องครักษ์เสื้อแพร 956 เชี่ยวชาญการค้า

ตอนที่ 956 เชี่ยวชาญการค้า

ได้ยินหวังทงกล่าว ‘โอกาสร่ำรวย’ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าทุกคนก็ล้วนตั้งใจฟังทันที มีคนฉลาดถึงกับเดาได้ว่าหวังทงจะกล่าวอันใด

“บ่อเกลือจะขายเกลือเอง วันหน้าจะจับกุมเข้มงวด หากหน่วยงานเกลือทางการจัดการไม่ดี องครักษ์เสื้อแพรจะมาจัดการเอง”

ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเริ่มต้นจะกล่าวเรื่องนี้ พากันได้สติคิดได้ กำไรการค้าเมืองชายแดนหนิงเซี่ยมากที่สุดก็คือเกลือ บ่อเกลือฉือเหยียนคุณภาพสูงต้นทุนต่ำ ไม่ว่าไปขายบนทุ่งหญ้าหรือบนแผ่นดินหมิงก็ล้วนขายราคาสูง เป็นการค้าที่นั่งเฉยๆ รวยเอาๆ

ตระกูลปัวเหตุใดจึงเหิมเกริมวางอำนาจได้ ก็เพราะมีแหล่งสนับสนุนอย่างบ่อเกลือฉือเหยียน ทำไมคนในเมืองหนิงเซี่ยส่วนใหญ่มองเป็นศัตรู ก็เป็นเพราะเขาคุมบ่อเกลือ

ตอนนี้ทุกคนล้วนไม่ได้กิน มีคนนอกมากลืนกินไปแล้ว ทุกคนย่อมไม่อาจทำใจยอมรับได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หวังทงใหญ่เกินไปสำหรับเมืองหนิงเซี่ย เมืองหนิงเซี่ยต่างจากเมืองชายแดนอื่น อยู่ในเขตลุ่มน้ำ ได้รับอิทธิพลจากการขยายตัวของเมืองกุยฮว่าเฉิงมากที่สุด ยิ่งเข้าใจหวังทงมากกว่าที่อื่น รู้ยิ่งมากก็ยิ่งไม่กล้า

“พวกเจ้าตอนนี้มองกำแพงเมืองสำคัญเกินไปแล้ว! พวกเจ้าคิดว่านอกกำแพงอันตรายอย่างที่สุดงั้นหรือ?”

วาจาหวังทงต่อมาทำให้ทุกคนที่นั่งเริ่มส่งเสียงดัง เมื่อก่อนกำแพงเมืองเป็นดังเส้นแบ่งแผ่นดินหมิงกับทุ่งหญ้า ในกำแพงมีกฎหมายธรรมเนียม ทางนอกเป็นดินแดนป่าเถื่อน กำลังแข็งแกร่งกลืนกินกำลังอ่อนแอ พวกที่ไปมาหาสู่กับด้านนอกมากสุดก็ขบวนการค้า แต่ตอนนี้ไม่ใช่ หลังจากตระกูลปัวล้ม เผ่าใหญ่ด้านนอกด่านล้วนถูกกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงติดอาวุธกวาดล้างไปครั้งหนึ่ง ตอนนี้ที่นั่นไม่มีอันตรายแล้ว

ความจริงนั้นหลังเผ่าอันต๋าถูกทำลาย เมืองหนิงเซี่ยก็มีคนออกปักเขตบนทุ่งหญ้าสร้างเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ เริ่มเพาะปลูกบริเวณลุ่มน้ำ แต่ทว่าล้วนเป็นการทดลองทำ ยังมิได้ชัดเจนนัก

“ฮวงโหร้อยภัย เพียงประโยชน์ลุ่มน้ำ พื้นที่ลุ่มน้ำอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ทางตะวันตกเฉียงเหนือ พวกเจ้าอยู่ใกล้ภูเขาเงินทอง เหตุใดไม่ไปเอาไว้!?”

หวังทงถามกลับเสียงดัง ทำให้คนเบื้องหน้าเริ่มนั่งไม่ติด เขากล่าวต่อว่า

“ไปปักเขตจับจองพื้นที่ด้านนอก ถอยกลับมาเมืองหนิงเซี่ยได้ ด้านนอกยังมีกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงช่วยพวกเจ้าช่วยพวกเจ้าเรื่องสินค้าและข้าวของต่างๆ เมืองหนิงเซี่ยหาพื้นที่น้ำยากเพียงใด ที่ดินกว่าจะเพาะปลูกมาได้สักร้อยชั่งยากเพียงใด ผืนนาเช่นนี้ต้องเสียเงินทองพวกเจ้ามากเพียงใด แต่ที่นาดีบนลุ่มน้ำเช่นนี้ไร้ขอบเขตสิ้นสุด ขอเพียงพวกเจ้าไปบุกเบิก ย่อมมีผลประโยชน์ให้เก็บเกี่ยว”

“ท่านโหว ลุ่มน้ำทางนั้นไม่มีน้ำ!”

