สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) บทที่ 88 ฆ่าให้หมด

ตอนที่ บทที่ 88 ฆ่าให้หมด

บทที่ 88 ฆ่าให้หมด

“ท่านผู้นี้ นี่เป็นความแค้นระหว่างฉันกับเขา โปรดอย่าแทรกมือเข้ามา”

ฉู่เหินที่กำลังเดินออกจากถ้ำ เมื่อได้ยินแบบนี้ เขาก็เลยพูดตอบกลับ “เวร นี่ทำบ้าอะไร นี่เธอกำลังจะฆ่าฉันนะ ยังไม่ให้ฉันลงมืออีกเหรอ พูดบ้าอะไรของเธอ”แต่เพียงครู่เดียวเขาก็เข้าใจแล้วว่านางงูพิษนี่คงจะเห็นฉู่เฟิงเป็นศิษย์พี่ของเขาเสียแล้ว

“นี่นางงูพิษ ฉันว่าเธอประสาทรึเปล่า นี่เธอกำลังจะฆ่าฉันนะ ยังบอกให้พี่ชายฉันยืนดูห้ามยื่นมือช่วย นี่เป็นอะไรที่น่าขันที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาเลยล่ะ” ฉู่เหินพูดออกมา

หลังจากได้ยินแบบนั้น หญิงสาวก็ไม่คิดว่าชายคนนี้จะมีพี่ชายที่ดูแข็งแกร่งแบบนี้ เพราะถ้าเธอรู้ก็คงจะไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก

“ฉู่เฟิง ฆ่าทุกคนซะ” ฉู่เหินออกคำสั่ง

แม้ฉู่เฟิงจะเป็นหุ่นเชิด หากแต่มันก็มีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง แถมในตอนนี้มันยังมีร่างกายเหล็กอีก กล่าวได้ว่าพละกำลังของมันในตอนนี้มากมายมหาศาลเลยทีเดียว

เขาเห็นฉู่เฟิงพุ่งไป ทันใดนั้นก็ปรากฏดาบในมือ นี่จะต้องเป็นดาบเวทมนตร์แน่ ตอนที่เขาตาย ฉู่เหินอาจจะเก็บมาไม่หมดก็เป็นได้

ดาบในมือของฉู่เฟิงนั้นงดงามและแฝงไปด้วยพลัง ความเร็วของเขาทำให้หญิงสาวและพวกของเธอต้องเตรียมรับมือด้วยท่าทางตึงเครียด

เธอออกคำสั่งแก่พรรคพวกของเธอให้จัดการมันด้วยปืนพกกว่า 100 กระบอก

ถ้าเกิดว่าฉู่เฟิงเป็นมนุษย์ธรรมดา เขาก็น่าจะตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นหุ่นเชิดที่มีผิวหนังแข็งแกร่ง ดังนั้นกระสุนพวกนี้จึงทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ทุกคนที่ยิงปืนออกมา ได้แต่ทำหน้ามึนงง ผิวของชายคนนี้จะแข็งแกร่งเกินไปไหม? ไม่น่าจะมีใครหยุดห่ากระสุนพวกนี้ได้สิ!

ทว่า ในวินาทีต่อมาพวกเขาก็ระลึกได้ว่าชายตรงหน้านี้ไม่ใช่มนุษย์ และคิดว่าน่าจะเป็นผีหรือไม่ก็พระเจ้าเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบวิ่งหนีกันไปทันที

ช่างน่าขันยิ่งนัก ที่แม้แต่ทุกคนเองก็รักตัวกลัวตายไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวคนนี้ด้วย ล้อเล่นน่า ไม่มีที่ไหนที่จะมีคนสู้สัตว์ประหลาดนี่ได้หรอก วิ่งหนีกันไปเซ่!

ยังไงก็แล้วแต่ ในจังหวะที่ทุกคนกำลังวิ่งหนี ฉู่เฟิงก็พุ่งเข้าไปหาพวกที่วิ่งหนีออกไปด้วยความรวดเร็วพร้อมกับดาบในมือ หัวของใครหลายคนตกลงบนพื้น ไม่มีใครสามารถหนีจากฉู่เฟิงได้เลย

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ราว ๆ 100 คนรวมไปถึงหญิงสาวนักดาบเองก็ถูกฆ่าโดยฉู่เฟิงจนหมดสิ้น แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังไม่เจอเม่ยซานเหนียงเลย

ถึงแม้จะผ่านไปเพียงแค่ 10 นาที หากแต่ฉู่เหินเองก็รู้สึกราวกับว่าหัวของเขาจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ นั่นเพราะร่างกายของเขาที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ แถมยังใช้จิตวิญญาณแยกไปควบคุมหุ่นเชิดอีก ตอนนี้เขาไม่ตายก็ดีแค่ไหนแล้ว

ฉู่เหินรู้ว่าตัวเองไม่น่าจะยื้อสติไปได้นานกว่านี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเรียกฉู่เฟิงมาให้แบกพาเขาลงไปจากภูเขาลูกนี้ในทันที โดยได้แต่หวังเพียงว่าจะได้พบบ้านคนก่อนที่จะสลบไป ไม่อย่างงั้นเขาอาจตกอยู่อันตรายได้

ภูเขาสูงใหญ่และชัน ทว่าฉู่เฟิงก็สามารถวิ่งได้ไม่มีปัญหา ในที่สุดสายตาของเขาก็พบเข้ากับหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงได้สั่งให้ฉู่เฟิงแบกเขาแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ฉู่เหินออกไปไม่นานนัก ก็มีคนอีก 3 คนโผล่กลับมายังที่เดิม พวกเธอไม่ใช่ใครอื่น คือเม่ยซานเหนียงและพวกอีกสองคนนั่นเอง

ชายวัยกลางคนตาแดงก่ำ เขาเห็นพี่น้องของตัวเองถูกสังหารกับตา แต่ถ้าหากให้เกลียดชายคนนั้น พวกเขาคิดว่าตนควรจะเกลียดผู้หญิงตรงหน้าคนนี้มากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ พวกเขาจะมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง

ชายสองคนมองหน้ากันเอง ก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปทุบเม่ยซานเหนียง หญิงสาวไม่ได้คิดว่าทั้งสองคนจะโจมตีเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ระวังตัวจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่เม่ยซานเหนียงก็ไม่ใช่ว่าจะถูกรังแกได้ง่ายขนาดนั้น

ทันทีที่ร่างของเธอถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป เธอหันหน้ากลับมา ก่อนจะใช้เข็มพิษพุ่งใส่ทั้งสองคน

เพียงชั่วอึดใจ ทั้งสองก็เริ่มน้ำลายฟูมปากและดิ้นทุรนทุรายบนพื้นจนขาดใจตาย

เม่ยซานเหนียงหอบร่างที่บาดเจ็บอย่างหนักของตัวเองแล้วบินขึ้นเพื่อกลับไปยังสำนัก แต่ระหว่างที่เธอออกจากป่านั้น เธอกลับถูกเผยตัว และนั่นทำให้คนมากมายพบเธอเข้า หลังจากนี้แน่นอนว่ามันก็กลับไปที่จุดเริ่มต้น เธอถูกไล่ล่าอีกครั้ง

นั่นทำให้เธอไม่มีทางเลือก จึงได้กระโดดลงไปในทะเลสาบเพื่อที่จะฆ่าตัวตาย และเมื่อเห็นแบบนั้นพวกที่ไล่ตามมาจึงหยุดลงและเดินจากไป แล้วไม่นานนัก เม่ยซานเหนียงก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ

ไม่มีใครคาดคิดว่าเม่ยซานเหนียงจะเอาชีวิตรอดในใต้น้ำนั่นได้กว่าครึ่งชั่วโมงแบบนี้ เธอว่ายน้ำหนีไปยังที่อื่นต่อ

ครั้งนี้ทุกคนที่ไล่ตามเธอมาเริ่มเรียนรู้ ทุกคนสวมหน้ากากเหมือนกันหมดเพื่อป้องกันวิชาของหญิงสาว แน่นอนว่าเธอโทษทุกอย่างแล้วโยนความผิดทุกอย่างให้ฉู่เหิน

ไม่นานนักเม่ยซานเหนียงก็กลับมายังสำนักของเธอ แล้วเริ่มการฟื้นฟูตัวเองในทันที ส่วนฉู่เหินเองก็กลับไปที่หมู่บ้านแล้ว เขาตั้งใจจะกลับไปหาครอบครัวเสียก่อน แต่ทันทีที่เขามายังหมู่บ้าน ร่างกายของเขาก็รับไม่ไหวจนหมดสติไปเสียก่อน

ฉู่เฟิงถูกควบคุมโดยเขา ดังนั้นตอนที่ฉู่เหินหมดสติ ฉู่เฟิงเองก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ ร่างเหล็กนั่นถูกดึงกลับเข้าไปแหวนในทันที

ในตอนนี้ก็มีคนสามคนกำลังเดินมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พวกเขาพบเข้ากับฉู่เหินที่สลบอยู่

หมู่บ้านฮวายซาน มีจุดเด่นสำคัญคือต้นไม้ฮวายต้นใหญ่หน้าหมู่บ้าน ตามตำนานของคนเฒ่าคนแก่ที่นี่เล่าว่าต้นไม้นี้มีอายุเกือบเท่า 100 ปีแล้ว หลายคนบอกว่าวิญญาณในต้นไม้นี่คอยปกปักรักษาหมู่บ้านอยู่ ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้มีการบูชาต้นไม้นี้กันทุกต้นและกลางเดือน

แม้ว่าต้นไม้นี่จะปกปักรักษาหมู่บ้านไม่ให้พบเจอภัยพิบัติ แต่ด้วยเทคโนโลยีของโลกยุคใหม่ หมู่บ้านชนบทแบบนี้ก็ยากที่จะเข้าถึงมัน เพราะเหตุนี้ คนที่นี่ถึงยากจน

“ไอ๊หยา พวกเธอกำลังจะย้ายบ้านหรืออะไรกันแน่! เเค่มาเยี่ยมเอาของขวัญ 4 อย่างมาก็พอแล้ว เอาของมาทำไมมากมาย นี่ไม่ใช่ว่าซื้อของที่ขายตามข้างทางมาล่ะสิ!” ในขณะที่คนทั้งหลายกำลังช่วยกันถือของ ก็มีเสียงที่พูดจาไม่เข้าเรื่องเสียงหนึ่งดังขึ้น

หลังจากได้ยินคำพูดนี้ฉู่เหินก็ขมวดคิ้วทันที แต่เขารู้ดีว่าวันนี้เขาไม่สามารถแสดงความโกรธออกมาได้ ดังนั้นจึงได้แต่อดทนเอาไว้ อย่างไรก็ตามฉู่เหินไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าเสี่ยวชิงจะไม่พูด

“ใช่แล้วค่ะ ตอนซื้อของหนูก็บอกเขาไปแล้ว แค่ซื้อของธรรมดาทั่วไปก็พอแล้ว ถึงยังไงก็มีคนที่ไม่รู้จักของดี ๆ แต่เขาไม่ยอมฟัง แค่จะซื้อโทรศัพท์ก็ซื้อโทรศัพท์ทอง M2017 เครื่องละ 6000 กว่ามา ดูสิยุ่งยากเปล่า ๆ! ยังมีอีกนะคะ เขายังซื้ออาหารเสริมและเสื้อผ้าอีก รวม ๆ แล้วใช้เงินไปตั้ง 20,000 หรือ 30,000 หยวนแน่ะ!”

หลังจากต่งกุ้ยเซียงได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิง เธอก็ได้แต่อ้าปากค้าง เธอไม่มีวันเชื่อที่เสี่ยวชิงพูด ล้อเล่นน่า แค่ครอบครัวผียากไร้อย่างพวกมันจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าของขวัญกว่า 30,000 หยวน!

“ไอ้หนู แกคือฉู่เหินใช่ไหม? ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ทั้งตัวแกดูแล้วก็บ้าน ๆทั่วไป เสี่ยวชิงไปชอบแกตรงไหน อีกอย่าง แค่มาเข้าพบแค่นี้แกขี่รถสามล้อมาก็ได้ ไม่ต้องเลียนแบบคนอื่นหรอก รถคันนี้เช่ามาเท่าไหร่ล่ะ?”

ตอนแรกฉู่เหินคิดว่าจะไม่ใส่ใจผู้หญิงคนนี้ แต่เขาไม่คิดว่าการกระทำทุกอย่างจะคอยหาเรื่องเขา นี่ทำให้ฉู่เหินเริ่มมีสีหน้าไม่ดี

“ผมไม่แน่ใจว่าต้องเรียกคุณว่าอะไร แต่ดูจากอายุของคุณเรียกว่าคุณยายน่าจะเหมาะสมที่สุดแล้วนะครับ! คุณยายครับ รถคันนี้ผมไม่ได้เช่ามาแต่ว่าเพื่อนคนหนึ่งมอบให้เป็นของขวัญ รถ Audi คันละ 2-3 แสน มันดูแพงในสายตาของคุณเหรอครับ?” ทุกประโยคของฉู่เหินต่างเรียกเธอว่าคุณยาย นี่ทำให้ต่งกุ้ยเซียงโกรธมาก

อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะอาละวาด น้องสาวของเธอต่งกุ้ยเจินก็พูดขึ้นก่อน “พี่สาว วันนี้พี่ยังไม่ได้กินยาใช่ไหม รีบกลับไปกินยาสิ!” คำพูดนี้ทำให้ต่งกุ้ยเซียงหงุดหงิดมาก

อย่างไรก็ตามขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรออกมาอีก เธอก็เห็นรถ Audi อีกคันแล่นมาแต่ไกล นี่ทำให้อารมณ์ของเธอกลับดีขึ้นมาอีก

“น้องสาว เรื่องนี้ฉันทำเพื่อเธอเลยนะ ไอ้เด็กคนนี้มันมีดีตรงไหน เดี๋ยวฉันจะแนะนำให้เธอรู้จักกับคนคนหนึ่ง เขาเป็นลูกชายคนโตของนายกเทศมนตรี แถมการนัดพบวันนี้ท่านนายกเทศมนตรียังมาด้วยตัวเองเลยนะ” เมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาวต่งกุ้ยเจินก็โกรธมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

ตอนนี้สีหน้าของซูวี่เหมยก็ไม่ดีนัก เดิมทีวันนี้เป็นเรื่องดี ๆ แต่ถูกผู้หญิงคนนี้ทำจนกลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว ถ้าหากไม่ได้อยู่ในสถานที่นี้เธอคงบีบคอผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว นี่พระเจ้าเล่นตลกอะไร กล้ามาทำเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อน้องชายของเธอ ไม่สนว่าผู้หญิงคนนี้จะมีเบื้องหลังยังไง เธอจะต้องให้ผู้หญิงคนนี้ได้เห็นดีแน่

เมื่อรถ Audi A6 อีกคันจอดสนิท ก็มีคน 3 คนก้าวออกมาจากรถ คนแรกสวมแว่นตาสีทอง ท่าทางของเขาเหมือนพวกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนคนนี้จะต้องเป็นนายกเทศมนตรีที่ต่งกุ้ยเซียงพูดถึง ส่วนอีก 2 คนที่อยู่ด้านข้าง คนหนึ่งอายุราว 20 ปีส่วนอีกคนเป็นคนขับรถอายุราว 30 ปี

เมื่อเห็นคนเหล่านั้นเดินเข้ามาใกล้ ฉู่เหินก็รู้สึกคุ้นหน้าพวกเขาและทันใดนั้นเองเขาก็จำได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่ใครบางคนส่งตำรวจมาจับเขา ฉู่เหินก็ได้พบกับนายกเทศมนตรีคนนี้มาก่อน และเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ฉู่เหินก็อดทำหน้าแปลก ๆ ไม่ได้

“ไอ๊หยา ท่านนายกเทศมนตรีในที่สุดก็เชิญคุณมาจนได้ พ่อรูปหล่อคนนี้คือลูกชายคนโตของคุณใช่ไหมคะ แค่มองก็รู้ทันทีว่าเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถ อนาคตจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน” ต่งกุ้ยเซียงนั้นช่างมีความสามารถในการประจบเอาใจ เพิ่งได้พบนายกเทศมนตรีก็พูดจาจนใบหน้าของท่านนายกเทศมนตรีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ฉันต้องขอโทษจริง ๆ ที่ทำให้คุณต้องรอเป็นเวลานาน นั่งรถมาถึงครึ่งทางแล้วกลับมีธุระด่วนเข้ามาเลยทำให้มาช้าไปหน่อย ฉันมาตามนัดแล้ว งั้นก็เรียกเด็ก ๆ ออกมาสิ ทั้งคู่จะได้พบกัน!” หลังจากได้ยินคำพูดของนายกเทศมนตรีต่งกุ้ยเซียงก็พยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว

“เสี่ยวชิง รีบมาพบท่านนายกเทศมนตรีหวังสิ มัวแต่กลัวอะไรอยู่ ผู้ชายผู้หญิงโตแล้วก็ต้องแต่งงาน นี่เป็นเรื่องธรรมดา” ฉู่เหินมองเสี่ยวชิงพร้อมถอนหายใจ เขายื่นมือออกไปแล้วตบบ่าเธอเบา ๆ

“ไปกันเถอะ ฉันจะพาเธอไปพบท่านนายกเทศมนตรีหวัง ฉันต้องการให้เขามอบคำอธิบายให้ฉัน!” จากนั้นฉู่เหินก็พาเสี่ยวชิงเดินไปหานายกเทศมนตรี แม้ว่าซูวี่เหมยจะกังวลเล็กน้อย แต่เธอก็รู้ว่าฉู่เหินตอนนี้ไม่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ดังนั้นหลังจากคิดดูแล้วเธอก็เลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวน้องชายของเธอ

“ท่านนายกเทศมนตรีหวัง ไม่ได้เจอคุณนานเลย คิดไม่ถึงว่าคุณจะดูยิ่งใหญ่กว่าเดิม วันนี้ถึงกับพาลูกชายมานัดพบกับแฟนของผม คุณคิดว่าทำแบบนี้มันดีแล้วงั้นเหรอ?” ฉู่เหินเดินออกมาจากฝูงชน หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดกับท่านนายกเทศมนตรีหวัง

นายกเทศมนตรีหวังที่เดิมมีท่าทียืนยืดอกยกหัวอย่างเย่อหยิ่ง เมื่อเห็นฉู่เหินเดินออกมา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน เขารู้ดีว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้านี้ไม่สามารถล่วงเกินได้ เนื่องเพราะเบื้องหลังเด็กคนนี้มีผู้มีอิทธิพลหนุนหลังอยู่!

เรื่องเมื่อครั้งก่อนเขาทราบเป็นอย่างดี เหตุการณ์ในคราวนั้นทำให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานทั้งเล็กใหญ่ของเมืองถูกไล่ออกไปกว่า 40-50 คน!

ว่ากันว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนั้นพร้อมกับครอบครัวของเขาเกือบจะถูกถอนรากถอนโคนไปทั้งหมด ทุกวันนี้ใครบ้างที่ไม่เคยมีสิ่งสกปรกบนก้นของตัวเอง! หากมีการตรวจสอบจริง ๆ คงมีไม่กี่คนที่รอดไปได้ ตอนนี้เมื่อเขาเห็นฉู่เหินยืนอยู่ตรงหน้า ตัวเขาก็อดที่จะตกใจไม่ได้

สิ่งที่ทำให้เขากลัวจริง ๆ ก็คือสิ่งที่ฉู่เหินเพิ่งพูดถึงเมื่อกี้ นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน วันนี้เขาพาลูกชายมานัดพบตามคำแนะนำของผู้หญิงแซ่ต่งคนนี้ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นการส่วนตัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีเรื่องราวมากมายที่เขาไม่รู้ เด็กผู้หญิงที่นัดพบกับลูกชายของเขาดูเหมือนจะเป็นแฟนสาวของคุณชายฉู่ท่านนี้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็ตัวสั่นจนแทบจะล้มลงไปบนพื้น ในตอนนี้เขาได้แต่ก่นด่าบรรพบุรุษ 18 รุ่นของต่งกุ้ยเซียงอยู่ในใจ หลอกลวง นี่มันหลอกลวงกันชัด ๆ! ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีทางเลือกอื่น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายผู้นี้ ถ้าเขาพูดผิดไป หน้าที่การงานของเขาคงต้องจบลงตรงนี้เป็นแน่

“คุณฉู่ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้พบคุณที่นี่ ช่างเป็นเกียรติของผมจริง ๆ! อย่าเข้าใจผิด ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย วันนี้ที่มาก็เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ชักนำมา ต่อให้ผมกล้ากว่านี้อีกร้อยเท่าก็ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับแฟนของคุณแน่นอนครับ!”

ตอนนี้นายกเทศมนตรีหวังไม่มีทางเลือก เขาได้แต่ก้มหัวและพูดกับฉู่เหิน ถ้าหากเขามีโอกาสเลือกอีกครั้ง เขาจะไม่มีวันมาที่หมู่บ้านชนบทแห่งนี้เป็นอันขาด นี่มันเป็นการทรมานตัวเองชัด ๆ

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ต่งกุ้ยเซียงตกตะลึงอย่างสุดขีด นี่มันอะไรกันเนี่ย? นายกเทศมนตรีที่มีเกียรติกลับก้มหัวคารวะไอ้ยาจกนี่! พระเจ้าช่วย! โลกนี้มันบ้าไปแล้ว แมวแต่งกับหนูไปแล้วหรือไง!

หลังจากอาการตกตะลึงผ่านไป ต่งกุ้ยเซียงก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น คนใหญ่คนโตกลายเป็นเช่นนี้ในทันทีได้อย่างไร? ไม่เข้าใจจริงๆ มันเข้าใจยากเกินไป!

“นายกเทศมนตรีหวัง คุณไม่ต้องทำอย่างนี้ ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่ผมเห็นลูกชายของคุณดวงตาดูเลื่อนลอย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะสมองมีปัญหาใช่ไหมครับ คุณพาลูกชายออกมานัดพบ คิดจะใช้อิทธิพลหรือเงินบังคับคนอื่นหรือว่าคิดจะทำอะไรกันแน่?”

เมื่อได้ยินฉู่เหินพูดขึ้นมา ทุกคนถึงได้พบว่าชายหนุ่มหน้าตาท่าทางหล่อเหลาที่อยู่กับนายกเทศมนตรีหวังนั้นเป็นคนปัญญาอ่อน! ถึงตอนนี้ญาติและเพื่อนเกือบทั้งหมดพากันมองไปที่ต่งกุ้ยเซียงด้วยความโกรธแค้น ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ชั่วร้ายเท่านั้น เธอยังต้องการผลักไสให้ผู้หญิงดี ๆ อย่างเสี่ยวชิงต้องตกลงไปในกองไฟอีกด้วย!

หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน นายกเทศมนตรีหวังก็เหงื่อไหลจนท่วมตัว เขาได้แต่ยกแขนขึ้นซับเหงื่อที่หน้าผากโดยไม่รู้ตัวตลอดเวลา! ตอนนี้เขาชักกลัวจริง ๆ แล้ว

“คุณฉู่ ผมไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้นจริง ๆ นะครับ!” เห็นท่าทางของนายกเทศมนตรีหวัง ฉู่เหินก็ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ ทำไมเขาต้องมาทนรำคาญเพราะเรื่องนี้ด้วย!

“งั้นท่านนายกเทศมนตรีหวังต้องการร่วมดื่มเหล้ามงคลสักแก้วก่อนออกจะกลับรึเปล่าครับ?”

“ไม่ ไม่ล่ะ ผมยังมีธุระอีกมากมายต้องไปทำ ลาก่อนนะครับ ลาก่อน” นายกเทศมนตรีหวังรีบลากลูกชายปัญญาอ่อนของเขาเดินจ้ำไปที่รถอย่างรวดเร็ว จากนั้น Audi A6 ก็แล่นจากไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นซูวี่เหมยหรือพ่อแม่ของเสี่ยวชิง รวมไปถึงญาติและเพื่อน ๆ ของเธอ สายตาของพวกเขาที่มองดูฉู่เหินนั้นดูแปลกไป! ในสายตาของพวกเขานั้นนายกเทศมนตรีเป็นบุคคลที่สูงส่งเกินเอื้อมถึง แต่ตอนนี้คนธรรมดาอย่างฉู่เหินกลับไล่ให้เขาจากไปได้ นี่แสดงให้เห็นว่าอิทธิพลของฉู่เหินนั้นน่ากลัวขนาดไหน

“พี่สะใภ้ คุณลุงคุณป้าและเพื่อน ๆ ทุกคน พวกคุณไม่ต้องแปลกใจกันหรอก ผมแค่รู้จักเพื่อนคนหนึ่งซึ่งบังเอิญเป็นเจ้านายของคนคนนี้ คนที่ผมรู้จักนั้นเสี่ยวชิงเองก็เคยพบมาก่อน ต่อให้ผมไม่ได้มาที่นี่วันนี้ เสี่ยวชิงเพียงคนเดียวก็ไล่พวกเขาไปได้แล้ว”

สำหรับคำอธิบายของฉู่เหินทุกคนก็ไม่มั่นใจนัก แต่เรื่องหนึ่งที่มั่นใจได้ก็คือ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านั้นเขาดูเหมือนจะไม่ธรรมดา สิ่งนี้ทำให้ทุกคนต่างมีรอยยิ้มออกมา

จากนั้นทุกคนหันหลังและเดินกลับไปที่บ้านของเสี่ยวชิง หลังจากเหตุการณ์นี้ นี่ทำให้ทุกคนเกรงใจฉู่เหินและซูวี่เหมยขึ้นมาก คนที่สามารถใช้คำพูดเพียงไม่กี่คำไล่นายกเทศมนตรีไปได้ คนคนนั้นย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเอง ก็มีน้ำเสียงที่แปลกแยกดังขึ้นอีกครั้ง เรื่องนี้ทำให้หลิวจ้านซานพ่อของเสี่ยวชิงที่ได้ยินคำพูดนั้น โกรธมากจนแทบอดใจไม่ไหวที่จะต่อยคนพูดนั้น

“ก็แค่รู้จักคนไม่กี่คน ไม่เห็นจะวิเศษตรงไหน ยังไงก็เป็นแค่พวกคนจน!” คนพูดไม่ใช่ใครอื่นก็คือต่งกุ้ยเซียงนั่นเอง

“เขาจะเป็นคนจนหรือคนรวย ครอบครัวหลิวของฉันรู้ดี แม้ว่าวันหลังเขาจะไม่มีเงินกินข้าว ครอบครัวหลิวของฉันก็เลี้ยงเขาได้ เรื่องเหล่านี้พี่สาวต่งไม่ต้องกังวลหรอก! ตอนนี้เวลาไม่เช้าแล้ว คุณรีบกลับเข้าเมืองดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่ทันรถ”

