บทที่ 312 แพ้แล้วเรียกปู่
ฟังที่หวังเจี้ยนพูด เซียวกวางฮุยมองกล่องของขวัญที่ลู่เสี้ยงหยางให้โดยไม่รู้ตัว
ค่อย ๆ ขมวดคิ้วขึ้น การกระทำเมื่อกี้ของลู่เสี้ยงหยาง ในพิสูจน์การตัดสินใจของเขาที่มีต่อลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง
ลู่เสี้ยงหยางคนนี้ไม่ได้มีความสามารถอะไร กลับชอบขี้โม้ และยังชอบแสร้งทำเป็นคนสูงใหญ่ ทำเป็นลึกลับ
ฮึ หมอนี้มันตลกจริง ๆ ขยะที่ซื้อมาจากร้านสองหยวน นึกไม่ถึงจะกล้าพูดว่า ใหญ่กว่าซองหนึ่งแสนหยวนของฉินหยุนเฟยอีก
คำพูดที่ตลกมากแบบนี้ คิดว่าคงจะมีแต่ลู่เสี้ยงหยางพูดได้
เดิมทีเขาเกลียดลู่เสี้ยงหยาง คนอย่างหมอนี้ ต้องข่มเขาสักหน่อย แต่เขาก็คิดได้ทันที ลู่เสี้ยงหยางเป็นลูกชายเป็นเพื่อนร่วมห้องของตน ถ้าทำให้เรื่องมันดูน่าเกลียดเกินไป อนาคตอาจจะมีผลกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายของเขากับลู่เสี้ยงหยาง
ยิ้มแล้วพูดทันที :”ช่างเถอะ เรื่องแบบนี้ทุกคนรู้อยู่แก่ใจดีก็พอแล้ว”
ฉินเฟยหยุนไม่ปล่อยโอกาสดีที่จะเหยียยลู่เสี้ยงหยางไป ส่งซิกให้หวังเจี้ยน หมายความว่าให้เขาต่อ
หวังเจี้ยนหยักหน้า ลุกออกจากที่นั่งตัวเอง รีบเดินมาข้าง ๆ เซียวกวางฮุย แล้วพูดว่า:”ลุงเซียว ลู่เสี้ยงหยางหมอนี้มันพูดจาสามหาว ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลย ลุงไม่ต้องแก้ต่างแทนเขา คนโง่อย่างเขา ก็ควรจะให้เขาได้ลำบากบ้าง เพื่อให้อนาคตเขาจะเจียมตัวบ้างเวลาอยู่ข้างนอก อย่าไม่มีอะไรทำก็ทำเป็นอวดเก่ง”
เซียวกวางฮุยเงียบไม่พูดอะไร มองเซียวมู่ไป๋โดยไม่รู้ตัว
อยากดูว่าลูกชายคิดยังไง
เซียวมู่ไป๋โกรธ ส่ายหัวให้กับเซียวมู่ไป๋ หมายความว่าให้เขาอย่าทำให้เรื่องมันเกินไป
แต่ในเวลานั้นเอง หวังเจี้ยนหยิบกล่องของขวัญที่ลู่เสี้ยงหยางขึ้นมาเองแล้ว แกะออกมาอย่างง่ายดาย
ทันใดนั้น สิ่งที่ปรากฏในสายตาทุกคนก็คือแก้วเหล้าที่ทำมาจากหยก
แก้วเหล้านี้ไม่ใหญ่ ใส่เหล้าได้แค่50มิลลิลิตร
ทุกคนงงกันหมด ไอ้เชี่ย ลู่เสี้ยงหยางให้ของสิ่งนี้ หมายความว่าไง ?
ของแบบนี้ ร้านสองหยวนก็คงจะขายส่งแล้วสินะ ?
หวังเจี้ยนเอาแก้วเหล้าออกมา ยกขึ้นหัว ให้ทุกคนมองชัด ๆ แล้วหัวเราะดัง ๆ :”ทุกคนดูสิ นี่ก็คือขยะที่ลู่เสี้ยงหยางให้ ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเอาความกล้ามาจากไหน กล้าบอกว่าของชิ้นนี้ล้ำค่ากว่าซองที่พี่หยุนเฟยให้”
ฉินหยุนเฟยร้องฮึทางจมูก แล้วพูดว่า:”หมอนี้พูดง่ายยิ่งกว่าตดอีก แต่ว่าของแบบนี้ทำได้เหมือนจริงเลยนะ คนที่ไม่รู้คงคิดว่า มันคือวัตถุโบราณ”
ไป๋หมิ่นหมิ่นหัวเราะเยาะเย้ย:”โง่ก็คือโง่ ขยะจริง ๆ ดูแล้วเย่สวนแม้ว่าจะเป็นดาวโรงเรียนของพวกเรา แต่สายตาแย่จริง ๆ คบกับคนที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้”
ทันใดนั้น มีหลายคนมองไปทางลู่เสี้ยงหยางอย่างเยาะเย้ยและล้อเลียน และ มีเสียงดูถูกส่งมาทางเขาตลอด
สีหน้าลู่เสี้ยงหยางไม่เปลี่ยน เห็นสีหน้าของทุกคน พูดออกมานิ่ง ๆ :”พวกเธอพูดให้พอเถอะ พวกมีความรู้น้อย แล้วจะรู้ได้ไง คุณค่าของวัตถุโบราณที่ผมให้”
อะไรนะ?
วัตถุโบราณ?
แต่ละคนสบตากัน สุดท้ายก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ฮ่าฮ่าฮ่า หมอนี้ขี้โม้จนติดแล้วจริง ๆ ร้านสองหยวนริมถนน ก็กล้าพูดว่าเป็นวัตถุโบราณ
กู้ชิวส่วยที่นั่งข้าง ๆ ลู่เสี้ยงหยาง ทนฟังไม่ไหวแล้วจริง ๆ หันหน้ามองเขา แล้วพูดว่า:”โอ้อวดอย่างไม่รู้สึกละอายใจ คนอย่างนายก็ซื้อวัตถุโบราณได้ด้วย มีสิทธิ์อะไร?”
จางเหมิง หวังชิงชิง หวีจี้งพวกเธอสามคนกุมปากแอบหัวเราะ คิดดูว่าลู่เสี้ยงหยางจะขายหน้ายังไงต่อไป จะหาเหตุผล ทำไมไม่หาให้มันดีกว่านี้หน่อย? พูดแล้วเด็กสามขวบยังไม่เชื่อ เอาออกมาพูด สนุกเหรอ?
ตาของฉินหยุนเฟยเป็นประกายทันที พูดว่า:”ไอ้หนู ในเมื่อนายมีความมั่นใจกับของขวัญที่ตัวเองให้ขนาดนั้น กล้าพนันกันมั้ยล่ะ?”
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มถาม:”พนันยังไง?”
ยังไงไม่ว่าฉินหยุนเฟยจะทำอะไร จนสุดท้ายเขาก็เป็นคนขายหน้า ตนไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำให้สุด
บนหน้าฉินหยุนเฟยมีรอยยิ้มอย่างโหดร้าย ยกขาข้างหนึ่งเหยียบบนเก้าอี้ แล้วพูดว่า:”ถ้าของบ้า ๆ ที่นายให้ ใหญ่กว่าซองที่ปมให้ งั้นผมก็จะลอดใต้หว่างขานาย กลับกัน นายต้องลอดใต้หว่างขาผมไป เป็นไง?”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัวแล้วพูดว่า:”ยังไม่พอ ถ้าใครแพ้ คราวหลังเจออีกฝ่ายต้องเรียกปู่”
“ได้ ไม่มีปัญหา ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนครั้งนี้ผมจะมีหลานโตเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว”ฉินหยุนเฟยตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิด ยังไงเขาก็มั่นใจ คนที่แพ้ต้องเป็นลู่เสี้ยงหยางแน่นอน
จางสู้กับเซียวมู่ไป๋หน้าบึ้งทักที คิดว่าลู่เสี้ยงหยางทำการตัดสินใจง่ายเกินไป คิดดูว่าคราวหลังทุกครั้งที่เขาเจอฉินหยุนเฟยก็ต้องเรียกปู่ ฉากนี้มันต้องอึดอัดแค่ไหน
“เหอะ รนหาที่ตายจริง ๆ “เซียวกวางฮุยที่อยู่ข้าง ๆ ไม่คิดว่า ลู่เสี้ยงหยางจะหาความขายหน้าเอง ยิ้มแล้วพูดว่า:”ในบรรดาเพื่อน ๆ ที่มาที่ร้านผมเพื่อฉลองการเปิดในวันนี้ มีคนดังในทางวัตถุโบราณ ผู้เชี่ยวชาญหวังฉี่บอ ผมจะไปเชิญเขามาที่นี่เพื่อพิสูจน์ ของขวัญของลู่เสี้ยงหยางนี้ มันเป็นวัตถุโบราณหรือไม่ อีกไม่นานก็จะได้รู้แล้ว”
พอได้ยินที่พูด หลายคนตะลึงมาก ชื่อเสียงของผู้เชี่ยวชาญหวังฉี่บอ พวกเขาเคยได้ยินแน่นอน
ในปีที่ผ่านมา รายการพิสูจน์วัตถุโบราณดังมาก ผู้เชี่ยวชาญหวังฉี่บอคนนี้เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในรายการ วัตถุที่เขาพิสูจน์จากมือเขา ไม่เคยมีข้อผิดพลาดเลย และด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเหรียญทองในรายการพิสูจน์วัตถุโบราณ
และตอนนั้นเอง หลังจากที่เซียวกวางฮุยพูดจบ ก็ล้วงเอามือถือออกมา โทรหาผู้เชี่ยวชาญหวังที่อยู่ชั้นล่าง
ผู้เชี่ยวชาญหวังได้ยินว่าข้างบนมีวัตถุโบราณ อยากให้เขาช่วยพิสูจน์ ก็รู้สึกสนใจทันที วิ่งมาถึงชั้นสอง
เห็นฉากนี้ มีหลายคนมั่นใจว่าลู่เสี้ยงหยางแพ้แน่นอน
ดังนั้นพวกเขายิ้มแล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยางว่า:”เจ้าหนู รออะไรอีกล่ะ? รีบลอดจากใต้หว่างขาคุณชายฉินไปเถอะ แล้วถือโอกาสเรียกเขาว่าปู่ด้วยล่ะ”