ร่านอารมณ์ Sensitive 7 ลูเซี่ยน ลี

ตอนที่ 7 ลูเซี่ยน ลี

อันนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ ในห้องส่วนตัวของภัตตาคารกราเน่ เพราะเพลียจากกิจกรรมบนเตียงเมื่อคืน แสงจากผ้าม่านลอดเข้ามาสาดส่องทั่วห้อง ทำให้เธอรู้สึกตัว ค่อย ๆ พลิกตัวไปมา รับรู้ถึงอาการปวดเมื่อยทั่วตัว และเจ็บตรงสะโพกแทบจะไม่มีแรงพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง

เธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่าที่มีแค่ผ้าห่มผืนใหญ่ปกปิดร่างกายเอาไว้ อันค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงคิงไซส์ ไม่มีใครอยู่ในห้องนอกจากเธอ ทุกอย่างดูเงียบสงัด

‘ลูเซี่ยนคงออกไปไหนต่อไหนแล้วสินะ ช่างเป็นผู้หญิงงี่เง่าจริง ๆ ยอมให้เขามาระบายความใคร่จนเสร็จแล้วก็ไป’

อันนั่งเหม่อลอยคิดไปเรื่อยเปื่อย เธอเหลือบไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียง

‘7.40 ’

‘สายแล้ว ทำไงดี’

เธอไปทำงานสายแน่วันนี้

ปกติอันจะเข้างานประมาณ 8.30 น. แต่ยังดีที่กราเน่ห่างจากบริษัทไม่กี่ป้ายรถเมล์

แต่…เวลานี้เป็นช่วงที่รถติดมาก ถ้าวิ่งไปอาจจะเข้างานทันก็ได้ อันจึงรีบหาเสื้อผ้าสำหรับใส่ออกไปทำงาน

“เอ๊ะ ชุดหายไปไหน” อันพูด

ชุดราตรีที่เธอใส่มาไม่ได้อยู่ในห้อง หรือแม้แต่เสื้อคลุมอาบน้ำก็ไม่มี อันใช้ผ้าห่มคลุมตัวเดินวนไปวนมาทั่วห้องเพื่อหาเสื้อผ้าของเธอ

“ไม่มี! มันหายไปไหน” อันพึมพำกับตัวเอง

‘ทำไงดี ป่านนี้แล้ว เข้างานสายโดยไม่บอกหัวหน้า มีหวังโดนด่าชุดใหญ่ ถ้าออกไปขึ้นรถเมล์ หรือนั่งแท็กซี่ในสภาพดูไม่จืดแบบนี้คงได้ลือกันให้แซ่ด แล้วยิ่งถ้าเกิดใครรู้ว่าเราเป็นแฝดของอิงอีกได้เป็นข่าวใหญ่ ขึ้นหน้าหนึ่งแน่ ทำไงดี คิดสิ คิดสิ คิดสิ’

อันเดินทั่วห้องด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน

อันตัดสินใจเดินออกไปจากห้อง เดินไปตามทางทอดเดินยาวสุดลูกหูลูกตาโดยใช้ผ้าห่มมัดเป็นเกาะอก

ชั้นที่อันอยู่มีห้องเรียงรายจำนวนมากทั้งสองข้างทาง เธอเดินสุ่มไปเรื่อย ๆ เพื่อจะหาห้องที่คิดว่าน่าจะมีคนอยู่แล้วไปขอความช่วยเหลือ อันหยุดอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง ที่ด้านหน้ามีแจกันประดับดอกไม้สวยงามตรงข้าง ๆ ประตูไม้บานใหญ่ ที่มันเปิดแง้มเอาไว้ และได้ยินเสียงพูดคุยออกมาจากห้องนั้น

อันค่อย ๆ ผลักประตู และเดินเข้าไปในห้อง เผื่อมีใครช่วยหาเสื้อผ้าให้เธอได้บ้าง

“เอ่อ ขอ…” อันไม่ทันจะพูดออกมาเป็นประโยค

ปัง ปัง

บอดี้การ์ดสูทดำ น่ายำเกรงกำลังใช้ปืนยิงหัวผู้ชายคนหนึ่งในสภาพอิดโรย มีลักษณะบอบช้ำทั้งตัวที่นั่งคุกเข่า ก่อนชายคนนั้นจะฟุบลงกับพื้น เลือดกระจายเต็มพื้น

ข้าง ๆ บอดี้การ์ดคนนั้น มีหนุ่มหล่อคนที่กอดเธอเมื่อคืน ยืนมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาเย็นชา อ่านความคิดไม่ออก

อันเห็นเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดจากชายที่นอนฟุบลงกับพื้น เลือดค่อย ๆ ไหลท่วมพื้น กระจายเป็นวงกว้าง อันตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า ใช้มือปิดปากกลั้นเสียงเอาไว้ เธอตกใจและสั่นกลัว

“อิ๊”

เสียงที่ออกมาจากลำคอเล็ก ๆ ท่ามกลางความเงียบในห้องนั้น ทำให้ชายที่หันหลังอยู่ หันกลับมามองตรงประตู

ลูเซี่ยนหันมามองอัน เขาตกใจเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย แต่แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ลูเซี่ยนไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ในเมื่อพลาดไปแล้วก็ต้องจัดการ!

