เก่งพอตัวเลย”

              “โห”

              “มะ มะ มะ มะ มะ ไม่หรอกค่ะ! แค่อาหารพื้นๆเท่านั้นค่ะ!”

              คงถ่อมตัวอยู่ การที่ลาเวียชมอย่างนี้พอจะคาดหวังได้อยู่

              “……ขอถามอะไรเผื่อไว้หน่อย ไม่ใช่อาหารเผ็ดใช่ไหม?”

              “เอ๊ะ ท่านฮิคารุชอบอาหารเผ็ดๆหรือคะ?”

              “ถ้าไม่ใช่ก็ดีไป เอาเถอะ จะไม่บังคับหรอกนะว่าพอลล่าต้องพักที่ไหน”

              “ค่ะ!”

              ฮิคารุตั้งใจจะเป็นนักเรียนต่อ ดังนั้นถ้าจะออกจากเมืองค่อยไปเรียกพอลล่าก็ได้ไม่มีปัญหา

              (ถึงจะทำให้เวทมนตร์ฟื้นฟูอันมีค่าต้องถูกเก็บตายเอาไว้ก็ตาม เอาจริงๆไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินสักเท่าไรด้วยสิ……ถ้าคิดถึงความเสี่ยงที่อาจจะโดนพวกยุ่งยากหมายตาแล้วละก็ ให้พอลล่าไปทำงานพิเศษอาจจะดีกว่าก็ได้)

              ตอนที่ฮิคารุคิดอย่างนั้น

              “แล้วฮิคารุทำไมถึงกลับมาช้า มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”

              “อ้อ เกี่ยวกับเรื่องนั้น……”

              พอลาเวียถาม ฮิคารุก็ชำเลืองมองไปที่พอลล่า

              “ถะ ถ้าฉันเป็นตัวเกะกะ จะออกไปปิดหูตรงระเบียงค่ะ!”

              “อ้อ ไม่หรอก ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้……นั่นสินะ ถึงมีข้อมูลที่จำเป็นต้องปกปิดอยู่แต่พอลล่าเองก็ลงเรือลำเดียวกันแล้วเลยว่าจะแชร์ข้อมูลด้วย”

              “จะดีหรือคะ……?”

              “อืม ดังนั้นรินชาเพิ่มให้ที”

              “ค่ะ มาแล้วค่ะ!”

              พอลล่ารีบยืนขึ้นพร้อมกับรินน้ำชา ระหว่างนั้นฮิคารุก็พูดเกี่ยวกับโซลบอร์ดของพอลล่าให้ลาเวียฟัง

              (เวทมนตร์ฟื้นฟู 8 เนี่ย!? มันระดับไหนกันนะ!!)

              (จากที่จตุรดาราแห่งบูรพาบอก ดูเหมือนจะรักษาแขนขาที่ขาดกับรักษาอาการเป็นหินได้ ถือเป็นระดับแนวหน้าในราชอาณาจักรพอนโซเนียเลย แถมรักษาเสร็จพอลล่ายังไม่เหนื่อยอะไรด้วย แสดงว่าน่าจะเหนือกว่านั้นไปอีก แถมไม่รู้ว่าความสามารถพื้นฐานของคนบนโลกนี้มันเป็นยังไงด้วยนี่สิ)

              (สุดยอดไปเลย……เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน จตุรดาราแห่งบูรพาที่ว่าเนี่ย? ใช่จตุรดาราแห่งบูรพาของกิลด์นักผจญภัยที่พบตอนพวกเราหลบหนีมางั้นเหรอ? หลังจากนั้นก็ไม่ได้พบกันอีกเลย?)

              ฮิคารุเล่าเรื่องที่คุยกับจตุรดาราแห่งบูรพาหลังจากลาเวียกับพอลล่าขึ้นรถม้าไปแล้ว

              “…………”

              “ลาเวีย?”

              “……คุยกันที่ไหนเหรอ?”

              “ที่ห้องของจตุรดาราแห่งบูรพาไง?”

              “………….”

              “ลาเวีย?”

              “……ไม่มีอะไรเหรอ……นี่เหรอความรู้สึกที่เรียกว่าหึง……ช่างซับซ้อนจัง……”

              “เอ๊ะ? เมื่อกี้ว่าไงนะ?”

              “ขอโทษที่ให้รอค่ะ!”

              พอลล่าถือน้ำชามา ส่วนลาเวียก็กลับมาแสดงสีหน้าเหมือนทุกที มันเกิดอะไรขึ้น……ฮิคารุคิดอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีคำตอบ

              ฮิคารุดื่มน้ำชาที่รินมาให้ใหม่

              “นั่นสินะ……จะเริ่มจากอะไรก่อนดี เอาเป็นว่าเป้าหมายของมาร์ควิสกล็อกชลูท—–”

              ฮิคารุเล่าเรื่องที่เจอสปายของจักรวรรดิควินแบรนด์ในคฤหาสน์ของมาร์ควิส ทำให้ได้พบกับอุลเค็นอีกครั้ง

              “เอ๊ะ เอ๋!? คุณอุลเค็นที่ว่าเนี่ย เป็นหัวหน้ากิลด์ของพอนด์หรือคะ!? คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่รับซื้อวัตถุดิบซะอีก! แล้วสปายของควินแบรนด์? เอ๊ะ? เอ๊ะ?”

              พอลล่าแสดงความสับสนออกมา ดูเหมือนอุลเค็นจะทำการประเมินวัตถุดิบในกิลด์นักผจญภัยของพอนด์ด้วย

              “เอาเถอะ ตบมุกได้เยี่ยมมาก ยังไงก็ตาม”

              “อย่าตัดจบโดยบอกว่า ‘ยังไงก็ตาม’  สิคะ……!”

              “เกี่ยวกับคนที่ตามล่าลาเวียพอจะจัดการได้อยู่ แถมอุลเค็นบอกว่าจะไปจัดการกับราชาโดยตรงเองด้วย ทำให้ผมไม่ต้องไปต่อยราชาแล้วด้วย”

              “ท่านฮิคารุ……นี่คิดจะไปต่อยฝ่าบาทจริงๆหรือคะ”

              แน่นอนอยู่แล้ว ต้องตอบโต้ให้สาสมกับการที่กล้ามายุ่งกับลาเวีย

              ที่ยอมตัดใจจากสิ่งนั้นแล้วยกให้อุลเค็นเพราะเขาตั้งใจเอาชีวิตเข้าแลกด้วย

              “คนที่ไล่ล่าฉัน……จะไม่มาแล้วเหรอ?”

              “อือ คิดว่านะ ไหนจะมีเรื่องของอุลเค็นแถมกล็อกชลูทกับกราฟาสตี้เองก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วด้วย ราชาคงยุ่งไปอีกสักพักเลย แล้วก็……”

              จากข้อมูลที่ได้ฟังมาจากจตุรดาราแห่งบูรพา มันเป็นข้อมูลที่ความน่าเชื่อถือต่ำ เลยลังเลว่าควรจะพูดดีหรือเปล่า

              โซริสบอก “ข้อมูลแลกเปลี่ยน” กับฮิคารุดังนี้

              —-ดูเหมือน ฝ่าบาทจะโดนใช้ยาที่ผิดกฎหมายอยู่

              โดยมันจะทำให้เห็นภาพหลอนแล้วดึงความรู้สึกเป็นสุขออกมาแล้วแทนที่ความวิตกกังวล เพราะอย่างนั้นเลยทำการบุกรุกจักรวรรดิควินแบรนด์ ส่วนช่องทางของมูลของโซริสได้มาจากคนรับใช้ที่ทำงานอยู่ภายในวัง

              ทั้งฮิคารุและจตุรดาราแห่งบูรพาเองก็ไม่รู้—-ว่าการที่พระราชาตื่นตระหนกจากการที่ฮิคารุปล่อยให้หน่วยพิเศษ 1 คนมีชีวิตกลับไปก็เพราะยาตัวนั้นด้วย แต่คนที่ให้ยานั้นอย่างหัวหน้ามหาดเล็กก็คัดเลือกคนที่จะมาดูแลรักษาราชาและย้ำกำชับไม่ให้ความลับนี้หลุดออกไปข้างนอก

              “แล้วไงต่อเหรอ?”

              “อ้อ เปล่าหรอก ไม่ใช่ข้อมูลสำคัญสักเท่าไร ถึงอย่างนั้นคิดว่าลาเวียคงปลอดภัยแล้วแหละ”

              “……เหรอ”

              “ดีจังเลยนะคะ!!”

              “แล้วทำไมพอลล่าถึงดีใจกว่าเจ้าตัวอย่างลาเวียล่ะ?”

              พอฮิคารุคิดสงสัยอย่างนั้น ลาเวียกับพอลล่าก็สบตากันก่อนจะยิ้มเล็กยิ้มน้อยออกมา ในระหว่างที่ฮิคารุไม่อยู่ ดูเหมือนมิตรภาพระหว่างสองสาวจะแน่นแฟ้นขึ้นอยู่

              “แล้วเกิดอะไรขึ้นกับฮิคารุเหรอ? ถ้าจบเรื่องได้เร็วน่าจะรีบกลับมาไม่ใช่เหรอ?”

              “อ้อ จริงๆแล้วมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงของควินแบรนด์น่ะ”

              “ควินแบรนด์?”

              “อุลเค็นฝากให้ไปส่งจดหมายกับจักรพรรดิน่ะ เลยใช้เวลานานไปหน่อย”

              “……หรือว่าฮิคารุ ไม่ใช่แอบย่องเข้าไปในห้องนอนของจักรพรรดิหรอกนะ?”

              “เอ๊ะ? ก็แอบย่องเข้าไปอยู่หรอก?”

              ลาเวียกับพอลล่าตกตะลึงกับคำตอบของฮิคารุ

              “ถ้าไม่ทำอย่างนั้นมันก็ใช้เวลานานสิ แล้วไม่สามารถยืนยันได้ด้วยว่าจดหมายนี้เป็นของอุลเค็นจริงหรือเปล่า เดิมทีผมเองก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เข้าพบจักรพรรดิ”

              “เรื่องนั้น—-มันก็ใช่อยู่หรอก……”

              “คุณลาเวีย……ท่านฮิคารุเป็นคนอย่างนี้แหละค่ะ……”

              “อือ……คิดตามสามัญสำนึกไม่ค่อยได้ด้วยนี่สิ”

              “อย่าบอกว่าคนอื่นมันหลุดสามัญสำนึกสิ”

              ผิดคาดอยู่ ลาเวียเองน่าจะรู้อยู่แล้วว่าฮิคารุเคยแอบย่องไปพบกับราชินีของประเทศนี้โดยตรงมาแล้ว

              แต่เพราะพอลล่าอยู่เลยไม่พูดออกไป

              “ใช่แล้ว ได้รางวัลมาตอนเอาจดหมายกับบอกข้อมูลด้วย”

              ฮิคารุหยิบกล่องจดหมายที่มีเชือกผูกเอาไว้ออกมาจากกระเป๋า

              “นี่อะไรเหรอ? เป็นหนังคุณภาพดีมากเลยนะเนี่ย”

              ลาเวียแกะเชือกออก พอลล่าเองก็มองของที่อยู่ในมือลาเวียด้วยความสนใจเช่นกัน

              “เห็นบอกว่าเป็น ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ อะไรสักอย่างนี่แหละ”

              “!?”

              “พรวด!!”

              ลาเวียเกือบทำ “กล่องจดหมายมังกรมิติ” ร่วง ส่วนพอลล่าถึงกับพ่นน้ำชาออกมา

              “สกปรก……”

              “เอ๊ะ เดี๋ยว แค่ก แค่กๆ”

              “เมื่อกี้ฮิคารุผิดเต็มๆเลย!”

