องครักษ์เสื้อแพร 968 หารือเรื่องเมืองซงเจียง

ตอนที่ 968 หารือเรื่องเมืองซงเจียง

แผ่นดินหมิงมีข้อห้ามเรื่องทะเล ในรัชสมัยหลงชิ่งค่อยๆ ฟื้นฟูการค้าทางทะเล แต่ที่เปิดท่าก็มีแค่เมืองกว่างโจว เมืองหางโจว เมืองเฉวียนโจวเท่านั้น ที่อื่นก็ยังคงเหมือนเดิม

เมืองซงเจียงเดิมเป็นท่าเรือที่ดี แต่เพราะมีโจรสลัดอาละวาด ขุนนางทางใต้จึงได้ทูลให้ปิดท่าเมืองซงเจียงทิ้ง ตอนนี้แถบทะเลมีแต่ชาวประมง

ไมว่าฮ่องเต้ว่านลี่หรือเถียนอี้ พวกเขาล้วนไม่รู้ว่าหวังทงเหตุใดจึงเอ่ยถึงเมืองซงเจียงขึ้นมา เหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กำลังกล่าวถึงตอนนี้ หากจะมีอีกที่ที่เป็นดังกระถางสมบัติเหมือนเทียนจิน ควรเป็นเมืองหางโจว หรือไม่ก็เมืองกว่างโจว เกี่ยวอันใดกับเมืองซงเจียงกัน

หวังทงกล่าวขึ้นเช่นนี้ สีหน้าฮ่องเต้ว่านลี่กับเถียนอี้ล้วนงง หวังทงเองก็อึ้งไป เขาเป็นคนสุขุมและนิ่ง ได้สติว่าหลุดออกไป พฤติกรรมหลุดเช่นนี้เรียกได้ว่าหาได้ยากมาก

แต่พอคิดอย่างเร็ว หวังทงก็พบว่าตนเองเสนอนั้นเป็นเรื่องที่คิดมานานแล้ว ตอนไปทำงานแดนใต้ลงไปถึงเมืองซงเจียง ความคิดนี้ก็อยู่ในสมองมาตลอด เพียงแต่ยังไม่มีเวลาเหมาะสมเอ่ยถึง

“เมืองซงเจียง?”

ฮ่องเต้ว่านลี่ถามขึ้นอย่างสงสัย สีพระพักตร์ก็พลอยสนพระทัยไปด้วย ในพระทัยทรงคิดว่าเราถามขึ้น แม้เจ้าคิดไม่ออกก็ต้องทำทางทางเคร่งเครียดคิดต่อ เหตุใดจึงได้หลุดกล่าวออกมาเช่นนี้

“ฝ่าบาท เป็นเมืองซงเจียง ฝ่าบาท ทรงมีแผนที่ไหมพะยะค่ะ กระหม่อมจะอธิบายจากแผนที่!”

ฮ่องเต้ว่านลี่โบกพระหัตถ์ เถียนอี้รีบรับคำสั่ง ขันทีน้อยรีบวิ่งออกไป หวังทงทูลว่า

“ฝ่าบาท ที่เทียนจินรุ่งเรืองเพราะเหตุใด  ที่กล่าสว่า ฟ้าและคนอื้อประโยชน์กัน ฟ้าก็คือฝ่าบาทคุ้มครอง พื้นที่และคนเอื้อประโยชน์กันก็เป็นเรื่องสำคัญ  พื้นที่ดีที่เทียนจินเป็นท่าเรือทะเล  สามารถเป็นแหล่งรวมสินค้าเหนือใต้และทางทะเลไกลได้  เป็นศูนย์กลางคลองส่งน้ำ เป็นพื้นที่พักสินค้าเหนือใต้ในเขตปกครองเหนือ คนกับสินค้าสามารถกระจายออกได้สี่ทิศ และยังออกเดินทางไปได้ทั่วทิศ เทียนจินใกล้กับเมืองหลวง เมืองหลวงรุ่งเรืองทั่วหล้า  สินค้าจากทั่วหล้ามามีคนซื้อ และมีคนมามากมายและเงินทองมากมายหาโอกาสทำการค้า นี่พื้นที่เป็นประโยชน์ ร้านค้าเมืองหลวงมากมาย ผู้เชี่ยวชาญการค้าล้วนมีมาก เทียนจินก่อตั้งใหม่ๆ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องคน มีเงื่อนไขเหล่านี้ ทำให้เทียนจินค่อยๆ ก่อตัวยิ่งใหญ่ราวกับก้อนหิมะกลิ้งทับไปจนก้อนโต นับวันยิ่งเจริญรุ่งเรือง”

ในตำหนักเงียบกริบ ฮ่องเต้ว่านลี่กับเถียนอี้ล้วนตั้งใจฟัง ความสำเร็จเทียนจินในสายตาทุกคนล้วนเป็นดังเรื่องอัศจรรย์มาก  จะต้องมีองค์เทพคุ้มครองเป็นแน่

อย่าว่าแต่คนนอกมองมาเลย แม้แต่ศาลเจ้าในเทียนจินก็ยังรุ่งเรืองมาก ธูปเทียนไม่ขาด แต่ได้ยินหวังทงกล่าวเช่นนี้ ทุกคนจึงได้พบว่า ในเรื่องพวกนี้มีเหตุผลมากมาย

แต่ละคนล้วนกำลังคิด นี่คือสิ่งที่เรียกว่า ‘หลักการค้า’ วันนี้ได้ฟังเข้าจะต้องจดจำไว้ให้มั่น ไม่แน่ว่าสักวันอาจได้ใช้ หวังทงกล่าวต่อว่า

“กระหม่อมเหตุใดจึงกล่าวถึงเมืองซงเจียง เมืองซงเจียงไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือดี ใกล้ปากแม่น้ำซงเจียง ยังมีแม่น้ำแตกสาขาออกไปอีกหลายสายไปยังเมืองต่างๆ ยังไปสบกับคลองส่งน้ำได้ เชื่อมสัมพันธ์ใต้หล้า พื้นที่ทางใต้มีพวกมากอำนาจวาสนามานานนับพันปี เทียบกับเมืองหลวงแล้วยังเหนือกว่า แดนใต้การค้ารุ่งเรือง คนงานก็ไม่ขาด พื้นที่กับคนเอื้อประโยชน์กัน เหนือกว่าเทียนจินมากยิ่งกว่ามาก”

ฮ่องเต้ว่านลี่เคาะโต๊ะ ก่อนจะอยู่ๆ ตรัสว่า

“เถียนอี้ หวังทง อยู่ก่อน ที่เหลือออกไปได้ เรื่องวันนี้ห้ามแพร่ออกไปเด็ดขาด”

ขันทีในตำหนักล้วนรับคำสั่งพร้อมกัน ก่อนจะถอยออกไป ฮ่องเต้ว่านลี่ตรัสว่า

“เถียนอี้เอากระดาษกับพู่กันออกมาจดที่กล่าวเมื่อครู่ไว้ให้หมด”

กระดาษกับพู่กันอยู่ข้างมือเถียนอี้ คว้าออกมาจดบันทึกได้อย่างรวดเร็ว ฮ่องเต้ว่านลี่คิดไปนานก่อนจะตรัสถามขึ้น

“เมืองซงเจียง พื้นที่กับคนเอื้อประโยชน์กัน เรื่องนี้ เจ้าพูดมาละเอียดหน่อย”

ในตอนนั้นเอง ก็มีขันทีนำแผนที่เข้ามา เถียนอี้ออกไปรับเข้ามา นำมากางออกหน้าพระที่ประทับ ฮ่องเต้ว่านลี่ลุกขึ้นมา หวังทงคุกเข่าอยู่หน้าแผนที่ ยกมือชี้ไปตามจุดทูลว่า

“ฝ่าบาท นี่คือเมืองซงเจียง ตามแม่น้ำฉางเจียงไปทางตะวันตกของเมืองซงเจียง ไปตามเส้นทางน้ำ ผ่านเขตปกครองใต้ เจียงซี หูกว่าง เริ่มจากเมืองซงเจียง เมืองซงเจียง เมืองหยางโจว เมืองซูโจว เมืองอิ้งเทียน เมืองหนิงกั๋ว เมืองอันชิ่ง เมืองฮุยโจว เมืองเหราโจว เมืองจิ่วเจียง เมืองหวงโจว เมืองหนานชาง ไปจนถึงเข้าสู่เสฉวน ฝ่าบาท เมืองตามเส้นทางน้ำเหล่านี้ ล้วนเป็นพื้นที่ร่ำรวยแผ่นดินหมิง มีสินค้ามาก”

ฮ่องเต้ว่านลี่พยักพระพักตร์ ที่หวังทงกล่าวมานี้ ล้วนเป็นพื้นที่รุ่งเรืองของแผ่นดินหมิง  หูกว่าง เจียงซี เขตปกครองใต้ ก็เป็นมณฑลไม่กี่มณฑลที่ร่ำรวยของแผ่นดินหมิง

“ฝ่าบาททรงดูทางนี้ พื้นที่ริมแม่น้ำเหล่านี้มีสายน้ำแยกเข้าสู่ด้านในแผ่นดินเท่าไร ก็หมายความว่า จากเมืองซงเจียงไปทางตะวันตกถึงเสฉวน  เส้นทางน้ำราวใยแมงมุม สินค้าขนถ่ายไปถึงทุกที่ สินค้าต่างแดนขึ้นลงเหนือใต้ ก็สามารถจากเส้นทางน้ำเมืองซงเจียงสู่แม่น้ำฉางเจียงได้  สินค้ามณฑลเหนือใต้แม่น้ำฉางเจียงสามารถมาสู่แม่น้ำฉางเจียงผ่านทางสายน้ำต่างๆ  เมืองซงเจียงไปยังการค้าท้องทะเล ไปยังเหนือใต้แต่ละแห่ง นับเป็นแหล่งรวมสินค้าและการคมนาคม  เงินทองสินค้าเกิดจากกระบวนการเหล่านี้ ไม่พูดเรื่องเรื่อง เอาแค่ผ้าแพรเมืองซงเจียงอย่างเดียว การค้า การขนส่ง  ราชสำนักก็ได้รับผลประโยชน์ยิ่งใหญ่แล้ว”

“พื้นที่ที่เจ้าว่ามาเมื่อครู่ ล้วนเป็นพื้นที่แหล่งรวมคหบดีร่ำรวย พวกเขามีเงินมาซื้อ มีเงินไปเปิดร้านที่เมืองซงเจียง การค้าแดนใต้รุ่งเรือง คนทำงานก็มีไม่ขาด เป็นเหตุผลนี้ใช่ไหม?”

ฮ่องเต้ว่านลี่ทรงคิดไปตรัสไป หวังทงยิ้มทูลว่า

“ฝ่าบาททรงพระปรีชา”

ฮ่องเต้ว่านลี่สะบัดพระพักตร์เดินกลับไปประทับนั่ง ครั้งนี้ทรงคิดอยู่นานมาก ก่อนจะลุกขึ้นไปยืนตรงแผนที่ชี้พระหัตถ์ไปตามเส้นทางที่หวังทงชี้อีกรอบ

“เมืองซงเจียง ที่นี่ใช้ได้เลย หากทำตามแบบเทียนจิน ยิ่งเหนือกว่าเทียนจินก็อาจเป็นได้”

ฮ่องเต้ว่านลี่คิดนาน จากนั้นก็ทรงวิเคราะห์ออก  เถียนอี้ที่จดบันทึกได้ยินก็เงยหน้าขึ้น ตามมาด้วยส่ายหน้าจดต่อ ฮ่องเต้ว่านลี่คิดอีกครู่หนึ่งก็ตรัสว่า

“ที่นี่ไม่อาจให้ขุนนางท้องที่จัดการได้”

“ฝ่าบาทตรัสได้ถูกต้อง เมืองหางโจวและซูโจว ขุนนางเก็บภาษี ล้วนถือว่าได้น้อยมีคุณธรรม เคยมีที่ทำการหนึ่งตั้งกล่องไว้ด้านหน้าที่ทำการ ให้ร้านค้ามาจ่ายภาษีกันเอง ปีหนึ่งเก็บได้ 750 อีแปะ เคยมีไม่เก็บด้วย เรียกว่าเป็นขุนนางมือสะอาด การวางตัวและคิดเช่นนี้ล้วนเพื่อชื่อเสียงตนเอง แต่กลับทำให้ประเทศชาติเสียหาย”

ฮ่องเต้ว่านลี่พยักพระพักตร์ตรัสว่า

“เจ้าว่ากองงานภาษีควรขึ้นกับหน่วยใด ควรส่งนายกองพันองครักษ์เสื้อแพรไปอีกคน เถียนอี้รายงานระบบงานเทียนจินทั้งหมดมา ดูว่าจะดำเนินการเมืองซงเจียงอย่างไร”

“กระหม่อมรับพระบัญชา”

….

การหารือในพระตำหนักทำให้พอจะได้ข้อสรุปว่าเปิดท่าการค้าเมืองซงเจียง จัดตั้งกองงานภาษีใช้เวลา คิดจะสร้างระบบเมืองซงเจียงใหม่ ให้เมืองซงเจียงเป็นศูนย์กลางการค้าเช่นเทียนจิน เรื่องนี้ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน ไม่อาจเห็นผลในทันที

แต่ทว่าฮ่องเต้ว่านลี่ไม่ได้เอ่ยถึงว่า จะให้ผู้ใดไปเมืองซงเจียง หวังทงที่มีประสบการณ์จากเทียนจินไป แน่นอนเหมาะที่สุด  แต่ฮ่องเต้ว่านลี่เห็นได้ชัดว่าไม่ทรงต้องการเช่นนั้น

หวังทงแน่นอนไม่เข้าแย่งอันใด ในมือเขามีมากเกินไปแล้ว ฮ่องเต้ว่านลี่แต่ไรก็กำลังสมดุลอำนาจหวังทง เป็นเพราะอำนาจกับเงินทองในมือเขาล้นเกินไปแล้ว

พูดถึงหวังทงทำทุกอย่างที่เทียนจินนั้น ไม่เพียงแต่ ฟ้า โอกาส พื้นที่และคนเอื้อกัน หากเพราะมีอิทธิพลอำนาจเด็ดขาดของหวังทงอยู่ การค้าเทียนจินทำได้ยุติธรรม เมืองท่ากับการจัดการพื้นที่ก็มีประสิทธิภาพ

ที่เทียนจิน ไม่มีคหบดีครองครองฮุบที่ดินที่เห็นกันทั่วไปบนแผ่นดินหมิง ไม่มีเจ้าหน้าที่ขูดรีด เทียนจินยังมีการรับประกันความปลอดภัยทางทะเล พื้นที่ป้องกันโจรสลัดได้ เทียนจินถูกหวังทงทำให้กลายเป็นเมืองระดับผู้นำทางการค้า

สาเหตุที่เทียนจินรุ่งเรืองนั้น  เมืองซงเจียงไม่อาจมี เพราะหากไม่มีหวังทง เรื่องเหล่านี้ก็ไม่อาจทำได้

แต่ทว่าหวังทงคิดแล้วก็เข้าใจ แม้ว่าไม่มีตนเอง แต่วิธีและธรรมเนียมที่มีอยู่เดิมก็พอจะทำให้เมืองซงเจียงเองเป็นเมืองที่เหนือกว่าเมืองอื่นๆ บนแผ่นดินหมิงแล้ว รวมทั้งเมืองกว่างโจวกับเมืองหางโจวก็ด้วย เพราะเมืองซงเจียงได้เปรียบเรื่องพื้นที่เอง ท่าทะเล ท่าเรือแม่น้ำฉางเจียงตอนใต้ แค่แหล่งรวมสินค้าและการคมนาคมก็พอจะทำให้ให้เมืองซงเจียงรุ่งเรืองมากแล้ว

สำหรับเรื่องควบรวมที่ดินและขูดรีดต่างๆ นี้ ขุนนางทางใต้ทำไม่ได้ เป็นเพราะตระกูลใหญ่แดนใต้มาก สมดุลอำนาจระหว่างกัน ผู้ใดจะกินรวบผู้ใดล้วนไม่อาจทำได้ ล้วนต้องระวังกันเอง การสมดุลเช่นนี้ ก็ทำให้พ่อค้าใหญ่เมืองซงเจียงสามารถดำรงต่อไปได้

เรื่องโจรสลัดนั้น แม้เมืองซงเจียงไม่ได้มีการทหารที่เข้มแข็งอย่างเทียนจิน แต่ทว่าพ่อค้าใหญ่แดนใต้ หากมีการค้าทางทะเลก็ย่อมมีสายสัมพันธ์กับโจรสลัด หรือไม่ก็เป็นต้นทางเสียเอง  คอยจัดหาสิ่งของให้โจรสลัด ไม่ต้องพูดถึงเรือตัวเองก็เป็นเรือโจรสลัด คนเหล่านี้ทำการค้าที่เมืองซงเจียง โจรสลัดอย่างไรก็ไว้หน้าหลายส่วน

เทียนจินมีการค้ากับบนทุ่งหญ้าและเมืองเหลียวโจว เมืองซงเจียงตั้งอยู่ในพื้นที่ร่ำรวยที่สุดของแผ่นดินหมิง ความได้เปรียบนี้มากเหลือเกิน ทุ่งหญ้ากับเมืองชายแดนแม้ว่าทำกำไรมหาศาล  แต่ปริมาณจะเทียบกับในแผ่นดินได้อย่างไร เรื่องนี้เมืองซงเจียงได้เปรียบยิ่งกว่า

ไม่ว่าจงใจหรือไม่ก็ตามที่จะไม่ให้หวังทงเข้าข้องเกี่ยวกับการเปิดท่าการค้าเมืองซงเจียง แต่แผนการนี้จะเป็นได้ หวังทงก็ย่อมได้ผลประโยชน์ใหญ่

ตอนลงใต้ เครือข่ายสามธาราไปเปิดกิจการที่เมืองซงเจียงไว้มากแล้ว ซื้อที่ทางไว้ก็มาก หากเปิดท่าการค้า เครือข่ายสามธาราก็ครอบครองโอกาสก่อนแล้ว

และฮ่องเต้ว่านลี่ทรงเอ่ยถึงองครักษ์เสื้อแพร ตอนนี้เขตปกครองใต้นายกองพันองครักษ์เสื้อแพรหลายคนล้วนให้ความเคารพหวังทง ถึงตอนนั้นยื่นมือลงไปก็ง่ายมาก

มีเรื่องหนึ่งที่หวังทงไม่ได้พูดไป เหนือมีเทียนจิน ใต้มีเมืองซงเจียง การขนส่งและการค้าทะเลยิ่งรุ่งเรือง ไม่นาน การขนส่งคลองส่งน้ำต้องล่มสลาย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย การขนส่งคลองส่งน้ำสิ้นเปลืองแรงงานและทรัพย์สิน เก็บได้ก็เก็บ ไม่ได้ก็ทิ้งร้างไปก็แล้วกัน !

กลับมาถึงจวน หวังทงอยู่ ๆ คิดได้เรื่องหนึ่ง สถานะเมืองซงเจียงในยุคหลังใช่ว่าเป็นเมืองรุ่งเรืองอย่างที่สุดหาใดเทียมหรือ? มิน่าตนเองจึงได้เอ่ยถึงเมืองซงเจียง

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1116 อ่านนิยาย


หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

Options

not work with dark mode
Reset