สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! 238 สาวน้อยสวยพริ้ง

ตอนที่ 238 สาวน้อยสวยพริ้ง

หลาย​วัน​มานี้​ เธอ​ฝึก​การร่ายรำ​จนถึง​เที่ยงคืน​ ทุกครั้งที่​เธอ​เหนื่อยล้า​สุด​ชีวิต​ คอ​แห้งผาก​ มัก​มีคน​เช็ด​เหงื่อ​ ส่งน้ำอุ่น​ให้​ ความอ่อนโยน​เอาใจใส่​ รอบคอบ​เช่นนี้​ จะไม่ให้​เธอ​ซาบซึ้ง​ได้​เช่นไร​!

และ​พี่​จื่อ​อี​แม้จะอายุ​มากกว่า​เธอ​หลาย​ปี​ แต่​มัก​ทำให้​เธอ​รู้สึก​คล้าย​มีมารดา​คอย​เอาใจใส่​ก่อนหน้านี้​ ทำให้​เธอ​วางใจ​อย่างยิ่ง​

ดังนั้น​ ซินเอ๋อร์​จึงชื่นชอบ​พี่สาว​ตรงหน้า​นี้​ ขณะ​เห็น​จื่อ​อี​โศกเศร้า​เสียใจ​ ใน​ใจย่อม​ทน​ไม่ได้​

สุดท้าย​ ขณะ​จื่อ​อี​กำลัง​ร้องไห้​ ซินเอ๋อร์​พลัน​ตอบ​ตกลง​

“พี่​จื่อ​อี​ ท่าน​อย่า​ร้องไห้​เลย​ ข้า​รับปาก​ท่าน​”

ซินเอ๋อร์​เอ่ย​ขึ้น​ เพราะ​เธอ​กลัว​พี่สาว​ท่าน​นี้​เสียใจ​จริงๆ​!

หลัง​จื่อ​อี​ได้ยิน​ ใบหน้า​น่าสงสาร​ พลัน​เบ่งบาน​รอยยิ้ม​ดีใจ​ออกมา​

“จริง​หรือ​ เจ้ารับปาก​แล้ว​หรือ​!”

จื่อ​อี​ได้ยิน​ กุมมือ​ซินเอ๋อร์​อย่าง​ดีใจ​ ก่อน​เอ่ย​ถามขึ้น​

“อืม​ ข้า​ตกลง​”

แม้จะไม่ต้อง​การสวม​เสื้อผ้า​เปิดเผย​ร่างกาย​เช่นนี้​ แต่​เพื่อ​พี่​จื่อ​อี​ เธอ​สวม​ก็ได้​!

ซินเอ๋อร์​ก้มหน้า​หลุบ​สายตา​ ถอนหายใจ​

แต่​เธอ​กลับ​ไม่รู้​ว่า​ แววตา​ของ​จื่อ​อี​พลัน​เปล่งประกาย​

การแสดง​ของ​พวก​ซินเอ๋อร์​คือ​ระบำ​ห่าน​ขาว​ และ​ระบำ​ห่าน​ขาว​นี้​ คือ​การแสดง​สำคัญ​ใน​งาน​แสดงความสามารถ​ด้าน​ศิลปะ​ครั้งนี้​ และ​จะแสดง​ใน​ตอนเย็น​

กลางวัน​คือ​กิจกรรม​ร่วม​สนุก​ของ​ ‘ห​อสุรา​ดับทุกข์​’

เพียง​จับฉลาก​ได้​จะรางวัล​

รางวัล​คือ​เงิน​

รัก​ความมั่งคั่ง​ต่าง​คือ​นิสัย​ของ​ทุกคน​ ดังนั้น​ไม่นาน​บน​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​ ผู้คน​แน่นขนัด​จน​ไร้​ที่ว่าง​

บรรยากาศ​คึกคัก​เช่นนี้​ ดำเนินต่อไป​จนถึง​ตอนเย็น​

เมื่อ​พระอาทิตย์​สีทอง​บน​ท้องฟ้า​เคลื่อน​จาก​ทิศตะวันออก​ลง​สู่ทิศ​ตะ​วัก​ตก​ แสงอาทิตย์​อบอุ่น​นั้น​ ค่อยๆ​ ถูก​แสงสีส้มเข้ามา​แทนที่​

