ระบบเจ้าสำนัก 427 :เฉินกู V อ้าวเยว่(I)

ตอนที่ 427 :เฉินกู V อ้าวเยว่(I)

ตอนที่  427 :เฉินกู V อ้าวเยว่(I)

การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือระดับสูงสุดนั้นหาได้ยาก นี่ไม่ต้องพูดถึงกับการที่สองฝั่งนั้นคือราชาสัตว์อสูรและผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกร

 

หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากจางหยู ทั้งสี่คนต่างก็พากันตื่นเต้นขึ้นมา   !

 

จางหยูไม่ได้สนใจทั้งสี่คน เขาเงยหน้าขึ้นมองเฉินกูและอ้าวเยว่ก่อนจะพูดขึ้นมา   “ พวกท่านเปลี่ยนที่กันเถอะ ”

 

อ้าวเยว่กับเฉินกูเป็นใครกัน  ?

 

ราชาสัตว์อสูรยอดฝีมือระดับสูงสุดกับผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกร การต่อสู้ของทั้งสองนั้นต้องรุนแรง ภูเขาแห่งนี้ไม่อาจจะทนรับการโจมตีของพวกนี้ได้ไหว แม้ว่าจะเป็นพลังเพียงน้อยนิดแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้ภูเขาและเมืองที่ตีนเขาต้องถูกทำลายไปด้วย

 

เมื่อได้ยินที่จางหยูพูดมาเฉินกูและอ้าวเยว่ก็มองหน้ากัน

 

“ ป่าหวงหยวน เจ้ากล้าไปหรือไม่ ?” เฉินกูถามขึ้นมา

 

อ้าวเยว่แสดงสีหน้าเย็นชากว่าเดิม   “ ทำไมจะไม่กล้า ?”

 

เมื่ออ้าวเยว่พูดจบเฉินกูก็หายตัวไป   แทบจะพร้อมกันกับร่างของอ้าวเยว่ที่เปลี่ยนเป็นลำแสงและหายตัวไป

 

นางไม่ได้ใช้การเคลื่อนย้าย แต่ความเร็วของนางนั้นไม่ได้ด้อยกว่าการเคลื่อนย้ายมากนัก เสียงตัดสายลมนี้ดังก้องไปทั่ว

 

“ ท่านน้า ! ”

 

สีหน้าของอ้าวอู่เหยียนเต็มไปด้วยความกังวล เขารีบไล่ตามทั้งคู่ไปทันที

 

“ ไปกัน  ”  เซียนทั้งสี่ออกเดินทางโดยไม่รอให้จางหยูต้องเปิดปากบอก พวกเขาได้ไล่ตามไปทันที

ซู่เหยียน , อู่ฉิงฉวน,โอวเสินเฟิง และคนอื่นๆที่รอคอยการต่อสู้นี้มาหลายวัน รวมไปถึงศิษย์ของชั้นเรียนมนุษย์และสัตว์อสูรต่างก็อึ้งเมื่อเห็นแบบนั้น

 

พวกเราเองก็อยากดูการต่อสู้ใกล้ๆ แต่ตอนนี้ทั้งสองคนหายตัวไป แล้วพวกเขาจะดูการต่อสู้ได้จากที่ไหนกัน  ?

 

การรอคอยตลอดหลายวันมานี้ กลับถูกแทนที่ด้วยความผิดหวัง ทุกคนต่างก็หงุดหงิดกับการที่ตนไม่มีทักษะเคลื่อนย้าย  

 

“ พวกเจ้าเองก็อยากดูรึ ? ” จางหยูมองไปยังคนของตัวเอง

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น อาจารย์และเหล่าศิษย์ ต่างก็พากันมองไปที่จางหยูด้วยความคาดหวัง

 

จางหยูยิ้มออกมาและพูดขึ้น   “ หากอยากดูข้าจะพาพวกเจ้าไปที่นั่น ”

 

จางหยูแผ่พื้นที่ออกครอบคลุมทุกคนเอาไว้ จากนั้นทุกคนก็ถูกพลังลึกลับผูกมัดร่างกาย   ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว พวกเขาก็พบว่าตัวเองลอยขึ้นจากพื้นและบินออกจากภูเขาไป หลังจากนั้นฉากด้านล่างพื้นดินก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แค่อึดใจเดียวพวกเขาก็ได้เข้ามาในป่าหวงหยวน ก่อนจะเข้ามายังส่วนลึกของป่าด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

 

“ เร็วจริงๆ ! ”  ตาของซู่เหยียนหรี่ลง

 

อู่ฉิงฉวน , โอวเสินเฟิง และคนอื่นๆพากันทึ่ง ด้วยการนำคนมากมายแบบนี้บินมาด้วย แต่ยังรักษาความเร็วระดับนี้ไว้ได้นั้นถือว่าน่าตกใจจริงๆ ! 

 

ไม่นานพวกเขาก็ได้ปรากฏตัวในส่วนชายแดนของป่าหวงหยวน

 

ตอนนั้นจางหยูก็ได้หยุดและมองไปที่เขตมืด

 

“ เจ้าสำนัก ”  เมื่อเห็นการมาของจางหยู เซียนทั้งสี่ก็คำนับด้วยความเคารพ จางหยูโบกมือและหันไปสนใจเฉินกูและอ้าวเยว่ต่อ  เขาเองก็สงสัยว่าเฉินกูที่อยู่ในสภาพยอดเยี่ยมกับอ้าวเยว่ที่อยู่ในภาวะอ่อนแอนั้นใครจะดีกว่ากัน

 

อ้าวอู่เหยียนแสดงความกังวลออกมา   “ เจ้าสำนัก ท่านเลื่อนเวลาไปนานกว่านี้ได้หรือไม่ ? ท่านน้ายังไม่ได้พักเลยตลอดหลายวันมานี้…”

 

จางหยูมองไปที่อ้าวอู่เหยียนและพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น   “ ข้าให้เวลานางแล้ว นางไม่ปล่อยให้มันเสียเปล่าหรอก ”

 

เมื่อหลายวันก่อน อ้าวเยว่อ่อนแออย่างมาก เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้อ้าวเยว่ได้พักฟื้น จางหยูคิดจะให้เฉินกูเลื่อนเวลาออกไปก่อน แต่อ้าวเยว่กลับไม่รับคำแนะนำนี้ นางไม่สนแล้วจางหยูจะสนได้ยังไง  ?

 

เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู ปากของอ้าวอู่เหยียนก็ขยับ แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา

 

ที่ด้านบนเขตลึก เฉินกูกับอ้าวเยว่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เผชิญหน้ากันอยู่

 

หิมะตกลงมา แต่พวกเขากลับหยุดนิ่งราวกับรูปปั้น ไม่มีท่าทีใดๆเลย

 

ทั้งสองต่างก็รวบรวมสมาธิอยู่ พวกเขาไม่วอกแวกเลยแม้แต่น้อย หากพวกเขาไม่ลอยอยู่ในอากาศคงไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด  

 

บรรยากาศรอบข้างทำให้นึกถึงความตาย นอกจากเสียงหิมะที่ตกลงมาแล้วไม่มีเสียงอื่นให้ได้ยินเลย

 

สัตว์อสูรที่อยู่ใกล้ๆรับรู้ได้ถึงอันตราย ทุกตัวต่างก็พากันไปซ่อนตัว และกลั้นหายใจโดยไม่กล้าส่งเสียงออกมาเลยแม้แต่น้อย

 

หิมะตกลงมาปกคลุมผู้คนเอาไว้ แต่สายตาของพวกเขาก็ยังจับจ้องไปที่เฉินกูและอ้าวเยว่ที่อยู่ไกลออกไป พวกเขาไม่สนเรื่องอื่นที่เกิดขึ้นในโลก พวกเขามองไปยังทิศทางเดียวกัน ร่างกายของพวกเขาไม่ไหวติงและไม่นานทุกคนก็ดูคล้ายกับตุ๊กตาหิมะ  

 

ลมพัดปะทะที่ผมของเฉินกูทำให้หิมะกระจายออกมา เขาเหมือนจะหลุดจากความเป็นรูปปั้นของตัวเอง เขาได้พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉยชา   “เจ้ากลับไปก่อน ข้าไม่อยากรังแกเจ้า ”

 

เขาพบว่าอ้าวเยว่อ่อนแรงกว่าที่เขาคิดเอาไว้ นางยังมีพลังไม่ถึงครึ่ง

 

เขาไม่คิดจะรังแกผู้หญิงที่อยู่ในสภาพอ่อนแอ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกรก็ตาม

 

“ รังแกรึ ?” อ้าวเยว่แสดงสายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งออกมา  “ ราชาสัตว์อสูร เจ้าหลงตัวเองไปหน่อยนะ ”

 

นางมองไปที่เฉินกูและพูดขึ้น   “ มังกรสมมติเทพ เจ้าจะเทียบกับข้าได้รึ ?”

 

สีหน้าของเฉินกูหม่นลง พลังของมังกรสมมติเทพนั้นเขาไม่คิดสงสัย แต่สายเลือดของเขาก็ใช่ว่าจะแย่ เขาเป็นถึงสุดยอดสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่ได้อ่อนแอกว่ามังกรสมมติเทพเลย คำพูดของอ้าวเยว่แน่นอนว่าทำให้เขาไม่พอใจ

 

“ หากเจ้ามีความกล้ามากพอ เจ้าก็จงโจมตีซะ ”  แค่คำพูดไม่กี่คำก็แสดงให้เห็นแล้วว่าอ้าวเยว่เย่อหยิ่งแค่ไหน  “ มา ราชาสัตว์อสูร อย่าให้ข้าดูถูกเจ้า ! ”

 

เฉินกูจ้องไปที่อ้าวเยว่  “ ได้ตามเจ้าต้องการ ! ”

 

เมื่อพูดจบพลังของเฉินกูก็ปะทุออกมา ปราณสัตว์อสูรพุ่งทะยานขึ้นจนทำให้ทั้งโลกกลายเป็นสีเทา ราวกับว่าจุดจบของโลกกำลังจะมาเยือน แม้แต่จางหยูและที่ที่คนอื่นๆอยู่ก็ยากที่จะหลีกหนีจากพลังนั้นได้

 

โหดร้าย , ป่าเถื่อนและบ้าคลั่ง ! 

 

พวกที่ไม่ได้แข็งแกร่งตกเป็นทาสของพลังนี้ พวกสัตว์อสูรกลายเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายเพราะพลังนี้ !  

 

“ พระเจ้า ! ”  เซียนทั้งสี่อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ใจพวกเขาต่างก็พากันเต้นรัว  “ ชายคนนี้ฆ่าคนไปมากเท่าไหร่กัน ?”

 

ตำนานเรื่องการฆ่านักฝึกสัตว์อสูรของราชาสัตว์อสูรเป็นความจริงรึ  ?

 

ชายคนนี้ฆ่านักฝึกสัตว์อสูรไปมากมายจริงๆรึ  ?

 

อ้าวอู่เหยียนคิ้วขมวด  “  ชายคนนี้ฝีมือดีกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ ! ” เขาหันไปมองอ้าวเยว่และแสดงสายตากังวลออกมา “ท่านน้า ข้ากลัวว่าท่านจะคำนวนพลาดไป ความแข็งแกร่งของราชาสัตว์อสูรนั้นมากกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้”

 

ตอนนั้นเฉินกูได้แผ่พลังทั้งหมดออกมา ปราณสัตว์อสูรที่น่ากลัวนี้ราวกับปราณสัตว์อสูรโบราณ มันน่าทึ่ง และห่างจากระดับสูงสุดของโลกไม่มากนัก

 

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้มั่นใจถึงเพียงนี้ !  

 

อ้าวเยว่เองก็เครียดขึ้นมาในใจ แต่สีหน้าของนางไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งก็ยังเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งอยู่วันยังค่ำ และมันต้องมีความต่างในหมู่ยอดฝีมือระดับสูงสุดอยู่ !  

 

อ้าวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนที่พลังจะปะทุออกมา พลังนี้แผ่ไปทั่วทุกทิศทางทัดเทียมกับของเฉินกูได้ถึงจะดุดันน้อยกว่า แต่ให้ความรู้สึกสูงส่งกว่า

 

เมื่อพลังของเฉินกูกับอ้าวเยว่ปะทะกัน มันก็ราวกับการปะทะกันของกองทัพ

 

ครืน !  

 

แม้ว่าเฉินกูจะอยู่ห่างจากจุดสูงสุดที่ว่าแค่เพียงขั้นเดียว แต่พลังของเขาก็ยังถูกพลังของอ้าวเยว่บดขยี้ได้โดยไม่อาจต้านทานได้!  

 

พลังของเฉินกูถอยกลับมา แทบรับรู้ถึงมันไม่ได้ โลกนี้กลับถูกครอบครองด้วยพลังของอ้าวเยว่แทน

 

หากเฉินกูอยู่ในระดับสูง งั้นอ้าวเยว่ก็อยู่ระดับสูงสุด   มันมีความต่างอันใหญ่หลวงระหว่างทั้งสองขั้นนี้ หากนำเฉินกูกับอ้าวคุนมาเทียบกัน ช่องว่างก็จะยิ่งมากกว่านี้

 

ในด้านส่งพลังออกมาภายนอก อ้าวเยว่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งของโลกป่าขั้นต่ำนี้ !

 

เหล่าเซียนทั้งสี่และคนของสำนักคังเฉียงต่างก็ตะลึง   !

 

พลังของเฉินกูทำให้พวกเขารู้สึกกลัวได้ แต่พลังแบบนั้นกลับพ่ายแพ้ให้กับพลังของอ้าวเยว่!

 

“ พระเจ้า ! ”  ซู่เหยียนและคนอื่นๆร้องออกมาด้วยความแปลกใจและใจที่เต้นรัว

 

ตอนนั้นพวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นมด ต่อหน้าเฉินกูและอ้าวเยว่แล้ว แม้แต่ความคิดที่จะต่อต้านก็คงไม่มี

 

“ สมกับเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกร ” เฉินกูไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย เขากลับออกปากชมออกมา  “ ข้ายอมรับ แม้ว่าเจ้าจะไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมแต่ข้าก็ยังไม่อาจจะเอาชนะเจ้าได้ ”

 

อ้าวเยว่มองไปที่เฉินกูด้วยท่าทีเฉยชาดังเดิม

 

เฉินกูไม่ได้สนใจท่าทีของอ้าวเยว่ เขาจ้องไปที่อ้าวเยว่ราวกับภูเขาไฟที่กำลังจะระเบิดและพุ่งออกไป   “ มา ! ”

 

พลังของเขาถูกบดขยี้ และพ่ายแพ้ให้กับอ้าวเยว่ ซึ่งเป็นไปตามที่เฉินกูคาดเอาไว้อยู่แล้ว แต่การต่อสู้จริงๆไม่ได้ตัดสินจากเรื่องพลังภายนอก

 

ไม่ต้องนับอ้าวเยว่ที่อยู่ในภาวะอ่อนแอเลย แม้แต่ตอนที่นางอยู่ในสภาพที่พร้อม เฉินกูก็กล้าเผชิญหน้ากับนาง !  

 

“ ข้ากลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าโดยบังเอิญ ! ” อ้าวเยว่ยังคงเย็นชาเช่นเคย แต่นางไม่ได้ไม่พอใจ ที่สำคัญที่สุดคือในฐานะอันดับหนึ่งเรื่องพลังภายนอกของโลกแล้ว นางมีสิทธิที่จะภูมิใจได้ แม้แต่อ้าวคุนก็ยังด้อยกว่านาง

 

ตอนนั้นเซียนทั้งสี่และคนของสำนักคังเฉียงต่างก็พากันตื่นเต้นขึ้นมา การต่อสู้ของยอดฝีมือระดับสูงสุดของโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว !  

 

เฉินกูดึงพลังกลับมาสร้างอาณาเขตโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง…

 

“อาณาเขตรึ ? ” อ้าวเยว่ยักคิ้วพร้อมกับอาณาเขตไฟอันไร้ขอบเขตที่ก่อตัวขึ้นมาในพริบตา

 

แทบจะพร้อมกับที่ทั้งสองได้ใช้อาณาเขตออกมา อาณาเขตของจางหยูก็ได้ครอบคลุมในส่วนที่เหล่าอ้าวเยว่และคนของสำนักคังเฉียงยืนอยู่

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-1579 อ่านนิยาย

ระบบเจ้าสำนัก … เรื่องย่อ

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร

มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ

ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์

หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”

เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ

ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้

ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

Options

not work with dark mode
Reset