บทที่ 213 บังคับรื้อถอน
สวีปินกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว เขารีบยื่นมือออกไปจับมือของหานปิงหาน
ผิวอันนุ่มนวลและกลิ่นหอมจางๆ ที่เข้าจมูกทำให้เขาเริ่มหวั่นไหว
เมื่อเหลือบตามองหานปิงหานตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ยิ่งทำให้ดวงตาของเขาเร่าร้อนขึ้น
ใบหน้าของหานปิงหานนั้นสวยใสอย่างมีเสน่ห์มาก แก้มสีแดงอมชมพูดและริมฝีปากอันอวบอิ่มของเธอทำให้คนมองแล้วอดไม่ได้ที่จะลิ้มลอง รวมถึงร่างอันเซ็กซี่ที่ถูกห่อหุ้มด้วยเสื้อเชิ๊ตและกางเกงยีนส์รัดรูป มันเผยให้เห็นถึงความอวบอิ่มและขาเรียวอ่อนนุ่มของเธอได้อย่างชัดเจน
เพอร์เฟค!
นี่มันเป็นของบนเตียงที่เพอร์เฟคที่สุด!
ณ เวลานี้สวีปินอดไม่ได้ที่จะกดหานปิงหานที่เซ็กซี่คนนี้ลงไปนอนบนพื้นแล้วสั่งสอนเธอ แต่เมื่อนึกถึงบทบาทของตน เขาจึงได้ยิ้มตอบเบาๆ แล้วปล่อยมือเธอไป
แต่เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเอาเจ้านางฟ้าที่แสนเซ็กซี่คนนี้ขึ้นไปลิ้มลองบนเตียงให้ได้
หลังจากที่สวีปินนั่งลง หานปิงหานและคนอื่นๆ ก็ค่อยๆ นั่งลง
หานปิงหานกลัวเรื่องมันจะยาว เธอจึงถามตรงประเด็น “หัวหน้าสวี เรื่องที่ดิฉันเคยบอกคุณเป็นยังไงบ้างคะ?”
สวีปินยิ้มพูด “เอกสารการรื้อถอนออกมาแล้ว และผมก็ได้จัดรายชื่อของโรงงานหยูเม่ยหยินกรุ๊ปเข้าไปในลิสรายชื่อที่ต้องรื้อถอนเรียบร้อยแล้วด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เรื่องนี้คอนเฟิร์มเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการดำเนินการ พรุ่งนี้ผมจะไปพบลูกพี่ซุนอีกครั้ง”
ลูกพี่ซุนคือบอสใหญ่ของเขา และเป็นอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองของเมืองนี้
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ก็ต้องรบกวนหัวหน้าสวีทีนะคะ ถ้าเรื่องนี้สำเร็จไปด้วยดี พวกเราทุกคนจะไม่ลืมบุญคุณของท่านไปตลอดชีวิตเลยค่ะ” หานปิงหานยิ้มพูดอย่างนุ่มนวล
สวีปินพยักหน้าด้วยสีหน้ามั่นใจ “เรื่องนี้อยู่ภายใต้การดูแลของผม คาดว่าไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ก็จะได้ข้อสรุปอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หานปิงหานและคนอื่นๆ ก็ยิ้มอย่างมีความสุข ลู่เสี้ยงหยาง นายเก่งมากเลยใช่ไหม? นายคงคิดว่าหยูเม่ยหยินกรุ๊ปของนายจะครอบครองตลาดความงามของเมืองปินเหอได้ตลอดสินะ นายมันช่างไร้เดียงสาจริงๆ ฮ่าๆ ฉันจะรื้อทั้งโรงงานของนายทิ้งซะ ดูว่านายจะก้าวกระโดดยังไงอีก
“จริงด้วย” เวลานี้สวีปินเหมือนจะนึกอะไรได้ เขาจึงยิ้มพูดกับหานปิงหาน “ผมมีเรื่องอยากจะขอคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวหน่อยครับ”
ทันทีที่ได้ยินคำนี้ ทุกคนในห้องก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องอาหารนั้นอย่างมีไหวพริบ
ไม่นานหลังจากนั้น ห้องอาหารก็เหลือเพียงหานปิงหานและสวีปินสองคน
หานปิงหานยิ้มจางๆ แล้วพูดกับสวีปินว่า “หัวหน้าสวีมีเรื่องอะไรว่ามาเลยค่ะ?”
สวีปินไม่เกรงใจอีก เขากวาดมองไปที่เรือนร่างของหานปิงหานด้วยสายตาอันเร่าร้อนและใบหน้าอันหึงหวง “ผมไม่ต้องการการตอบแทนจากตระกูลหลิน ตระกูลจางและตระกูลเหอหรอกครับ ผมแค่ต้องการการตอบแทนจากคุณหนูหานคนเดียวเท่านั้น”
สำหรับการประสบความสำเร็จของหานปิงหานตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอหนีไม่พ้นเรื่องเหล่านี้เลย ยิ่งเป็นผู้ชายที่มีอำนาจหลายๆ คนในเมืองไห่ตงต่างก็เคยมีประวัติความสัมพันธ์ที่อธิบายยากกับเธอไม่มากก็น้อยเช่นกัน
ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าเธอมีประสบการณ์โชกโชนในเรื่องนี้ ดังนั้นในตอนนี้เธอได้ข้อมูลหลายอย่างจากสายตาของสวีปิน
และความต้องการของสวีปินในตอนนี้ก็ตรงกับความต้องการของเธอเช่นกัน เธอต้องทำให้สวีปินสนใจในตัวเธอเท่านั้น เธอถึงจะมัดใจเขาได้และให้เขายอมทำตามในสิ่งที่เธอขอทุกอย่าง
หานปิงหานยิ้มเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “ขอบคุณนะคะหัวหน้าสวี เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว” เธอพูดไปด้วยแล้วจัดระเบียบชายเสื้อของเธอไปด้วย
นี่มันเป็นการกระทำที่จงใจทำให้สวีปินอยากมากขึ้น
กรึบ!
สวีปินกลืนน้ำลายแล้วเดินเข้าไปหาหานปิงหาน จากนั้นฝ่ามือของเขาวางลงที่เอวของหานปิงหานอย่างเป็นธรรมชาติ
แม้จะมีเสื้อบางๆ กั้นอยู่ แต่เขาก็สามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นและความนุ่มนวลของผิวกายเธอได้อย่างชัดเจน
สวีปินหายใจเร็วขึ้นเรื่อยๆ เขาแทบทนไม่ไหวที่จะเลื่อนมือลงไปตำแหน่งอื่น
แต่ในขณะนี้ หานปิงหานค่อยๆ ถอยหลังออกไปสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างจากสวีปิน
แน่นอนว่าถ้าเธอต้องการ เธอสามารถปฏิเสธสวีปินได้ตั้งแต่แรก
แต่เธอตั้งใจให้สวีปินได้ลิ้มรสความหอมหวานของความรู้สึกนี้ เพื่อเขาจะได้ทำตามสิ่งที่เธอขออย่างเต็มที่
“คึกๆ ใจเย็นก่อนค่ะหัวหน้าสวี รอให้เรื่องนี้เสร็จสิ้นก่อน ดิฉันจะได้หมดความกังวลใจสักที เรายังมีเวลาและโอกาสอีกมากมาย” หานปิงหานกะพริบตาด้วยท่าทางอันเร่าร้อน ทำให้สวีปินตกอยู่ในภวังค์อย่างที่สุด
สวีปินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยระงับความร้อนรนในใจ จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วหัวเราะ “ขอเพียงคุณหนูหานพูดเช่นนี้ผมก็รู้สึกสบายใจแล้วครับ ไม่ต้องห่วง ภายในหนึ่งอาทิตย์คุณจะได้รับข่าวดีอย่างแน่นอนครับ”
หลังพูดจบเขาก็หันหน้าเดินจากไป แต่ก่อนที่จะเดินออกจากห้องนั้น สายตาของเขายังไม่ลืมความโลภและมองไปที่หานปิงหานอีกหลายครั้ง
ผู้หญิงที่มีเสน่ห์แบบนี้คือความฝันที่ชายทุกคนต้องการนอนด้วย!
หลังจากที่สวีปินจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหานปิงหานก็ค่อยๆ จางหายไปและแทนที่ด้วยความรังเกียจ
คนอย่างสวีปินเธอเห็นมามากแล้ว แค่คิดก็รู้สึกขยะแขยง แต่เธอจำเป็นต้องล่อลวงเขาเพื่อหวังผลประโยชน์ที่ตั้งไว้
จากนั้นไม่นานจางเทาก็เข้ามาจากข้างนอก ใบหน้าของเขามืดมนเหมือนฝนฟ้ากำลังจะเทลงมา ไม่ต้องพูดเขาก็รู้ว่าเมื่อครู่นี้สวีปินคุยเรื่องอะไรกับหานปิงหาน
เขาจำเป็นต้องยอมรับว่าหานปิงหานนั้นมีเสน่ห์มาก เธอสามารถทำให้ผู้ชายที่นับไม่ถ้วนคลั่งไคล้ในตัวเธอได้
และสวีปินก็เป็นหนึ่งในนั้น
เช่นเดียวกัน เขาก็มองว่าปิงหานนั้นเป็นสิ่งคลั่งไคล้ของเธอมานานแล้ว และหานปิงหานนั้นต้องเป็นของเขาคนเดียวด้วย ดังนั้นเขาจึงยอมติดตามหานปิงหานไปทุกที่ด้วยความเต็มใจ และยอมให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นสุนัขรับใช้ของหานปิงหาน
“อันที่จริงถ้าจะจัดการกับไอ้อ่อนลู่เสี้ยงหยาง แค่ผมคนเดียวก็เกินพอแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์มากมายเหล่านี้เลย” จางเทาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและรู้สึกเจ็บแปลบในใจ
หานปิงหานยิ้มพูด “ฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วงฉันและมีฉันอยู่ในใจ แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว แต่คุณเป็นผู้พิทักษ์ข้างกายของฉันนะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ แล้วจะให้คุณออกโรงได้ไงล่ะ สุนัขรับใช้อย่างสวีปินนั้นมีตั้งมากมาย ถ้าพวกมันสามารถช่วยงานเราได้ แล้วเราจะไปเหนื่อยเองทำไมล่ะ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้จางเทาก็เงียบไป แต่ความร้อนในดวงตาค่อยๆ แผดเผาขึ้น
ผู้หญิงที่มีความฉลาดและเฉียบขาดเหมือนหานปิงหานแบบนี้เป็นสิ่งที่เขาใฝ่ฝันที่จะพิชิตให้อยู่หมัดอย่างที่สุด
ถ้าทำให้ผู้หญิงอย่างหานปิงหานตายใจได้ นั่นก็คือความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ชายคนหนึ่ง
……
ในเวลาเดียวกัน ณ สำนักงานออฟฟิศของผู้บริหารหยูเม่ยหยินกรุ๊ป ลู่เสี้ยงหยางนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานอย่างสบายใจ ซุนเซียงเซียงยืนอยู่ตรงหน้าเขาและกำลังรายงานผลงานล่าสุดของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
“ท่านประธานคะ ถึงแม้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเราเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ผลตอบรับก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลยค่ะ ตอนนี้ผลิตภัณฑ์ใหม่ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปได้ครอบครองไปถึง 70 % ในท้องตลาด เชื่อว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้าสินค้าของชิงเหอกรุ๊ปก็จะหายไปหมดเลยค่ะ” ซุนเซียงเซียงยิ้มพูดด้วยความตื่นเต้น
แต่ทุกอย่างนี้อยู่ในความคาดหมายของลู่เสี้ยงหยางอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกตื่นแต่อย่างใด เขาได้แต่พยักหน้าตอบ “ทำได้ดีมาก”
ซุนเซียงเซียงมองลู่เสี้ยงหยางด้วยความชื่นชมและนับถืออย่างที่สุด เพราะชายคนนี้แค่โยนสูตรตำรายาออกไปก็ทำให้สถานการณ์ของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
กรี๊ง ๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์ของซุนเซียงเซียงดังขึ้น เป็นสายโทรเข้าจากผู้ช่วยของเธอ “ว่าไง?”
ผู้ช่วยพูดด้วยน้ำเสียงที่กังวลมาก “แย่แล้วค่ะหัวหน้าซุน โรงงานผลิตของบริษัทเราตอนนี้ถูกจัดอยู่ในรายชื่อที่ต้องถูกสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากทางกรมโยธาธิการและผังเมืองค่ะ ทางกรมจะให้เวลากับบริษัทเราย้ายของออกมาภายในหนึ่งอาทิตย์ มิฉะนั้นจะถูกบังคับให้รื้อถอนเลยนะคะ”
ว่าไงนะ?
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ ซุนเซียงเซียงถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ
โรงงานผลิตของบริษัทหยูเม่ยหยินกรุ๊ปถูกสั่งให้รื้อถอน?
ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะก็ หยูเม่ยหยินกรุ๊ปต้องจบเห่แน่เลย