หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 259 อย่าทิ้งเปิ่นหวางไป

บทที่ 259 อย่าทิ้งเปิ่นหวางไป

บท​ที่​ 259 อย่า​ทิ้ง​เปิ่น​หวา​งไป​

มือ​เรียว​งามของ​เจียง​หวาย​เย่​ บัดนี้​เต็มไปด้วย​รอยแผล​ขีด​ข่วน​จาก​เศษกิ่งไม้​และ​หิน​ก้อน​เล็ก​ ๆ ที่อยู่​ใน​กอง​ใบไม้​แห้ง​

เขา​ลงมือ​รื้อ​กอง​ใบไม้​ต่อไป​ด้วย​จิตใจ​ร้อนรน​ จนกระทั่ง​สัมผัส​เข้ากับ​บางอย่าง​ที่​นุ่ม​หยุ่น​และ​เย็นเยียบ​

หัวใจ​ของ​เจียง​หวาย​เย่​กระตุก​ด้วย​ความ​ปวดใจ​ มือ​พลัน​รื้อ​ใบไม้​บริเวณ​นั้น​ออก​อย่าง​เร่งรีบ​ เมื่อ​ดวง​หน้า​อัน​คุ้นเคย​เผย​ขึ้น​มาให้​เห็น​ ชายหนุ่ม​ก็​รีบ​ควานหา​ไหล่​แล้ว​จับ​ดึง​ร่าง​ใต้​โลงศพ​ใบไม้​ขึ้น​มาวาง​ราบ​บน​พื้น​ทันที​

มือ​งามอัน​เต็มไปด้วย​รอยขีดข่วน​สัมผัส​บน​ดวง​หน้าซีด​นั้น​อย่าง​สั่นเทา​ เจียง​หวาย​เย่พบ​ว่า​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ของ​เขา​ยาม​นี้​ช่างตัว​เย็น​ราวกับ​ไม่ใช่คน​เป็น​แล้ว​เหลือเกิน​

เขา​คุกเข่า​มอง​หญิงสาว​เบื้องหน้า​พร้อมกับ​ไหล่​ที่​สั่นสะท้าน​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​รู้สึก​ว่า​อนาคต​ช่างมืดมน​ยิ่งนัก​

หยาดน้ำ​ใสหลั่งไหล​ออก​มาจาก​ชายชาตรี​ หยด​ลง​บน​ใบหน้า​หญิงสาว​ซึ่งหลับตา​อยู่​หยด​แล้ว​หยด​เล่า​

ชาย​กำยำ​ร่าง​สูงใหญ่​ถึงเจ็ด​ฉื่อ​ ทั้ง​แข็งแกร่ง​และ​องอาจ​ถึงเพียงนั้น​ กำลัง​ร่ำไห้​ออกมา​

ในขณะที่​ฝ่าย​องค์​ชาย​กำลัง​สายตา​พร่ามัว​ด้วย​ม่าน​น้ำตา​ เปลือกตา​ของ​คน​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ก็​ขยับ​เคลื่อนไหว​ขึ้น​อย่าง​แผ่วเบา​ ตา​คู่​งามค่อย ๆ​ ลืม​ขึ้น​มา

เมื่อ​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​ใคร​ หลิน​ซีเหยียน​จึงเอ่ย​ออก​ไป​ด้วย​เสียงแหบ​พร่า​ “เจียง​…หวาย​เย่?”​

เสียง​เรียก​เมื่อ​ครู่​เป็น​ดั่ง​เสียงสวรรค์​ของ​เจียง​หวาย​เย่อ​ย่าง​ไม่อาจ​หา​ใด​เปรียบ​

เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​!

เจียง​หวาย​เย่​พลัน​โผ​เข้าไป​ประคอง​กอด​หลิน​ซีเหยียน​ทันที​ ปาก​ละล่ำละลัก​พูด​ราวกับ​กลัว​คน​ตรงหน้า​จะหาย​ไป​อีก​ “เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​อย่า​ทิ้ง​เปิ่น​หวา​งไป​ไหน​อีก​เลย​ ไม่เช่นนั้น​เปิ่น​หวา​งคง​ไม่รู้​ว่า​จะทน​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ได้​อย่างไร​”

ทว่า​กลับ​ไม่มีสุ้มเสียง​ใด​ตอบกลับ​จาก​หญิงสาว​อีก​ฝ่าย​แม้แต่น้อย​ เจียง​หวาย​เย่​จึงได้​ผละ​ตัว​ขึ้น​มามอง​ แล้ว​เขา​ก็​พบ​ว่า​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ได้​สลบ​ไป​อีกแล้ว​ กระนั้น​ก็​ยัง​โล่งใจ​ได้ที่​นาง​ยัง​หายใจ​อยู่​

เจียง​หวาย​เย่​จึงอุ้ม​หลิน​ซีเหยียน​ขึ้น​มาแล้ว​พา​นาง​กลับ​ไป​บริเวณ​ถ้ำที่​พวก​หน่วย​อัน​ยังอยู่​ เมื่อ​อัน​อี้​และ​หน่วย​อัน​เห็น​ดังนั้น​จึงเข้าใจ​ได้​ว่า​ภารกิจ​ครั้งนี้​ได้​สำเร็จ​ลุล่วง​แล้ว​ ข่าว​ถูก​กระจาย​ออก​ไป​และ​หน่วย​อัน​ทั้งหมด​จึงหยุด​ทำการ​ค้นหา​ พร้อมกัน​นั้น​ เจียง​หวาย​เย่​ก็​ควบม้า​พา​หลิน​ซีเหยียน​กลับ​ไป​ยัง​โรง​หมอ​

ณ โรง​หมอ​หุย​ชุน​

เฉิงรุ่ย​เหยียน​กับ​หมอ​อีก​สอง​คนใน​โรง​หมอ​กำลัง​ถกเถียง​และ​หารือ​กัน​เรื่อง​ไข้​ที่สูง​ขึ้น​เรื่อย ๆ​ ของ​ฮ่องเต้​หลี​ พวกเขา​แทบจะ​กาง​ตำรา​ทุกอย่าง​ที่​ตน​มีรวมถึง​ประสบการณ์​ใน​ทุก​ซอก​ทุก​หลืบ​ความทรงจำ​มาวางแผน​รักษา​ฮ่องเต้​หนุ่ม​ เพราะ​มิฉะนั้น​ฮ่องเต้​ผู้​นี้​คง​ได้​สิ้นลม​ใน​รัฐ​เจียง​เป็นแน่​

“เฉิงรุ่ย​เหยียน​ มานี่​เร็ว​เข้า​!”

ในขณะที่​พวกเขา​กำลัง​ว้าวุ่น​กัน​อยู่​ใน​ห้อง​หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็​มีเสียง​หนึ่ง​ตะโกน​ขัดจังหวะ​ขึ้น​ เมื่อ​จำได้​ว่า​เป็น​เสียง​ของ​องค์​ชาย​เย่​ เฉิงรุ่ย​เหยียน​จึงเดิน​ออก​ไปหา​อย่าง​จำยอม​

ทว่า​เมื่อ​เห็น​สภาพ​ของ​หลิน​ซีเหยียน​ใน​อ้อมแขน​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ เขา​ก็​รีบ​ถามทันที​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​?”

เจียง​หวาย​เย่​ไม่ได้​ตอบคำถาม​ แต่กลับ​รีบ​พา​หลิน​ซีเหยียน​ไป​ทาง​ห้อง​อีก​ห้อง​แล้ว​วาง​นาง​ลง​บน​เตียง​ “เจ้าดู​ซิว่า​อาการ​ของ​หลิน​ซีเหยียน​เป็น​อย่างไรบ้าง​?”

บน​กระโปรง​ของ​หลิน​ซีเหยียน​ยาม​นี้​มีรอย​เลือด​ดำคล้ำ​ซึมออกมา​จน​แผ่​กว้าง​ไป​ทั่ว​ผืน​ผ้า​ เมื่อ​เฉิงรุ่ย​เหยียน​เลิก​มัน​ขึ้น​จึงเห็น​สภาพ​แผล​ที่​น่อง​ของ​นาง​ มัน​ถูก​พิษ​อย่าง​แน่นอน​

ไม่รอ​ช้าเขา​ก็​จับชีพจร​ของ​นาง​ ก่อน​จะถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ “ท่าน​หมอ​หลิน​ได้​ขับ​พิษ​ออกมา​ด้วยตัวเอง​บางส่วน​แล้ว​ ในเวลานี้​บาดแผล​ของ​นาง​จึงไม่น่า​กังวล​มาก​นัก​”

“ถ้าเช่นนั้น​ทำไม​นาง​ถึงยัง​หมดสติ​อยู่​?” เจียง​หวาย​เย่​ถามอย่าง​ร้อนรน​

เฉิงรุ่ย​เหยียน​ก็ได้​แต่​คิด​ว่า​ นี่​สินะ​ ที่​เรียก​ว่า​ห่วง​จน​ทำ​อะไร​ไม่ถูก​ ก่อนที่​เขา​จะอธิบาย​ต่อไป​ว่า​ “ที่​ท่าน​หมอ​หลิน​ยัง​หมดสติ​อยู่​ ข้า​เกรง​ว่า​จะเป็น​เพราะ​นาง​เสีย​เลือด​มากเกินไป​ ประเดี๋ยว​ข้า​จะรักษา​แผล​ตรง​ขา​ของ​นาง​ให้​ก่อน​ ส่วน​อาการ​จับไข้​และ​เสีย​เลือด​มาก​ ข้า​จะต้ม​ยาบำรุง​ให้​”

“แล้ว​เรา​จะขับ​พิษ​ที่​เหลือ​ออกจาก​ตัวนาง​ให้​หมด​ได้​เมื่อไร​?” เจียง​หวาย​เย่​ถามต่อ​อย่าง​กระวนกระวายใจ​ ด้วย​เพราะ​เขา​ไม่ต้องการ​ให้​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​มีระเบิดเวลา​เช่นเดียวกัน​กับ​เขา​

เมื่อ​เฉิงรุ่ย​เหยียน​พินิจ​แผล​ตรง​ขา​นั้น​แล้ว​ คิ้ว​ก็​ยิ่ง​ขมวด​แน่น​ยิ่งขึ้น​ “ข้า​ไม่เคย​เห็น​พิษ​ชนิด​นี้​มาก่อน​ เกรง​ว่า​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​ใน​การศึกษา​ถึงจะสามารถ​ขับ​พิษ​ได้​”

หนึ่ง​ก้านธูป​ผ่าน​ไป​ เฉิงรุ่ย​เหยียน​ก็​นำ​ยาต้ม​มาป้อน​ให้​หลิน​ซีเหยียน​ เพียง​อึดใจ​ต่อมา​ หญิงสาว​ก็​รู้สึกตัว​ ทว่า​คำพูด​แรก​ที่​หญิงสาว​เอ่ย​ออกมา​หลังจากที่​เพิ่ง​ฟื้น​คือ​ “ตะกร้า​ไม้ไผ่​ของ​ข้า​อยู่​ที่ไหน​?”

เจียง​หวาย​เย่​ขมวดคิ้ว​กับ​คำถาม​ดังกล่าว​ทันที​ พร้อม​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​ “ชีวิต​เจ้ากับ​ตะกร้า​ไม้ไผ่​สิ่งใด​สำคัญ​กว่า​กัน​?” ไม่พูด​เปล่า​ มือ​ยัง​เขย่า​ไหล่​อีก​ฝ่าย​อย่าง​ไม่เชื่อ​หู​อีกด้วย​

หลิน​ซีเหยียน​กะพริบตา​ปริบ ๆ​ จากนั้น​จึงคลี่​ยิ้ม​ออกมา​ “ข้า​จำได้​แล้ว​ เป็น​องค์​ชาย​จริง ๆ​ สินะ​ที่​ช่วย​ข้า​เอาไว้​”

ใน​ตอนที่​นาง​ลืมตา​ขึ้น​มาครา​แรก​นั้น​ นาง​จำได้​ว่า​เห็น​บุรุษ​ผู้​หนึ่ง​ที่​ดู​ละม้าย​คล้าย​องค์​ชาย​เย่​ ผิด​แต่ว่า​กำลัง​ร้องไห้​น้ำตา​นองหน้า​ นาง​จึงไม่สู้แน่ใจ​ แล้ว​คิด​ว่า​ตนเอง​ฝัน​ไป​

แต่​ยาม​นี้​ หลิน​ซีเหยียน​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​นั่น​เป็น​เรื่องจริง​

เจียง​หวาย​เย่​ผู้​นี้​ได้​เสียน้ำตา​เพื่อ​นาง​

ฝ่าย​เจียง​หวาย​เย่​ เมื่อ​ได้​มอง​ไป​ที่​คนป่วย​ซึ่งในเวลานี้​กำลัง​มีสีหน้า​ดู​ตื่นเต้น​แล้ว​ มุมปาก​ของ​เขา​ก็​เกิด​กระตุก​ขึ้น​มา ด้วย​เพราะ​เขา​พอ​จะเดา​ได้​ว่า​อีก​ฝ่าย​กำลัง​นึกคิด​สิ่งใด​อยู่​

ใน​ตอนที่​เจียง​หวาย​เย่พบ​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ เขา​คง​เสียสติ​ไป​แล้ว​ ถึงได้​น้ำตาไหล​พราก​เป็น​เด็กน้อย​เช่นนั้น​

หลังจากที่​หลิน​ซีเหยียน​ยืนยัน​ใน​สิ่งที่​ตน​เคย​เห็น​ได้​แล้ว​ นาง​ก็​วก​กลับมา​พูดถึง​ตะกร้า​ไม้ไผ่​ต่อ​ “แล้ว​ตะกร้า​ที่​ข้า​ถามหา​ล่ะ​ อยู่​ที่ไหน​? มัน​มีสมุนไพร​อยู่​ใน​นั้น​ ใครก็ได้​เอา​มัน​ไป​ลง​หม้อ​พร้อมกับ​สมุนไพร​ที่​ข้า​ได้​ต้ม​เตรียม​ไว้​แล้ว​ที​ พอ​ได้ที่​แล้วก็​เอา​ไป​ให้​ฮ่องเต้​หลี​อาบ​สัก​ชั่ว​ยาม​ครึ่ง​ แล้ว​อาการ​ติดเชื้อ​ที่​แผล​ของ​เขา​จะทุเลา​ลง​”

เมื่อ​เจียง​หวาย​เย่​ได้​รู้​ว่าที่​หลิน​ซีเหยียน​ขึ้น​เขา​ก็​เพื่อ​ไปหา​สมุนไพร​มาให้​หลี​เจี้ยนเฉิน​แล้ว​ ก็​มีกระแส​ความไม่พอใจ​เล็ก​ ๆ ก่อตัว​ขึ้น​ภายใน​ กระนั้น​เขา​ก็​ยัง​ปั้นหน้า​นิ่ง​ ไม่ได้​แสดงท่าที​ดังที่​รู้สึก​ออกมา​ มิหนำซ้ำ​ยัง​ตอบ​ฝ่าย​หญิงสาว​อย่าง​ใจเย็น​ด้วยว่า​ “ตะกร้า​ไม้ไผ่​ใบ​นั้น​อัน​อี้​น่าจะ​นำ​กลับมา​ให้​แล้ว​” จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ทาง​เฉิงรุ่ย​เหยียน​ “ทำ​ตามที่​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​บอก​”

เฉิงรุ่ย​เหยียน​ผงกหัว​รับคำ​ทันที​ ด้วย​เพราะ​เขา​รู้จัก​ตัวตน​ของ​หลิน​ซีเหยียน​ดี​ เขา​จึงได้​ไม่แย้ง​อะไร​

และ​หลังจากที่​หลิน​ซีเหยียน​อธิบาย​วิธี​รักษา​หลี​เจี้ยนเฉิน​เรียบร้อย​แล้ว​ นาง​ก็​สลบ​ไป​อี​กรอบ​

ช่างเป็น​ค่ำคืน​ที่​วุ่นวาย​เสีย​จริง ๆ​…

เจียง​หวาย​เย่​คิด​เช่นนั้น​ขณะ​ที่นั่ง​เฝ้าเสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​อยู่​ข้าง ๆ​ เตียง​ และ​เมื่อ​ทำได้​เพียง​เฝ้าดู​อย่าง​เงียบ ๆ​ ในไม่ช้า​ เขา​ก็​เข้าสู่​ห้วง​ภวังค์​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ก็​มีเสียงเคาะ​ประตู​ดัง​ขึ้น​

องค์​ชาย​รัตติกาล​จึงตื่น​เต็มตา​ทันที​แล้ว​ เมื่อ​ออก​ไป​ข้างนอก​ห้อง​ก็​พบ​ว่า​เป็น​เชีย​น​เอ้อ​ เขา​ผู้​นี้​เชี่ยวชาญ​เรื่อง​การ​ทรมาน​ยิ่งนัก​ นักโทษ​ส่วนใหญ่​จึงมัก​ถูก​ส่งให้​เขา​ไป​จัดการ​ ด้วยเหตุนี้​เอง​ ตัว​ของ​อีก​ฝ่าย​จึงมัก​มีกลิ่น​คาวเลือด​ติด​มาเสมอ​

“ได้ความ​อย่างไรบ้าง​?” เจียง​หวาย​เย่​ปิด​บานประตู​ห้อง​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ลง​ แล้ว​เดิน​นำ​เชีย​น​เอ้อ​ออก​ไป​สนทนา​ให้​ห่าง​จาก​หน้า​ห้อง​กว่า​เดิม​เสียหน่อย​ ด้วย​กลัว​ว่า​เสียง​อาจจะ​ไป​รบ​กบ​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ แล้ว​ทำให้​นาง​ตื่นขึ้น​มาได้​

เชีย​น​เอ้อ​จึงคุกเข่า​ลง​แล้ว​รายงาน​ “ชวี​เจิ้งสารภาพ​แล้ว​พ่ะย่ะค่ะ​ ว่า​คน​ที่​ทำร้าย​องค์​หญิง​ ชื่อ​หวัง​ซิน​อู่​ กระหม่อม​คิด​ว่า​นี่​อาจจะ​เป็น​ข้อมูล​ที่​มีประโยชน์​ต่อ​ฝ่าบาท​ จึงได้มา​รายงาน​พ่ะย่ะค่ะ​”

ดวงตา​ของ​คนฟัง​พลัน​ส่อง​ประกาย​เย็นยะเยือก​ทันที​ “ไป​สืบมา​”

ไม่ว่า​มัน​จะเป็น​ใคร​ มัน​จะต้อง​ชด​ใช้กับ​สิ่งที่​ได้​บังอาจ​ทำ​ลง​ไป​แน่นอน​

เจียง​หวาย​เย่​สาบาน​ใน​ใจอย่าง​หนักแน่น​และ​คั่งแค้น​

และ​แล้ว​อรุณรุ่ง​ก็​ได้มา​เยือน​

ผู้คน​ต่าง​ก็​เฝ้ารอ​ดู​ว่า​องค์​ชาย​รัตติกาล​จะสามารถ​ค้นหา​ความจริง​ได้​ภายใน​สามวัน​หรือไม่​

และ​นี่​ก็​ครบ​สามวัน​แล้ว​

ใน​ท้องพระโรง​ เจียง​หวาย​เย่​กำลัง​นั่ง​อยู่​บน​รถเข็น​ด้วย​ใบ​หน้าที่​ซีด​ป่วย​ ส่วน​ฮ่องเต้​เจียง​ก็​กำลัง​รอ​ฮ่องเต้​หลี​ที่​ยัง​ไม่มายัง​ที่นั่ง​ของ​ตน​เสียที​

ทั้ง​ท้องพระโรง​รอ​ต่อไป​อีกไม่นาน​นัก​ ก็​ปรากฏ​เป็น​ร่าง​นักบวช​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​ เขา​คือ​มหา​นักบวช​จาก​รัฐ​หลี​นั่นเอง​

ไม่ต้อง​รอ​ให้​ใคร​ถามไถ่อะไร​ มหา​นักบวช​ก็​กล่าว​ออก​ไป​ด้วย​สีหน้า​เป็นกังวล​ “เนื่องจาก​องค์​ฮ่องเต้​ทรง​ประชวร​ จึงได้​ให้​ข้า​มหา​นักบวช​มาแทน​พ่ะย่ะค่ะ​”

ฮ่องเต้​เจียง​จึงกล่าว​ด้วย​ท่าที​เปี่ยม​ไมตรีจิต​และ​ห่วงใย​ทันที​ “ท่าน​ต้องการ​ให้​ข้า​ส่งหมอ​หลวง​ไป​รักษา​ฮ่องเต้​หลี​หรือไม่​?”

มหา​นักบวช​เพียง​ส่าย​ศีรษะ​น้อย​ ๆ “ขอบ​พระทัย​ใน​ความกรุณา​และ​กว้างขวาง​ของ​ท่าน​มาก​ แต่​บัดนี้​องค์​ฮ่องเต้​ของ​เรา​ได้​มีหมอ​ฝีมือดี​อยู่​ข้าง​กาย​แล้ว​ ดังนั้น​หมอ​หลวง​จึงไม่จำเป็น​พ่ะย่ะค่ะ​”

นี่​เขา​กำลัง​ดูแคลน​ฝีมือ​หมอ​หลวง​ของ​เรา​อยู่​หรือ​อย่างไร​นะ​?

ฮ่องเต้​เจียง​คิด​พลาง​คิ้ว​ขมวด​เข้าหา​กัน​อย่าง​เคลือบแคลง​ “ถ้าเช่นนั้น​ หากว่า​หมอ​ของ​ท่าน​ต้องการ​สมุนไพร​อะไร​ ให้​เขา​มาเอา​ไป​จาก​ท้องพระคลัง​ได้​เลย​นะ​”

เมื่อ​มหา​นักบวช​ได้ยิน​เช่นนั้น​จึงคิด​ว่า​ว่าที่​หมอ​หลิน​จะต้อง​ดีใจ​แน่​ ๆ หาก​ได้​เห็น​ท่าที​ของ​ฮ่องเต้​เจียง​เช่นนี้​

“ขอบ​พระทัย​ฝ่าบาท​”

หลังจากที่​ทักทาย​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ ก็​ได้เวลา​เข้าเรื่อง​กัน​เสียที​ ฮ่องเต้​เจียง​จึงกล่าว​ขึ้น​อย่าง​คาดหวัง​ว่า​ “สามวัน​ก็​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ไม่ทราบ​ว่า​องค์​ชาย​เย่พบ​อะไร​บ้าง​?”

เจียง​หวาย​เย่​พลัน​กุมมือ​คารวะ​ แล้ว​แถลง​ออก​ไป​ “เวลา​สามวัน​ช่างสั้น​ยิ่งนัก​ เปิ่น​หวา​งพบ​เพียงแค่​เงื่อนงำ​บางอย่าง​เท่านั้น​ หวัง​ว่า​ท่าน​มหา​นักบวช​แห่ง​รัฐ​หลี​คงจะ​พอใจ​กับ​สิ่งที่​เรา​ไปหา​มา”

มหา​นักบวช​มอง​องค์​ชาย​รัตติกาล​อย่าง​ครุ่นคิด​ ด้วย​คิด​ว่า​หาก​เมื่อวาน​เจียง​หวาย​เย่​ไม่ออก​ไป​ตาม​ท่าน​หมอ​หลิน​ละ​ก็​ ฮ่องเต้​หลี​อาจจะ​สิ้นพระชนม์​เพราะ​แผล​ติดเชื้อ​ไป​แล้ว​

หรือว่า​เขา​ควร​อ่อนข้อ​ให้​องค์​ชาย​ผู้​นี้​?

หมอผีแม่ลูกติด

หมอผีแม่ลูกติด

Score 10
Status: Completed
หลินซีเหยียนหญิงสาวผู้บ้าคลั่งชายหนุ่มรูปงาม ได้หายตัวไปถึง 5 ปี และนางได้กลับมาอีกครั้งในฐานะหมอผี ผู้รักษาได้ทุกโรค พร้อมกับกระเตงลูกชายวัย 5 ขวบมา 1 คน “ท่านแม่ ใครคือพ่อของข้า?” “ข้าหยิบเจ้ามาจากกองขยะ!”

Options

not work with dark mode
Reset