หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 399 หัวเดียวกระเทียมลีบ

บทที่ 399 หัวเดียวกระเทียมลีบ

เมื่อเห็นหวังเสว่รู้สึกตื่นเต้น ซุนยีเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกขบขัน

ที่จริงแล้วหมอดูคนนี้คือคนของเขา ซึ่งทำเช่นนี้ก็เพื่อจะหลอกหวังเสว่ให้ตายใจ

หลายวันที่ผ่านมาเขาพยายามใช้ทุกวิธีแล้ว แต่ไม่สามารถทำให้หวังเสว่รู้สึกตายใจได้ ดังนั้นด้วยโอกาสนี้ เขาจึงเลือกใช้วิธีไสยศาสตร์มาปั่นหัวเธอ

เขาหวังจะให้หมอดูบอกกับหวังเสว่ว่าเธอต้องแต่งงานกับเขา เพราะนั่นคือพรหมลิขิตของเธอ

เพื่อที่จะทำให้หวังเสว่เชื่อในคำพูดของหมอดู ทุกสิ่งที่หมอดูพูดในคืนนี้จึงล้วนมาจากข้อมูลที่เขาเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ในเวลาเดียวกัน เย่สวนกับโอหยางรั่วสุ่ยที่อยู่ข้างๆ หวังเสว่ต่างก็รู้สึกตกใจไม่น้อย ก่อนหน้านี้พวกเธอไม่เคยเชื่อเรื่องโชคลางเลย แต่ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้มันจะแม่นขนาดนี้

หลังจากนั้น ซุนยีเฉินก็รีบถามหมอดูก่อนที่หวังเสว่จะพูด “คุณผู้ชายครับ เงื่อนไขที่คุณบอกก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคนคนหนึ่งที่สำคัญต่อเธอ คนคนนั้นคือใครกันครับ?”

หมอดูก้มศีรษะและชำเลืองมองไปที่ตำราแล้วเริ่มใช้นิ้วทำนายดวงอีกครั้ง

เพียงไม่กี่อึดใจ หมอดูก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพูด “ร่างกายของคุณผู้หญิงท่านนี้คือธาตุทอง เธอต้องหาคู่ครองที่เป็นธาตุดิน”

อย่างที่ทราบกันดีว่าทองคำต้องซ่อนอยู่ในพื้นดินจึงจะป้องกันตัวเองจาก……

“ฮ่า ๆ” ก่อนที่หมอดูจะพูดจบ ซุนยีเฉินก็หัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า “มันช่างบังเอิญจริงๆ เลยนะเสว่เอ๋อ ผมเป็นธาตุดินนะ”

ไงนะ? ธาตุดิน?

หวังเสว่รู้สึกอึ้ง เพราะเธอกับซุนยีเฉินเคยมีแพลนที่จะแต่งงานกันแล้ว ไม่คิดเลยว่ามันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ หรือว่ามันเป็นพรหมลิขิตจริงๆ?

จากนั้นหมอดูก็พูดต่อ “ไม่น่าล่ะ ผมว่าคุณผู้ชายท่านนี้กับคุณผู้หญิงเหมาะสมกันดีนะ ถ้าคุณสองคนอยู่ด้วยกัน สองธาตุมันก็จะเข้ากันพอดี และหลังจากแต่งงานกันไป อนาคตต้องมีความสุขไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซุนยีเฉินก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก จากนั้นเขาก็รีบฉวยโอกาสนี้สารภาพกับหวังเสว่ “เสว่เอ๋อ หมอดูบอกว่าเราคือเนื้อคู่แห่งโชคชะตา มันถูกต้องแล้ว คุณไม่ต้องกังวลนะ ในอนาคตถ้าคุณอยู่กับผม ผมจะดูแลคุณ จะปกป้องคุณ จะรักคุณเหมือนเจ้าหญิงของผม”

ทันทีที่เขาพูดคำนี้ ใบหน้าอันงดงามของหวังเสว่ก็เขินจนแดงก่ำ เมื่อก่อนซุนยีเฉินเคยพูดคำพูดประมาณนี้กับเธอมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่เธอไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวเลย

หลังจากที่หมอดูทักเธอแล้ว เธอก็รู้สึกเขินอายและในขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปอย่างที่ไม่เคยเป็น

ไม่ว่าจะยังไง ในตำราดวงก็ทำให้เธอเห็นกับตาแล้ว เธอคงจะปฏิเสธไปตลอดไม่ได้อีก

เมื่อเห็นหวังเสว่รู้สึกเขินอาย ซุนยีเฉินก็รู้สึกตื่นเต้นมาก

ฮ่า ๆ ไม่เสียแรงที่ลงทุนไป ในที่สุดคืนนี้หวังเสว่ก็เสร็จเราจนได้

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งตื่นเต้น จากนั้นเขารวบรวมความกล้าแล้วกอดหวังเสว่ไว้ในอ้อมแขนและพูดคำหวานทุกชนิดกับเธอ

ในตอนแรกหวังเสว่ยังพยายามดิ้นรนอยู่สักพัก แต่หลังจากนั้นเธอก็ทิ้งตัวไว้ในอ้อมแขนของซุนยีเฉิน

ความจริงแล้ว ลึกๆ ข้างในหวังเสว่ก็เป็นสาวบ้านๆ ที่เชื่อในดวงชะตาเหมือนกัน

“ฮ่า ๆ เห็นทีว่าผมต้องเป็นพยานในงานแต่งให้กับคู่รักที่แสนหวานแล้วสินะ” เมื่อเห็นภาพนี้ หมอดูก็พูดอย่างยิ้มแย้ม “คุณผู้หญิงครับ ดวงของคุณขอแค่มีคุณผู้ชายท่านนี้มาเติมเต็ม ปัญหาการงานและปัญหาครอบครัวของคุณก็จะคลี่คลายลงได้ ถ้าแบบนี้คุณเท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว หวังว่าคุณจะรักษามันให้ดีนะครับ”

หวังเสว่พยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว ความจริงแล้วสำหรับการงานอาชีพของเธอ เธอไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าไหร่ แต่สำหรับปัญหาของพ่อแล้วเธอจะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้จริงๆ

ถ้าการที่เป็นหนึ่งเดียวกับซุนยีเฉินจะสามารถแก้ไขปัญหาของพ่อได้จริงๆ เธอยินดีที่จะทำ

“ฮ่า ๆ ๆ” จากนั้นซุนยีเฉินของหวังเสว่ก็ดีใจจนแทบกระโดดขึ้นมา ดูเหมือนว่าหวังเสว่จะตายใจแล้ว เดี๋ยวค่อยจัดฉากโรแมนติกให้เธอทีหลัง เชื่อว่าการที่จะพาเธอขึ้นไปบนเตียงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

แต่สิ่งที่ทำให้ซุนยีเฉินรู้สึกไม่พอใจคือลู่เสี้ยงหยางที่ยืนอยู่ข้างๆ แมร่งเอ๊ย ขอเล่นงานมันสักทีเถอะ

ทันใดนั้น เขาก็ขยิบตาแล้วส่งซิกให้กับหมอดูอย่างเงียบๆ

ความจริงแล้วหมอดูคนนี้คือลูกน้องของซุนยีเฉิน และก่อนที่จะมาเมืองปินเหอนี้ เขาได้ทำเรื่องชั่วร้ายกับซุนยีเฉินไว้มากมาย

เพราะลูกน้องคนนี้มีไหวพริบที่ดี รู้ใจซุนยีเฉิน ดังนั้นซุนยีเฉินจึงใช้เขาเป็นพิเศษและพาเขามาจากต่างถิ่นด้วย

หมอดูยิ้มจางๆ แล้วหันไปพูดกับเย่สวน “คุณผู้หญิงท่านนี้ครับ ผมว่าผมถูกชะตากับคุณนะครับ ให้ผมลองดูดวงของคุณหน่อยนะครับ”

ถ้าเป็นเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เย่สวนต้องปฏิเสธอย่างแน่นอน แต่หลังจากที่เห็นฝีมือการดูดวงของเขาเมื่อครู่นี้แล้ว เธอก็อยากลองดูสักครั้ง

ดังนั้นเธอจึงรีบพยักหน้าตอบ “ได้สิคะ งั้นรบกวนทีนะ” “ฮ่า ๆ” หมอดูรู้สึกปลื้มใจมาก ดูเหมือนว่าจะมีเหยื่อติดกับอีกคนแล้ว จากนั้นเขาพยายามเก็บอารมณ์แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “คุณช่วยโยนเหรียญทองแดงสามเหรียญนี้ทีครับ ผมจะดูดวงโหราศาสตร์ให้คุณ” เย่สวนจึงทำตามสิ่งที่หมอดูบอก เธอโยนเหรียญทองแดงลงบนโต๊ะสามครั้ง

จากนั้นหมอดูก็ส่ายหัวแล้วถอนหายใจและพูดอย่างเศร้าโศก “คุณผู้หญิงครับ เลขศาสตร์ของคุณสมบูรณ์แบบเลยนะครับ ทุกอย่างกำลังสวย คุณเป็นคนดวงขึ้นนะครับ แต่น่าเสียดายที่ดวงของคู่ครองคุณขัดกับคุณ มันจึงทำให้คุณต้องพบเจอกับปัญหาข้องใจมานานหลายปี ด้วยความเคารพนะครับ คู่ชีวิตของคุณในตอนนี้ไม่เหมาะสมกับคุณเลยจริงๆ นะครับ ถ้ายังยื้อต่อไปก็คงมีแต่เสียกับเสียอย่างเดียว”

อะไรนะ?

เย่สวนรู้สึกอึ้งที่ได้ยินแบบนี้

ลู่เสี้ยงหยางไม่เหมาะสมกับเธอจริงๆ หรือ?

จริงเหมือนกัน หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางแต่งงานและย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอต้องทนรับการดูถูกจากคนอื่น กระทั่งการแต่งงานของเธอกับลู่เสี้ยงหยางกลายเป็นเรื่องตลกขบขันของคนทั้งเมืองปินเหอไปด้วย

“นี่มัน” ในเวลาเดียวกัน โอหยางรั่วสุ่ยกับหวังเสว่ก็หันมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่ตั้งใจ

ตอนนี้ทั้งคู่นับถือหมอดูคนนี้มาก ดังนั้นจึงเชื่อคำพูดของหมอดูอย่างไม่ต้องสงสัย

หรือว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นคนลากเย่สวนลงเหวจริงๆ?

“ฮ่า ๆ ไอ้โง่เอ๊ย ดูว่าคืนนี้มึงจะสู้กับกูยังไง แมร่งเอ๊ย กูจะเล่นมึงให้เละไปเลย” ซุนยีเฉินคิดในใจ

คำพูดของหมอดูก่อนหน้านี้ก็เป็นการเล่นตามบทในข้อความมือถือที่เขาได้รับเท่านั้น

เมื่อเห็นว่ามันยังไม่สะใจพอ ซุนยีเฉินจึงพิมพ์ข้อความที่แย่กว่านั้นแล้วส่งให้หมอดูอีกครั้ง

หมอดูเหลือบมองโทรศัพท์อย่างแนบเนียน จากนั้นเงยหน้าพูดกับลู่เสี้ยงหยางด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้ชายครับ ถ้าผมดูไม่ผิด คุณก็คือสามีของคุณผู้หญิงท่านนี้ใช่ไหมครับ ดวงของคุณตกอับมากเลยนะครับ ดวงอาภัพอับโชค ถ้าใครอยู่กับคุณก็จะรับเคราะห์ไปด้วย คุณจะหลอกใช้ภรรยา หลอกใช้เพศตรงข้าม ดังนั้นตามคำแนะนำจากผมแล้ว คุณเหมาะสำหรับการอยู่คนเดียวที่สุดนะครับ”