อยากกินไหมล่ะ 786 รางวัลธรรมดา

ตอนที่ 786 รางวัลธรรมดา

อยากกินไหมล่ะ 美食供应商

บทที่ 786 รางวัลธรรมดา

“เถ้าแก่หยวน ยอดเชฟหยวน ลาก่อนนะครับ” เสี่ยวซิ่งโบกมือขณะที่ยืนอยู่ข้างป้อมยาม

หยวนโจวหันไปพยักหน้าก่อนที่จะหันหลังกลับแล้วจากไป

เสี่ยวซิ่งได้แต่จากไปเมื่อเขามองไม่เห็นหยวนโจวอีก

“เฮ้อ ฉันก็ยังหลอกเอาอาหารจากยอดเชฟหยวนมาไม่ได้อยู่ดี” เสี่ยวซิ่งถอนหายใจพลางขมวดคิ้ว

ส่วนหยวนโจวนั้น เขามุ่งหน้าไปที่อุโมงค์พิเศษสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง

“สังคมทุนนิยมเสียหายกันหมดพอดี” หยวนโจวแสดงความคิดเห็นออกมาตามตรงแต่เขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไป

เขากำลังเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ของเงินทุนที่เจ้าระบบจัดหามาให้เขาอย่างเห็นได้ชัด

ระหว่างเที่ยวบินขากลับ จุดตรวจจะเข้มงวดเฉพาะหลังจากเครื่องลงจอดในประเทศจีนเท่านั้น ขั้นตอนนี้ในประเทศไทยไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นหยวนโจวจึงมาถึงห้องรับรองผู้โดยสารขาออกได้อย่างง่ายดาย

“ทันเวลาพอดี” หยวนโจวพึมพำด้วยความพึงพอใจเมื่อได้รับการยืนยันว่าเหลือเวลาอีก 40 นาทีก่อนขึ้นเครื่อง

นี่เป็นเวลาที่เพียงพอให้เขาได้พักผ่อนแล้วล่ะ ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เขาก็ยังมีอาการท้องเสียจึงจำเป็นที่เขาต้องทานยาและพักผ่อนให้มาก

“พรุ่งนี้ก็วันที่แปดแล้ว ฉันต้องเตรียมเปิดร้านวันพรุ่งนี้” หยวนโจวคิดถึงบรรดาลูกค้าขาประจำของเขาเสียแล้วสิ

“ฉันสงสัยจังว่าเจ้าบรอธจะกินเนื้อแผ่นหมดแล้วหรือยังนะ” จู่ๆหยวนโจวก็นึกถึงเจ้าบรอธขึ้นมา

เมื่อตอนที่เขาจากมา เขาไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นแต่มาตอนที่เขากำลังจะกลับไป เขากลับเริ่มคิดถึงบ้านและเตียงนอนบนชั้นสองของร้านขึ้นมาเสียแล้ว

ถึงแม้ว่าเตียงนอนของโรงแรมระดับห้าดาวจะสบายมาก แต่หยวนโจวก็ยังคิดถึงเตียงนอนของตัวเองอยู่ดีนั่นแหละ

“ถึงจะไม่มีใครเฝ้าร้านเอาไว้ตอนที่ฉันไม่อยู่ แต่ร้านก็ยังสะอาดอยู่ ขอบใจนะเจ้าร้าน” หยวนโจวยิ้มและกล่าวคำขอบคุณอันเป็นเรื่องที่เขาแทบจะไม่เคยทำมาก่อนเลย

เจ้าระบบก็ยังเงียบต่อไป หยวนโจวคุ้นเคยกับความเงียบเช่นนี้อยู่แล้วจึงไม่พูดอะไรอีก เขานั่งรออยู่ตรงนั้นอยู่เงียบๆเพื่อรอเวลาขึ้นเครื่อง

เขากำลังเพลิดเพลินกับผลประโยชน์ของสังคมทุนนิยมเป็นอย่างยิ่งซึ่งในกรณีนี้ก็คือบริการชั้นเลิศที่จัดเตรียมให้แก่ผู้โดยสารในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง เมื่อเข้ามาในห้องรับรองผู้โดยสารขาออกแล้ว เขาก็ใช้อุโมงค์พิเศษสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง แบบนี้เมื่อขึ้นเครื่อง เขาก็จะเจอเฉพาะผู้โดยสารในห้องโดยสารชั้นหนึ่งคนอื่นๆเท่านั้น

“ยินดีต้อนรับสู่สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ค่ะ คุณหยวน” แอร์โฮสเตสสาวสวยทักทายขณะที่พูดภาษาจีนได้อย่างไร้ที่ติ

“ขอบคุณครับ” ทันใดนั้นหยวนโจวก็รู้สึกเหมือนได้ฟังคนพูดภาษาจีนอย่างไร้ที่ติดอยู่กับบ้านเลย

“ด้วยความยินดีค่ะ คุณฝากกระเป๋าไว้ตรงนี้ก็ได้นะคะ” แอร์โฮสเตสกล่าวพลางหัวเราะขณะที่เปิดพื้นที่เก็บสัมภาระ

“โอเคครับ” หยวนโจวพยักหน้าแล้วเก็บกระเป๋า

“นี่เป็นทางไปห้องโดยสารของคุณนะคะ” แอร์โฮสเตสเกิดประตูที่ซ่อนอยู่แล้วเชื้อเชิญให้หยวนโจวเข้าไป

หยวนโจวพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องโดยสารไป เนื่องจากเมื่อตอนที่กำลังมาประเทศไทยเขาก็นั่งห้องโดยสารชั้นหนึ่งมาแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นห้องที่ทั้งหรูหราและสะดวกสบาย แต่เขากลับนั่งลงอย่างสงบนิ่ง

“ต้องการเครื่องดื่มอะไรดีคะ คุณหยวน?” แอร์โฮสเตสถามหลังจากหยวนโจวนั่งลง

“น้ำอุ่นก็แล้วกันครับ” หยวนโจวตอบ

“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แอร์โฮสเตสพยักหน้าแล้วปิดประตูก่อนที่จะออกไปเอาน้ำอุ่นมาให้

“สมกับที่เป็นห้องโดยสารชั้นหนึ่งจริงๆ โซฟาสบายมากเลย” หยวนโจวเอนหลังขณะที่สีหน้าของเขาผ่อนคลายโดยสิ้นเชิง

“เฮ้อ ท้องฉันยังปวดอยู่เลย โชคดีที่พวกเขามีห้องน้ำอยู่ที่นี่ด้วย” ทันทีที่หยวนโจวเอนหลัง ท้องของเขาก็เริ่มปวดขึ้นมาอีกแล้ว

“ไม่เอาน่า ฉันรู้ว่าสองสามวันที่ผ่านมาทำให้แกต้องลำบากมากเลย พอกลับถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะเลี้ยงของอร่อยแกเองนะ” หยวนโจวพูดอย่างจนปัญญาพลางลูบท้องไปด้วย

“เอาน่า แอร์โฮสเตสกำลังจะกลับมาแล้ว รออีกนิดอย่างเพิ่งปวดเชียวนะ” หยวนโจวขมวดคิ้วและเจรจาต่อรองกับท้องของตัวเองที่ดูเหมือนจะเรียกร้องให้เขาต้องเข้าห้องน้ำเสียให้ได้

โชคดีที่หยวนโจวมีความอดทนเป็นเลิศ เขารอจนแอร์โฮสเตสกลับไปเอาน้ำอุ่นและสั่งอาหารกลางวันอย่างสงบนิ่ง เขาได้แต่รีบพุ่งเข้าห้องน้ำหลังจากแอร์โฮสเตสจากไปแล้วเท่านั้น

“ฟู่ โชคดีที่ฉันสามารถกลั้นเอาไว้ได้” หยวนโจวถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไร้ที่ติหรอก ตอนนี้หยวนโจวดูเหมือนคนบ้าที่เพลิดเพลินกับการคุยกับตัวเองไปเสียแล้ว

ตอนที่หยวนโจวออกจากห้องน้ำ เครื่องบินก็กำลังวิ่งผ่านเส้นทางเพื่อเตรียมที่จะขึ้นบินแล้ว

เสียงเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้นผ่านลำโพง หยวนโจวนั่งลงอย่างเชื่อฟังและคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนที่จะทนรอให้เครื่องขึ้นบิน

ทันใดนั้นก็มีเสียงเตือนของเจ้าระบบดังขึ้นในหัว

นอกเหนือไปจากเสียงเตือนแล้วก็ยังมีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นในหัวของเขาขึ้นมาทันทีอีกด้วย

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ติ๊งต่อง”

“เจ้าระบบ แกทำให้ฉันกลัวนะ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” หยวนโจวตบหน้าผากลางถามออกมา ถึงอย่างไรเขาก็ค่อนข้างกลัวเจ้าระบบที่มีนิสัยแปลกๆ

เจ้าระบบไม่สนใจคำบ่นของหยวนโจวและเริ่มแสดงคำพูดออกมา

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ยินดีที่บรรลุภารกิจการลิ้มรสอาหารต่างชาติครั้งแรกด้วยนะ เจ้านาย”

“ขอบใจนะ” หยวนโจวตอบพลางรู้สึกว่าเก้าอี้สะเทือนอยู่นิดหน่อย

หยวนโจวรออยู่สักพักแต่เจ้าระบบก็ยังเงียบอยู่เลย จากนั้นเขาก็ถามขึ้นมาว่า “งั้นแกแค่กำลังจะแสดงความยินดีกับฉันงั้นเหรอ? มีรางวัลเนื้อหาอีกไหม?”

หยวนโจวร้องขอรางวัลไปตามเรื่องตามราว ถึงอย่างไรก็มีคำกล่าวเอาไว้ว่าล้อที่ลั่นต้องหยอดน้ำมันฉันใด คนที่บ่นดังที่สุดก็ย่อมจะได้รับความสนใจมากที่สุดฉันนั้น หยวนโจวรู้สึกว่าเขาร้องขอรางวัลได้ถูกต้องแล้ว

เจ้าระบบยังเงียบต่อไปอีกนาน บางทีเจ้าระบบคงจะรู้สึกเห็นใจที่หยวนโจวต้องฝืนทนทานอาหารถึงแม้ว่าจะมีอาการท้องเสียมาสองสามวันแล้วก็ตามที แต่เจ้าระบบก็ตอบรับคำขอของเขา เมื่อเครื่องบินกำลังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆผ่านความสูงเหนือระดับน้ำทะเล เจ้าระบบจึงค่อยตอบออกมา

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เนื่องจากเจ้านายบรรลุภารกิจการลิ้มรสอาหารต่างชาติครั้งแรกแล้ว เจ้านายจะได้รับอนุญาตให้สุ่มราคาได้ เชิญรับรางวัลได้เลย”

“ขอบใจนะ เจ้าระบบ” หยวนโจวตอบ

[ภารกิจ] บรรลุภารกิจการลิ้มรสอาหารต่างชาติครั้งแรก

(เคล็ดลับในการทำภารกิจ: ภารกิจการลิ้มรสอาหารต่างชาติครั้งแรกและใช้เงินทุนสำหรับอาหารที่เจ้าระบบจัดหามาให้จนหมด)

[รางวัล] จับฉลากหนึ่งครั้ง

(เคล็ดลับในการได้รางวัล: รางวัลได้มาจากอาหารต่างๆที่เจ้านายได้ลิ้มลองในประเทศไทย เจ้านายอาจจะสุ่มรางวัลเพื่อให้ได้ต้นฉบับสูตรอาหารฉบับหนึ่งเป็นรางวัลก็ได้)

“ฉันมั่นใจในทักษะการอ่านของตัวเองมาโดยตลอด เจ้าระบบ แกกำลังพยายามที่จะตกรางวัลให้ฉันด้วยอาหารไทยใช่ไหม?” หยวนโจวตรวจสอบคำอธิบายอยู่สามครั้งก่อนที่จะถาม

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ใช่แล้วล่ะ เจ้านาย คุณเริ่มสุ่มได้เลยนะ”

“รางวัลธรรมดาชะมัดเลย” หยวนโจวต่อว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำอาหารที่เขากินเข้าไปได้ถูกต้อง 100% แต่เขาก็ยังสามารถทำได้บางส่วนแหละน่า รู้สึกว่ารางวัลนี้ออกจะเปล่าประโยชน์แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

เขาหยุดคิดและเหลือบมองไปทางรางวัลที่เป็นรายชื่อของอาหารไทยที่เขากินมาเมื่อสองสามวันก่อน เจ้าระบบจึงไม่จำเป็นต้องสร้างอาหารจานใหม่เพื่อรางวัลนี้เลย

“เป็ดปักกิ่งที่เสิร์ฟเฉพาะส่วนหนังเป็นส่วนหนึ่งของรางวัลรวมหรือเปล่าน่ะ?” หยวนโจวถาม

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ใช่แล้ว”

มีอาหารห้าจานที่อยู่ในรางวัลรวมซึ่งทั้งหมดต่างก็เป็นอาหารจีนที่เขาเคยทานในประเทศไทย แต่อาหารพวกนี้เป็นอาหารท้องถิ่นและต่างออกไปเมื่อเทียบกับแบบดั้งเดิมในประเทศจีน

เป็ดปักกิ่ง ผักบุ้งจีนกระเทียมสับ ผัดผักบุ้งจีน เนื้อต้ม ข้าวผัดไข่แบบไทยที่ทำขึ้นมาทั้งห้าจานล้วนแล้วแต่อยู่ในรางวัลรวมทั้งสิ้น

ท่ามกลางอาหารพวกนั้น หยวนโจวก็ตัดสินใจแล้วว่าข้าวผัดไข่แบบไทยนั้นดีที่สุด นอกเหนือไปจากไข่ สับปะรดและผลไม้แห้งตามปกติที่เติมลงในอาหารจานนี้แบบไทยแล้ว มันก็ค่อนข้างคล้ายคลึงกับข้าวอบสับปะรดเลยทีเดียว

อาหารที่ใกล้เคียงกับแบบดั้งเดิมในประเทศจีนมากที่สุดก็คือผักบุ้งจีนกระเทียมสับเพราะวิธีการทำอาหารจานนี้ค่อนข้างง่าย ความต่างเพียงอย่างเดียวที่หยวนโจวรู้สึกได้ก็คือความแตกต่างอันน้อยนิดของวัตถุดิบ

จากข้อมูลที่เขารวบรวมได้ พืชผักในประเทศไทยรสหวานกว่าที่พวกเขาทานในประเทศจีน นี่ก็เพราะตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยนั่นเอง

อันที่จริงแล้วหยวนโจวได้ทำการค้นคว้าหาข้อมูลระหว่างการเดินทางในประเทศไทยของเขาไปด้วย

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset