บทที่ 422 รอประจบฉันเถอะ
ลู่เสี้ยงหยางได้ยินสิ่งที่ชายวัยกลางคนพูด จนปัญญาเล็กน้อย จำเป็นต้องดูถูกขนาดนี้เลยเหรอ? เขาใช้ตาข้างไหนดู ว่าตนไม่สามารถผ่านการประเมินนักกลั่นยาระดับห้าได้
และในเวลาเดียวกัน น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวก็ไม่สนใจลู่เสี้ยงหยางอีก ไม่ว่ายังไงในสายตาเธอ คนอย่าลู่เสี้ยงหยางก็เป็นคนที่มาก่อกวนแน่นอน ต้องไม่มีความรู้สึกที่มีตัวตนในชีวิตจริงแน่นอน เลยจงใจมาหาความรู้สึกที่มีตัวตนที่นี่
จากนั้น น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวเหมือนจะนึกอะไรได้ รีบยิ้มแล้วพูดกับรองหัวหน้าสโมสรว่า:"อาจารย์ วันนี้หลี่ฉางเฟิงจะมาเข้าร่วมการประเมินนักกลั่นยาระดับสี่รึเปล่าคะ?"
พอได้ยิน เริ่นปิงปิงก็มองรองหัวหน้าสโมสรโดยไม่รู้ตัว เดิมทีใบหน้าที่เย็นชาก็มีสีสันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ปีหน้าหลี่ฉางเฟิงแค่27ปี แต่มีความสามารถของนักกลั่นยาระดับสี่แล้ว คนแบบนี้ต้องเป็นอัจฉริยะยิ่งกว่าอัจฉริยะแน่นอน
ในบรรดาคนอายุเท่ากันเธอกับน่าหรันเซี่ยวเซี่ยว ก็เป็นอัจฉริยะแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลี่ฉางเฟิงแล้ว นั่นก็โดดเด่นแล้ว
อาจจะเป็นเพราะว่าหลี่ฉางเฟิงเด่นเดินไป ดังนั้นทุกครั้งที่เธอเจอหลี่ฉางเฟิง หัวใจก็จะเต้นแรงและหน้าแดงอย่างควบคุมไม่ได้
และแอบหวังว่า หลี่ฉางเฟิงจะสนใจเธอ แต่แล้ว ในสายตาของหลี่ฉางเฟิงมีแต่กลั่นยา นี่ทำให้เริ่นปิงปิงหดหู่ใจไม่มากก็น้อย
พูดถึงหลี่ฉางเฟิง สีหน้าของรองหัวหน้าสโมสรก็ไม่เป็นธรรมชาติ ตึงหน้าแล้วพูดว่า:"น่าจะมา"
หลี่ฉางเฟิงคือลูกศิษย์ของหัวหน้าสโมสร เด่นมากจริงๆ กดลูกศิษย์ที่เขากับท่านอาวุโสกู่ฝึกฝนมา ทำให้พวกเขาทั้งสองขายหน้ามาก
"ว้าว ถ้าอย่างนั้น วันนี้ฉันก็จะได้เจอพี่ฉางเฟิงแล้ว"น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวตื่นเต้นดีใจมาก เกือบจะกระโดดโลดเต้นแล้ว
เธอแอบชอบหลี่ฉางเฟิงมานานแล้ว หลายปีมานี้ หน้าด้านตามตื้อหลี่ฉางเฟิงมาตลอด แต่เสียดายหลี่ฉางเฟิงไม่ชอบเธอ
แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ เธอก็ยิ่งหลงหลี่ฉางเฟิง อยากจะจีบหลี่ฉางเฟิงให้ติด
นึกถึงหลี่ฉางเฟิง น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวก็นึกถึงลู่เสี้ยงหยางโดยไม่รู้ตัว
ขนาดพี่ฉางเฟิงของเธอยอดเยี่ยมขนาดนี้ ยังได้แค่เข้าร่วมการประเมินนักกลั่นยาระดับสี่ แต่หมอนี้ กล้าประกาศบอกว่าจะเข้าร่วมการประเมินนักกลั่นยาระดับห้า ดูถูกจริงๆ
ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าดังมาจากหน้าประตู มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
ผู้ชายคนนี้อายุไม่มาก ประมาณ27-28 ใบหน้าหล่อเหลา ผมหน้าม้าเป็นที่สะดุดตามาก
หลี่ฉางเฟิงมาแล้วนั่นเอง
"เขามาแล้วเหรอ?"เริ่นปิงปิงตาเป็นประกายกะทันหัน หัวใจเต้นระรัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และหน้าแดงโดยไม่รู้ตัว
นี่คือผู้ชายที่เธอชอบ ยอดเยี่ยมและโดดเด่น มีความแตกต่างที่ไม่น้อยระหว่างตนกับเขา ต้องพยายามถึงจะไล่ตามเขาทัน ถึงจะมีคุณสมบัติที่จะชอบเขา
และเทียบกับการแอบซ่อนของเริ่นปิงปิง น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวมาข้างๆหลี่ฉางเฟิงโดยตรงเลย ดึงแขนเสื้อของเขาแล้วเขย่า พูดอ้อนๆว่า:"พี่ฉางเฟิง ไม่เจอกันนานเลย เราคิดถึงพี่มากเลยนะ ช่วงนี้วิชากลั่นยาของพี่ก้าวหน้าอีกแล้วสินะ"
หลี่ฉางเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย สะบัดมือของน่าหรันเซี่ยวเซี่ยวทิ้ง แล้วพูดว่า:"คุณหนูน่าหรันโปรดรักนวลสงวนตัวด้วยครับ วิชากลั่นยาของผมพูดไม่ได้ว่าก้าวหน้า แค่มีการพัฒนานิดหน่อย"
น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวโดนปฏิเสธ สีหน้าดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ แต่ยิ้มคงยิ้มพูดว่า:"ในใจของฉัน พี่ฉางเฟิงยอดเยี่ยมที่สุด ฉันเชื่อว่าวันนี้พี่ต้องผ่านการประเมินนักกลั่นยาระดับสี่ได้แน่นอน ก่อน30ปีก็สามารถถึงนักกลั่นยาระดับห้าแล้ว"
"ฮึ"เริ่นปิงปิงที่อยู่ข้างๆร้องฮึ น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวหน้าไม่อายจริงๆ คนเขาหลี่ฉางเฟิงไม่สนใจเธอ เธอยังจะหน้าด้านไปพูดอีก
ช่างไม่บังเอิญเสียเลย น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวเห็นสีหน้าของเธอพอดี น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวยิ้มเหมือนไม่ยิ้มแล้วพูดขึ้นทันทีว่า:"พี่ฉางเฟิงไม่ชอบคนนิ่งๆเย็นชา ทั้งชาตินี้ เธอกับพี่ฉางเฟิงคงจะไม่มีโชคชะตากัน"
เริ่นปิงปิงไม่พอใจ แล้วพูดว่า:"ฉางเฟิงก็ไม่ชอบนางจิ้งจอกแรด"
เยสแม่ง แกนั่นแหละนางจิ้งจอกแรด!
ประโยคนี้ทำให้น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวโมโห โดดออกมาชี้เริ่นปิงปิงแล้วพูดว่า:"นังแรดแกพูดอีกคำซิ ชั้นจะฉีกปากแกเชื่อไหม"
เริ่นปิงปิงไม่สนใจเธออีก
และรองหัวหน้าสโมสรก็ทนดูสองคนนี้ทะเลาะกันไม่ไหวแล้ว พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า:"ตอนนี้เริ่มการประเมินตามลำดับ"
หลี่ฉางเฟิงพยักหน้า มาลงทะเบียนตรงที่ลงทะเบียนการประเมินนักกลั่นยาระดับสี่
และน่าหรันเซี่ยวเซี่ยวกับเริ่นปิงปิงลงทะเบียนเสร็จนานแล้ว
ในเวลาเดียวกัน
ทางด้านลู่เสี้ยงหยาง ชายวัยกลางคนหัวดื้อไม่ยอมให้เขาลงทะเบียนการประเมินนักกลั่นยาระดับห้า ก็เลยจนปัญญา เขาได้แต่ไปลงทะเบียนตรงที่ลงทะเบียนการประเมินนักกลั่นยาระดับหนึ่ง
พอเห็นฉากนี้ รองหัวหน้าสโมสรกับท่านอาวุโสกู่ก็ขมวดคิ้วเบาๆ ดูเหมือนลู่เสี้ยงหยางหมอนี้มันฉลาดเกมโกงจริงๆด้วย และในชีวิตนี้พวกเขาเกลียดคนอย่างลู่เสี้ยงหยางที่สุด
จากนั้นทั้งสองคนก็สบตากัน แอบตัดสินใจในใจแล้วว่า เดี๋ยวถึงแม้ว่าลู่เสี้ยงหยางจะผ่านการประเมินนักกลั่นยาระดับหนึ่ง ก็ไม่อนุญาตให้เขาเข้าสโมสรกลั่นยา หมอนี้ขี้อวดเกินไป ถ้าออกไปในฐานะนักกลั่นยา ต้องเป็นหายนะกับหลายๆคนแน่นอน
น่าหรันเซี่ยวเซี่ยวหัวเราะจนหงายหลัง มองลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า:"พี่ชาย นายตื่นจากฝันสักทีนะ คนอย่างนาย สามารถผ่านการประเมินนักกลั่นยาระดับหนึ่งได้ ก็ดีแล้ว"
เริ่นปิงปิงร้องฮึ พูดอย่างเย็นชาว่า:"คนแบบนี้ไม่ควรให้เขาเข้าสโมสรกลั่นยาของเรา เสียอารมณ์จริงๆ "
ความสนใจของหลี่ฉางเฟิงไม่ได้อยู่ที่ลู่เสี้ยงหยางเลย เห็นเขาเป็นคนผ่านไปมาตั้งนานแล้ว คนที่พูดโอ้อวดเขาเจอมาเยอะแล้ว
รองหัวหน้าสโมสรพูดเรียบๆ:"เอาล่ะ พูดน้อยๆหน่อย ตอนนี้แต่ละคนเตรียมตัว เริ่มได้"
จากนั้น เมื่อลงทะเบียนเสร็จ ลู่เสี้ยงหยาง น่าหรันเซี่ยวเซี่ยว หลี่ฉางเฟิงพวกเขาถูกพาไปยังห้องกลั่นยา
ห้องกลั่นยานี้เป็นพื้นที่อิสระ แต่ละคนก็มีพื้นที่
ในห้องกลั่นยามีเตากลั่นยา สมุนไพรและใบสั่งยาที่เกี่ยวข้องวางไว้อยู่
การประเมินของแต่ละระดับ จะสอดคล้องกับใบสั่งยาที่แตกต่างกัน แค่ทำตามใบสั่งยา และกลั่นยาที่เกี่ยวข้องออกมา ก็ถือว่าผ่านการประเมิน
เพราะว่าลู่เสี้ยงหยางลงทะเบียนการประเมินนักกลั่นยาระดับหนึ่ง ดังนั้นเขาถูกพามายังห้องประเมินนักกลั่นยาระดับหนึ่ง
ลู่เสี้ยงหยางกวาดสายตามอง เห็นใบสั่งยาบนโต๊ะ ยารวมจิต
ไม่นึกเลยว่าใบสั่งยาที่นักกลั่นยาระดับหนึ่งต้องประเมินก็คือยารวมจิต
ยารวมจิตในยาระดับหนึ่ง ถือว่าระดับสูงหน่อย ดูเหมือนว่าการประเมินของสโมสรกลั่นยาก็ยากเหมือนกัน
แต่ว่า ลู่เสี้ยงหยางไม่กลั่นยารวมจิตดีๆหรอก สโมสรกลั่นยาไม่ให้ตนลงทะเบียนการประเมินนักกลั่นยาระดับห้าไม่ใช่เหรอ? งั้นเขาตัดสินใจเอง กลั่นยาระดับห้าออกมา ไม่เชื่อว่าคนพวกนี้จะไม่ให้ตนลงทะเบียนนักกลั่นยาระดับห้า
ฮึ คาดว่าถึงตอนนั้นต้องมีหลายคนคุกเข่าประจบตน
พอนึกได้ ลู่เสี้ยงหยางก็เริ่มโดยไม่ลังเล