หลิวจ้านซานเป็นคนที่ซื่อสัตย์มาก ๆ การที่สามารถทำให้คนซื่อสัตย์อย่างนี้พูดคำพูดเหล่านี้ออกมาได้ มันก็แสดงให้เห็นว่าต่งกุ้ยเซียงเป็นคนที่เรียกแรงอาฆาตได้ขนาดไหน

หลังจากได้ยินคำพูดของหลิวจ้านซาน ฉู่เหินก็รู้สึกอบอุ่นใจมาก ครอบครัวคืออะไร นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว คำพูดที่หลิวจ้านซานเพิ่งพูดออกมานั้น ฉู่เหินจดจำไว้ในใจอย่างซาบซึ้ง ไม่ว่าสิ่งใดที่ชายชราต้องการในอนาคต เขาจะเห็นด้วยอย่างไม่มีเงื่อนไข

“คนจนก็คือคนจน เธอคิดว่าฉันอยากอยู่กับคนจนอย่างพวกเธอเหรอ?” หลังจากต่งกุ้ยเซียงพูดประโยคนี้จบ เธอก็หันกลับและเตรียมจะออกเดินทาง ทันใดนั้นโทรศัพท์ของฉู่เหินดังขึ้นทันที

“สวัสดีครับ ผมคือฉู่เหิน หืม! เรือมาถึงแล้วเหรอ ตอนนี้อยู่ที่ท่าเรือของหมู่บ้านชาวประมงไหก่างใช่มั้ย? ดีมาก งั้นผมจะไปเดี๋ยวนี้” หลังจากวางโทรศัพท์ ฉู่เหินก็รีบเดินไปหาพ่อแม่ของเสี่ยวชิงที่ยืนอยู่ด้านข้าง

“คุณลุง คุณป้า พี่สะใภ้ พวกคุณคุยกันไปก่อนนะครับ เรือประมงที่ผมสั่งซื้อมาถึงแล้ว ผมต้องไปดูก่อน” หลังจากฟังคำพูดของฉู่เหิน หลิวจ้านซานก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “เธอซื้อเรืออะไร ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน? ฉันจะไปช่วยเธอดูเอง”

หลิวจ้านซานคิดว่าตัวเขาเองมีอาชีพเป็นชาวประมงมาทั้งชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรือประมงขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กเขาก็เคยใช้มาหมด ดังนั้นเขาจึงรู้จักเรือประมงเป็นอย่างดี ตอนนี้ในเมื่อเขายอมรับฉู่เหินแล้ว เขาย่อมจะไม่ยอมให้ลูกเขยใช้จ่ายเงินอย่างไม่ยุติธรรม

ฉู่เหินได้ยินหลิวจ้านซานบอกว่าต้องการไปช่วยเขาเช็กคุณภาพของเรือก็มีความสุขมาก เนื่องจากเขาไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เดิมทีคนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้มากที่สุดคือพี่ชายของเขาหวงเจี้ยนหมิง แต่ตอนนี้พี่ชายของเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เขาจึงไม่มีคนรู้จักที่จะช่วยเขาเลือกเรือได้ ดังนั้นเขาจึงต้องซื้อด้วยตัวเอง

“ถ้าคุณลุงช่วยไปดูให้ได้ก็ดีเลยครับ เสี่ยวชิง งั้นเธอรออยู่ที่นี่นะ ฉันไปกับคุณลุงสองคนก็พอแล้ว” เมื่อกลุ่มญาติและเพื่อน ๆ ได้ยินบทสนทนาของฉู่เหินและหลิวจ้านซาน ทุกคนก็ต้องการจะไปดูด้วย

ในท้ายที่สุดหลิวจ้านซานนำรถพ่วงสามล้อของเขาออกมา ต้องรู้ว่ามันเป็นพาหนะที่พบได้บ่อยที่สุดในชนบท รถพ่วงสามล้อนี้มีขนาดใหญ่และบรรจุของได้มากมาย มันเหมาะสมที่สุดที่จะใช้ในบริเวณนี้ และมันสามารถบรรทุกคนหลาย 10 คนได้อย่างไม่มีปัญหา

ฉู่เหินคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ขอให้หลิวจ้านซานมานั่ง Audi A6 และเขาจะขับรถพ่วงสามล้อไปเอง ฉู่เหินเติบโตขึ้นที่นี่ ดังนั้นเขาจึงสามารถขับรถชนิดนี้ได้เป็นอย่างดี สรุปแล้วจึงแบ่งคนเป็นสองกลุ่มเพื่อเดินทางไปโดยรถพ่วงสามล้อและรถ Audi A6

หมู่บ้านต้าหวังและหมู่บ้านชาวประมงไหก่างนั้นอยู่ใกล้ ๆ กัน ใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่นาทีทุกคนก็มาถึงท่าเรือของหมู่บ้านชาวประมง เมื่อพวกเขาลงจากรถก็มองเห็นเรือที่สวยงามมาก 2 ลำจอดเทียบอยู่ที่ท่า

ลำแรกเป็นเรือเร็วและอีกลำเป็นเรือประมงขนาดใหญ่ที่มีความยาวมากกว่า 20 เมตร เรือประมงมีสีขาวเงิน บนตัวเรือนั้นออกแบบไว้อย่างสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งข้างบนยังมีแหดักปลาอยู่ 10 กว่าอัน ถึงแม้ว่าจำนวนแหที่มีอยู่จะไม่มากนัก แต่มันก็ยังมีที่ว่างอีกมากบนลำเรือ

ทุกคนที่เห็นเรือประมงลำนี้ต่างรู้สึกถึงความหรูหราราคาแพง แม้แต่หลิวจ้านซาน หลังจากเขาเห็นเรือประมงลำนี้ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายระยิบระยับ เรือประมงนี้สวยเกินไป! ทุกคนรีบเดินเข้าไปดูและเมื่อพวกเขาลงไปในเรือ พวกเขาก็พบว่ามันกว้างขวางมาก

ภายในเรือประมงนี้มีตู้แช่ขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเก็บปลา ดูจากขนาดของมันแล้วน่าจะสามารถเก็บปลาได้ 3-5 ตัน และภายในเรือยังมีเครื่องปั่นไฟอยู่อีกด้วย อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนแต่เป็นของชั้นหนึ่ง สามารถพูดได้ว่าเรือประมงนี้เป็นเรือในฝันของทุกคน

“สวัสดีครับคุณฉู่ ผมมาจากอู่ต่อเรือเทียนชัง นี่คือเรือประมงที่คุณสั่งเอาไว้และส่วนอีกลำคือเรือเร็วที่คุณเลือกไว้ในวันนั้น รบกวนคุณช่วยตรวจสอบและลงชื่อรับสินค้าด้วยครับ” ชายหนุ่มอายุราว 20 กว่าปีกล่าวกับฉู่เหินอย่างเกรงใจ

“โอเค คุณช่วยรอสักครู่นะครับ” จากนั้นฉู่เหินก็หันไปมองทางหลิวจ้านซานอีกครั้ง

“คุณลุงครับ คุณช่วยผมดูหน่อยว่าเรือประมงลำนี้ใช้ได้ไหม ถ้าไม่มีปัญหาผมจะได้เซ็นรับ” หลังจากได้ยินเสียงฉู่เหิน หลิวจ้านซานก็เหมือนเพิ่งตื่นขึ้นมาจากความฝัน เขามองที่ฉู่เหินด้วยแววตาเหลือเชื่อ

“เสี่ยวเหิน นี่คือเรือประมงลำใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมาเหรอ?” จนถึงตอนนี้หลิวจ้านซานยังรู้สึกว่าทุกอย่างเหมือนภาพลวงตาทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในเมฆและหมอก

“ใช่ครับคุณลุง นี่คือเรือประมงที่ผมกับเสี่ยวชิงซื้อด้วยกัน” ฉู่เหินมองดูหลิวจ้านซานอย่างสงสัยพลางพูดว่า “หรือว่าเรือลำนี้จะไม่ค่อยดี ดูเหมือนคุณลุงจะไม่ค่อยชอบมันนะครับ”

หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน หลิวจ้านซานก็รีบดึงฉู่เหินไปอีกฝั่ง “เสี่ยวเหินเรือลำนี้ดีมาก แต่เรือลำนี้ท่าทางจะราคาแพง ถ้าเธอต้องกู้เงินเพื่อมาซื้อเรือราคาแพงแบบนี้ ฉันไม่เห็นด้วยแน่!”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฉู่เหินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาคิดว่าอีกฝ่ายไม่ชอบเรือลำนี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาคงต้องวิ่งไปที่อู่ต่อเรืออีกครั้ง ยุ่งยากยังไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องที่เขาจะต้องชะลอแผนการที่จะออกทะเลอีกครั้งเนี่ยซิ! สัปดาห์นี้เขายังมีภารกิจหนึ่งที่จะต้องออกทะเลและทำให้เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นฉู่เหินไม่ต้องการยอมแพ้ง่าย ๆ แน่!

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)

สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)

Score 10
Status: Completed
ฉู่เหิน เด็กหนุ่มธรรมดาที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชาวประมง ทุกวันเขาจะออกไปหาปลาที่ทะเลกับพี่ชาย แต่วันนั้นก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

Options

not work with dark mode
Reset