สอนรักอดีตภรรยา 43 ลงโทษด้วยกฎตระกูล

ตอนที่ 43 ลงโทษด้วยกฎตระกูล

หนานซ่งยืนพิงอยู่ข้างผนังนอกห้องน้ำ พยายามออกห่างหนานหยาที่ตัวเหม็น กลัวว่าจะเหม็นจนอ้วก

หนานหยารู้ตัวว่าตัวเองฟุบอยู่บนชักโครก จึงขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ จากนั้นจึงจะลุกขึ้น แต่พอขยับ ก็รู้สึกขาชามาก รู้สึกเหมือนไม่ใช่ขาของตัวเองอย่างนั้น

“โอ๊ย……” เธอโอดครวญเสียงเบา พอมองลงไป จึงเห็นว่าเข่าตัวเองบวกเหมือนหมั่นโถวทั้งสองข้าง ทั้งแดงทั้งช้ำ

ความเจ็บปวดทำให้คนได้สติ

ภาพเหตุการณ์บางอย่างไหลเข้ามาในหัว……

เหตุการณ์ที่เธอชี้หน้าด่าหนานซ่ง

เหตุการณ์ที่หนานซ่งยืนพิงอยู่ข้างประตูมองเธอ

เหตุการณ์ที่พ่อบ้านจ้าวเรียกบอดี้การ์ดมาพาตัวเธอกลับไปที่ห้อง

เหตุการณ์ที่เธอโดนกดคุกเข่าอยู่ข้างชักโครก

แล้วก็ เหตุการณ์ที่เธอทั้งอ้วกทั้งท้องเสีย แล้วผู้ชายร่างใหญ่สองคนก็คอยดูแลเธอ ไม่ว่าเธอจะร้องไห้ขอร้องแค่ไหนก็ไม่ยอมให้เธอลุกขึ้นมา……

พระเจ้าช่วย!

หนานหยารู้สึกเหมือนโลกแตก เพราะฉะนั้น……เธอคุกเข่าอยู่ข้างชักโครกทั้งคืนแบบนั้นเหรอ?

เธอจึงอดหันมองไปทางหนานซ่งไม่ได้ สายตาไม่พอใจ แล้วแฝงไปด้วยความกลัว

ต้องเป็นผู้หญิงที่จิตใจอำมหิตแค่ไหน ถึงเรื่องบ้าๆแบบนั้นได้?

เมื่อคืนหนานซ่งหลับสบายมาก อารมณ์ก็ค่อนข้างดี จึงเริ่มมีอารมณ์มาจัดการหนานหยา ยืนนิ่งอยู่ข้างผนังแล้วดูเธอค่อยๆคลานลุกขึ้น

“ดูเหมือนว่า ความจำเธอกลับมาแล้วสินะ”

หนานซ่งจึงถลกแขนเสื้อ น้ำเสียงก็เยือกเย็นมาก “งั้นก็น่าจะจำได้แล้วว่า เมื่อคืนเธอล่วงเกินฉันยังไง”

ล่วงเกิน?

เธอยังกล้าพูดว่าล่วงเกินอีก?

หนานหยาลูบเข่าที่บวมแดงของตัวเอง แล้วนวดคอที่ปวดเมื่อย เห็นกระโปรงที่ยับยู่ยี่ของตัวเอง จึงรู้สึกว่าตอนนี้สภาพตัวเองทุลักทุเลมาก

จากนั้นก็มองหนานซ่งที่ดูดีสง่า เมื่อเทียบกันแล้วช่างน่าสงสารจริงๆ

เหมือนหนานซ่งจงใจเหยียบหยามเธอ วันนี้เลยใส่ชุดสีฟ้า ใส่เสื้อสีฟ้าแล้วก็กางเกงสีขาว ผิวผ่องสว่างมาก เฉดสีฟ้าที่คนไม่ค่อยกล้าใส่แต่ทำไมถึงดูดีมากเมื่ออยู่บนตัวเธอ!

หนานหยาอยากจะถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วตบกับหนานซ่ง แต่เธอสู้เธอไม่ได้เลย

เธอยิ่งอยากถุยน้ำลายใส่หน้าเธอ แต่เธอไม่กล้า

เมื่อก่อนตอนที่หนานซ่งยังเอ็นดูเธอ หนานหยาไม่รู้สึกเลยว่าเธอเก่งแค่ไหน แต่ตอนนี้ทั้งสองแตกหักกัน เธอถึงรู้ว่าเธอใจดำแค่ไหน จิตใจอำมหิตแค่ไหน!

“แกจะเอายังไง ให้ฉันขอโทษแกเหรอ?”

แววตาหนานหยาแดงมาก แล้วทำท่าทาง”แกฝันไปเถอะ”

หนานซ่งถลกแขนเสื้อขึ้น จึงเห็นท่อนแขนขาวๆของเธอ จากนั้นเธอก็ส่ายหน้า”ไม่ต้อง เมื่อเทียบกับคำขอโทษจอมปลอมของเธอ ฉันรู้สึกว่าการลงโทษทางร่างกายจะดีมากกว่า”

เธอเงยหน้าขึ้นมา แล้วเอามือล้วงกระเป๋า ท่าทางดูชิลล์มาก

ระดับสูงก็ใช้ไม้เตือน เมื่อก่อนฉันไม่เห็นด้วยกับการใช้ไม้สอน แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ กับเด็กที่ไม่รู้จักจำอย่างเธอ ใช้สายตา วาจาสอนคงไม่ได้ผล เลยต้องใช้ไม้”

หนานซ่งพูดอย่างจริงจัง “ตั้งแต่เด็กพ่อแม่เธอก็แยกกันไป อยู่กับพ่อก็ไม่เรียนรู้เรื่องดีๆ พี่สาวคนโตก็เหมือนแม่ อีกหน่อยฉันจะสั่งสอนเธอเอง”

หนานหยาหัวเราะเหอะ “แกอยากสั่งสอนฉัน? แกมีสิทธิ์อะไร?”

“คุณหนูใหญ่ นี่เป็นของที่คุณต้องการครับ”

พ่อบ้านจ้าวขึ้นมาได้ตรงจังหวะมาก หนานหยาเหลือบมองของในมือเขา”มาพอดีเลย ขอบคุณพ่อบ้านจ้าวมากนะคะ”

หนานซ่งรับมา แล้วชูของในมือไปหาหนานหยา “นี่ไง เพราะนี่ไง”

หนานหยามองเธออย่างไม่อยากเชื่อ ด้วยสีหน้าตกใจที่ว่า “แกเป็นปีศาจเหรอ?”

หนานซ่งให้พ่อบ้านจ้าวเตรียมไม้เรียวที่ทำมาจากไม้ประดู่ แล้วยังตั้งกฎหนึ่งร้อยข้อให้หนานหยา ถ้าทำผิดกฎ ก็จะโดนกฎตระกูลลงโทษ

ควรตียังไง ตีกี่ที บนกฎตระกูลเขียนไว้ชัดเจน

“แกบ้าไปแล้วเหรอ!”

หนานหยามองอาวุธที่อันตรายนั้น จินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าโดนตัวจะเจ็บแค่ไหน “ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อแม่ฉันยังไม่เคยตีฉันเลย แกมีสิทธิ์อะไรมาตีฉัน? แกเป็นใคร?!”

หนานซ่งสีหน้านิ่งเฉย “ฉันบอกแล้วไง ในเมื่อจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องทำตามกฎของฉัน ตระกูลหนานเป็นตระกูลที่เคารพผู้ใหญ่ พ่อเธอกับอาสามตอนเด็ก พ่อฉันก็เป็นคนดูแลเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ให้พวกเขาคุกเข่า พวกเขาก็ไม่กล้ายืน ให้พวกเขาหมอบลง พวกเขาก็ไม่กล้านั่ง ฉันกับเธอ ก็เหมือนกัน”

เธอให้คนรับใช้เอากฎตระกูลไปวางไว้ที่หัวเตียงหนานหยา แล้วติดกฎต่างๆไว้ที่ผนัง

“กฎตระกูลหนึ่งร้อยข้อ ด้วยความฉลาดของเธอ ฉันคิดว่าสองวันน่าจะพอแล้ว”

หนานซ่งเอ่ย “อีกสองวันฉันจะมาตรวจ ขาดไปหนึ่งข้อหนึ่งที ผิดไปหนึ่งข้อก็อีกหนึ่งที กล้าด่าก็ตบปาก ถ้าไม่กลัวโดนตบ ไม่กลัวเจ็บ งั้นเธอก็ลองดู”

เธอสั่งพ่อบ้านจ้าว “หาคนมาเฝ้าเธอเหมือนเมื่อคืนสองคน อูฐที่ขี้เกียจ ต้องใช้ไม้แซ่”

จนกระทั่งหนานซ่งออกไปแล้ว แล้วมีคนที่สวมชุดดำสองคนจึงขึ้นมา แต่หนานหยายังอึ้งนิ่งตั้งสติไม่ได้

สามนาทีหลังจากนั้น เสียงกรี๊ดร้องไห้ดังไปทั่วคฤหาสน์ “พวกแกออกไป! ปล่อยฉันนะ! ฉันไม่อยู่ที่นี่แล้ว! หนานซ่ง แกมันปีศาจ……!”

……

แปดโมงเช้า หนานซ่งออกไปจากสวนกุหลาบ แล้วไปที่สำนักงานใหญ่

ระหว่างทาง เธอใช้ไอแพดเช็กข่าวสารล่าสุด แล้วฟังผู้ช่วยกู้เหิงรายงานตารางงานวันนี้ไปด้วย

“ใบอนุญาตของฟาร์มม้ากับใบรับรองความปลอดภัยจัดการเรียบร้อยแล้วครับ อุปกรณ์ต่างๆก็เตรียมพร้อมแล้ว ส่วนสภาพแวดล้อมสีเขียวกำลังสร้างอยู่ วันนี้คุณจะไปดูไหมครับ?”

หนานซ่งพยักหน้า “ได้ นัดฟู่ยวี่ด้วย ลองถามเขาว่าว่างหรือเปล่า จะได้ไปดูด้วยกัน”

“ครับ” กู้เหิงตอบรับ แล้วรีบติดต่อคุณชายฟู่ทันที พอได้รับการตอบกลับแล้ว จึงรายงานหนานซ่งว่า “บอสหนานครับ ประธานฟู่บอกว่ารอคุณอยู่ที่ข้างล่างบริษัทแล้วครับ”

หนานซ่งขมวดคิ้ว “เขาก็ขยันเนอะ งั้นเลื่อนการประชุมไปตอนบ่าย ตอนเช้าไปฟาร์มม้า”

“ครับ” จากนั้นกู้เหิงก็พูดคุยกับฟู่ยวี่อีกไม่กี่คำ จึงกดวางสาย

หนานซ่งเช็กข้อมูลของทีมสำรวจของยูนนาน แล้วเอ่ยถามกู้เหิง “ที่หนานหนิงไป๋กับหนานหนิงจู๋เป็นยังไงบ้าง?”

“กำลังจะรายงานพอดีเลยครับ”

กู้เหิงกดโทรศัพท์ แล้วค้นคลิปวิดีโอออกมา “นี่เป็นวิดีโอที่คนของเราถ่ายมาครับ คุณลองดูสิครับ”

พอเปิดวิดีโอ ช่างครึกครื้นเหลือเกิน

หนานซ่งเงยหน้ามองไป จึงเห็นก้อนหินสีเทาเป็นก้อนๆ หน้าตาไม่ค่อยสวย ไม่ต่างอะไรกับก้อนหินทั่วไป แต่ราคาที่เขียนไว้นั้น กลับเป็นหมื่นเป็นแสนก็มี

ผู้ซื้อแต่ละคนก็ถูฝ่ามือ ดวงตาก็เป็นประกายสว่าง ปากก็เอาแต่พูดไม่หยุด

“ตัดมัน! ตัดมัน! ก้อนนี้ต้องเป็นของดีแน่นอน!”

นี่เป็นวิดีโอแอบถ่าย อยู่เยื้องจากหนานหนิงไป๋กับหนานหนิงจู๋ แต่ทั้งสองคนหลงใหลมาก จึงไม่เห็นว่ามีคนแอบถ่ายพวกเขา

“คุณท่านสองกับคุณท่านสามซื้อก้อนหินมาไม่น้อยแล้ว ทุ่มเงินลงไปเยอะมาก หยุดไม่ได้เลย เหมือนต้องมนต์สะกดอย่างนั้น” กู้เหิงถอนหายใจ

หนานซ่งยิ้มอ่อน “ปกติ ตอนที่พวกเขาเพิ่งเข้าวงการของโบราณ ก็ท่าทางแบบนี้แหละ เหมือนหมาจรจัดที่เห็นเนื้อ ไม่สนว่าจะดีหรือเสีย ก็คาบไปกินทั้งนั้น”

แววตาเธอมีแต่ความไม่แยแส ตอนนั้นคุณปู่ด่าพวกเขาว่ายังไงนะ?

อ่อ คุณปู่พูดว่า……

“ไอ้พวกตาถั่ว ตาพวกแกบอดหรือว่าอยู่ที่ตาตุ่ม? เศษขยะอะไรไม่รู้ก็เก็บเข้ามาในบ้าน ตาบอดแล้วยังโง่อีก ยังจะเป็นนักสะสมของโบราณ สะสมบ้าอะไรกันล่ะ!”

คนโง่สั่งสอนยังไงก็ไม่ฉลาด

หนานซ่งส่ายหน้า แล้วพูดกับกู้เหิงว่า “ให้พวกเขาเล่นไปเถอะ ตอนนี้ยังไม่มีเวลาจัดการพวกเขา เอาเรื่องฟาร์มม้าให้เสร็จก่อน”

พอคลิปวิดีโอจบ ก็ถึงบริษัทตระกูลหนานพอดี

หนานซ่งลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในตึกด้วยรองเท้าส้นสูงที่สวยสง่า แต่กลับเห็นคนสองคนที่นั่งสองบนโซฟาห้องโถง

นอกจากฟู่ยวี่ ยังมีอีกคน

หนานซ่งหรี่ตาลงอย่างอันตราย นี่เป็นคนน่ารังเกียจที่แย่งชามกับเธอเมื่อคืนไม่ใช่เหรอ?

Options

not work with dark mode
Reset