เขาพูดจบก็มีเสียงฮือดัง ไม่สนใจลำดับใหญ่น้อย ได้ยินก็พากันแย่งพูด หวังทงยิ้มกล่าวว่า

“อะไรก็ต้องรอทำสำเร็จพร้อมหรือ? ฝ่าบาทส่งทหารปราบเผ่าอันต๋าสิ้น หรือว่ายังต้องบุกเบิกที่ดินเสร็จสรรพส่งให้พวกเจ้าถึงที่ พวกส่านซีและซานซีสร้างระบบชลประทานเอง ได้ผลผลิตมาปีหนึ่งแล้ว พวกเจ้ายังรออะไร หากรออีกล่ะก็ รอให้พื้นที่ซานซีกับส่านซีมาปักเขตจับจองพื้นที่ไปหมดกันพอดี!”

พื้นที่ลุ่มน้ำโอบล้อมด้วยแม่น้ำฮวงโห เป็นพื้นที่น้ำอุดมสมบูรณ์ที่หาได้ยากยิ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือ และได้เปรียบด้านลักษณะพื้นที่ สร้างทางน้ำเองย่อมไม่ต้องใช้วิธีการชั้นสูงนัก

จิตใจคนพวกนี้ไม่กลัวตนเองไม่มี แต่กลัวคนอื่นมี ได้ยินหวังทงกล่าวถึงคนส่านซีกับซานซี ทุกคนแน่นอนเข้าใจ รีบคิดได้ทันที กล่าวว่า ‘ไร้ขอบเขต’ แต่ถ้ายังไม่ไปอีก ก็คงสายไปแล้วจริงๆ

“พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ความสงบบนทุ่งหญ้า ผู้บัญชาการพวกเจ้าเองก็มีโรงบ้านสองแห่งที่นั่น พวกเจ้ากลัวอะไร หากเจอภัยจริง กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงย่อมไม่นั่งมองเฉย ทหารชายแดนหนิงเซี่ยก็มิใช่กินเจไม่สังหารคนเสียหน่อย”

สายตาทุกคนมุ่งไปยังผู้บัญชาการจางเหวยจง ล้วนไม่เป็นมิตร ที่แท้เจ้าแอบไปรวยคนเดียวแล้ว ทุกคนเอาแต่ป้องกันตระกูลปัวไม่รู้เรื่องกันอยู่

ผู้บัญชาการจางเหวยจงยิ้มแหะๆ ยกถ้วยสุราขึ้นจิบ ท่าทางเฝื่อนฝืดยิ่ง หวังทงได้รับปากว่าร้านสาขาสามธาราหนิงเซี่ยหลังเปิดกิจการ กำไรสองส่วนแบ่งให้เขา นี่เป็นผลประโยชน์ใหญ่ หวังทงไม่ได้เอาผิดที่ไม่ทำหน้าที่ ยังให้ผลประโยชน์อีก เขาย่อมรู้จักดีชั่ว

ผู้บัญชาการเมืองหนิงเซี่ยนับเป็นเบอร์ต้นๆ ในเมืองหนิงเซี่ย  คิดไม่ถึงเขาจะไม่พูดไม่จาแต่ไปแอบทำแล้ว ทุกคนจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร หากยังไม่ไปอีก เนื้อพวกนี้คงถูกขุนนางแย่งไปหมด

“ข้าสามารถรับปากทุกคนได้ว่า ในสามปีที่บุกเบิก ไม่เก็บภาษีใด ใช่แล้ว ไม่เก็บเงินใดๆ ทั้งสิ้นเช่นกัน”

ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มดัง ในงานเลี้ยงล้วนเป็นตระกูลใหญ่ ไปบุกเบิกพื้นที่ด้านนอกกำแพงเมือง คนงานและเครื่องมือพร้อม  คิดภาพได้ว่า หากระบบชลประทานทำเสร็จ  ได้ผลผลิตไม่น้อยและยังอาจทำกำไรได้อีก ได้กำไรเหมือนเปิดร้านค้า ที่นาสำหรับพวกตระกูลใหญ่เหล่านี้แล้วเรียกได้ว่าเป็นสมบัติสืบทอดได้ มีค่ามาก ตนเองยึดมาได้ส่วนหนึ่ง ได้ประโยชน์ตอนนี้ไม่ว่า วันหน้ายังส่งต่อให้ลูกหลานได้อีก

เรื่องดีๆ เช่นนี้ เดิมทีล้วนจะยื่นเงื่อนไขกับหวังทง คิดไม่ถึงหวังทงรับปากทันทีว่าสามปีไม่เก็บภาษีใด นี่ยิ่งเป็นเรื่องดีซ้อนเรื่องดี เงื่อนไขนี้ทำให้หลายคนไม่อยากจะเชื่อ

แต่ทว่าด้วยสถานะติ้งเป่ยโหวและผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรสองสถานะนี้  พวกเขาไม่อาจไม่เชื่อ ผู้ว่าการมณฑล ตั่งเซียงกับขันทีคุมกำลังที่นั่งอยู่สบตากัน ล้วนส่ายหน้าอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร

สามปีไม่เก็บภาษี เรื่องไม่ใหญ่ เทียบกับรายได้แผ่นดินหมิงแล้ว ไม่ใช่ก้อนโต แต่มีนัยยะหนักมาก แม้สถานะหวังทงก็ไม่อาจตัดสินใจได้ แต่มาคิดให้ดี พื้นที่นอกกำแพงเมืองไม่ใช่พื้นที่แผ่นดินหมิง กฎหมายไปไม่ถึง จึงหาข้อโต้แย้งใดไม่ได้ จะว่าไปทุกคนล้วนได้ประโยชน์จากหวังทง ปิดตาข้างหนึ่งก็แล้วกัน

ทุกคนที่นั่งอยู่ล้วนเริ่มตื่นเต้นยินดี หลายคนที่คุ้นเคยพื้นที่ก็เริ่มหารือวิพากษ์วิจารณ์กันเบาๆ เมืองชายแดนหนิงเซี่ยเดิมก็คุ้นเคยพื้นที่นอกกำแพงเมืองอยู่แล้ว หลังกำหนดทิศทางก็ตัดสินใจว่าจะทำเช่นไร จะแบ่งกันเช่นไร ทุกคนเริ่มหารือกัน

“แต่มีเรื่องหนึ่ง ทุกคนต้องจัดเตรียมฝึกกองกำลังตนเอง เตรียมกำลังตนเองไว้ อันนี้ไม่อาจละเลย ไม่มีสิ่งนี้ ไม่อนุญาตให้บุกเบิกที่ดินบนทุ่งหญ้านอกด่าน!”

หวังทงยิ้มเสริม เรื่องกองกำลัง ฝึกกองกำลังเป็นเรื่องที่ควรต้องทำอยู่แล้ว แต่ทว่าค่าใช้จ่ายไม่น้อย  พวกกำลังไม่อาจต่อสู้นั้นใช้การไม่ได้ คิดจะใช้การได้ ก็ต้องตั้งใจฝึกซ้อมไม่ต้องทำงานใด เลี้ยงคนเปล่าๆ ไว้กองหนึ่ง  เรื่องนี้ผู้ใดอยากจะทำ

“ใต้หล้านี้ไม่มีสิ่งใดได้มาเปล่าๆ นอกกำแพงเมืองมีโจรกลุ่มใหญ่ถูกกวาดล้าง แต่พวกโจรม้านอกด่านกลุ่มเล็กยังคงมีไม่น้อย พวกโจรเหล่านี้ หรือว่าพวกเจ้าต้องการให้ทหารชายแดนออกไปปราบให้ด้วย หรือรอให้พวกเจ้ามาตามทหารไป ก็ไม่ทันแล้วงั้นหรือ?”

มาตามกำลังในด่านไปปราบโจร ดีไม่ดียุ่งยากยิ่งกว่าพวกนอกด่านออกข้ามเขตแดนมาเสียอีก  นั่นเพราะการปล้นชิงเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นเรื่องยากลำบากจะปราบปรามมาก หวังทงกล่าวว่า

“หากคิดจะบุกเบิกเพาะปลูกก็ต้องทำตามธรรมเนียม มีการฝึกกำลัง ข้าจะใช้ระเบียบธรรมเนียมเช่นเมืองกุยฮว่าเฉิงส่งคนที่รู้วิธีการฝึกมาให้ และขายอาวุธให้ในราคาย่อมเยา”

ในเมื่อหวังทงกล่าวรายละเอียดเช่นนี้ คิดแล้วก็ย่อมเข้าใจ คนเบื้องหน้าได้แต่ไปหรือไม่ไป แค่สองทางเลือก ส่วนใหญ่ก็ย่อมเลือกที่จะไป

พอจัดการทุกเรื่องเสร็จ บรรยากาศงานเลี้ยงก็เริ่มผ่อนคลายลงมาก วันหน้าเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มน้ำ ทุกคนล้วนต้องช่วยเหลือกัน ถึงกับยังต้องร่วมกันเป็นกลุ่มอีก ยามนี้ได้แต่หาสายสัมพันธ์กันล่วงหน้า ชนจอกสุราแลกเปลี่ยนบทสนทนาคึกคักกันยิ่ง ชายตะวันตกเฉียงเหนือ ล้วนชำนาญการดื่ม บรรยากาศงานเลี้ยงยิ่งคึกคักขึ้นเรื่อยๆ

หวังทงดื่มกับหลายคน ทุกคนมาคารวะหวังทงสามรอบตามมารยาท  จากนั้นหวังทงก็กลับไปพักผ่อนด้านหลัง ขณะนั่งพัก หลิวจี๋หลินก็นำรายชื่อมา หวังทงกล่าวว่า

“วันนี้พวกที่มาร่วมงานและยอมจะไป ให้ทำป้ายมอบให้ทุกคน ทำตามแบบป้ายสงบสุข คนที่ไม่ได้ร่วมงาน ไม่มีคุณสมบัติไปบุกเบิก คิดจะไปก็ต้องอาศัยคนวันนี้พาไป ธรรมเนียมนี้ต้องยึดมั่นให้ดี เจ้าเข้าใจไหม?”

หลิวจี๋หลินรีบรับคำ ในใจก็คิดชมหวังทงว่าคิดการได้รอบคอบ ลุ่มน้ำกว้างใหญ่ คนบุกเบิกมากไปย่อมกระจัดกระจาย ไม่สะดวกควบคุมไม่ว่า ยังอาจทำให้พวกนอกด่านบนทุ่งหญ้ามาโจมตีได้ง่าย ทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่จำเป็น  เลือกระดับหัวหน้ามาเข้าร่วม จากนั้นให้พวกเล็กๆ ที่เหลือไปร่วมกับคนพวกนี้ เช่นนี้ด้านนอกย่อมกลายเป็นโรงบ้านที่มีคนมารวมกันขนาดใหญ่ มีกำลังเพียงพอต้านทานการโจมตีไม่คาดฝัน

“ผู้บัญชาการ ข้าน้อยขอบังอาจถามว่า สามปีไม่เก็บภาษีเรื่องนี้ขอให้คิดอีกที ต้องทูลฝ่าบาท ไม่เช่นนั้นอาจยุ่งยาก!”

หลิวจี๋หลินสำทับถาม หวังทงมองไปทางหลิวจี๋หลิน กล่าวว่า

“เจ้าอยู่หนิงเซี่ยวันหน้ามีเรื่องมากมายให้ต้องทำ คิดได้รอบคอบไม่ใช่เรื่องเสียหาย เรื่องนี้เจ้าฟังไว้ก็พอ ไปนอกกำแพงเมืองบุกเบิกนั้น สิ่งของเครื่องใช้และอาวุธล้วนต้องซื้อจากกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิง ผลผลิตที่ได้มา กลุ่มพ่อค้าทางนั้นก็ย่อมได้สิทธิเลือกซื้อก่อน เจ้าควรรู้ว่า กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงจ่ายภาษีราชสำนัก”

พอกล่าวเช่นนี้ หลิวจี๋หลินก็เข้าใจทันที กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงความจริงนั้นเก็บภาษีแทนราชสำนัก และยังทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเป็นความเมตตาได้อีก

“ผู้บัญชาการลึกล้ำยิ่ง ข้าน้อยเลื่อมใสยิ่งแล้ว!”

“ไม่ได้เรียกว่าลึกล้ำอันใด ทำการค้ามาสองสามปี ก็พอเข้าใจอยู่บ้าง ก็แค่นี้เท่านั้น!”

หวังทงยิ้มตอบ หลิวจี๋หลินยิ้มตามประสานมือคำนับ หวังทงยกถ้วยชาขึ้นจิบ กำชับอีกว่า

“อีกครึ่งเดือนจะมีกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงมา ขนสินค้ามาแล้ว พวกเขาจะรับหน้าที่นำตระกูลปัวไปยังเมืองกุยฮว่าเฉิง ก่อนหน้าที่จะมานี้ คนที่ตระกูลปัวไม่เก็บไว้เจ้ารีบจัดการเป็นพวก อย่าปล่อยให้พวกเขากระจัดกระจายไป คนในมือเจ้ามีกำลังมาก ความรับผิดชอบก็มาก งานในเมืองนอกเมืองต้องใส่ใจให้มาก มีอันใดตัดสินใจไม่ได้ ก็ให้ไปหารือกับเถ้าแก่ร้านสามธารา เขาจะช่วยเจ้าได้ และจะให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่ขาดเหลือแก่เจ้า”

“ขอรับ! ผู้บัญชาการวางใจ  ข้าน้อยจะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เรื่องสำคัญจะถามความเห็นผู้บัญชาการ”

“เจ้าเป็นผู้นำที่นี่ ตัดสินใจด้วยตนเองมากหน่อยถือเป็นการฝึกฝน เดิมคิดว่าต้องอยู่ที่นี่หลายเดือน แต่ดูท่าแล้ว อีกไม่กี่วันก็กลับได้แล้ว!”

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1116 อ่านนิยาย


หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

Options

not work with dark mode
Reset