วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์ 9-5

ตอนที่ 9-5

ฮอนส่งยิ้มขี้เล่นไปทางพระมเหสี ถึงจะเป็นชายที่เติบใหญ่จนถึงขั้นแต่งงานแล้ว แต่พอมองแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับตอนเป็นเด็กเลย 

 

 

“ก็ต้องเอามาถวายเสด็จแม่สิพ่ะย่ะค่ะ จะจับตัวสีขาวแสนน่ารักมาถวาย รอได้เลยพ่ะย่ะค่ะ” 

 

 

“โฮะๆ แค่เจ้าพูดมาเช่นนั้น ก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว ลูกกตัญญูแบบนี้จะมีที่ไหนบนโลกอีก” 

 

 

สายตาของรยูฮาที่กำลังนั่งฟังบทสนทนาของทั้งคู่เงียบๆ มองไปทางพระพันปีผู้ซึ่งนั่งอยู่ทางด้านขวาของพระราชา แสงแดดที่สาดส่องลงมาตรงระหว่างก้อนเมฆพอดีสะท้อนเข้ากับชุดเครื่องแบบสีทองของพระพันปีจนเป็นประกาย แสงนี้ช่างเหมาะสมกับอำนาจที่คนแก่ผู้นี้มีเหลือเกิน 

 

 

ตอนนั้นเองรยูฮาก็นึกบางอย่างออกเหมือนฟ้าแลบแล้วจ้องมองไปยังแหวนที่สวมอยู่บนนิ้ว 

 

 

พระราชาที่ประทับอยู่ระหว่างผู้หญิงสองคนตอนนี้สืบทอดราชบัลลังก์ตั้งแต่ยังเด็ก พระพันปีทรงว่าราชการแทนอยู่หลังราชบัลลังก์จนพระราชาเติบใหญ่และสามารถปกครองประเทศได้ ตอนนั้นเองพลอยสีแดงถึงถูกสวมที่นิ้วของพระพันปีเพื่อชี้สั่งเหล่าเสนาบดีมากมาย และต่อมาก็ถูกสวมลงบนนิ้วของพระมเหสีที่เข้าพิธีอภิเษกสมรสด้วย จากนั้นจึงถูกส่งต่อมายังรยูฮาหลังจากที่นางเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาท 

 

 

ว่าราชการแทน ผู้หญิง พระพันปี แม่ของพระราชา ตำแหน่งสูงสุดที่จะสามารถขึ้นไปอยู่ได้ในฐานะผู้หญิง อนาคตของพระมเหสีและอนาคตของรยูฮา 

 

 

พระมเหสีที่ทรงอ่อนแอและลำบากมากจนเผยความอ่อนแอออกมาให้เห็นได้ให้กำเนิดองค์ชายหนึ่ง หลังจากนั้นพระสนมมุนผู้มีนิสัยไม่ยอมแพ้ก็ให้กำเนิดองค์ชายสอง และพระสนมยอนผู้ซึ่งขึ้นมาเป็นพระสนมคนโปรดที่สุดของพระราชา แม้ไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่แต่ก็คลอดองค์ชายสามออกมา 

 

 

นอกจากองค์ชายหนึ่งแล้วต่อให้ใครขึ้นครองบัลลังก์ พระอัยยิกาก็มีสองคน อำนาจก็แบ่งกันสองฝั่ง แต่ว่าถ้าเป็นพระราชาผู้ซึ่งไม่มีแม่บังเกิดเกล้าจะเป็นอย่างไร แล้วสมมติว่าพระราชาคนนั้นไม่ใช่ผู้สืบทอดของพระราชาจะเป็นอย่างไร 

 

 

“พระชายา ไม่สบายหรือ” 

 

 

น้ำเสียงเป็นห่วงของพระมเหสีทำให้ความคิดที่ไหลรวมไปยังที่เดียวกันหยุดลง นางยิ้มน่ารักส่งกลับมาและตาที่มองตาก็ยังเป็นตาที่คงไว้ซึ่งความงดงาม 

 

 

ใบหน้าที่ไม่เหมือนฮอนเลยเพราะไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด หลังจากพระสนมยอนสิ้นพระชนม์พระมเหสีก็กลายมาเป็นแม่ที่เลี้ยงฮอนจนเติบใหญ่ด้วยความรัก พระพันปีในอนาคต ผู้ดูแลสูงสุดทั้งเรื่องคนในวังและเงินพระคลังที่มาจากแต่ละวัง 

 

 

‘ใครดูก็รู้ว่าเป็นตำแหน่งของเสด็จพี่ มันเหมือนกับข้าแย่งมา’ 

 

 

‘ก่อนจะเกิดเรื่องนั้นได้ยินว่าพระพันปีทรงมีความเมตตายิ่งกว่าใคร’ 

 

 

‘ถ้าความคิดข้าถูกก็เพื่อไม่ให้ชีวิตเป็นอันตราย เพราะมันอันตรายต่อทั้งหัวใจและสติ ก่อนจะขึ้นครองราชย์ องค์รัชทายาทต้องสงวนท่าทีให้มาก’ 

 

 

‘ตำแหน่งที่มีเพียงหนึ่งเป็นปัญหา ความโลภของเหล่าผู้หญิงที่รายล้อมเขาก็เป็นปัญหา’ 

 

 

เสียงไพเราะที่เหล่านักดนตรีบรรเลงห่างไกลออกไป พระพันปี สตรีที่ปกครองประเทศคอยว่าราชการอยู่ข้างหลังม่านยามที่พระราชาไม่อาจดูแลประเทศได้ 

 

 

ฆ่าแม่บังเกิดเกล้า แล้วเอาลูกชายมาเป็นองค์รัชทายาท สร้างบริวารรอบตัวเขาโดยเลือกนางในให้เองทำให้เขารู้จักเหล้าและสตรี มอบตำแหน่งให้แก่สามัญชนแล้วพาเข้าพระราชวัง ต่อให้องค์รัชทายาทผู้นั้นขึ้นครองราชย์ ตนเองก็ยังอยู่เบื้องหลังราชบัลลังก์ด้วยองค์รัชทายาทนั้นไม่ใส่ใจในงานราชการ แต่ทั้งที่เป็นเช่นนั้นองค์ชายผู้ซึ่งพึ่งพาและเชื่อเสด็จแม่กว่าใคร กลับค่อยๆ มอบอำนาจที่มีให้พระพันปีทีละนิด 

 

 

“พระชายา? กลับไปพักเถิด สีหน้าไม่สู้ดีแล้ว” 

 

 

สตรีที่ฆ่าพระสนมยอนแล้วแย่งลูกชายของนางมา สตรีผู้ส่งมือสังหารไปหาองค์รัชทายาทที่ตอนนี้เพิ่งออกมาสู่โลกภายนอกแล้วทำให้เขาต้องกลับพระราชวังมา สตรีคนนั้นกำลังมองมาที่รยูฮาด้วยสายตาเป็นห่วง 

 

 

 

 

 

* * * 

 

 

 

 

 

ห้าวันผ่านไปหลังจากไปถวายความเคารพเหล่าเชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ในพระราชวัง ฮอนกับรยูฮาก็ขึ้นม้าเคียงกันออกไปนอกพระราชวัง จุดหมายคือจวนของมหาเสนาบดีพ่อของรยูฮา ฮอนล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้ช่วงเวลาตอนบ่ายกับรยูฮาสองต่อสอง แล้วไปเข้าเฝ้าพระราชาเพื่อขอเวลาอันมีค่าดั่งทองคำนี้มา 

 

 

“ถวายบังคมองค์รัชทายาทและพระชายา ขอทรงพระเจริญ” 

 

 

บรรดาคนรับใช้ถูกเร่งให้เตรียมการต้อนรับองค์รัชทายาทและพระชายาตั้งแต่เช้ามืด จากนั้นมหาเสนาบดีและฮูหยินก็ออกมายืนหน้าสุดแล้วโค้งตัวถวายการต้อนรับ ฮอนเห็นรยูฮาแอบมองท่วงท่าอันงามสง่าของฮูหยินท่านเสนาบดี แล้วอมยิ้มตรงมุมปากด้วยความยินดี 

 

 

“ว่าจะมาพักเงียบๆ เท่านั้น ขอบใจทุกคนมากที่ต้อนรับดีเช่นนี” 

 

 

“ถึงที่แห่งนี้จะซอมซ่อ แต่เชิญฝ่าบาทพักผ่อนให้สบายพระทัยนะพ่ะย่ะค่ะ” 

 

 

จวนของมหาเสนาบดี สะอาดสะอ้านแต่ก็ดูหรูหราอยู่ในทีเหมือนนิสัยของเจ้าของ เรือนอีกหลังในอาณาเขตเดียวกันซึ่งเป็นเรือนที่รยูฮาใช้ก่อนเข้าพิธีอภิเษกสมรมนั้นถูกทำความสะอาดเอาไว้อย่างดี รอคอยเจ้าของที่ไม่ได้กลับมาเสียเนิ่นนาน หลังจากทั้งคู่เปลี่ยนเป็นชุดสบายๆ ให้เข้ากับสถานที่โดยไม่สนใจลมหนาวข้างนอก ทำให้เหล่านางในที่ตามมาและเปิดหน้าต่างไว้นิดหน่อยต่างพากันเต้นผางๆ 

 

 

“อ้า ดีจัง” 

 

 

ใบหน้าของฮอมเต็มไปด้วยรอยยิ้มและมองออกไปยังสวนข้างนอกที่เป็นธรรมชาติพลางเอนตัวลงบนเตียง รยูฮาดื่มชาจากโต๊ะที่วางไว้ด้านล่างหน้าต่าง เบนสายตาไปตามการเคลื่อนไหวของเขา 

 

 

“ถูกใจหรือไม่เพคะ” 

 

 

“จะไม่ชอบที่ที่เจ้าโตมาได้หรือ มาเร็วมานอน” 

 

 

“นั่นมันเตียงหม่อมฉัน แต่ทรงตรัสเหมือนของพระองค์เลยนะเพคะ” 

 

 

“เจ้าเป็นของข้า เตียงของเจ้าก็เป็นของข้าสิ” 

 

 

“ถึงจะพูดย้ำหลายครั้งแล้ว แต่ฝ่าบาทต่างหากที่เป็นของหม่อมฉันเพคะ” 

 

 

“งั้นก็เจ้าเป็นของข้าและข้าก็เป็นของเจ้า มาเร็วเข้ามาช่วยกอดข้าหน่อย หากข้าเจ็บไข้ได้ป่วยเจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือ” 

 

 

รฮูยาวางชาที่ดื่มอยู่แล้วขึ้นไปบนเตียงนอนหนุนแขนของฮอน ทั้งคู่ที่นอนอยู่เฉยๆ แบ่งปันอุณหภูมิร่างกายกันอยู่นั้นพอสบตากันเข้าก็หัวเราะออกมาเหมือนกัน 

 

 

“ฮูหยินท่านมหาเสนาบดีช่างเหมือนเจ้ามาก” 

 

 

“ใครก็ว่าเช่นนี้เพคะ แต่นิสัยหม่อมฉันเหมือนท่านพ่อ คนที่นิสัยเหมือนท่านแม่คือมินอาเพคะ เทียบกับแล้วโหดร้ายกว่า ถ้ามินอาไม่ใช่คนของหม่อมฉันก็คงถูกเฉือดเฉือนเหมือนดาบเพคะ” 

 

 

“ฮูหยินท่านมหาเสนาบดีเป็นคนน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ บางครั้งเวลาข้าสบตามินอา ข้ายังสะดุ้งตกใจเลยด้วยซ้ำ” 

 

 

เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังขึ้นประสานกันแล้วลอยออกไปข้างนอกหน้าต่าง เสียงนั้นลอยเข้ามากระทบหูของฮูหยินมหาเสนาบดีเดินมายังเรือนนี้เพื่อดูลูกสาวใกล้ๆ รยูฮากำลังมีความสุข ความสุขตีตื้นขึ้นในใจของผู้เป็นแม่ 

 

 

“ฝ่าบาท หม่อมฉันนายหญิงตะกูลจอง ฮูหยินท่านมหาเสนาบดีเพคะ ขอเข้าไปได้ไหมเพคะ” 

 

 

“ท่านแม่ยาย! เชิญเข้ามาก่อน” 

 

 

ฮอนลุกพรวดขึ้นจากเตียงแล้วไปต้อนรับถึงหน้าประตู ความดีใจฉายเต็มใบหน้าของรยูฮา แม้แต่ฮอนก็ยังสังเกตเห็น ถึงจะเสียดายแต่อย่างไรก็ต้องหลีกทางให้ 

 

 

“ข้าจะไปพูดคุยกับท่านมหาเสนาบดีสักครู่ พระชายา ใช้เวลาดีๆ ร่วมกับท่านแม่เถอะ” 

 

 

พอฮอนหายออกไปข้างนอกอย่างอ่านสถานการณ์ออก จู่ๆ รยูฮาก็เข้าสวมกอดนายหญิงตะกูลจองราวกับรออยู่ แล้วกลิ้งเกลือกไปมาบนเตียง นางสูดกลิ่นของแม่เข้าไปในจมูกถึงได้รู้สึกว่ากลับมาบ้านแล้วจริงๆ รยูฮาฝั่งหน้าลงบนไหล่ของแม่แล้วหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสูดกลิ่น 

 

 

“พระชายา รักษาเกียรติหน่อยสิเพคะ” 

 

 

“อ้า ท่านแม่ เลิกพูดเรื่องเกียรตินั่นสักทีเถอะเจ้าค่ะ เราอยู่กันแค่สองคนจะมามีเรื่องเกียรติอะไรกันเจ้าคะ” 

 

 

นายหญิงตะกูลจองลูบลงบนหัวน่ารักของรยูฮาที่ทำตัวเหมือนเด็กแล้วตัดสินใจเลิกบ่น ลูกสาวสองคนออกจากบ้านไปพร้อมกันในคราวเดียวทำให้บ้านว่างเปล่ามาก มาตอนนี้ถึงค่อยรู้สึกว่าบ้านถูกเติมเต็ม เวลาไม่กี่วันที่มีค่าเหมือนทองจะมาเสียไปเพราะคำพร่ำบ่นไม่ได้ 

 

 

“ชีวิตในวังเป็นอย่างไรบ้างเพคะ” 

 

 

“อืม, ทุกคนดีกับข้าเจ้าค่ะ เด็กๆ ที่อยู่ในวังก็น่ารักใจดี โดยเฉพาะพระพันปีทรงดีกับข้าเหมือนหลานสาว ข้าเองยังอยากเลียนแบบพระองค์เลยเจ้าค่ะ” 

 

 

“ดีแล้วเพคะ แล้วองค์รัชทายาทดีกับพระชายาหรือไม่เพคะ” 

 

 

“เสียตรงที่ทรงชอบข้ามากไปหน่อยเจ้าค่ะ เหมือนตอนเป็นเด็ก” 

 

 

พอมีเรื่องราวตอนเด็กขึ้นมาใบหน้าของนายหญิงตะกูลจองก็บิดเบี้ยวเล็กน้อยแล้วกระซิบเสียงต่ำ 

 

 

“ความทรงจำขององค์รัชทายาทกลับมาแล้วหรือเพคะ” 

 

 

“ยังหรอกเจ้าค่ะ ท่านแม่” 

 

 

รยูฮาหยุดยิ้มแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง 

 

 

“ทำไมความทรงจำขององค์รัชทายาทถึงไม่กลับคืนมาล่ะเจ้าคะ” 

วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์

วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 4 อ่านนิยาย

(อ่านตอนต่อไปด้านล่าง)


มิใช่เพียงเพราะสัญญาองค์ชายรัชทายาทฮอน จำเป็นต้องอภิเษกสมรสกับซอรยูฮา ให้นางอยู่ในฐานะพระชายาเอก เพราะต้องการพาหญิงสาวชาวบ้านผู้เป็นคนรักเข้ามาเป็นพระสนม แต่ซอรยูฮา หญิงสาวที่องค์ชายรัชทายาทเข้าพิธีอภิเษกสมรสด้วยนั้น แทนที่จะเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวานดั่งที่ใครต่อใครคิด แต่เมื่อเจอตัวจริงพระองค์ถึงกับให้คำจำกัดความนางว่า ‘ไร้สติ ละเอียดรอบคอบ ฉลาดหลักแหลม เก่งกาจ และไม่มีผู้ใดเหมือน’

ซอรยูฮาคอยคลี่คลายเรื่องราวต่างๆ ภายในพระราชวังให้เป็นไปในทางที่ดี เวลาผ่านไปองค์ชายรัชทายาทฮอนในฐานะพระสวามีที่ไม่เคยเหลียวแลและมอบความรักให้แก่พระชายาของตนเองเลยนั้น กลับค่อยๆ ให้ความสนใจนางมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อถึงเวลาเขาต้องเลือกว่าแท้จริงแล้ว คนที่ตนเองมีใจให้นั้นคือชายาที่ตนเคยตั้งแง่รังเกียจหรือพระสนม คนรักของตนกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset