ร่านอารมณ์ Sensitive

ตอนที่

“อะไรนะพี่นที! อิงหายตัวไป”

เสียงนทีดูร้อนรนพูดผ่านทางโทรศัพท์ หลังอิงหายตัวไปเมื่อคืนนี้ ทำให้คนรับสายตกใจไม่แพ้กัน ขณะที่อันกำลังทำงานอยู่ที่บริษัทตามปกติ

“ใช่ พี่จะทำยังไงดีอะอัน ถ้านักข่าวรู้ว่าอิงหายตัวไปคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ”

นทีไปห้องอิงตอนเช้าเหมือนทุกวัน เพื่อรับเธอไปทำงาน แต่เช้านี้แปลกไปที่ไม่มีวี่แววของอิงกลับมาที่ห้องตั้งแต่เมื่อคืน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ โทรไปหาแกริคก็ไม่มีคนรับสาย ที่สำคัญกว่าวันนี้อิงมีนัดถ่ายแบบชิ้นสำคัญด้วย

“ใจเย็น ๆ ค่ะพี่นทีลองเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อยได้ไหม”

“เอ่อ คือ อิงนัดกินข้าวกับแขกคนหนึ่งเมื่อคืน แต่ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”

“งั้นเดี๋ยวก็คงกลับมาแหละค่ะ ไม่ต้องห่วง”

อิงรับแขกนอกเวลาอีกแล้ว อันจะไปว่าอะไรได้ ถ้านั่นคือสิ่งที่เธอเลือกแล้ว นทีน่าจะชินกับการที่อยู่ ๆ อิงไม่ติดต่อกลับได้แล้ว เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ น้ำเสียงตอนโทรมาของนทีเมื่อกี้ ทำอันตกใจไปด้วย

“มันไม่ปกตินะสิอัน ปกติอิงจนแล้วจนรอดยังไงก็จะกลับถึงห้องไม่เกิน ตี 3 แต่นี่มัน จะเที่ยงแล้วเธอยังไม่ถึงบ้านเลย อีกอย่าง อย่างน้อยเธอจะส่งไลน์มาหาถ้าเกิดอะไรขึ้น แต่นี่ไม่มีอะไรเลย”

“…”

เธอไปไหนของเธอนะ อันคิดในใจ

“แล้ววันนี้อิงมีงานไหมคะ”

“มี 1 งาน ตอนบ่ายสาม เป็นงานถ่ายแบบขึ้นนิตยสาร เป็นงานชิ้นสำคัญซะด้วย”

“โอเค งั้นมาเราแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน เดี๋ยวอันรับงานให้เองพี่นทีรออยู่ที่นั่นนะคะ อันจะรีบไป ระหว่างนี้พี่โทรก็ตามหาอิง”

“เอ๊ะ! เดี๋ยวอัน งานนี้…”

นทีไม่ทันพูดจบ อันตัดสายทิ้งไป

“พี่จะบอกว่างานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำ”

ซึ่งงานโชว์เซ็กซี่แบบนี้ อันจะไม่รับทำแทนอิงเด็ดขาด รวมไปถึงงานถ่ายละครฉากเลิฟซีน

เมื่อถึงสตูดิโอ อันนิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่ง

‘ทำไมถึงไม่ฟังที่พี่นทีพูดให้จบก่อนนะ’

อันพูดในใจ ระหว่างรอให้ช่างแต่งหน้า ทำผม แล้วชุดที่เธอใส่จะโป๊โชว์เนื้อหนังไปถึงไหน บิกินี่สีแดงแปร๊ดปิดเฉพาะส่วนสำคัญ แล้วกางเกงบิกินี่จำเป็นต้องเป็นจีสตริงด้วยเหรอ ไม่รู้สึกโล่ง ๆ บ้างหรือยังไงน่ะ

อันกระซิบถาม นทีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

“พี่นทีค่ะ คอนเซ็ปต์งานถ่ายแบบนิตยสารที่อิงรับคืออะไรเหรอคะ”

“นางแบบสุดแซ่บ ยั่วเสน่ห์ผู้แบบจัดเต็มในธีมชุดว่ายน้ำ”

อันมองนทีด้วยใบหน้าเจื่อน ๆ เธอพอรู้จักกับนายแบบที่ต้องถ่ายแบบคู่กับเธออยู่บ้างเพราะเห็นบ่อยในโฆษณา เป็นนายแบบน้องใหม่ไฟแรงมากความสามารถ

“อัน ไหวแน่น่ะ ให้พี่ไปบอกผู้กำกับไหม” นทีเป็นห่วงอันมาก

“ไม่เป็นไรค่ะ ระหว่างที่อันทำงาน พี่นทีลองหาทางตามหาอิงไปก่อนนะคะ”

‘เอาว่ะ สู้กันสักตั้ง’ อันคิดในใจ

ผู้กำกับเรียกอันเข้าฉากกับนายแบบ โดยชุดที่เธอต้องถ่ายมีทั้งหมด 5 ชุด ถ่ายไปไม่กี่ช็อตทุกคนในสตูเห็นถึงความผิดปกติของอัน เธอถ่ายดูเกร็ง ๆ อาย ๆ ไม่เหมือนเช่นเคย นทีมองดูอยู่หลังกองรู้สึกกังวล กลัวว่าคนจะจับได้ว่านี้คืออัน แล้วไหนเรื่องที่อันพึ่งเคยรับงานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำเป็นครั้งแรกด้วย

“อิง เป็นอะไรไป ใกล้กันมากกว่านี้สิ”

“ค่ะ”

เธอขยับเข้าไปอีกนิด แต่ไม่ทันใจผู้กำกับ เขาเลยจัดแจงท่าให้ทั้งหมด เธอเกร็งตัวเพราะไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเคยสัมผัสตัวเธอแนบชิดแบบนี้มาก่อน นอกจากเขาคนนั้น แม้มันจะดูทุลักทุเล แต่งานก็ผ่านไปได้ด้วยดีจนถ่ายเสร็จ เวลาปาไปประมาณ 18.00 น. ยังไม่มีวี่แววว่าอิงจะกลับมา โทรไปก็ไม่รับ นทีรอโทรศัพท์จากอิงตลอดทั้งวัน

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติแล้ว เพราะอย่างน้อย ๆ ถึงอิงจะเหลวไหลแค่ไหน อิงต้องโทรบอกอะไรสักอย่างกับนที หรือใครที่สนิท อันเองเริ่มกังวลและเป็นห่วงเธอมากขึ้น เธอเองก็พยายามโทรหาอิง ระหว่างพักอยู่ในห้องแต่งตัว รอนทีคุยงานกับช่างภาพในสตูดิโอ

“อิงอาจจะอยู่กับลูเซี่ยนก็ได้” อันพูดอยู่คนเดียว

นทีเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวโดยไม่พูดอะไร

“…”

นทีเดินไปเดินมาในห้อง ด้วยความร้อนรนใจ สีหน้าเป็นกังวลกว่าเดิม

“เรื่องงานมีปัญหาอะไรรึเปล่าค่ะ” อันถาม

นทีส่ายหัว เธอเลยรู้ว่านทีกังวลเรื่องที่อิงหายตัวไป

“อันคิดว่า อิงอาจจะอยู่กับลูเซี่ยนก็ได้นะคะ พี่นที”

“พี่ไม่แน่ใจอ่ะอัน ถ้าอิงอยู่กับลูเซี่ยนจริง ๆ  เคยเห็นหน้าเขาไหม ลองติดต่อเขาไปรึยัง”

“เห็นสิ เพราะเขาเป็นคนรับอิงไปกินข้าวด้วยตัวเองหลังเลิกงาน พี่ติดต่อไปแล้วแต่ไม่มีคนรับสายเลย อืม…ถ้าจำไม่ผิด เขาเป็นนักธุรกิจจากไต้หวัน ชื่อแกริคมั้ง” นทีพูด

“แกริค!”

อันได้ยินชื่อที่นทีพูดออกมา อันเลยพูดย้ำขึ้นมาทันที เธอเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แน่นอนว่า ลูเซี่ยนเป็นคนบอกเธอเองว่าอย่าเข้าใกล้คนคนนั้น แล้วทำไมอิงถึงไปอยู่กับแกริคได้ละ อันนั่งนิ่งใช้ความคิด

“อัน รู้จักเขาด้วยงั้นเหรอ”

นทีถามด้วยความแปลกใจที่ดูเหมือนอันจะรู้จักเขา อันพยักหน้าตอบนิดนึง

“แล้วรู้วิธีติดต่อกับเขาไหม พี่โทรไปไม่มีใครรับเลย”