              “เอ๊ะ? ทำไมล่ะ?”

              “นะ นี่เหรอ ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ ที่ว่า!?

              “จักรพรรดิบอกไว้อย่างนั้นน่ะ”

              ลาเวียเอากล่องจดหมายวางไว้บนโต๊ะ—-ราวกับมันเป็นวัตถุระเบิด

              “……ฉันคิดว่า ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ จะมีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้นไง”

              “ฉันก็ด้วยค่ะ……”

              “รอเดี๋ยว ช่วยอธิบายให้ผมเข้าใจด้วยสิ”

              พอฮิคารุพูดอย่างนั้น ลาเวียก็ถอนหายใจออกมายาวๆ

              “มันเป็นเรื่องเล่าการปราบมอนสเตอร์ของผู้กล้าในตำนานแห่งตะวันตก โดยของที่ได้มาดูเหมือนจะเป็น ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ ไง”

              “ตำนานเมืองบอกไว้ว่า ถ้า ‘กล่องจดหมายมังกรมิติ’ โผล่มาในงานประมูล คงเป็นของที่มูลค่าสูงสุดในประวัติการณ์เลยค่ะ……”

              ลาเวียกับพอลล่าอธิบายออกมา

              ที่ไม่รู้เรื่องดูเหมือนจะมีแค่ฮิคารุคนเดียว ช่วงนี้ฮิคารุพึ่งพาแต่แหล่งข้อมูลของเจ้าของร่างเดิมอย่างโรแลนด์ เลยไม่ได้หาข้อมูลอื่นๆนอกเหนือจาก “ศาสตร์ในการข้ามโลก” เลย

              “เดี๋ยวสิ แต่มันใช้งานได้ยากอยู่นะ?”

              ทำการเปิดฝาแล้วพลิกกลับ ทำให้ขนมปังที่กินค้างไว้ร่วงลงมา

              “อ๊ะ ของกินเหลือเมื่อ 3 วันก่อน ลืมไว้ข้างในนี่เอง”

              “ฮิคารุ……”

              “ท่านฮิคารุ……สิ่งนี้เป็นสมบัติระดับประเทศเลยนะคะ……”

              ทำไมถึงได้ทำหน้าเอือมอย่างนั้นกัน

              ต้องพลิกของข้างในถึงจะออกมา แถมเวลายังผ่านไปตามปกติ สำหรับฮิคารุแล้วมันเป็นไอเทมที่ใช้งานได้ยาก ตามจริงแล้วจักรพรรดิคากุไรเองก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน

              ตอนนั้นเองที่กระดิ่งดังบ่งบอกว่ามีแขกมาหา

              “ดูเหมือนจะมีใครมาหาน่ะ”

              “หือ……หรือว่ารีก?”

              “ไม่รู้สิ ไม่กี่วันก่อนคุณคลอร์ดก็มาเหมือนกัน”

              “ออกไปรับก่อนเถอะ”

              ฮิคารุยืนขึ้น แล้วไปที่ประตูหน้า ตอนที่หาวเบาๆพร้อมกับเดินลงบันได—-ก็เห็นคนคุ้นหน้าตรงถนน

              ‘อาศัยอยู่ในเมืองแห่งการศึกษาเนี่ย—-วัยรุ่นจริงๆเลยนะ’

              เซริก้า ทาโนะอุเอะ เธอพูดออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

อาชีพสุดแกร่งตรวจจับไม่ได้ 《รูลเบรกเกอร์》

Score 10
Status: Completed
ฮิคารุ เด็หนุ่มผู้โชคร้ายที่ประสบอุบัติเหตุ แต่เขาได้รับโอกาสให้ไปเกิดใหม่ในต่างโลก โดยแลกกับการแก้แค้น -------------------------------- อันนี้เป็นงานสานต่อ ดังนั้นพวกชื่อต่างๆ อาจจะมีแตกต่างกับช่วงแรกไปบ้าง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

Options

not work with dark mode
Reset