หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 337 หมออัจฉริยะหรือนักต้มตุ๋น?

ตอนที่ 337 หมออัจฉริยะหรือนักต้มตุ๋น?

บทที่ 337 หมออัจฉริยะหรือนักต้มตุ๋น?

ในขณะนี้ ฟ้านเจี้ยนหมิงที่ใช้ปืนเล็งไปที่ศีรษะของคนขับรถได้ตะโกนขึ้นมา “ขับให้เร็วที่สุด ภายในครึ่งชั่วโมงมึงต้องส่งแม่กูไปถึงโรงพยาบาลให้ได้ ไม่เช่นนั้นกูจะยิงทะลุหัวมึงและให้ทุกคนถูกฝังไปพร้อมกับแม่กู”

ทันทีที่ได้ยินคำนี้ คนขับรถกลัวจนสั่นไปทั้งตัว

หือ!

ทุกคนในรถต่างก็ใจหายและกลัวจนเหงื่อตก

ไม่คิดเลยว่าจะเจอคนไร้เหตุผลเช่นนี้ แม่ของคุณจะเป็นหรือตายมันเกี่ยวอะไรกับพวกเราถึงต้องฝังหัวเราไปด้วย

ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกตลกเล็กน้อย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปโรงพยาบาลจากที่นี่ภายในครึ่งชั่วโมง ต่อให้รถบัสเหยียบจนมิดไมล์ก็ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงอยู่ดี

ดังนั้นต่อจากนี้คงต้องมีโชว์ดีๆ เกิดขึ้นแน่ เขาอยากรู้ว่าคนปากเก่งอย่างซุนยีเฉินจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เพราะเขาเป็นคนโชว์พาวเปิดประตูรถให้พวกนี้เอง

แม้คนขับรถเองก็รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะไปถึงโรงพยาบาลภายในครึ่งชั่วโมง แต่ปืนจ่อหัวขนาดนี้เขาก็ไม่กล้าปฏิเสธ ทำได้เพียงขับเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถนนเส้นนี้ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ส่วนอีกด้านเป็นหน้าผาและยังเป็นถนนคดเคี้ยวลำบาก รถบัสที่แล่นด้วยความเร็วสูงจึงทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะ และเนื่องจากความเคยชินของแต่ละคนที่แตกต่างกัน หลายคนรู้สึกว่ารถเกือบจะพุ่งออกจากไหล่ทางและตกหน้าผาไปแล้ว

โดยเฉพาะผู้หญิงหลายคนต้องกลัวจนหน้าซีดเซียวและกรีดร้องอย่างไม่หยุด แม้แต่ผู้ชายหลายคนก็กลัวจนฉี่รดกางเกงไปแล้ว

บ้าจริง แบบนี้เราคงต้องเกิดอุบัติเหตุตายก่อนถึงโรงพยาบาลแน่

หลายๆ คนเริ่มไม่พอใจ และเมื่อมองไปที่ซุนยีเฉินก็เหมือนกำลังมองไอ้ซื่อบื้อคนหนึ่ง

ถ้าไม่ใช่เพราะการโชว์พาวของเขาก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และถ้าพวกเขาเชื่อในคำพูดของลู่เสี้ยงหยาง ไม่ปล่อยให้คนเหล่านี้เข้ามาในรถก็สิ้นเรื่อง

แต่น่าเสียดายที่บนโลกนี้ไม่มียาแก้รักษาโรคเสียใจภายหลัง

ซุนยีเฉินเริ่มหดหู่ เมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาตกเป็นเป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน เขาต้องรีบหาทางกู้หน้าให้ได้ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากไม่มีผู้ชมแล้วเขาจะโชว์พาวให้ใครดู?

ด้วยไหวพริบของเขา ทันใดนั้น เขาก็เหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นพูดกับฟ้านเจี้ยนจงว่า “พี่ พี่ชายครับ ใจเย็นก่อนนะ ไหนๆ คุณแม่ของคุณจะรีบไปโรงพยาบาลก็เพื่อไปหาหมอยู่แล้ว เอางี้ดีกว่าครับ บังเอิญว่าบนรถเรามีหมออัจฉริยะอยู่คนหนึ่ง ก่อนหน้านี้แกเพิ่งรักษาคนในกลุ่มเราที่ติดเชื้อตอนที่เราออกไปชานเมืองด้วยนะครับ”

ตอนนี้ซุนยีเฉินเสนอหมออัจฉริยะโจวซวิ่นออกไป ถ้าโจวซวิ่นสามารถรักษาคุณยายคนนั้นได้ เชื่อว่าชายสามคนนี้จะไม่ทำร้ายพวกเขาอีก

ไม่แน่ชายสามคนนี้ยังหันกลับมาขอบคุณในความดีของเขาด้วยซ้ำ ฮ่าๆ เมื่อถึงเวลานั้นให้เขาทั้งสามหักขาไอ้ลูกเขยกระจอกลู่เสี้ยงหยางดีกว่า

บ้าอะไรวะเนี่ย? จะโชว์พาวอย่าเอาเราไปเกี่ยวด้วยสิ เมื่อโจวซวิ่นรู้ความตั้งใจของซุนยีเฉิน เขาเครียดจนแทบอาเจียนออกมา

ว่าไงนะ?

มีหมออัจฉริยะอยู่ในรถด้วยหรือ?

ฟ้านเจี้ยนจงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ และรู้สึกไม่คาดคิด

ซุนยีเฉินพยักรัวๆ แล้วรีบตอบเขาว่า “ใช่ครับ เขาคนนี้เองครับ”

จากนั้นเขาชี้ไปที่โจวซวิ่น

ในเวลานั้น ทุกสายตาก็จับจ้องไปที่โจวซวิ่น

จริงด้วยเหมือนกัน เราลืมหมออัจฉริยะคนนี้ได้ไง

ชายคนร้ายทั้งสามคนนี้ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆ ทั้งๆ ที่มีหมออยู่ด้วยแล้วจะพยายามพาย่าไปโรงพยาบาลทำไม?

ขอเพียงโจวซวิ่นรักษายายคนแก่คนนี้ได้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงนั่งรถไปด้วยกันอีก

แม้โจวซวิ่นจะแอบนินทาในใจ แต่ด้วยศักดิ์ศรีของตน เขาจึงลุกขึ้นแล้วพูดอย่างใจเย็น “ผมเป็นหมอ บางทีอาจจะช่วยคุณดูอาการของคุณแม่คุณได้ แต่ก่อนอื่นรถต้องจอดนิ่งก่อน ผมต้องการสภาพแวบล้อมที่สงบ”

ฟ้านเจี้ยนจง ฟ้านเจี้ยนหมิงและฟ้านเจี้ยนหัวทั้งสามพี่น้องเมื่อได้ยินคำนี้ต่างก็สบตากันและตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์

ฟ้านเจี้ยนจงจึงหันกลับไปบอกกับคนขับรถว่า “จอดรถบนไหล่ทาง”

คนขับรถเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม เขารีบชะลอรถแล้วจอดบนไหล่ทางทันที

ฟืบ!

ปืนพกในมือของฟ้านเจี้ยนหัวชี้ไปที่หัวของโจวซวิ่นและพูดอย่างเย็นชาว่า “มานี่”

โจวซวิ่นเดินเข้าไปด้วยความกลัว เขาตกใจจนใบหน้าซีดเซียวไปหมดแล้ว

ในขณะเดียวกัน ฟ้านเจี้ยนจงก็วางยายแก่ลงจากหลังและนอนลงบนเบาะที่นั่งแถวหน้า

โจวซวิ่นเดินเข้าไปหายายแก่และเริ่มดูอาการอย่างไม่กล้ารอช้า

ในระหว่างนั้น ฟ้านเจี้ยนจงพูดข่มขู่อย่างโหดร้าย “ถ้ามึงทำให้เสียเวลาแล้วรักษาแม่กูไม่ได้ กูจะฆ่ามึงเป็นคนแรก”

โจวซวิ่นร้องลั่นในใจและเหงื่อแตกไปทั่วตัว

จากนั้นเขาก็รีบทำการรักษายายคนนั้นทันที

ไม่นานหลังจากนั้น โจวซวิ่นรู้สึกอยากตายในทันที คุณยายท่านนี้แค่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โชคดีที่ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร แกอาจจะไม่ตายในทันที แต่ถึงอย่างนั้น คุณยายก็ไม่อาจอยู่รอดไปถึงครึ่งชั่วโมงได้ หรืออาจจะตายได้ทุกเมื่อก็เป็นไปได้

บ้าจริง ตอนนี้เขาไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาสักชิ้นเลย แล้วจะรักษาโรคหัวใจขาดเลือดของยายคนนี้ได้อย่างไร?

“ว่ายังไง? ไอ้หนู มึงมั่นใจว่าจะรักษาแม่กูได้ใช่ไหม?” เมื่อเห็นโจวซวิ่นไม่พูด ฟ้านเจี้ยนจงก็ถือปืนจ่อไปที่กลางหน้าผากของโจวซวิ่นอีกครั้ง

โจวซวิ่นตอบด้วยเสียงสั่นเทา “ถ้าจะให้รักษาน่ะ มันรักษาได้ครับ เพราะไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรขนาดนั้น แค่อาการหัวใจขาดเลือด แต่ปัญหาคือตอนนี้เราไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย ผมจึงทำอะไรไม่ได้จริงๆ ……”

ผัวะ!

ฟ้านเจี้ยนจงง้างมือตบหน้าโจวซวิ่นอย่างแรงโดยที่เขายังไม่ทันพูดจบประโยค

โจวซวิ่นล้มลงกับพื้นอย่างไม่ต้องสงสัย ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาบวมขึ้นมาทันที และฟันของเขาก็หลุดออกจากปากหลายซี่

“แมร่งเอ๊ย มึงท้าทายพวกกูอยู่ใช่ไหม? มึงไม่มีปัญญารักษาแม่กูแล้วยังจะพูดอะไรนักหนา?” ฟ้านเจี้ยนจงถ่มน้ำลายใส่โจวซวิ่น จากนั้นเตะไปที่กลางท้องของเขาอีกหลายที

โจวซวิ่นถึงกับร้องลั่นและขอความเมตตา

พี่น้องอีกสองคนก็หัวร้อนขึ้นมาทันที คนที่บอกว่าโจวซวิ่นคือหมออัจฉริยะคือซุนยีเฉินนี่เอง

จากนั้นทั้งสองพี่น้องก็หันไปตบหน้าซุนยีเฉินอย่างไม่ยั้งมือ

ซุนยีเฉินถูกตบจนหน้ามืดตามัวไปหมด และสมองของเขามีแต่เสียงดังก้องอย่างไม่หยุด ส่วนใบหน้าทั้งใบก็บวมช้ำเป็นหัวหมูไปทันที

“แมร่งเอ๊ย ไหนหมออัจฉริยะของมึง?”

“ไอ้หมออัจฉริยะห่วยแตก มึงมันหมอกำมะลอชัดๆ”

สองพี่น้องตีไปด่าไป

จากนั้นไม่กี่อึดใจ ซุนยีเฉินก็ยอมจำนนและคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอความเมตตา “พี่ๆ ทั้งสองหยุดตีเถอะครับ ผมผิดไปแล้วจริงๆ ผมว่าเรารีบไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่านะครับ ผมจะพาคุณแม่ของพวกท่านไปหาหมอที่ดีที่สุดเองครับ”

หลายๆ คนในรถต่างมองหน้ากันอย่างสับสน เกิดอะไรขึ้นกับโจวซวิ่นในวันนี้กันแน่? แค่อาการหัวใจขาดเลือดก็ไม่สามารถรักษาได้ ก่อนหน้านี้กู้ชิวส่วยติดพิษร้ายแรงและตกอยู่ในอาการโคม่าเขายังมีปัญญาทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ตามเหตุผลแล้วเคสของวันนี้น่าจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ

กู้ชิวส่วยเองก็รู้สึกเฉลียวใจเหมือนกัน แม้ว่าเมื่อวานเธอจะติดพิษและเกิดอาการโคม่า แต่เธอก็ยังจำเหตุการณ์บางอย่างได้

เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าคนที่ทำการรักษาเธอคนแรกคือลู่เสี้ยงหยาง จากนั้นตามด้วยโจวซวิ่น

“หรือว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นคนแก้พิษให้เรากันแน่?” กู้ชิวส่วยคิดในใจและรู้สึกใจสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Score 10
Status: Completed
ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศอดสูการเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

Options

not work with dark mode
Reset