เห็น​เพียง​ท้องฟ้า​ทิศตะวันตก​ พระอาทิตย์​ค่อย​หาย​ลับ​ไป​ แสงอาทิตย์​เรืองรอง​ถูก​แทนที่​ด้วย​ความมืด​

โคมไฟ​ถูก​แขวน​ขึ้น​ สายลม​เย็น​พัด​เอื่อย​

บน​ท้องฟ้า​มืดมิด​นั้น​ ดวงดาว​มากมาย​นับไม่ถ้วน​เริ่ม​เปล่งประกาย​ ระยิบระยับ​ ดุจ​เพชร​กำลัง​เปล่งประกาย​อยู่​ด้านบน​ สวยงาม​เกิน​บรรยาย​!

พระจันทร์​เสี้ยว​ดุจ​เคียว​เกี่ยวข้าว​ ลอย​เด่น​อยู่​บน​ท้องฟ้า​ แสงจันทร์​สีขาวนวล​นั้น​ ดุจ​หมอก​ ดุจ​ผ้าแพร​ สาด​ลงมา​บน​พื้นดิน​ ทำให้​ทั่ว​พื้นดิน​ ปราก​ฎสีสัน​น่าหลงใหล​ขึ้น​มาหลาย​ส่วน​

คืน​ที่​สวยงาม​ดุจ​บทกวี​ภาพวาด​เช่นนี้​ เหมาะสม​ให้​คู่รัก​พลอดรัก​ใต้​แสงจันทร์​อย่างยิ่ง​

เวลานี้​ บน​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​ ถึงแม้จะมีความมืด​คืบคลาน​เข้ามา​ แทนที่จะ​เงียบงัน​ กลับกัน​คน​ที่​เข้ามา​ชมการแสดง​กลับ​คึกคัก​ มากมาย​กว่า​ตอนกลางวัน​

เห็น​เพียง​เมื่อ​ทอดสายตา​ออก​ไป​ บน​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​ ผู้คน​เดิน​ขวักไขว่​ รถม้า​วิ่ง​สวน​ไปมา​ไม่ขาดสาย​

บน​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​ แขวน​โคมไฟ​สวยงาม​เต็ม​พื้นที่​

แสงไฟเลือนลาง​นั้น​ ทำให้​ทั่ว​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​สว่างไสว​

ผิวน้ำ​ทะเลสาบ​วาววับ​ ทำให้​ทิวทัศน์​ริม​ทะเลสาบ​ดู​โบราณ​ สวยงาม​ดุจ​บทกวี​ภาพวาด​!

เวที​ที่​สร้าง​ขึ้น​บน​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​ สว่างไสว​

ด้านล่าง​เวที​ มีเหล่า​ราษฎร​เข้ามา​นั่ง​รอ​ชมการแสดง​จน​เต็ม​พื้นที่​ ที่นั่ง​แถวหน้า​สุด​ คือ​ที่นั่ง​ของ​กลุ่มคน​สูงศักดิ์​มีอำนาจ​

หลัง​พิธีกร​ใน​การแสดง​ครั้งนี้​เอ่ย​เริ่ม​การแสดง​ ทุกคน​ต่าง​ตั้งหน้า​ตั้งตารอ​อยู่​ด้านล่าง​เวที​

เพราะ​ทั่ว​เมืองหลวง​ ผู้ใด​ต่าง​ทราบ​ดี​ว่า​การร่ายรำ​ใน​ชั้น​สามของ​ ‘ห​อสุรา​ดับทุกข์​’

คือ​การร่ายรำ​ที่​ดี​ที่สุด​ใน​เมืองหลวง​

ทุกวัน​คน​ที่​เข้ามา​ชั้น​สามของ​ ‘ห​อสุรา​ดับทุกข์​’ มีมากมาย​นับไม่ถ้วน​

ดังนั้น​ วันนี้​ คน​ที่​เข้ามา​ชมการแสดง​จึงทำให้​ทะเลสาบ​ไท่จื่อ​แทบ​พังทลาย​

ทุกคน​อยาก​ชมที่สุด​ คือ​ระบำ​ห่าน​ขาว​ใน​ครั้งนี้​

เพียง​ได้ยิน​ชื่อ​การร่ายรำ​นี้​ ทำให้​ทุก​ต่าง​ตั้งตารอ​คอย​ ไม่รู้​ระบำ​นี้​ จะแสดง​สมดัง​ชื่อ​ ระบำ​ห่าน​ขาว​หรือไม่​!

ขณะ​ทุกคน​ตั้งตารอ​คอย​ มีรถม้า​หรูหรา​คัน​หนึ่ง​กำลัง​พุ่ง​ทะยาน​มาทาง​นี้​

เมื่อ​คนรถ​ส่งเสียงร้อง​คำราม​ รถม้า​กลับ​พลัน​หยุดนิ่ง​ลง​

จากนั้น​หนุ่มน้อย​อายุ​ประมาณ​สิบ​ห้าสิบ​หก​ปี​และ​คนรถ​ที่นั่ง​อยู่​บน​รถ​กระโดด​ลงมา​อย่าง​รวดเร็ว​ พลัน​เอ่ย​กับ​คน​ด้านใน​รถม้า​อย่าง​นอบน้อม​ว่า​

“นาย​ท่าน​ ถึงทะเลสาบ​ไท่จื่อ​แล้ว​”

“อืม​”

หลัง​ได้ยิน​ มีเสียงดัง​ออก​มาจาก​ภายใน​รถม้า​ ทันใดนั้น​ มือ​ใหญ่​สวยงาม​ค่อยๆ​ เลิก​ม่าน​ขึ้น​

นี่​คือ​มือ​ใหญ่​ที่​น่ามอง​คู่​หนึ่ง​

นิ้ว​เรียว​ยาว​ดัง​ต้น​หอม​ สีผิวขาว​โปร่ง​ดัง​หิมะ​ เมื่อ​รวม​เข้ากับ​แหวน​หยก​ไขมัน​แพะ​ที่​รังสรรค์​อย่าง​สวยงาม​อวบ​อิ่ม​บน​นิ้วโป้ง​นั้น​ สมบูรณ์แบบ​อย่างยิ่ง​!

เพียง​เห็น​มือ​คู่​นี้​ รู้​ว่า​มีเพียง​คน​ที่​สูงศักดิ์​เท่านั้น​ที่​มีได้​

และ​มือ​น่ามอง​ของ​คน​ผู้​นี้​ ทำให้​คน​คิด​เตลิด​ไป​ไกล​ อยาก​เห็น​ใบ​หน้าที่​แท้จริง​ของ​คน​ผู้​นี้​!

ดังนั้น​ทุกคน​ที่​เดินผ่าน​ เมื่อ​เห็น​มือ​ของ​คน​บน​รถม้า​ อด​แปลกใจ​ ต่าง​หัน​มอง​ไม่ได้​ จึงถูก​รถม้า​หรูหรา​คัน​นี้​ดึงดูด​ไว้​

จนกระทั่ง​สุดท้าย​หลัง​คนใน​รถม้า​เลิก​ม่าน​ขึ้น​ ลง​จาก​รถม้า​ เสียง​สูด​หายใจ​อย่าง​ไม่เชื่อ​สายตา​ ดัง​ขึ้น​ไม่ขาดสาย​

สายตา​ที่​ทุกคน​มอง​หนุ่มน้อย​ ตกตะลึง​อย่าง​ไม่ปิดบัง​!

เห็น​เพียง​ นี่​คือ​หนุ่มน้อย​อายุ​ราว​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​ปี​ผู้​หนึ่ง​!

สวม​เสื้อคลุม​สีขาว​สวยงาม​จาก​ไหม​น้ำแข็ง​ ชาย​เสื้อ​และ​ปก​เสื้อ​ปัก​ลาย​ดอก​ไม่ที่​ประณีต​สวยงาม​ คาด​สาย​รัด​เอ​วสี​ทอง​ ประดับ​ด้วย​หยก​ไขมัน​แพะ​ชั้นดี​

เสื้อคลุม​ประณีต​สวยงาม​ตัว​นี้​ ทำให้​รูปร่าง​ของ​หนุ่มน้อย​สูงโปร่ง​

บน​ใบหน้า​ดุจ​กวน​หยก​นั้น​ คิ้ว​โก่ง​งอน​ไป​จนถึง​จอน​ผม​ ดวงตา​หงส์​ หาง​ตา​เชิด​ขึ้น​เล็กน้อย​ ทำให้​ปิดบัง​สีหน้า​เย่อหยิ่ง​ไว้​ไม่ได้​!

ด้านล่าง​จมูกโด่ง​สง่างามนั้น​ คือ​ริมฝีปาก​แดงสด​ดุจ​ดอก​เหมย​เบ่งบาน​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ เย้ายวนใจ​อย่าง​ที่สุด​ออกมา​!

แต่​ริมฝีปาก​น่ามอง​เวลานี้​กลับ​เม้มสนิท​ เห็นชัด​ถึงอารมณ์ไม่ดี​ของ​เจ้าของ​!

เห็น​เพียง​หลัง​หนุ่ม​น้อยลง​จาก​รถม้า​ ไม่สนใจ​สายตา​ตกตะลึง​ของ​ผู้คน​รอบกาย​ อาจ​เพราะ​เคยชิน​เป็นปกติ​ จึงไม่แยแส​

ดวงตา​หงส์​เรียว​ยาว​แฝงความ​เย็นชา​หยิ่งยโส​คู่​นั้น​ หลัง​กวาด​มอง​รอบด้าน​ คิ้ว​โก่ง​นั้น​อด​ขมวด​ไม่ได้​ ก่อน​เอ่ย​กับ​หนุ่มน้อย​หน้าตา​หมดจด​ข้าง​กาย​ว่า​

“อา​ชิง วันนี้​วันใด​หรือ​ ที่นี่​เหตุใด​ผู้คน​มากมาย​เช่นนี้​”

หลัง​ได้ยิน​คำพูด​ของ​หนุ่มน้อย​ อา​ชิงพลัน​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​

“นาย​ท่าน​ วันนี้​คือ​การแสดง​ศิลปะ​ของ​ ‘ห​อสุรา​ดับทุกข์​’ ที่​จัด​ขึ้น​ปี​ละ​ครั้ง​ จึงทำให้​ผู้คน​มามากมาย​เช่นนี้​!”

“ห​อสุรา​ดับทุกข์​หรือ​!”

หลัง​ได้ยิน​ หนุ่มน้อย​อด​พึมพำ​ไม่ได้​ ทันใดนั้น​ก้มหน้า​ขบคิด​บางอย่าง​ ชั่วขณะ​เงยหน้า​ขึ้น​เอ่ย​กับ​อา​ชิงว่า​

“ไป​ พวกเรา​ไปดู​กัน​เถิด​!”

“ขอรับ​”

หลัง​หนุ่มน้อย​หล่อเหลา​พา​บริวาร​จากไป​ ก็​มีรถม้า​หรูหรา​อีก​คัน​หนึ่ง​ ค่อยๆ​ หยุด​ลง​ตรง​ตำแหน่ง​ที่​หนุ่มน้อย​เมื่อ​ครู่​ยืน​อยู่​

หลัง​รถม้า​หรูหรา​คัน​นั้น​หยุด​ลง​ ชายหนุ่ม​รูปร่าง​สูงใหญ่​ เดินลง​มาจาก​รถม้า​อย่าง​รวดเร็ว​

เมื่อ​ชายหนุ่ม​ปราก​ฎตัว​ รอบด้าน​มีเสียง​สูด​หายใจ​อย่าง​ไม่เชื่อ​สายตา​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​

เห็น​เพียง​ชาย​ผู้​นี้​ สวม​เสื้อคลุม​สีม่วง​เข้ม​บน​กาย​ คาด​สาย​รัด​เอ​วสี​ดำ​ ประดับ​ด้วย​หยก​ดำ​ชั้นดี​

เส้น​ผม​รวบ​ใน​กวน​หยก​ ทำให้​ใบหน้า​นั้น​ ดุจ​เทพ​เซียน​รังสรรค์​ออกมา​อย่าง​ประณีต​งดงาม​

ดวงตา​เฉลียวฉลาด​คมกริบ​คู่​นั้น​ เมื่อ​มอง​ซ้าย​และ​ขวา​ มีกลิ่นอาย​สูงส่ง ดุดัน​น่าเกรงขาม​!

โดยเฉพาะ​เมื่อ​สบตา​ จะถูก​ดึงดูด​จิต​วิ​ญญาน​ไป​!

หลัง​ชาย​เสื้อคลุม​ชุด​ม่วง​เพิ่ง​ลง​จาก​รถม้า​ หญิงสาว​รูปงาม​สวม​กระโปรง​หลัว​ฉวิน​สีฟ้าบางเบา​คน​หนึ่ง​ พลัน​เดิน​อย่าง​อรชร​เข้ามา​

“นาย​ท่าน​ ในที่สุด​ท่าน​ก็​กลับมา​แล้ว​”

“อืม​ การแสดง​ครั้งนี้​ ไม่ได้​เกิดเรื่อง​ไม่คาดฝัน​ใช่หรือไม่​!”

เมื่อ​เห็น​จื่อ​อี​เดิน​เข้ามา​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​เพียง​พยักหน้า​ให้​แก่​เธอ​อย่าง​เย็นชา​ พลัน​เอ่ย​ถามเสียง​เข้ม​ขึ้น​

บน​ใบหน้า​เยือกเย็น​นั้น​ มีสีหน้า​เย็นชา​ ดวงตา​คมกริบ​หลักแหลม​นั้น​ เรียบ​เฉย​ คล้าย​เรื่อง​ทุก​เรื่อง​บน​โลก​นี้​ สำหรับ​เขา​ต่าง​ไม่ใช่สิ่งที่​ต้อง​ใส่ใจ!

และ​คน​ผู้​นี้​ คือ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ใน​สายตา​คนนอก​!

ภูมิฐาน​หนักแน่น​ ใบหน้า​เย็นชา​ ทั่ว​กาย​กระจาย​กลิ่นอาย​ดุดัน​สูงส่งออกมา​ แต่กลับ​เย็นชา​จน​ผู้คน​ไม่กล้า​เข้าใกล้​!

ดังนั้น​ เมื่อ​จื่อ​อีเห็น​ท่าทาง​ที่​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​มีต่อ​ซินเอ๋อร์​ จึงรู้​ว่า​ซินเอ๋อร์​สำคัญ​ใน​ใจของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน!​

เวลานี้​หลัง​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เจ้านาย​ จื่อ​อี​ไม่กล้า​ปิดบัง​ ทว่า​กลับ​ไม่ได้​เอ่ย​ออก​ไป​ทั้งหมด​ ดวงตา​คู่​งามเปล่งประกาย​ชั่วขณะ​ ก่อน​กล่าว​ยิ้ม​ๆ

“เท้า​ของ​ชิงเอ๋อร์​หลาย​วันก่อน​ไม่ระวัง​จึงพลิก​ การแสดง​ครั้งนี้​นาง​จึงไม่ได้​เข้าร่วม​”

“อะไร​นะ​!”

หลัง​ได้ยิน​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ทว่า​เขา​ยัง​กลับมา​เป็นปกติ​อย่าง​รวดเร็ว​

เพียง​เหลือบมอง​จื่อ​อี​แวบ​หนึ่ง​

เพราะ​จื่อ​อี​เป็น​คน​เช่นไร​ เขา​รู้​อย่าง​แจ่มแจ้ง

หญิง​คน​นี้​คือ​คน​มีความสามารถ​ ดังนั้น​มีเธอ​อยู่​ เขา​จึงไม่จำเป็นต้อง​กังวลใจ​

จริง​อย่าง​ที่​คิด​ ได้ยิน​จื่อ​อี​เอ่ย​ต่อว่า​

“ทว่า​นาย​ท่าน​ไม่ต้อง​กังวล​ ข้า​เปลี่ยน​คนอื่น​มาแทน​ชิงเอ๋อร์​แล้ว​ และ​คน​ผู้​นี้​ร่ายรำ​งดงาม​กว่า​ชิงเอ๋อร์​มาก​นัก​!”

จื่อ​อี​เอ่ยถึง​ตรงนี้​ หน้าตา​ดู​ภูมิใจและ​มั่นใจ​อย่าง​มาก​

เห็น​เช่นนั้น​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​พยักหน้า​อย่าง​พอใจ​ ก่อน​เอ่ย​ขึ้น​

“เป็น​เช่นนั้น​ก็ดี​!”

เอ่ย​จบ​ ก้าวเดิน​เข้าไป​ที่​เวที​การแสดง​

เพราะ​แถว​แรก​ด้านล่าง​เวที​คือ​ที่นั่ง​ของ​แขก​กิตติ​มาศักดิ์​ จึงมีการ​จัด​ที่นั่ง​ไว้​สำหรับ​เขา​แล้ว​

หลัง​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​เดิน​เข้ามา​นั่งลง​แถว​ด้านหน้า​ ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​ไม่น้อย​

เพราะ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​กลิ่นอาย​สูงส่ง ใบหน้า​หมดจด​ เพียง​มอง​ก็​รู้​ว่า​ไม่ใช่คนธรรมดา​

มีบางคน​คิด​ประจบประแจง​ แต่​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​มีบุคลิก​เยือกเย็น​มาตั้ง​แต่กำเนิด​ ดังนั้น​จึงไม่มีผู้ใด​เข้าไป​ใกล้​

และ​การ​ปราก​ฎตัว​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​หนุ่มน้อย​รูปงาม​กลาง​ฝูงชน​ขึ้น​

“อา​ชิง ไป​ตรวจสอบ​ดู​ว่า​คน​ผู้​นั้น​คือ​ผู้ใด​!”

เห็น​เพียง​หนุ่มน้อย​รูปงาม​ชี้มือ​ไป​ยัง​ชายหนุ่ม​สวม​เสื้อคลุม​สีม่วง​นั่ง​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ ก่อน​เอ่ย​สั่งการ​อา​ชิงที่อยู่​ด้านหลัง​

อา​ชิงได้ยิน​ พยักหน้า​ พลัน​จากไป​

หลัง​หาย​ไป​นาน​ ก็​เดิน​กลับมา​

“นาย​ท่าน​ คน​ผู้​นั้น​สถานะ​ไม่ชัดเจน​ ทว่า​สามารถ​นั่ง​ใน​ที่นั่ง​แขก​กิตติ​มาศักดิ์​ได้​ และ​บุคลิก​ไม่ธรรมดา​ ต้อง​ไม่ใช่คนธรรมดา​แน่​!”

หลัง​ได้ยิน​คำ​อา​ชิง หนุ่มน้อย​รูปงาม​เพียง​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ ก่อน​เดิน​เข้าไป​

เขา​เดิน​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​ที่​สามารถ​มองเห็น​ค่อนข้าง​ชัดเจน​ พบ​ว่า​ที่นั่ง​ตรงนั้น​มีคน​นั่ง​อยู่​ ดังนั้น​จึกยก​เท้า​เตะ​เข้าไป​อย่าง​ไม่เกรงใจ​

หลัง​หนุ่มน้อย​รูปงาม​ยก​เท้า​เตะ​ออก​ไป​อย่าง​แรง​ ชายหนุ่ม​ที่นั่ง​อยู่ดีๆ​ ตรงนั้น​แผด​ร้อง​ขึ้น​ ทันใดนั้น​ล้ม​ลง​บน​พื้น​

หลัง​ชาย​ผู้​นั้น​ได้สติ​ ลุกขึ้น​มาจาก​พื้น​ หันมา​มอง​อย่าง​โมโห​ ก่อน​ยก​หมัด​ขึ้น​จะโจมตี​หนุ่มน้อย​รูปงาม​ พร้อม​เอ่ย​อย่าง​โมโห​

“เป็น​เจ้าที่​กล้า​เตะ​ข้า​!”

ตรงข้าม​กับ​ ชายหนุ่ม​ที่​มีสีหน้า​หาเรื่อง​ ดุร้าย​เหี้ยมโหด​ หนุ่มน้อย​กลับ​ไร้​สีหน้า​ขลาดกลัว​ ดวงตา​หงส์​แคบ​ยาว​น่ามอง​คู่​นั้น​ ปรากฏ​ความ​ดูถูก​และ​รังเกียจ​ขึ้น​มาอย่าง​ไม่ปิดบัง​หลาย​ส่วน​ สบตา​กับ​ชายหนุ่ม​

เห็น​เช่นนั้น​ ชายหนุ่ม​ยิ่ง​โมโห​

เพราะ​นั่ง​อยู่ดี ๆ​ ถูก​คน​เตะ​เข้าที่​เท้า​ จน​ล้มกลิ้ง​ดัง​สุนัข​ ตอนนี้​ลุกขึ้น​มายัง​ถูก​คน​มอง​อย่าง​ดูถูก​ เกรง​ว่า​นักบวช​คง​โมโห​เดือดดาล​!

ชายหนุ่ม​ที่​โมโห​เดือดดาล​ ยัง​ไม่ได้​ระบาย​อารมณ์​ออก​ไป​ เมื่อ​เห็น​เงิน​สีทอง​วิบวับ​ตรงหน้า​ พลัน​เปลี่ยนไป​ยิ้มแย้ม​

การ​เปลี่ยน​สีหน้า​รวดเร็ว​นั้น​ ยอด​เยิ่ยม​ยิ่งกว่า​การ​เปลี่ยนหน้า​งิ้ว​ของ​เฉสวน​!

“เจ้าคนโง่​ รับเงิน​นี้​ไป​ แล้ว​ไสหัวไป​!”

เสียง​หนุ่มน้อย​ราบเรียบ​ แม้จะด่าทอ​คน​ แต่​เสียง​นั้น​กลับ​ดุจ​ธาร​น้ำ​ใน​เดือน​สาม ไพเราะ​จับใจ​

หลัง​ได้ยิน​ ชายหนุ่ม​นั้น​ไม่สน​ว่า​เมื่อ​ครู่​จะโมโห​เดือดดาล​เพียงใด​ เวลานี้​ความสนใจ​อยู่​ที่​เงิน​สีทอง​วิบวับ​ตรงหน้า​นี้​

เพราะ​ทอง​นี้​ อย่าง​น้อย​มีราคา​ห้าสิบ​ตำลึง​!

เขา​ลำบาก​ทำงาน​หลาย​ปี​ ก็​หาเงิน​ไม่ได้​เท่านี้​!

ดังนั้น​ชาย​ผู้​นั้น​เห็น​เข้า​ ไม่สนใจ​สิ่งอื่น​ พลัน​หัวเราะ​ก่อน​หยิบ​เงิน​นั้น​ขึ้น​ พลัน​โค้ง​คำนับ​ชาย​รูปงาม​ เอ่ย​อย่าง​ประจบประแจง​ว่า​

“ฮ่า ๆ ข้า​จะไป​เดี๋ยวนี้​ ไป​ตอนนี้​เลย​!”

เอ่ย​จบ​ ชายหนุ่ม​ผู้​นั้น​หยิบ​ทอง​ใน​มือ​ ไม่ถึงวินาที​ หาย​ไป​จาก​สายตา​ของ​หนุ่มน้อย​รูปงาม​ทันที​

เห็น​เช่นนั้น​ อา​ชิงอด​ยิ้ม​อย่าง​ดูถูก​ไม่ได้​

ชายหนุ่ม​รูปงาม​เพียง​ยิ้ม​ พลัน​ดึง​สายตา​กลับมา​ จากนั้น​จับจ้อง​ไป​บน​เวที​

ขณะเดียวกัน​ เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ที่นั่ง​อยู่​บน​ที่นั่ง​กิตติมศักดิ์​ คล้าย​ฉุกคิด​ขึ้น​ได้​ จึงหันไป​เอ่ย​ถามจื่อ​อี​ที่นั่ง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ว่า​

“ซินเอ๋อร์​เล่า​ อยู่​ที่​วัง​หรือ​ นาง​น่าจะ​ชมชอบ​การแสดง​พวก​นี้​ เจ้าให้​คน​ไป​รับ​ตัวนาง​มาเถิด​!”

“เอ้อ​ นาย​ท่าน​ คือ​ว่า​…”

หลัง​ได้ยิน​ ใบหน้า​งดงาม​ของ​จื่อ​อี​ตะลึงงัน​ ดวงตา​เป็นประกาย​ชั่วขณะ​ ท่ามกลาง​สายตา​สงสัย​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ จึงเอ่ย​ขึ้น​ว่า​

“นาย​ท่าน​ ความจริง​แม่นาง​ซินเอ๋อร์​ มาแล้ว​”

“โอ้​เช่นนั้น​หรือ​ ตอนนี้​ให้​คน​เรียก​นาง​เข้ามา​เถิด​!”

เห​ลิ่งอวี้เซวียน​เอ่ย​ขึ้น​

เพราะ​เขา​ไม่ได้​เจอ​หน้า​เธอ​มาสิบ​วัน​แล้ว​

สิบ​วัน​มานี้​ ทุกวัน​เขา​ยุ่ง​วุ่นวาย​จัดการ​เรื่อง​การค้า​ที่​ฉางโจว​ ทั้ง​ใจและ​สมอง​ต่าง​นึกถึง​ คิดถึง​ เงาร่าง​ของ​สาวน้อย​ผู้​นั้น​

เขา​คิด​ว่า​คง​ถูก​พิษ​ของ​เธอ​ จน​หลงเสน่ห์​เธอ​แล้ว​!

สิบ​วันนี้​ในที่สุด​เขา​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ไม่พบ​หน้า​เพียง​วัน​เดียว​ ราว​จากกัน​กว่า​สามปี​!

ตอนนี้​เขา​รีบร้อน​กลับมา​ ใน​ใจล้วน​คิดถึง​เพียง​เธอ​

ตอนนี้​ต้องการ​พบ​เธอ​ จากนั้น​กอด​เธอ​ไว้​ใน​อ้อมกอด​ เอ่ย​ความคิด​ถึงที่​มีต่อ​เธอ​ใน​ช่วง​ที่ผ่านมา​กับ​เธอ​

ตรงข้าม​กับ​ความคิด​ของ​เห​ลิ่งอวี้เซวียน​ จื่อ​อี​ดู​ออกจาก​สีหน้า​ของ​ชายหนุ่ม​

ดู​แล้ว​ ซินเอ๋อร์​มีความสำคัญ​ต่อ​เจ้านาย​อย่าง​มาก​ มากกว่า​ที่​เธอ​คาดคิด​ไว้​

ยิ่ง​เป็น​เช่นนี้​ จื่อ​อี​ยิ่ง​กังวล​ใน​ใจ ไม่รู้​ตน​ทำ​เช่นนี้​ ผลลัพธ์​จะเป็น​เช่นไร​

เพราะ​ความโมโห​ของ​นาย​ท่าน​ หนักหนา​รุนแรง​ยิ่งนัก​!

สวรรค์​ สวรรค์​อย่า​ให้​เธอ​ตาย​อย่าง​อนาถ​เลย​!

…………………………………………………………………………………..

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

Score 10
Status: Completed

จู่ๆ ‘เล่อเหยาเหยา’ เด็กสาวที่ข้ามเวลามาจากศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด

ฟื้นขึ้นมาในร่างของผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นขันที ใช้ชีวิตอยู่ในยุคเทียนหยวนที่ไม่มีบันทึกในประวัติศาสตร์

แถมยังได้รับหน้าที่ปรนนิบัติ ‘เหลิ่งจวิ้นอวี๋’ ท่านอ๋องแห่งวังรุ๋ยอ๋อง

ผู้ที่อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แย้มยิ้มสนทนาขณะสังหารคนโดยไม่กะพริบตา จนทุกคนต่างขนานว่า ‘พญายม’

ทั้งยังมีเสียงเล่าลือกันอีกว่า รุ่ยอ๋องคนนี้เกลียดชังผู้หญิง ชนิดที่ห้ามผู้หญิงเข้าใกล้เกินห้าก้าว!

ทว่า วันหนึ่งพญายมเกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมา

เธอจะทำเช่นไร เพื่อรักษาชีวิต และความลับที่ว่าแท้จริงแล้วเธอคือ ‘ผู้หญิง’

…รวมไปถึง เรื่องที่จู่ๆ ผู้หญิงในร่างขันทีน้อยคนนี้เกิดตั้งครรภ์โดยไม่คาดคิดได้เสียนี่!

สวรรค์! ได้โปรดให้ฟ้าผ่าแล้วพาเธอกลับไปโลกเดิมที!

Options

not work with dark mode
Reset