รักเล่ห์เร้นใจ 300 คำนินทา

ตอนที่ 300 คำนินทา

สมัยนี้นิยมหาคนบนเน็ตมาเล่นเกมด้วย ภายในห้อง VIP แห่งหนึ่งท่ามกลางเสียงเชียร์ดังลั่น อี้อวิ๋นฉังอยู่ที่นั่นแต่กลับไม่รู้สึกสนุกจนคิดอยากจะออกมา เนื่องจากเธอมีคลิปหลุดความประพฤติเลวร้ายที่แสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอ ทำให้ถูกเพื่อนชาวเน็ตเยาะเย้ยถากถาง อี้อวิ๋นฉังแอบมานึกดูแล้ว  คราวนี้หลินหว่านต้องเสร็จแน่ ถูกฉันสาดโคลนให้ซะขนาดนั้น ยังจะมีคำอธิบายอะไรอีก? คิดไม่ถึงขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวอีกเป็นกำมือ  [1]  แถมเรื่องมาแตกเอากลางวงตอนที่กำลังเล่นเกมอยู่กับเพื่อนบนเน็ตซะอีก ว่าคนที่รังแกไป๋เจี๋ยที่แท้เป็นฉัน ไม่! ฉันไม่ยอมหรอก!   

 

 

อี้อวิ๋นฉังเดินออกจากห้องวีไอพีไปห้องน้ำ  

 

 

ในห้องน้ำนั้นเอง เธอได้ยินคนที่อยู่นอกห้องด่าว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำเป็นแม่บัวขาวแสนบริสุทธิ์แต่แท้จริงแล้วเป็นนางอสรพิษร้าย  อี้อวิ๋นฉังทนต่อไปไม่ได้จึงออกจากห้องน้ำมาเผชิญหน้ากับคนที่นินทาเธอ อยู่ที่นั่น  คนคนนั้นไม่รู้ว่าเธออยู่ในห้องน้ำ  จึงพูดว่า “แม่บัวขาวแบบเธอนี่น่าจะปล่อยให้เน่าตายอยู่ข้างทางให้หมามันเหยียบย่ำนัก!” เพียงเท่านี้  อี้อวิ๋นฉังก็ทนไม่ได้ตบฉาดเข้าให้  แล้วยังตอบกลับเธออย่างไว้ตัวว่า  “ ฉันจะเป็นยังไงก็ดีกว่าพวกเธอ อย่าคิดนะว่าพวกเธอนินทาว่าร้ายแล้วฉันจะไม่รู้ ฉันแค่ไม่อยากจะเอาผิดพวกเธอเท่านั้นหรอก!  ”  พวกคนที่นินทาพากันถลึงตาจ้องอีกฝ่ายอย่างกับจะเข้ามาฉีกทึ้งอี้อวิ๋นฉัง  อี้อวิ๋นอวิ๋นฉังจึงเข้าไปตบปากคนที่พูดนินทา แล้วทำวางท่าไว้ตัวสูงส่งพูดว่า เรื่องนี้ฉันไม่ได้ทำ พวกเธออย่ามากล่าวหากันนะ! ส่วนอี้อวิ๋นฉังก็ ล้างมือแล้วคว้ากระเป๋า LV ของเธอเดินออกมาโดยไม่เหลียวหลัง พวกคนที่พูดนินทาโกรธแทบตายบอกว่าเธอมันนังบัวขาวเจ้ามารยาไร้ค่า   

 

 

เพื่อนชาวเน็ต “แค่เข้าห้องน้ำทำไมนานจัง?”  

 

 

อี้อวิ๋นฉัง “นานเหรอ? เมื่อครู่ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยกลับมาช้าหน่อย ขอโทษด้วยนะ เลยทำให้ทุกคนเสียเวลาเล่นเกมไปด้วย พวกเธอเล่นกันไปก่อนนะ ฉันมีธุระต้องไปก่อนล่ะ”  

 

 

เพื่อนชาวเน็ต “โอเค ในเมื่อเถ้าแก่อี้ไม่ค่อยสบาย งั้นก็กลับบ้านไปพักก่อน อีกสองสามวันค่อยมาร่วมเล่นกันใหม่ให้สะใจไปเลย!”  

 

 

เธอคว้ากระเป๋าถือออกมาจากห้องวีไอพี หลังเธอออกมาไม่นานนัก เพื่อนชาวเน็ตก็หยิบมือถือมาโทรหาสายที่พวกเขาวางไว้ในห้องน้ำ ถามดูแล้วก็รู้ว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่ ที่แท้เรื่องทั้งหมดก็เป็นแผนของเธอ อี้อวิ๋นฉังต่างหากที่รังแกไป๋เจี๋ย! หารู้ไม่ว่าไป๋เจี๋ยเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร แต่ชาวเน็ตกลับไม่รู้เรื่อง ไป๋เจี๋ยคิดว่าตัวเองฉลาดโพสต์คลิปที่ตัวเองถูกรังแกขึ้นบนเน็ตแล้วจะส่งผลกระทบต่อหลินหว่าน แต่เรื่องกลับไม่เป็นเช่นนั้น  มีคนไม่มากนักที่เชื่อว่าไป๋เจี๋ยถูกหลินหว่านรังแก   ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของไป๋เจี๋ย  เพื่อนสนิทใกล้ชิดกับไป๋เจี๋ยรู้เรื่องทั้งหมดที่เธอทำ ไป๋เจี๋ยเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังโดยไม่รู้ว่า ‘เพื่อนสนิท’ คนนั้นเป็นเพื่อนเก่าแก่ของหลินหว่าน  เพื่อนของเพื่อนย่อมเก็บความลับไม่อยู่  ตอนที่ไป๋เจี๋ยพูดเรื่องนี้กับ ‘เพื่อนสนิท’ เพื่อนคนนั้นก็กลัดกลุ้มใจอยู่ว่าจะบอกหลินหว่านดีหรือไม่ ถึงยังไงหลินหว่านก็เป็นคนสำคัญต่อเธอมากนี่นา!  

 

 

ภายหลัง ‘เพื่อนสนิท’ อดไม่ได้กลัวว่าหลินหว่านจะถูกทำร้ายจึงหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเธอ ในตอนนี้ หลินหว่านกำลังทานข้าวกับคุณปู่ไม่สะดวกรับสายจึงปฏิเสธที่จะคุยด้วย คุณปู่ที่มีนิสัยระแวงจึงถามเธอว่าใครเป็นคนโทรมา  

 

 

หลินหว่านมองดูแวบหนึ่ง “แค่เพื่อนคนหนึ่ง ไม่ค่อยได้ติดต่อหรอกค่ะ”  

 

 

ปู่ขมวดคิ้วมองดูเธอ พูดว่า  “ไม่ต้องคบหาเพื่อนพวกนี้ให้มากนัก! พวกเขาไม่มีประโยชน์ต่อการดูแลบริษัทในอนาคตของแก ถ้าจะคบหาก็คบพวกที่จะช่วยเหลือแกทางธุรกิจได้ก็พอแล้ว!”   

 

 

หลินหว่านหัวเราะ ผงกศีรษะอย่างไม่สนใจนักว่า “ได้ค่ะ คุณปู่ฉันเข้าใจแล้วค่ะ! ทีมงานฉันเป็นชีวิตจิตใจของฉัน และรู้ว่าควรจะทำอย่างไร คุณปู่วางใจเถอะค่ะ!”  

 

 

เธอรู้ว่าโทรศัพท์เมื่อครู่เป็นเรื่องอะไร จึงทานอาหารนิดหน่อยแล้วขอตัวกล่าวลาคุณปู่ออกมาจากบ้านพักตากอากาศ บอกว่ายังมีงานยุ่งให้จัดการอีกมาก  

 

 

หลินหว่านหยิบมือถือจากกระเป๋าแล้วสั่งกับเลขาของเธอว่า “ฉันต้องออกไปคุยธุระกับลูกค้าสักหน่อย เธอกลับบริษัทไปก่อน ดูว่ามีงานอะไรต้องจัดการอีกบ้าง ถ้ามีก็จัดการไปก่อนได้เลย ถึงยังไงฉันต้องออกไปข้างนอกและฉันเชื่อว่าเรื่องเล็กๆ พวกนี้เธอแก้ปัญหาได้อยู่แล้ว” พูดจบเธอก็รีบร้อนวางสายไป  

 

 

หลินหว่านโทรหาสายเมื่อครู่อีกครั้ง พูดว่า “มีอะไรหรือคะ? รีบร้อนไหมคะ?”  

 

 

เพื่อนสนิทรีบพูดอย่างร้อนรนว่า “ในสายพูดคุยไม่สะดวก เธอออกมาสักครั้งเถอะ มาที่ร้านกาแฟหานซ่างกวน ฉันจะรอเธอที่นี่”  เธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  

 

 

หลินหว่านพูด “ได้ เธอรออยู่นั่นนะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”  

 

 

เธอรีบขับรถออกจากบ้านพักตากอากาศ ไปพบ คนพิเศษ  ดูเหมือนเธอพอจะเดาได้ว่าเป็นเรื่องอะไรจึงยิ้มออกมา เวลาค่อยๆ ผ่านไป หลินหว่านขับรถมาถึงร้านกาแฟเห็น เพื่อนเก่า รออยู่ที่นั่นก็ขอโทษที่ให้เธอรอนาน   

 

 

พอถึงร้านกาแฟ  เพื่อนสนิท นั้นพูดว่า “ในที่สุดเธอก็มาแล้ว ฉันร้อนใจแทบตายแน่ะ มีเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากบอกเธอ เธออยากฟังไหมล่ะ” เพื่อนแกล้งเย้า เสี่ยวหว่าน    

 

 

หลินหว่านพูด “เอาเถอะ อย่ามัววกวนอ้อมค้อมอยู่เลย พูดมาเถอะ ฉันอยากรู้จะแย่แล้ว” แน่นอนว่าหลินหว่านดูจากท่าทีของเพื่อนสนิทก็รู้ว่ารออยากเล่าเรื่องด่วนให้เธอฟังอยู่  

 

 

“งั้นฉันพูดละนะ เธอก็อย่าสะดุ้งตกใจไปล่ะ…”  

 

 

“ฉันรอฟังอยู่นะ เธอรีบพูดเร็วสิ!”  

 

 

“ไอ้หยา เสี่ยวหว่านเธอนี่ใจร้อนจริงนะ! เอาล่ะๆ ฉันพูดแล้ว! เกี่ยวกับเรื่องที่เธอถูกไป๋เจี๋ยใส่ร้าย ฉันมีหลักฐานว่าไป๋เจี๋ยส่งคลิปว่าตัวเองถูกเธอรังแกขึ้นเน็ตและแกล้งทำตัวน่าสงสาร บางทีสำหรับเธอแล้วไม่นับเป็นอะไรได้ แต่ฉันกับไป๋เจี๋ยถึงยังไงก็เป็นเพื่อน แต่ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ควรจะถูกไป๋เจี๋ยข่มเหงแบบนี้ ฉันจึงเลือกที่จะบอกเธอ” เธอรีบพูดออกมารวดเดียว ผ่านไปครู่หนึ่งจึงตอบว่า “หลักฐานที่ฉันจะส่งให้เธอเป็นคลิปต้นฉบับที่ฉันมีอยู่ตอนนี้”  

 

 

หลินหว่านพูด “ฉันก็รู้ว่าเธอลำบากใจ ถึงยังไงจะช่วยหรือไม่ช่วยก็ผิดทั้งนั้น ฉันจึงรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคดีที่เจอกับเธอ ” พูดจบประโยคนี้ มือถือของเธอก็ส่งสัญญาณดังขึ้น หลินหว่านขอโทษเพื่อนแล้วเดินเลี่ยงออกไปรับสาย  

 

 

หลินหว่านเดินถึงริมหน้าต่าง หยิบมือถือขึ้น เห็นสายที่เข้ามาจากเลขาก็รีบรับสาย เลขาพูดว่า “คุณคะ เมื่อไหร่คุณจะเสร็จธุระ ตอนนี้ข้างนอกบริษัทมีแต่นักข่าว! บอกว่าอยากให้คุณชี้แจงข่าวลือเรื่องคลิปที่อยู่บนเน็ตว่าเกี่ยวกับคุณหรือไม่กันแน่ค่ะ!”  

 

 

หลินหว่านพูดว่า “ไว้ฉันจะบอกเธอทีหลังนะ เธอรับมือกับพวกนักข่าวนั่นไปก่อน พวกเธออย่าเชื่อคำเล่าลือไร้สาระบนเน็ตนะ แล้วเธอต้องเชื่อฉัน เรื่องไม่ได้ทำฉันไม่มีวันยอมรับ แล้วฉันจะอธิบายกับพวกเขาเอง”  

 

 

เลขาพูด “ได้ค่ะคุณ! ฉันจะพยายามไม่ให้พวกเขาก่อเรื่องขึ้นอีก”  

 

 

หลินหว่านวางสายแล้วจึงกลับมาหาเพื่อน ยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนนี้เธอส่งหลักฐานมาให้ฉันได้ไหม ฉันอาจมีเรื่องต้องใช้มัน เธอก็รู้คนอย่างไป๋เจี๋ยนั่น ใส่ร้ายฉันไว้สาหัสนัก ตอนนี้พวกนักข่าวไปหาเรื่องฉันที่บริษัทโน่นแน่ะ”  

 

 

 

 

 

——  

 

 

[1]  ขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวอีกเป็นกำมือ  หมายถึง ทำงานไม่สำเร็จไม่ได้อะไรแถมยังเข้าเนื้อตัวเองอีก  

รักเล่ห์เร้นใจ

รักเล่ห์เร้นใจ

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 40 อ่านนิยาย ตอนที่ 41 – 80 อ่านนิยาย

อ่านต่อข้างล่าง


ครึ่งปีก่อน ความสำเร็จในฐานะนางเอกละครเรื่อง ‘แรกรัก’  เคยเปลี่ยนเด็กสาวอายุสิบเก้าปีอย่าง หลินหวั่น ให้กลายเป็นดาวค้างฟ้าในชั่วข้ามคืน แต่แล้วเพียงชั่วพริบตา จากนักร้องและนักแสดงสาวสวยที่กำลังโด่งดังถึงขีดสุดกลับถูกคนทำร้ายจนกลายเป็นหญิงอ้วนเสียโฉม หนำซ้ำยังถูกขุดคุ้ยเรื่องชาติกำเนิดที่เธอเป็นลูกไม่มีพ่อด้วยฝีมือของคนในครอบครัว เป็นเหตุให้ชีวิตในวงการบันเทิงของเธอถึงคราวสะดุด  แต่แล้วคุณชายจอมกะล่อนอย่างท่านประธานเซียว เจ้าของค่ายศิลปินดังที่มีความแค้นล้ำลึกกับตระกูลอันกลับเสนอตัวเข้ามาช่วยเธอ ทั้งยังลั่นวาจาว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อปั้นให้เธอกลายเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการให้ได้ !

...  “ทำไมคุณถึงช่วยฉันไว้”  “ก็เพราะผมชอบคุณน่ะสิ”

Options

not work with dark mode
Reset