“ไม่ค่ะ แต่…” อันมีความคิดบางอย่าง

“หลังจากนี้ อันจัดการเองค่ะ พี่นทีไม่ต้องกังวลไปนะคะ ถ้าทราบข่าวยังไง อันจะโทรบอกพี่ทันที”

อันคิดได้ว่าเธอต้องทำอะไร

อันตัดสินใจรีบเดินออกจากห้องแต่งตัว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน

ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด

หัวใจเต้นระส่ำระสาย ไม่คิดว่าเธอจะต้องติดต่อไปหาคนที่หยามเกียรติเธออีกครั้ง อันเลิกติดต่อกับคนคนนั้น หลังจากงานเลี้ยงที่ทำให้อันต้องโดนผู้คนประณามว่าเป็นน้องสาวที่อิจฉาพี่ตัวเอง

ลูเซี่ยนคือคนคนเดียวในเวลานี้ที่ คิดว่าเขาคงจะรู้จักแกริคดีกว่าเธอ และหาทางติดต่อแกริคให้เธอได้ เพื่อถามให้แน่ใจว่า อิงอยู่กับเขาจริง ๆ หรือเปล่า

“ฮัลโหล”

เสียงเข้มทุ้มนุ่มลึกปลายสายของลูเซี่ยนดังขึ้น อันสะดุ้งกับเสียงที่เย็นยะเยือก เขาคงรู้ว่า นี่คือ อัน

หัวใจเธอเต้นระรัว จนแทบจะพุ่งออกจากอก อันกำมือแน่นพยายามบังคับใจตัวเองไม่ให้ความรู้สึกทั้งหมดเอ่อล้นออกมา

“ลูเซี่ยน นี่อันนะ”

“มีอะไร”

น้ำเสียงทรงอำนาจและดูเย็นชาพูดจาไร้เยื่อใยออกมา ราวกับว่าเธอเป็นตัวปัญหา เธอไม่เคยรู้สึกดีกับน้ำเสียงแบบนี้เลย เป็นน้ำเสียงที่ไม่เคยไยดีเธอสักนิด การกระทำต่าง ๆ ที่ลูเซี่ยนเคยอ่อนโยนกับเธอ มันเป็นแค่ภาพลวงตา เป็นกับดักที่สร้างให้เธอหลงระเริงและเจ็บปวด

“เออคือ…อิงอยู่กับคุณรึเปล่า”

“ทำไม”

“อ้อ…คือ…อิงหายไปตั้งแต่เมื่อคืน ฉันก็เลยอยากรู้ว่าเธออยู่กับคุณรึเปล่า”

“หืมมม ไม่”

ลูเซี่ยนตอบห้วน ๆ เชิงพูดขอไปที

“งั้นเหรอ แล้วแกริคละ อยู่กับคุณไหม”

“ทำไมแกริคต้องอยู่กับผม”

“ก็เขาเป็นคนรู้จักกับคุณไง”

“ผมไม่ได้บอกสักคำว่าแกริคเป็นคนรู้จักของผม”

“เอ๊ะ หมายความว่ายังไง ก็วันนั้น…”

เธอย้อนกลับไปเงียบสักพัก ใช่! ลูเซี่ยนมีท่าทางแปลก ๆ ไป แต่เขาไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับแกริคเลยสักนิด เขาบอกเพียงให้เธออยู่ห่างจากแกริคเข้าไว้

“ที่ถามแบบนี้ อิงหายไปงั้นเหรอ กับคนที่ชื่อว่าแกริค” ลูเซี่ยนพูด

“…ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่เป็นห่วง เธอไม่กลับห้องมาตั้งแต่เมื่อคืน”

“…” ไม่มีเสียงพูดตอบกลับจากลูเซี่ยน

“ถ้าคุณไม่ว่าอะไร คุณช่วยฉันตามหาอิงหน่อยได้ไหม”

“ผมไม่ว่างที่จะต้องมาเล่นเกมตามหาคนหายหรอกนะ อิงจะทำอะไรก็เรื่องของเธอ ผมไม่มีสิทธิ์ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร”

“คุณไม่เป็นห่วงอิงเลยเหรอ เธอเป็นคู่หมั้นคุณนะ”

“ยังไม่ได้เป็น ก็แค่ว่าที่ อีกอย่างทำไมผมต้องห่วงในเมื่อยังไม่ได้หมั้นกัน ต่างคนก็ต่างมีอิสระที่จะทำอะไร ที่ไหน กับใครก็ได้อยู่แล้ว”

“คุณคิดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ”

อันคิดว่าลูเซี่ยนจะจริงใจกับอิงมากกว่านี้ นั่นคือคู่ชีวิตที่จะอยู่ด้วยการตลอดไปเชียวนะ เขาพูดเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่เขาจะต้องสนใจ

“ใช่ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอไปทำงานต่อนะ”

ลูเซี่ยนวางสายเธอไปทันที ทั้งที่ยังคุยไม่จบ

ทำไมเขาถึงเย็นชาขนาดนี้ เธอเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่ที่หนึ่ง เธอยังคุยกับลูเซี่ยนไม่รู้เรื่อง อย่างน้อยเธอขอพิสูจน์ว่าที่พี่เขยให้แน่ใจว่า เขารักอิงมากขนาดไหน และต้องการให้เขาช่วยตามหาอิงจริง ๆ

ทางลูเซี่ยน เขาคิ้วขมวดหลังวางสายจากอัน

“อิง อยู่ไหน”

ลูเซี่ยนถามบอดี้การ์ดคนขับรถที่กำลังขับรถไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง

“เราไม่ทราบข่าวเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ คนของเราก็ติดต่อไม่ได้”

“…”

ลูเซี่ยนนิ่งเงียบ นี่ต้องเป็นฝีมือแกริคแน่ ๆ แต่เขายังไม่มั่นใจ จนกว่าจะรู้ข้อมูลจากคนติดตามอิง นี่เป็นแค่การคาดคะเน เพราะเขาเผยจุดอ่อนที่สร้างขึ้นไว้ตอนงานเลี้ยงคราวที่แล้วออกไป คงมีหลายคนที่ต้องการสั่นคลอนจุดยืนของลูเซี่ยน เพื่อคุมอำนาจของตลาดมืดเอาไว้ ลูเซี่ยนเองก็มีศัตรูทางธุรกิจเยอะพอสมควร เลยไม่รู้ว่าสิ่งที่อันพูดจะจริงแท้แค่ไหน เธออาจจะคิดไปเอง ลูเซี่ยนมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

รถยุโรปคันหรูสีดำเทียบหน้าโรงแรม บอดี้การ์ดจำนวนหนึ่ง 4-5 คน วิ่งมาที่รถของลูเซี่ยน ทุกคนโค้งคำนับให้เขา บอดี้การ์ดคนหนึ่งในนั้นพูดกับลูเซี่ยนอย่างร้อนรน

“ท่านลูเซี่ยน เราพบบอดี้การ์ดที่ติดตามคุณอิงแล้วครับ” ลูเซี่ยนคิ้วขมวด หน้านิ่ง

“ตอนนี้อยู่ไหน” บอดี้การ์ดพูดตะกุกตะกัก

“อยู่…อยู่ในห้องปฐมพยาบาลครับ ทั้งสองคนอาการสาหัสมากครับ”

ลูเซี่ยนเดินมุ่งตรงไปห้องพยาบาลอย่างรวดเร็ว ภาพที่เห็นคือบอดี้การ์ดทั้งตัวโชกด้วยเลือด ถูกรุมทำร้ายอย่างหนัก แต่ยังพอมีสติ เมื่อเห็นลูเซี่ยนทั้งสองพยายามลุกขึ้นมาจากเตียง

“ท่านลูเซี่ยน…”

บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่มีผ้าพันแผลพันรอบหัว หน้าบวมช้ำ แขนข้างซ้ายเข้าเฝือก

“นอนอย่างนั้น ไม่ต้องลุก”

ลูเซี่ยนพูดพร้อมเดินเข้าไปหา

“ว่าไง…ใคร” ลูเซี่ยนถาม

“แกริค” บอดี้การ์ดพูด ลูเซี่ยนนิ่ง ทำหน้าน่ากลัว แล้วบอดี้การ์ดคนนั้นพูดต่อ

“หลังจากคุณอิงถ่ายแบบเสร็จ ก็นัดเจอกับแกริคที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วพวกผมก็ถูกลอบทำร้ายที่นั่น แล้วพยายามหนีเอาตัวรอดกลับมาครับ”

“…”

ร่านอารมณ์ Sensitive

ร่านอารมณ์ Sensitive

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset