อยากกินไหมล่ะ 770

ตอนที่ 770

งั้นแกก็รออยู่ที่นี่แหละนะ เจ้าระบบ

เวลาของประเทศไทยเร็วกว่าของประเทศจีนประมาณหนึ่งชั่วโมง ดังนั้นเมื่อหยวนโจวตื่นนอนตามปกติ เขาก็ตรวจสอบเวลาโดยอัตโนมัติ

“หา? ยังตีสี่อยู่งั้นเหรอ? เอาล่ะ งั้นฉันไปนอนต่ออีกสักหน่อยดีกว่า” หยวนโจววางโทรศัพท์ลงแล้วนอนต่อ

แต่เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็นอนลงไปอีกครั้ง

“ช้าก่อนนะ เวลาที่นี่เร็วกกว่าหนึ่งชั่วโมงไม่ใช่เหรอ?” หยวนโจวลืมตาแล้วลุกจากเตียงหลังจากนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้

เขาล้างหน้า แต่งตัวแล้วออกไปหลังจากใส่รองเท้าวิ่งแล้ว เขากำลังทำสิ่งเดียวกับที่เขามักจะทำเมื่อตอนที่อยู่ในประเทศจีน

แต่เนื่องจากเขาไม่คุ้นเคยกับที่แห่งนี้ เขาจึงไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย แต่เขากลับไปยิมของโรงแรมแทน

เมื่อลิฟท์มาถึงชั้นดังกล่าวแล้ว หยวนโจวก็มุ่งตรงไปที่ยิม ทันทีที่เขาไปถึงก็พบว่ายิมก็ยังไม่เปิด

“ยังไม่เปิดงั้นเหรอ?” หยวนโจวถึงกับพูดไม่ออกขณะที่จ้องมองไปทางประตูที่ปิดอยู่

“ไม่เป็นไร ฉันจะไปวิ่งแถวๆโถงชั้นล่างก็แล้วกัน” หยวนโจวลงไปชั้นล่างแล้วเริ่มออกกำลังกายตามปกติ

หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว หยวนโจวก็กลับไปที่ห้องตัวเองแล้วอาบน้ำ อุณหภูมิในประเทศไทยค่อนข้างสูงทีเดียว

เขาชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อหลังจากออกกำลังกายจนทำให้ไม่สามารถไปรับประทานอาหารเช้าได้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงเชฟที่รักความสะอาดคนหนึ่งเชียวนะ

เมื่อถึงเวลาอาหารมื้อเช้า หยวนโจวก็ชักจะกังวลขึ้นมาแล้ว

“ฉันไม่รู้ภาษาที่นี่เลย แล้วฉันจะรับอาหารยังไงกันเล่า?” หยวนโจวเริ่มมองเหม่อไปที่จุลสารของโรงแรม

จุลสารในห้องเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่น่าเสียดายที่ภาษาอังกฤษของหยวนโจวอยู่ในระดับอนุบาล นอกเหนือไปจากคำที่ใช้กันบ่อยๆเพียงไม่กี่คำ เขาก็ไม่รู้จักภาษาอังกฤษคำอื่นเลย

“เจ้าระบบ แกช่วยจัดหาบริการแปลภาษาให้หน่อยได้ไหม?” Yuan Zhou asked.

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ขอแนะนำให้เจ้านายเรียนรู้ภาษาด้วยตัวเองนะ”

“ฉันอายุปูนนี้แล้ว ฉันยังสามารถเรียนภาษาอังกฤษได้อีกเหรอไง?” หยวนโจวตอบโต้ด้วยคำถาม

เจ้าระบบพบว่ายากที่จะตอบคำถามนี้ได้ ถึงอย่างไรหยวนก็ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านภาษาโดยสิ้นเชิง เจ้าระบบจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีความสามารถในการประเมินพรสวรรค์เพื่อให้ทราบเรื่องนี้เช่นกัน

ตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องนี้ก็คือถึงแม้ว่าหยวนโจวจะสามารถเข้าใจภาษาฝรั่งเศสได้ แต่เขาก็ไม่สามารถพูดและอ่านภาษาฝรั่งเศสได้เช่นเดียวกัน ระดับพรสวรรค์ทางด้านภาษาของเขาค่อนข้างชัดเจนทีเดียว…

“อืม ฉันคิดว่าอย่างน้อยฉันก็รู้จักคำว่า ‘ร้านอาหาร’ แหละน่า” หยวนโจวตัดสินใจที่จะพึ่งตัวเองหลังจากครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย

“ปกติร้านอาหารจะตั้งอยู่ชั้นสิบ คงไม่สูงเกินไปนักหรอก ฉันยังรู้วิธีอ่านคำว่า ‘สิบ’ อีกด้วยล่ะ” หยวนโจวเริ่มค้นหาร้านอาหารอย่างละเอียด

หลังจากศึกษาจุลสารอยู่ครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหยวนโจวก็พบบางที่ที่เขาสงสัยว่าจะเป็นร้านอาหาร มันอยู่บนชั้นสามของโรงแรม

“โชคดีที่ฉันฉลาดนะเนี่ย” หยวนโจววางจุลสารลงแล้วออกจากห้องไป

หยวนโจวมีอุปนิสัยชอบรับประทานอาหารเช้าแบบเบาๆ เมื่ออยู่ในร้านของตัวเอง เขาจะกินทุกอย่างที่เขาวางแผนที่จะวางจำหน่ายในวันนั้น ตอนนี้เขาอยู่ในร้านอาหารแล้ว เขาเลือกอาหารเช้าง่ายๆอันประกอบไปด้วยแซนด์วิชกับนมสดแก้วหนึ่งหลังจากเดินไปทั่วร้าน

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว หยวนโจวก็เตรียมตัวที่จะออกจากโรงแรม นี่เป็นวันแรกของเขาในประเทศไทย ดังนั้นเขาจึงต้องสนุกกับตัวเองเข้าไว้

“ฉันจะไปเยี่ยมชมรูปปั้นพระพรหมข้างโรงแรมก่อนก็แล้วกัน ฉันมาจากประเทศที่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักก็สมควรแล้วที่ฉันจะไปเยี่ยมชมพระพุทธรูปเสียก่อน” หยวนโจวตัดสินใจออกเดินทางหลังจากตรวจสอบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองซ้ำอีกครั้ง

กระเป๋าสตางค์ของเขาอัดแน่นไปด้วยเงินทุนสำหรับการเดินทางที่เจ้าระบบจัดเตรียมเอาไว้ให้ ส่วนเงินของหยวนโจวเองนั้น เขาไม่ได้นำมาด้วย เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากที่เจ้าระบบจะใจกว้างเสียขนาดนี้ ดังนั้นหยวนโจวจึงตัดสินใจที่จะเคารพความเอื้อเฟื้อของเจ้าระบบด้วยการใช้เงินของเจ้าระบบให้หมดเกลี้ยงเสียเลย

รูปปั้นพระพรหมอยู่ทางด้านซ้ายของโรงแรมห่างออกไปประมาณ 500 เมตร หยวนโจวจึงเดินเท้าไปที่นั่น

“แดดที่ประเทศไทยแรงจริงๆ โชคดีฉันเอาโลชั่นกันแดดมาด้วย ไม่งั้นถ้าฉันผิวคล้ำเกินไปคงหาแฟนไม่ได้แหงเลย” หยวนโจวรู้สึกเป็นปลื้ม

ไม่ช้าหยวนโจวก็มาถึงรูปปั้นพระพรหม ทางเข้าเปิดกว้างอยู่และไม่มีช่องขายตั๋วอยู่ข้างนอก เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องซื้อตั๋วเข้าเยี่ยมชมรูปปั้นนี้

“ดีที่เข้าฟรีนะเนี่ย ดูนี่สิเจ้าระบบ ฉันกำลังช่วยแกประหยัดเงินอยู่เชียวนะ” หยวนโจวกล่าวด้วยความลำพองใจ

เจ้าระบบเมินเขาไปแล้ว หยวนโจวไม่สนใจแล้วเข้าตึกไป

ถึงแม้ว่าจะเข้าฟรี แต่ก็ยังจำเป็นต้องซื้อดอกไม้ถวายพระพุทธรูป และดอกไม้พวกนี้ก็ไม่ได้ฟรีด้วย

“นี่” หยวนโจวกล่าวพลางชี้ไปที่พวงมาลัยสีเหลืองและสีแดง

สตรีชาวไทยผิวคล้ำไม่ได้กล่าวอะไร เธอยื่นมือที่แบออกเพื่อแสดงท่าทางว่าเขาต้องจ่ายมา 50 บาท

หยวนโจวพยักหน้าแล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อเตรียมที่จะจ่ายเงิน ทันใดนั้นเจ้าระบบก็ปรากฏตัวขึ้น

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เงินทุนสำหรับการเดินทางจำกัดให้นำมาใช้กับอาหารไทยเท่านั้นและต้องใช้ให้หมดตอนที่คุณอยู่ในประเทศไทยด้วย”

“อะไรนะ?” หยวนโจวตัวแข็งทื่อแล้วอึ้งงันไปอย่างเห็นได้ชัด

โชคดีที่มีผู้คนมากมายมาซื้อดอกไม้ที่นี่ เมื่อลูกค้าข้างๆหยวนโจวเห็นว่าหยวนโจวไม่จ่ายเงินเสียที เขาก็ก้าวขึ้นหน้ามาจ่ายค่าดอกไม้ของตัวเองแทน หลังจากนั้นไม่นาน หยวนโจวก็ถูกบีบให้ออกไป

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “เงินทุนสำหรับการเดินทางจำกัดให้นำมาใช้กับอาหารไทยเท่านั้นและต้องใช้ให้หมดตอนที่คุณอยู่ในประเทศไทยด้วย”

เจ้าระบบเตือนหยวนโจวอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าหยวนโจวสามารถเห็นข้อความได้ เจ้าระบบจึงใช้ตัวอักษรสีแดงสำหรับข้อความนี้อย่างเอาใจใส่ แต่ตอนนี้หยวนโจวแค่รู้สึกเหมือนโดนคนด่าอยู่เลย

“เจ้าระบบ นี่มันไม่ถูกต้องนะ แกไม่เอ่ยถึงข้อกำหนดข้อนี้มาก่อน” หยวนโจวให้เหตุผล

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “นี่คือข้อกำหนดที่ซ่อนอยู่ยังไงล่ะ”

“โฮ่โฮ่” หยวนโจวรู้สึกไม่ยอมรับ

เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ในเมื่อมีภารกิจที่ซ่อนอยู่ได้ก็ย่อมมีข้อกำหนดที่ซ่อนอยู่ได้เหมือนกัน เงินทุนที่จัดสรรให้เป็นพิเศษสามารถนำมาใช้ได้กับวัตถุประสงค์พิเศษเท่านั้น”

“เวรเอ้ย เจ้าระบบ แกพูดเสียมีเหตุผลเชียวนะ ฉันตอบโต้ไม่ได้เลย” หยวนโจวสำลักคำพูดของตัวเองเสียแล้ว “เงินทุนที่จัดสรรให้เป็นพิเศษสามารถนำมาใช้ได้กับวัตถุประสงค์พิเศษเท่านั้น” นับเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ใช่แล้วล่ะ ก่อนหน้านี้หยวนโจวบรรลุภารกิจที่ซ่อนอยู่ไปแล้วจริงๆ นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลของภารกิจพวกนั้นไปแล้วด้วย เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ว่ามีข้อกำหนดที่ซ่อนอยู่เช่นกัน

“งั้นแกรอฉันอยู่ที่นี่นะ” หยวนโจวเอามือกุมหน้าผาก

“ไม่เป็นไร ฉันจะเอามันมาใช้กับอาหารก็แล้วกัน ดูเหมือนว่าฉันคงจะไม่ได้รับประทานอาหารเช้าของโรงแรมฟรีๆอีกต่อไปแล้ว” หยวนโจวตัดสินใจได้ในทันทีว่าจะรับประทานอาหารทั้งสามมื้อข้างนอก ยิ่งไปกว่านั้น เขายังตัดสินใจที่จะกินอาหารดีๆเท่านั้นด้วย

เขาถูกเจ้าระบบบังคับให้เสียเงินซะแล้ว เดิมทีเขารู้สึกพึงพอใจกับอาหารฟรีมากทีเดียว แต่ตอนนี้มันกำลังสร้างความรำคาญให้เขามากเสียจนต้องกลับไปที่โรงแรมเพื่อแปลงค่าเงินบาทมาเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว

ก่อนที่จะมา หยวนโจวค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างเอาจริงเอาจังมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่ามีตู้เอทีเอ็มในโรงแรมและเขาสามารถถอนเงินบาทจากตู้เอทีเอ็มได้โดยตรง ทำให้เขาสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาอังกฤษอันน่าขนพองสยองเกล้าของตัวเองที่ช่องแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้

เขาใช้ภาษาอังกฤษอันน่าขนพองสยองเกล้าของตัวเองมามากพอแล้วเมื่อตอนที่เขากำลังเช็คอินเข้าพักในโรงแรมเมื่อวานนี้

“โรงแรมระดับห้าดาวเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกจริงๆ” หยวนโจวพึมพำขณะที่กำลังถอนเงิน เขาถอนเงินออกมาจากตู้เอทีเอ็มจำนวน 2,000 บาท

เมื่อเขากลับมาที่รูปปั้นพระพรหม เขาก็ประจัญหน้าโดยไม่สะดุดเลยสักนิด

หยวนโจวมีใจศรัทธาเอามากๆยามที่พระพุทธรูป เขาประกบฝ่ามือเข้าหากันแล้วอธิษฐานอย่างจริงๆจังๆ

รูปปั้นอยู่ทางด้านขวาริมถนน หลังจากเขาออกมาแล้วก็มาถึงถนนสายหนึ่ง จากนั้นเขาก็เริ่มเดินไปตามถนน ตอนนี้เขาอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานครที่มีศูนย์การค้าอยู่ทุกหนทุกแห่ง

“ฉันจะเดินอยู่แถวนี้แล้วตัดสินใจว่าจะทานอะไรเป็นอาหารกลางวันดีก็แล้วกัน ดูเหมือนฉันต้องทานอาหารดีๆเพื่อให้เงินทุนสำหรับการเดินทางหมดจริงๆสินะ” หยวนโจวบ่นพึมพำ

อยากกินไหมล่ะ

อยากกินไหมล่ะ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 896 อ่านนิยาย

( อ่านต่อข้างล่าง )

ณ ประเทศตะวันออกที่ห่างไกลมีร้านอาหารเล็ก ๆ แปลก ๆ แห่งหนึ่งที่อาจหาญกล้า ‘ปฏิเสธการจัดอันดับสามดาว‘ โดย Michelin Guide อยู่หลายครั้ง อาหารที่นี่ราคาแพงมากข้าวผัดธรรมดาจานหนึ่งกับซุปหนึ่งชาม ราคาก็ปาเข้าไป 288 หยวนแล้ว (ประมาณ 1500 บาท) เคี่ยวขนาดนี้ก็ยังมีคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อจะรอกิน อ้อ… ที่นี่เขาไม่รับจองคิวด้วยนะ! แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนจำนวนมากนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาเพื่อจองคิวอีก! ทำไมต้องนั่งเครื่องบินน่ะเหรอ ก็เขาไม่มีที่จอดรถให้น่ะสิ ที่นี่บริการแย่ ลูกค้ากินแล้วต้องล้างจานเช็ดโต๊ะเอง ไม่รู้เจ้าของร้านคิดอะไรอยู่… สงสัยคงเป็นคนบ้าคนหนึ่ง

Options

not work with dark mode
Reset