บทที่ 140 ตระกูลหานแห่งไห่ตง
หลังจากที่ความตกตะลึงยังคงดำเนินไปอยู่พักหนึ่ง พวกถังปิงหยู่จึงค่อยก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง
อย่างไรก็ตามประโยคที่อาจารย์จางเพิ่งจะพูดออกมาเมื่อกี้นี้ ยังคงดังก้องอยู่ในสมองของพวกเขาราวกับเป็นเสียงแห่งเวทมนตร์อย่างไรอย่างนั้น
เส้นเอ็นของถังหลงถูกตัดขาด หลังจากนี้ทำได้เพียงต้องนั่งอยู่บนรถเข็น
“กรี๊ด อาหลง” หวังตานหลินไม่สามารถปรับความจริงนี้ได้ ภาพเบื้องหน้าของเธอมืดสนิท ก่อนจะทรุดตัวล้มลงไป
ถังกั๋วเหลียงตอบสนองได้อย่างว่องไว เขารีบอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ไม่ปล่อยให้เธอล้มลงไปบนพื้น
“แม่คะ แม่เป็นอะไรไป” ถังปิงหยู่รีบถามขึ้นมาทันที สีหน้าของเธอดูซับซ้อนเป็นอย่างมาก
หวังตานหลินถอนหายใจออกมาไม่หยุด น้ำตาไหลลงมาจากหางตาราวกับสร้อยไข่มุกที่ขาดสะบั้น ก่อนจะพูดออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “หลังจากนี้อาหลงต้องกลายเป็นคนพิการแล้ว แม่ยอมรับไม่ได้ …ฮือฮือ…”
หลังจากที่พูดจบก็สะอื้นไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
หัวใจของถังกั๋วเหลียงคล้ายถูกมีดแทงลงไปทีละด้าม ๆ เต็มไปด้วยหยาดเลือดที่กำลังรินไหล บนใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยเมฆหมอกสีดำ ดาวกับว่าสามารถตกลงมาเป็นหยาดฝนได้
“ก็แค้นนี้ไม่ได้รับการชำระ ถังกั๋วเหลียงผู้นี้ก็สาบานว่าจะไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป” ถังกั๋วเหลียงพูดออกมาทีละคำ สีหน้าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง
ตอนนี้ถังหลงต้องกลายเป็นแบบนี้เพราะลู่เสี้ยงหยาง แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของลู่เสี้ยงหยาง
นี่ทำให้เธอถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าสิ่งที่ถังหลงทำลงไปนี้มันคุ้มจริงหรือ
ในขณะนั้นเองถังกั๋วเหลียงก็หยิบโทรศัพท์ออกมา เป็นลูกน้องคนหนึ่งที่โทรศัพท์มาหาเขา
เขามอบหมายให้ลูกน้องคนนี้สืบหาข้อมูลของ หานเซ่าซวน
ดังนั้นเขาจึงกดปุ่มรับสายโดยไม่ลังเลใด ๆ จากนั้นก็ถามขึ้นมาว่า “อาสง เป็นยังไงบ้าง มีข่าวอะไรไหม”
อาสงรายงานข้อมูลทั้งหมดอย่างคร่าว ๆ ในทันที
หลังจากที่ฟังจบ สีหน้าของถังกั๋วเหลียงก็ยิ่งดำคล้ำขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังไม่ค่อยจะน่ามอง ราวกับกลืนแมลงวันลงไปหลายตัวอย่างไรอย่างนั้น
หวังตานหลินรู้ได้ทันทีว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน จึงรีบเอ่ยถามขึ้นมา “กั๋วเหลียง มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม”
ถังกั๋วเหลียงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาเงียบไปสักพักหนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า “เรื่องของอาหลงพัวพันกับเรื่องที่สำคัญมาก พวกเราค่อยกลับไปคุยกันที่บ้านเถอะ”
หวังตานหลินสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เกือบจะเป็นลมล้มลงไป
หลังจากที่ถังกั๋วเหลียงจัดการส่งลูกน้องน้องฝีมือดีมาคอยดูแลถังหลงแล้ว เขาก็รีบกลับไปที่ตระกูลอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ถังกั๋วเหลียงกับพวกถังปิงหยู่ก็มาถึงที่ตระกูลถังบ้านถัง ตอนที่พวกถังกั๋วเหลียงเข้ามาในห้องรับแขก ก็เห็นทุกคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“พี่ใหญ่ สถานการณ์ของอาหลงเป็นยังไงบ้าง” ถังกั๋วเหลียงยังไม่ทันได้นั่งลง ถังกั๋วเช่อรีบเอ่ยปากถามทันที
ถังกั๋วเช่อเป็นลูกคนที่สองของตระกูลถัง ปกติจะคอยจัดการธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศ วันนี้เขาบังเอิญกลับมาที่บ้านพอดี จึงได้รู้ว่าถังหลงถูกคนทำร้าย
สีหน้าของถังกั๋วเหลียงเต็มไปด้วยโทสะอย่างถึงขีดสุด เขากัดฟันแล้วพูดออกมาว่า “เอ็นข้อมือกับเอ็นร้อยหวายถูกฉีกขาด ตามที่หมอพูดดูเหมือนว่าหลังจากนี้ทำได้เพียงต้องนั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น”
ตุบ!
ที่ประโยคนี้ถูกพูดออกมา ซิการ์ในมือของนายท่านก็ร่วงลงไปบนพื้น ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน จิตวิญญาณโรยรา ราวกับว่ามีแก่ขึ้นหลายปีภายในชั่วพริบตา
ในบรรดาชนรุ่นหลังของตระกูลถัง ถังหลงเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด และยังถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลถัง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าต้องมาประสบเคราะห์กรรมที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเช่นนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันไม่ต่างอะไรกับการทุบลงไปบนหัวตระกูลถังของอย่างแรง
“สมควรตาย ใครมันกล้าลงมือกับอาหลงร้ายแรงขนาดนี้ ตระกูลถังของฉันจะต้องฉีกกระชากศพมันออกมาเป็นหมื่น ๆ ชิ้น” ถังกั๋วเจียงใช้ฝ่ามือตบลงไปที่โต๊ะอย่างแรง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพูดออกมาด้วยอารมณ์เดือดพล่าน
ถังกั๋วเจียงเป็นลูกคนที่สามของตระกูลถัง และเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด ปกติแล้วเขามักจะคอยช่วยถังกั๋วเหลียงจัดการธุรกิจอสังหาฯ และมีความสัมพันธ์อันดีกับถังกั๋วเหลียงมากที่สุด และเพราะเขายังไม่เคยแต่งงาน ดังนั้นจึงเห็นถังหลงเป็นเหมือนลูกชายแท้ๆของตัวเองมาโดยตลอด
เมื่อได้ยินว่าถังหลงถูกคนทำลายเส้นเอ็น เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีเปลวไฟลุกโชนอยู่ทั่วร่างกายของเขา
หวังตานหลินอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา เธอมองไปที่นายท่านแล้วพูดออกมาว่า “คุณพ่อคะ พ่อต้องช่วยออกหน้าให้อาหลงของพวกเราด้วยนะคะ”
นายท่านกำหมัดแน่น หลังจากนั้นก็พูดออกมาอย่างหนักแน่นหาใดเปรียบว่า “ ครอบครัวของเราจะต้องจัดการเรื่องของอาหลงอย่างดีที่สุด”
พูดพลางเขาก็หันไปมองถังกั๋วเหลียงแล้วถามว่า “มีเบาะแสบ้างไหม”
ถังกั๋วเหลียงพยักหน้าแล้วพูดออกมาว่า “คนที่ทำร้ายอาหลงชื่อหานเซ่าซวน เป็นคุณชายของตระกูลหานในไห่ตง”
อะไรนะ
ตระกูลหานแห่งไห่ตงอย่างนั้นเหรอ
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ นายท่านก็ลุกขึ้นจากโซฟา จากนั้นก็ขมวดคิ้วจนเป็นเส้นตรง
“แม่งเอ๊ย ทำไมถึงได้เป็นคนตระกูลหานของไห่ตง” ถังกั๋วเช่อพ่นชาที่เพิ่งจะดื่มเข้าไปในปากออกมา สีหน้าของเขาซับซ้อนเป็นอย่างมาก
เพล้ง
ถ้วยชาที่อยู่ในมือของถังกั๋วเจียงถูกบีบจนแตกเป็นชิ้น ๆ น้ำชาจึงกระเด็นไปทั่วพื้น
หวังตานหลินค่อย ๆ จมเข้าไปในห้วงความคิด ท้ายที่สุดก็จมลงไปถึงก้นบึ้ง สามารถทำให้นายท่านกับคนของตระกูลถังพวกนี้เคร่งขรึมจริงจังขนาดนี้ได้ เกรงว่าตระกูลหานจะต้องไม่ง่ายอย่างแน่นอน
“เห้อ” ถังปิงหยู่ถอนหายใจอยู่ในใจหลายต่อหลายครั้ง สีหน้าเต็มไปด้วยความจนปัญญาอย่างถึงที่สุด เธอยอมรับไม่ได้และข่มขืนเป็นอย่างมากที่ได้รู้ว่าตระกูลหานแห่งไห่ตงนั้นแข็งแกร่งมาก และไม่แน่ใจว่าตระกูลถังของพวกเธอจะสามารถเอาชนะตระกูลหานได้ ถ้าหากอยากจะแก้แค้นให้ถังหลงจริง ๆ ก็ต้องเดิมพันด้วยชีวิตของคนทั้งตระกูล
จากนั้นถังกั๋วเหลียง ถังกั๋วเช่อ และถังกั๋วเจียงต่างพากันมองไปที่นายท่าน เพราะอยากจะดูท่าทีของเขา
นายท่านสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยู่หลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงแล้วพูดออกมาอย่างช้า ๆ ว่า “ตระกูลหานแห่งไห่ตงเป็นหนึ่งในไม่กี่ตระกูลที่อยู่บนจุดสูงสุดของไห่ตง ทั้งยังมีชื่อเสียงอย่างมากในเจียงหนาน พูดได้อย่างไม่ปิดบังว่า ถึงแม้ตระกูลถังของพวกเราจะเป็นผู้มีอำนาจในปินเหอ แต่หากคิดจะทำสงครามกับตระกูลหาน อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะชนะได้อย่างแน่นอน”
เปรี้ยง!
ร่างกายของหวังตานหลินแข็งค้างไปในทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้ ในสมองของเธอได้ยินเสียงฟ้าผ่ารุนแรงดังขึ้นอีกครั้ง เธอมองไปที่นายท่านแล้วถามขึ้นมาอย่างสั่น ๆ ว่า
“คุณพ่อคะ หรือว่าอาหลงจะต้องเจ็บตัวเปล่าเพราะตระกูลหานแข็งแกร่งมากอย่างนั้นเหรอคะ”
ถังกั๋วเหลียงถลึงตามองหวังตานหลิน “คุณพ่อหมายความแบบนั้นเสียที่ไหน คุณเป็นลูกสะใภ้ของเขา ถ้าไม่รู้อะไรก็อย่าได้พูดให้มากความ”
หวังตานหลินไม่ได้พูดอะไรอีก ทำได้เพียงก้มหน้าร้องไห้ต่อ
“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ คุณพ่อไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเสียหน่อย พี่ก็อย่าคิดมากเลยนะ”
“พี่สะใภ้ใหญ่วางใจเถอะครับ พวกเราจะต้องแก้แค้นให้อาหลงอย่างแน่นอน พี่ฟังคุณพ่อพูดให้จบก่อนเถอะ”
ถังกั๋วเช่อและถังกั๋วเจียง ทยอยพูดปลอบโยนตามกันมา
นายท่านมองหวังตานหลินแวบหนึ่งแล้วผู้ต่อว่า “ตานหลิน แน่นอนว่าตระกูลหานแห่งไห่ตงแข็งแกร่งมาก แต่ว่าหนี้แค้นนี้ของอาหลงจะไม่ชำระไม่ได้ ที่ตระกูลถังของพวกเราสามารถมีฐานะในปินเหออย่างทุกวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลถังคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน พวกเราจะต้องตัดสินเรื่องราวทั้งหมดด้วยความเป็นธรรม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หัวใจที่ยุ่งเหยิงของหวังตานหลินก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
นายท่านพูดคำไหนคำนั้นมาตลอด ในเมื่อเขาพูดแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
“แต่ว่า” หลังจากนั้นนายท่านก็พูดออกมาอีกครั้ง “เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่สามารถที่จะรีบร้อนได้ หากพวกเราคิดจะเปิดสงครามกับตระกูลหานแห่งไห่ตง ก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปปะทะซึ่ง ๆ หน้าได้ สำหรับยุทธวิธีรับมือที่เป็นรูปประธรรมนั้น พวกเรายังต้องวางแผนในระยะยาว”
“ครับพ่อ”
“ได้ครับ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับแผนการของพ่อแล้ว”
ถังกั๋วเหลียงและถังกั๋วเช่อ ต่างพากันพยักหน้า
“นอกจากนี้…” นายท่านยังคิดถึงเรื่องเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงน่ากลัวว่า “เรื่องนี้ก็เป็นเพราะลู่เสี้ยงหยาง แน่นอนว่าก่อนหน้านี้ลู่เสี้ยงหยางเคยช่วยชีวิตฉันไว้ ตระกูลถังของพวกเราแบ่งแยกบุญคุณกับเรื่องส่วนตัวอย่างชัดเจน ตอนนี้กระจายคำสั่งของฉันออกไป ตามหาตัวของลู่เสี้ยงหยางให้พบแล้วพาเขามาหาฉันที่ตระกูลถัง ดูซิว่าเขาจะพูดอะไร”