บอดี้การ์ดที่อยู่ในห้องต่างหวาดหวั่นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนี้ มันคือความลับด้านมืดในธุรกิจของเจ้านายของตน

พวกเขาเดาไม่ถูกว่าลูเซี่ยนจะทำอย่างไรกับผู้หญิงคนนี้ คงไม่พ้นฆ่าปิดปากเช่นเคย ในเมื่อเธอเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น

อยู่ ๆ อันฟุบลงไปนั่งกองกับพื้นเพราะอาการตกใจ ขาอ่อนแรง สั่นไปทั้งตัว น้ำตาค่อย ๆ ไหลออกมาเพราะความกลัว

‘กลัวลูเซี่ยน’ อันคิดในใจ

ลูเซี่ยนเดินเข้าใกล้อันอย่างช้า ๆ แผ่รังสีอำมหิตออกมา อันคงต้องถูกเขาฆ่าแน่ ๆ พอคิดแบบนั้น จนเป็นลมล้มกองกับพื้น ลูเซี่ยนอุ้มเธอออกไปจากเหตุการณ์ตรงหน้า และพูดกับบอดี้การ์ดคนหนึ่งว่า

“จัดการศพให้เรียบร้อย”

“ครับท่านลูเซี่ยน”

เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหลังจากที่อันสลบ ช็อกกับเหตุการณ์ที่เห็นเมื่อเช้า เธอเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง เธออยู่ในห้องเดียวกันกับเมื่อคืน

ทันใดนั้นเองภาพที่เธอเห็นเมื่อเช้ายังติดตา สะท้อนขึ้นมาในความคิดเธอรีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยอาการสั่นกลัว มีสายตาเย็นชานัยน์ตาฟ้าเหลือบมอง ขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ตรงโซฟามุมห้อง รอเวลาที่อันได้สติ เขารับรู้ถึงอาการสั่นกลัวของอันได้ชัดเจน ทั้งหวาดกลัว ตกใจ วิตกกังวล

“กลัวเหรอ”

คำถามแรกที่ลูเซี่ยนถามขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เธอ ยืนมองดูเธอด้วยสายตาดูลึกลับ เดาความคิดไม่ออก

“…”

อันไม่ตอบอะไร ไม่ยอมสบตาเขา

“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะรู้สึกยังไง แต่การที่เธอเห็นเหตุการณ์นี้ ฉันคงปล่อยเธอไปเฉย ๆ ไม่ได้”

“…” อันกลัว

“คะ…คุณคิดว่าชีวิตมันไม่มีค่าเลยเหรอ ถึงคิดจะฆ่าใครได้ง่าย ๆ แบบนี้”

“ฮึ ในโลกใบนี้มันก็เป็นแบบนั้นแหละ ถ้าให้แบ่งจริง ๆ มันก็มีอยู่ 2 ประเภท ผู้ล่ากับเหยื่อ ถ้าไม่ระวังตัวก็จะถูกฝ่ายผู้ล่ากิน”

“คุณเป็นใครกันแน่”

“นักธุรกิจคนหนึ่งที่มีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง อยากรู้จริงเหรอ ถ้าฉันบอกเธอไป เธออาจจะตายก็ได้นะ ซึ่งความจริงแล้วขาข้างนึงของเธอก็

เข้ามาอยู่ในขอบเขตของความตายเรียบร้อยแล้ว”

“…”

“มาเฟีย…”

ลูเซี่ยนยักไหล่ มีสีหน้าเมินเฉย ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่อันพูดออกมา

“แล้วแต่ใครจะเรียก เพราะที่สุดแล้วคนที่อยู่รอดเป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะ”

“เพราะอย่างนั้นคุณถึงฆ่าเขางั้นเหรอ”

“อย่าทำเป็นอวดดี ถ้าไม่รู้เรื่องราวอะไรก็แล้วมาตัดสินคนคนหนึ่งจากสิ่งที่เห็นแค่เพียงแวบเดียว”

ลูเซี่ยนพูดเสียงเข้ม ด้วยสีหน้าเย็นชา

“แต่เขาก็มีชีวิตนะ”

“อย่ามาทำโลกสวยสงสารใคร เป็นเด็กไร้เดียงสาแถวนี้ เพราะที่อยู่ต่อหน้าตอนนี้คือคนที่อยู่คนละโลกกับเธอ ก่อนจะพูดอะไรออกมาหัดคิดซะบ้าง เพราะไม่งั้นเธอเองก็จะไม่เหลือแม้กระทั่งลมหายใจเช่นกัน”

เขาพูดขู่ให้เธอกลัว เธอกลัวมาก เธอไม่ควรที่จะต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้

เธอเข้าใจความหมายของสิ่งที่เขาพูดดี เขาเป็นนักธุรกิจร่ำรวยและเป็นมาเฟีย ส่วนเธอก็แค่เป็นชาวบ้านที่ผ่านมาเจอเรื่องร้าย ๆ เธอคงเป็นแค่คนหนึ่งในร้อยหรือหนึ่งในพัน หรือหนึ่งในไม่กี่คนที่โชคร้ายมาเจอเหตุการณ์แบบนี้

อันพยายามลุกขึ้นจากเตียงยืนตรงหน้าเขา

“ฉันเข้าใจดี เพราะฉะนั้นขอเสื้อผ้าฉันคืน”

เธอแบมือขอเสื้อผ้าจากลูเซี่ยน

‘เราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกแล้วในเมื่อเราอยู่กันคนละโลก’ อันคิดในใจ

“คงไม่ได้ เพราะเธอได้รู้ความลับของฉันแล้ว ฉันคงปล่อยเธอกลับไปไม่ได้”

แก๊ก!

 

ลูเซี่ยนหยิบปืนที่เหน็บหลังเอวขึ้นมาจ่อหัวของอัน เธอตกใจจนลืมหายใจ เขาคิดจะฆ่าปิดปากเธอ เพราะเธอรู้ความลับที่ฉากหลังเขาคือมาเฟีย…

‘ไม่นะ’

ร่านอารมณ์ Sensitive

ร่านอารมณ์ Sensitive

Score 10

Options

not work with dark mode
Reset