หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 359 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

บทที่ 359 ศัตรูที่แข็งแกร่ง

ผ่านไปหลายนาที ลู่เสี้ยงหยางกับซูเยียนรัน และหลี่ซือซือเข้าไปโรงแรมชิงเฟิง

ผ่านล็อบบี้ที่ชั้น 1 และมาถึงทุ่งหญ้าด้านหลังโรงแรม

ทุ่งหญ้าแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่มาก และสามารถใช้จัดงานกลางแจ้งขนาดใหญ่ได้ คืนนี้ มีการจัดไฟหลากสีและมีเวทีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ด้านหน้ามีเก้าอี้สีขาววางอยู่รอบ ๆ เวที ภายใต้การประดับประดาด้วยแสงไฟและดนตรี มองจากระยะไกล เต็มไปด้วยสีสันชวนฝัน

เมื่อลู่เสี้ยงหยางและคนอื่น ๆ หาที่นั่งได้ มีหลายคนก็มาถึงแล้ว

เพราะว่าคืนนี้ คนที่มาปาร์ตี้คืนนี้ล้วนแต่เป็นคนวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นสาวสวยและหนุ่มหล่อมีจำนวนมากกว่า

ลู่เสี้ยงหยางไม่สนใจพวกผู้ชาย กวาดสายตามองไปที่สาวสวยเซ็กซี่แต่ละคน เห็นว่าพวกหล่อนไม่โชว์ขายาว ก็โชว์หลังขาว หรือโชว์ความเป็นสายอาชีพที่ลึกซึ้ง มันทำให้คนมึนเมามาก

"หือ ? ซูเยียนรัน เธอก็มาด้วย"แต่ในขณะนี้ เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ดึงลู่เสี้ยงหยางให้กลับมาสู่ความเป็นจริง

ลู่เสี้ยงหยางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีเสน่ห์ในชุดเดรสสีฟ้ายืนอยู่ข้างซูเยียนรัน มองไปที่ซูเยียนรัน ด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

"เจียงรั่วหลิน เธอนี่เอง"ซูเยียนรันแปลกใจเล็กน้อย ไม่นึกว่าจะได้เจอเธอที่นี่

"ทำไม? แปลกใจมากเหรอ? เหอะ ๆ บางทีนี่ก็คือชีวิต เมื่อก่อนฉันเคยพูดไว้ สักวันฉันจะยืนสูงกว่าเธอ ชื่อเสียงในวงการบันเทิงจะสูงกว่าเธอ"เจียงรั่วหลินยิ้มด้วยความได้ใจ

ซูเยียนรันร้องฮึในจมูก แล้วพูดว่า:"ไม่รู้จริง ๆ เลยว่าเธอเอาความมั่นใจมาจากไหน รอวันที่เธอสู้ฉันได้จริง ๆ ก่อน ค่อยพูดคำนี้ก็ไม่สาย เหอะ ๆ พูดตอนนี้มันเร็วไป ถ้าอนาคตไม่เป็นจริงขึ้นมา มันจะน่าอายนะ"

เจียงรั่วหลินยิ้มเยาะเย้ย พูดด้วยความมั่นใจ:"มันเป็นเรื่องไม่ช้าก็เร็ว เธออย่าเพิ่งดับล่ะ ไม่อย่างงั้นตอนที่ฉันดังแล้วจริง ๆ เธอก็จะไม่มีสิทธิ์มาท้าทายฉันแล้ว"

ฟังคำพูดเหยียดหยามนี้แล้ว ซูเยียนรันโกรธมาก แต่ว่าก็ไม่ยอมรับไม่ได้ เจียงรั่วหลินมีวิธีในวงการบันเทิงนี้มาก

หนึ่งปีก่อน เจียงรั่วหลินก็แค่ผู้ช่วยเล็ก ๆ ของซูเยียนรัน ในงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง เจียงรั่วหลินแอบซูเยียนรัน ไปมีความสัมพันธ์กับผู้กำกับคนหนึ่ง หลังจากที่เรื่องนี้เปิดเผยออกมา ซูเยียนรันคิดว่าเจียงรั่วหลินมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เลยไล่เธอออก

เจียงรั่วหลินไม่ได้ออกจากวงการบันเทิงเพราะนี้ไป หลังจากเรื่องนั้นกลับเซ็นสัญญากับคับไท่กรุ๊ปโดยตรงเลย

คับไท่กรุ๊ปนี้ก็มีอิทธิพลมากในวงการบันเทิง ความสามารถอ่อนกว่าเฟยหยางกรุ๊ปแค่นิดเดียว แต่ว่า ไม่นานมานี้คับไท่กรุ๊ปได้รับการลงทุนของเจ้านายใหญ่ลึกลับคนหนึ่ง พูดได้ว่ามีเงินมากมาย เที่ยวขุดดาราที่มีชื่อเสียงมา ตอนนี้ชื่อเสียงได้กรบเฟยหยางกรุ๊ปแล้ว

อีกฝั่งหลี่ซือซือก็ไม่ชอบใจ เจียงรั่วหลินนี้คือดาราที่คับไท่กรุ๊ปปั่นขึ้นมาใหม่ คับไท่กรุ๊ปได้ป่าวประกาศว่า จะให้เจียงรั่วหลินแทนที่ซูเยียนรันในวงการบันเทิง

ถึงแม้ว่า เจียงรั่วหลินจะไม่ได้เก่งไปกว่าซูเยียนรันในทุกด้าน แต่ผู้หญิงคนนี้ปั่นเก่ง ได้รับความชื่นชอบของแฟนคลับมาก ช่วงนี้ก็เป็นบุคคลที่โด่งดังมาก ผู้กำกับที่หาหล่อนถ่ายหนัง มากกว่าผู้กำกับที่มาหาซูเยียนรันอีก

เห็นซูเยียนรันไม่พูด เจียงรั่วหลินก็พูดต่อ:"ตอนนี้ คับไท่กรุ๊ปของเราจะปรากฏตัวขึ้นทั้งหมด อนาคตในที่ปินเหอ เฟยหยางกรุ๊ปจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ ซูเยียนรัน เธอยืนฝั่งผิด จะแพ้ให้ฉันก็เป็นเรื่องที่กำหนดไว้แล้ว"

ซูเยียนรันหัวเราะเยาะ:"นี่คือความยินยอมฝ่ายเดียวของเธอเท่านั้นเอง"

เจียงรั่วหลินยิ้มพูดต่อ:"ซูเยียนรัน เธอก็อย่าปลอบใจตัวเองเลย ถือโอกาสก่อนที่เฟยหยางกรุ๊ปจะล้มละลาย นอนสักคืนกับประธานเธอเถอะ ให้เขาเพิ่มเงินให้เธอหน่อย ฮ่าฮ่า ฉันกลัวจริง ๆ ว่าอนาคตฉันได้ยืนที่จุดสูงสุดของวงการบันเทิงแล้ว เธอกลับกลายเป็นดาราเล็ก ๆ ที่ไม่มีชื่อเสียง ถึงเวลา ขนาดจะแข่งกับฉันเธอก็ไม่มีสิทธิ์ นั้นมันจะไม่สนุกนะ"

ประโยคนี้พูดออกมา ซูเยียนรันก็โกรธมาก เดิมอยากจะตอบโต้ แต่กลับไม่มีอะไรจะพูด

จากใจ เธอก็มีความรู้สึกพ่ายแพ้ เธออยู่ในวงการบันเทิงมา6ปี ถึงจะมีความสำเร็จในวันนี้

แต่เจียงรั่วหลินเมื่อก่อนเป็นแค่ผู้ช่วยเล็ก ๆ ของเธอ เข้ามาในวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการ ก็ใช้เวลาแค่หนึ่งปี ตอนนี้จะตามเธอทันแล้ว ความเร็วในการเติบโตนี้ทำให้เธอรู้สึกอับอายจริง ๆ

หลี่ซือซือทนฟังไม่ไหวแล้ว พูดเบา ๆ ว่า:"เธอก็อย่าพึ่งได้ใจ หวังว่าเธอจะจำไว้หนึ่งคำ ยิ่งปืนสูงแค่ไหน ตอนล้มลงมาก็จะยิ่งเจ็บ"

เจียงรั่วหลินส่ายหัว ทำหน้าไม่สนใจ มองหลี่ซือซือแล้วพูดเยาะเย้ยว่า:"ประธานหลี่ แววตาคุณก็ไม่เห็นจะดีเลย ถ้าตอนนั้นคุณเลือกที่จะดันฉัน งั้นตอนนี้เฟยหยางกรุ๊ปก็จะมีดาราใหญ่คนหนึ่งเพิ่มขึ้น เหอะ ๆ คุณพลาดฉันไป นั่นก็คือพลาดอนาคตราชินีภาพยนตร์ไป คุณวางใจเถอะ ฉันจะมองเฟยหยางกรุ๊ปพวกคุณไปสู่ความตายเอง"

ฟังแล้ว สีหน้าของหลี่ซือซือปกคลุมไปด้วยความจริงจัง ก็แค่ดาราเล็ก ๆ ยังกล้ามาพูดจาสามหาวต่อหน้าเธอขนาดนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้เห็นเฟยหยางกรุ๊ปของพวกเขาอยู่ในสายตาเลย

ลู่เสี้ยงหยางที่ไม่พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เจียงรั่วหลินผู้หญิงคนนี้ เขาไม่ชอบเลย

แต่ว่าจากตัวเธอ ก็สามารถดูสถานการณ์ปัจจุบันในวงการบันเทิงนี้ออกมาได้บ้าง

ก่อนหน้านี้หลี่ซือซือเคยพูดกับเขาว่า ช่วงนี้เฟยหยางกรุ๊ปมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง คับไท่กรุ๊ป

ตอนนั้นเขาไม่ได้ติดอะไร เพราะเขาเชื่อในความสามารถของหลี่ซือซือ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลี่ซือซือไม่สามารถรับมือกับมันได้ เลยต้องการให้เจ้านายอย่างเขาออกหน้าด้วยตัวเอง

พอคิดแบบนี้ในใจ สายตาของเจียงรั่วหลินก็ตกลงบนตัวลู่เสี้ยงหยาง เธอก็ทำเหมือนลู่เสี้ยงหยางเป็นบอดี้การ์ดของซูเยียนรันกับหลี่ซือซือ

หัวเราะเยาะแล้วพูดว่า:"บริษัทพวกเธอจบแล้ว นายยังจะตามผู้หญิงสองคนนี้อีกทำไม? ตอนนี้ถ้านายมาเป็นบอดี้การ์ดให้กับฉัน ฉันจะเพิ่มเงินเดือนให้นายสองเท่า"

ฮ่าฮ่า ตอนนั้นเฟยหยางกรุ๊ปดูถูกเธอไม่ใช่เหรอ? งั้นตอนนี้เธอก็จะจุดพนักงานของเฟยหยางกรุ๊ป ไปต่อหน้าหลี่ซือซือประธานคนนี้เอง แบบนี้ถึงจะเพียงพอกับผลประโยชน์ของตัวเอง

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกขำมาก ผู้หญิงคนนี้มองตัวเองสูงเกินไปรึเปล่า หัวเราะแล้วพูดว่า:"ผมว่า คับไท่กรุ๊ปของพวกคุณเดี๋ยวก็จะหายไปจากปินเหอแล้ว เธอควรจะถนอมชีวิตของตนเองให้ดีกว่า"

เจียงรั่วหลินไม่คาดคิดว่าคำพูดที่ดุดันเช่นนี้ จะถูกพูดออกมาจากบอดี้การ์ด หลังจากงุนงงก็ยิ้มและพูดว่า:"ฉันยินดีที่จะเห็นทุกคนในเฟยหยางกรุ๊ป กลายเป็นสุนัขที่ถูกปลิดชีพในอนาคต ถึงตอนนั้นนายจะมาขอร้องฉันอีกครั้ง ไม่แน่ฉันจะหาทางหาเลี้ยงชีพให้นายได้"

พูดจบ เธอก็ไม่รอช้า สบัดตูดเดินออกไปเลย ท่าทางค่อนข้างภาคภูมิใจ ราวกับว่าหางของเธอได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้ว

ซูเยียนรันและหลี่ซือซือเห็นแล้วรู้สึกโมโหมาก นี่มันโลกแบบไหนกัน ตัวร้ายที่พึ่งช่วงบนเพื่อนขึ้นตำแหน่ง กล้าที่จะหยิ่งผยองต่อหน้าพวกเธอ

ลู่เสี้ยงหยางดูความไม่ชอบใจของทั้งสองคนออก ยิ้มและปลอบโยนสองสามคำ จากนั้นก็พูดกับหลี่ซือซือว่า:"ตอนนี้บอกผมเกี่ยวกับสถานการณ์คร่าว ๆ ของคับไท่กรุ๊ปหน่อย"

ในเมื่อศัตรูหยิ่งผยองขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาไม่ทำอะไรหน่อย ถ้างั้นก็จะเป็นการทำผิดต่อไพ่ตายในมือ