หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 382 ช่างเป็นขยะอะไรอย่างนี้

ตอนที่ 382 ช่างเป็นขยะอะไรอย่างนี้

บทที่ 382 ช่างเป็นขยะอะไรอย่างนี้

อะไรนะ? ยาล้างกระดูกมีปัญหา?

ได้ยินคำพูดของลู่เสี้ยงหยางเมื่อสักครู่นี้แล้ว สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่ตัวเขาภายในชั่วพริบตา โดยใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยและประหลาดใจ

แต่ที่ตามมาติดๆก็คือ ทุกคนต่างพากันยิ้มเยาะ แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่เชื่อคำพูดของเขยแต่งเข้าบ้านที่เป็นขยะคนนี้

ฉินหยุนเฟยโกรธมากจนกระโดดลุกขึ้นและชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยาง : “เย็ดแมร่ง ไอ้คนหน้าโง่ แกรู้อะไรถึงได้มาพูดจาไร้สาระที่นี่ ยาของกูมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ? ถ้าคืนนี้แกไม่พูดออกมา รอดูได้เลยว่าฉันจะตัดลิ้นแกยังไง”

หวังเจี้ยนยังด่าตามมาด้วยอีกว่า : “ไอ้หน้าโง่คนนี้ พอชมนิดชมหน่อยก็ได้ใจมาทำอวดดี คนธรรมดาอย่างแกเคยเห็นยานี้งั้นเหรอ? ถึงกล้าคุยโวโอ้อวดอย่างไม่อายว่ายาล้างกระดูกที่พี่หยุนเฟยมอบให้อาจารย์นั้นมีปัญหา แล้วยังไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองอีกว่าอะไรคือสิ่งที่ดีงาม”

ไป๋หมิ่นหมิ่นมองไปทางลู่เสี้ยงหยางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า : “น่ากลัวว่าเจ้าเขยแต่งนี่แม้แต่ของขวัญก็ไม่ได้เตรียมน่ะสิ ถึงได้คิดแต่จะพล่ามแต่เรื่องเหม็นๆ ฉันคิดว่าเขาต้องการใช้วิธีกลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลายคนรู้สึกว่ามีเหตุผลจึงพยักหน้าเออออไม่รู้ตัวพลางมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางเหมือนกับมองดูตัวตลกที่กระโดดไปรอบๆ

ฮ่าๆ เจ้าขยะนี่ตลกเกินไปแล้ว

และจูหยู่เจินเองก็จ้องมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอยู่ในเวลานี้ด้วยเช่นกันและถามอย่างเฉยชาว่า “ปัญหาอะไร?”

พูดตามตรง เธอค่อนข้างจะอารมณ์เสียกับลู่เสี้ยงหยางแล้ว เป็นเพียงขยะที่ไร้ประโยชน์ก็เท่านั้นแล้วยังชอบพูดจากะล่อน เหลวไหลไร้สาระ คนอย่างนี้ในสายตาของเธอ แม้แต่กับกากเดนยังเทียบไม่ได้เลย

ถ้าหากว่าไม่มีเหตุผลเพียงพออย่างเต็มที่ เธอจะเตะโด่งเจ้าเขยแต่งเข้าบ้านลู่เสี้ยงหยางคนนี้ออกไปจริงๆ

และที่มันมากเกินไปก็คือฉินหยุนเฟยมอบยาล้างกระดูกให้กับตนเอง เพราะเคารพตนเองที่เป็นอาจารย์ประจำชั้น แต่ลู่เสี้ยงหยางคนเลวนี่กลับใช้ข้ออ้างเสร่อๆประเภทนี้เพราะต้องการใส่ร้ายฉินหยุนเฟย

ลู่เสี้ยงหยางไม่รู้ความคิดของจูหยู่เจิน ไม่อย่างนั้นคงไม่แสดงความกระตือรือร้นต่อหน้าความเย็นชาของเธอ เพราะฉะนั้นจึงพูดตามความจริงไปว่า : “อาจารย์ครับ ยาล้างกระดูกที่ฉินหยุนเฟยเพิ่งจะมอบให้คุณมันหมดอายุแล้วนะครับ ส่วนผสมที่อยู่ข้างในเกิดการเปลี่ยนแปลง รับประทานไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน”

อะไรนะ? หมดอายุ?

ทันทีที่ลู่เสี้ยงหยางพูดแบบนี้ออกมา แทบทุกคนอยากจะหัวเราะ ตามความเข้าใจของพวกเขานั้นยาเม็ดใดๆล้วนแต่สามารถเก็บรักษาได้เกินร้อยปีทั้งนั้น แล้วจะหมดอายุง่ายดายเช่นนี้ได้ยังไง

นอกจากนี้อาจาย์โจ่ฉินเคยแนะนำพวกเขาว่าสีของยาล้างกระดูกเป็นสีแดง นอกจากนั้นยังต้องมีกลิ่นหอมละมุนและยาล้างกระดูกที่อยู่ในมือของจูหยู่เจินเม็ดนี้ก็มีครบทุกอย่างตามที่กล่าวมาข้างต้น

สิ่งนี้แสดงได้ชัดเจนว่านี่คือยาที่ยอดเยี่ยม แต่กลายเป็นว่าหมดอายุไปแล้วจากปากของลูกเขยแต่งเข้าบ้านลู่เสี้ยงหยางคนนี้

ฮ่าๆ ลูกเขาแต่งเข้าบ้านคนนี้จะต้องอิจฉาแน่ๆ ดังนั้นจึงจะใช้คำพูดประเภทนี้มาใส่ร้ายฉินหยุนเฟย

คิดมาถึงตรงนี้ หลายคนลุกขึ้นจากโซฟาแล้วชี้ไปที่ลู่เสี้ยงหยางและพูดอย่างขุ่นเคืองใจว่า : “ไอ้หน้าโง่คนนี้มาจากที่ไหนกัน? เอาแต่พูดพล่ามอยู่ได้ แกมันเป็นเขยแต่งเข้าบ้านที่หัวใจบิดเบี้ยวไปแล้วสินะ ตัวเองไม่มีความสามารถจะเอายาล้างกระดูกให้กับคุณครูกลับมาพูดจาใส่ร้ายคนอื่น”

“ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าการที่แกเกาะตระกูลเย่กินและทำตัวเป็นไอ้พวกสำอางหน้าขาว ก็เพราะว่าแกมันเป็นเศษสวะอย่างนี้เอง ถ้าหากแกไม่เกาะผู้หญิงกิน น่ากลัวว่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสามวัน”

“ไอ้โง่ มองเห็นท่าทางปัญญาอ่อนของเขาแล้วทำให้คนกินข้าวไม่ลง”

ในไม่ช้า เสียงเย้ยหยันก็ระเบิดขึ้นไปทางลู่เสี้ยงหยางเป็นระลอกๆ

ลู่เสี้ยงหยางฟังเสียงเย้ยหยันเหล่านี้โดยไม่แยแส คนเหล่านี้ ในสายตาของเขาเป็นเพียงแค่พวกกบในกะลา ไม่มีอะไรต้องสนใจ

แต่จูหยู่เจินที่ได้ยินคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง คิ้วแทบจะขมวดเป็นเส้นตรง

คิดไม่ถึงจริงๆว่าลู่เสี้ยงหยางจะมีความสามารถในการพูดจาสามหาวได้ขนาดนี้ ไม่มีความรู้สึกหวาดหวั่นใดๆโดยสิ้นเชิง ทำไปตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและทำไปตามธรรมชาติ

เธอทำเสียงฮึดฮัดในจมูก คิดจะด่าอยู่หลายคำ แต่ในเวลานี้เองฉินหยุนเฟยเอ่ยปากก่อนว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง เย็ดแม่ง ไอ้หน้าโง่ แม่เมิงสมองมีปัญหารึไงวะ มันน่าด่าชะมัด แกเอาแต่พูดอยู่นั่นแหละว่ายาล้างกระดูกของฉันหมดอายุแล้ว กินเข้าไปจะมีปัญหา งั้นแกก็พูดมาเลย ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร?”

หวังเจี้ยวเองก็พูดตามด้วยเช่นกันว่า : “ใช่แล้วล่ะ ถ้าหากวันนี้เขาอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร กูจะทำลายขาสุนัขรับใช้ของแกก่อนเลย”

ลู่เสี้ยงหยางว่างเปล่าไปชั่วขณะ เขาสันนิษฐานว่ายาล้างกระดูกของฉินหยุนเฟยมีปัญหา แต่เป็นการสันนิษฐานจากยาล้างกระดูกที่ตัวเองกลั่น สำหรับยาล้างกระดูกที่หมดอายุแล้ว เขาเองยังไม่รู้เลยว่ากินลงไปแล้วจะมีปัญหาอะไร

เขาในตอนนี้ส่ายหน้าแล้วพูดว่า : “มันจะมีปัญหาอะไรกันแน่ ในข้อนี้ฉันยังไม่รู้ แต่ฉันกล้ารับประกันเลยว่า กินเข้าไปแล้วจะมีปัญหาแน่นอน อาจารย์ครับ หวังว่าคุณจะระวังนะครับ”

แม่งเอ๊ย! ลูกเขาแต่งเข้าบ้านคนนี้ก็ไม่รู้ว่าปัญหาคืออะไร นี่มันไม่ใช่การพูดจามั่วๆงั้นเหรอ?

พอถึงตอนที่ต้องระบุชี้ชัดจริงๆ เขาก็ตาขาวเสียแล้ว

ฉินหยุนเฟยยิ้มอย่างโกรธเกรี้ยวและชี้หน้าลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดทีละคำว่า : “เย็ดแม่ง ถ้ากล้าพูดเหลวไหลอีกคำเดียว กูฆ่ามึงแน่ เชื่อไหมล่ะ?”

หวังเจี้ยนหัวเราะเอิ๊กอ๊ากและมองลู่เสี้ยงหยางก่อนพูดว่า : “ไอ้หมอนี่ชอบตอแหล เพราะอยากจะได้ความรู้สึกของการมีตัวตนสินะ? น่าอนาถชะมัดเลย ถุย เขยแต่งเข้าบ้านอยากได้ความรู้สึกของการมีตัวตน แม่งโคตรน่าขำเลย ฮ่าๆๆๆ ขำแทบตายแล้วเนี่ย”

ใบหน้าของจูหยู่เจินเย็นเยียบแล้วทำเสียงโกรธฮึดฮัดพร้อมกับเอ่ยว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง คุณทำให้ฉันผิดหวังเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าแม้แต่พื้นฐานของวิชากลั่นยาคุณก็ไม่ได้ศึกษาให้ดี แต่ก็ยังกล้าพูดอย่างไม่ละอาย ไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้เลย กลับไปถึงห้องเรียนแล้วคัดลอกความรู้ในตำรากลั่นยาทั้งหมด100รอบ พรุ่งนี้ฉันกับอาจาย์โจ่ฉิน จะมาตรวจดู ถ้าหากคุณทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่เสร็จ เมื่อถึงเวลาก็รอรับการลงโทษต่อหน้าทุกคนในโรงเรียนเถอะ”

เมื่อสั่งเช่นนี้ออกมา

“…” ลู่เสี้ยงหยางแทบจะหมดคำพูดไปเลย ให้ตายเหอะ คิดไม่ถึงเลยว่า จูหยู่เจิน หญิงชราคนนี้จะเป็นคนไม่มีเหตุผลได้ขนาดนี้ คำพูดไร้สาระที่เพิ่งจะบอกกับเธอ นั่นเพราะว่าหวังดีกับเธอ ถ้าหากรู้ว่าเธอจะอกตัญญูขนาดนี้ล่ะก็ เขาจะไม่พูดจาไร้สาระอย่างจริงใจแบบนั้นหรอก

หยูฉินเฟยหัวเราะชอบใจพลางมองมาที่ลู่เสี้ยงหยางราวกับกำลังมองไอ้โง่คนหนึ่ง

อาจารย์ทนไม่ไหวกับไอ้คนตอแหลคนนี้และเตรียมสั่งสอนเขาแล้ว

หวังเจี้ยนพูดจาถากถางว่า : “ก็แค่คัดลอกความรู้จากตำรากลั่นยาหนึ่งร้อยรอบ คืนนี้นายไม่กินไม่ดื่มก็ทำงานเสร็จแล้ว พอถึงเวลาก็ไม่ต้องปล่อยไก่ต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนแล้ว”

“ฮ่าๆๆ” คนทั้งหลายต่างพากันหัวเราะสะใจจนตัวโยน เขยแต่งเข้าบ้านคนนี้เป็นไอ้หน้าโง่ที่น่าดูถูกจริงๆ ตอนนี้ไม่ด่ามันล่ะก็ เขาคงจะไม่สบายใจ

ไป๋หมิ่นหมิ่นพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า : “ไอ้สวะ ทำไมยังอยู่ที่นี่อีก? คุณครูบอกให้นายไสหัวไป ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ?”

ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะเยาะแล้วลุกขึ้นจากโซฟาและเตรียมพร้อมจะจากไป พวกหน้าโง่กลุ่มนี้ไม่ควรค่าที่เขาจะมีปฏิสัมพันธ์ด้วยเลย

แต่ว่ายังไม่ทันจะก้าวเท้าไปข้างหน้า ฉินหยุนเฟยก็หัวเราะอย่างเบิกบานและกล่าวว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง งานฉลองวันเกิดคุณครู นายเองก็ต้องเตรียมของขวัญเอาไว้แล้วแน่ๆ ทำไมไม่มอบของขวัญก่อนแล้วค่อยไปล่ะ ฉันรู้ว่า ถึงแม้ของขวัญของนายชิ้นนี้จะเป็นกากยาที่เทียบกับยาล้างกระดูกที่ฉันมอบให้ไม่ได้ แต่จะดีจะเลวยังไงก็คือของขวัญอาจจะด้อยค่าแต่มากด้วยน้ำใจ ถึงแม้จะเป็นขยะ คุณครูของพวกเรารับไว้อยู่แล้ว”

เมื่อเสียงจบลง หลายๆคนก็สุดจะกลั้นเอาไว้ได้ จึงหัวเราะออกมาอีกครั้ง ลูกเขยแต่งเข้าบ้านคนนี้ไม่รู้จักประมาณตน สมควรแล้วที่จะโดนบ่อยๆ

ถึงแม้ว่าเซียวมู่ไป๋ ฟ้านเจาและจางสู้อยากจะช่วยพูดให้ลู่เสี้ยงหยาง แต่กลับไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเองก็เชื่อว่ายาล้างกระดูกของฉินหยุนเฟยที่มอบให้กับคุณครูนั้นไม่มีปัญหาอะไร เป็นลู่เสี้ยงหยางเองที่ฝืนกลับดำให้เป็นขาว พวกเขาอยากจะช่วยลู่เสี้ยงหยาง แต่นั่นมันไม่สมเหตุสมผลเช่นกัน

สาวงามของชั้นเรียนอย่างกงหยู่หนิงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย ถ้าหากคืนนี้ตนเองไม่เรียกลู่เสี้ยงหยางมาที่นี่ เขาก็จะไม่ถูกคนเหล่านี้เยาะเย้ยถากถาง

ในขณะที่อ้าปากเพื่อเอ่ยคำขอโทษกับลู่เสี้ยงหยาง แต่ทันใดนั้นลู่เสี้ยงหยางได้หันกลับไปและพูดกับฉินหยุนเฟยว่า : “ยาล้างกระดูกที่เป็นเศษขยะขนาดนี้ก็มีแต่นายที่กล้าเอาออกมาโชว์”

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Score 10
Status: Completed
ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศอดสูการเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

Options

not work with dark mode
Reset