รวยชั่วข้ามคืน?! 774 นาตาชา

ตอนที่ 774 นาตาชา

บทที่ 774 นาตาชา

พลังหมัดเพียงหมัดเดียว สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภูเขา!

และในพลังหมัดนี้ ฉินหลั่งเองก็ยังไม่ได้ใช้พลังลมปราณ ใช้เพียงแค่พลังจากกล้ามเนื้อของร่างกายเท่านั้น

เมื่อร่างกายจื่อย่าสำเร็จในขั้นต้นแล้ว ก็เกือบจะเทียบเท่ากับร่างกายพรสวรรค์เก่งกาจมาแต่กำเนิดในชั้นสูงแล้ว ผู้บำเพ็ญจำนวนมากที่เพิ่งจะฝึกฝนเข้าสู่แดนพรสวรรค์ ก็มีพละกำลังเทียบเท่านี้ ไม่มีเวทย์อิทธิฤทธิ์ รวมถึงอาวุธพิเศษพลังลมปราณ หากพวกเขาใช้เพียงพลังจากกล้ามเนื้อ ก็ไม่อาจจะมาเป็นคู่ต่อสู้ของฉินหลั่งได้ อาวุธธรรมดาทั่วไปในโลกนี้ โดยรวมนั้นไม่สามารถที่จะคุกคามทำอะไรฉินหลั่งได้แล้ว แม้ว่าจะเป็นขีปนาวุธก็ไม่อาจที่จะระเบิดทำให้บาดเจ็บได้ ส่วนในชั้นแดนเทพทั่วไป ฉินหลั่งสามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งไม่ต้องพูดถึง ชั้นแดนเทพในโลกใบนี้แล้ว

“เวลานี้ ฝึกฝนจนถึงขั้นสูง สมควรที่จะไปแก้แค้นพวกเขาได้แล้ว”

ฉินหลั่งเก็บพลังหมัดของเขา หันศีรษะไปมองท้องฟ้าในระยะไกล

ที่นั่น คือทิศทางที่ขีปนาวุธลอยมา ซึ่งเป็นฐานกองกำลังลับของหยางจ้างกั๋ว

…………

“ตูม! ”

ตอนที่หุบเขาจ้างซินถล่มทลายลง บริเวณที่ไม่ไกลจากหุบเขาจ้างซินเท่าไหร่ มีกลุ่มคนขบวนหนึ่งกำลังเดินอยู่กลางทะเลทราย

พวกเขาคือนักท่องเที่ยวที่มาผจญภัยยังทะเลทราย

สาวน้อยหนึ่งในขบวนนั้นที่มีหน้าตาลักษณะแบบชนต่างชาติ เบิกตาโดยพลัน แล้วมองไปยังทิศทางที่ตั้งของหุบเขาจ้างซินด้วยความสงสัย

“คุณลุงเคชิ สถานที่แห่งนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นใช่หรือไม่? ”

สาวน้อยใช้ภาษาชนเผ่าท้องถิ่นถามขึ้น

“นาตาชา นั่นเป็นเพียงเหตุการณ์ดินถล่มปกติก็เท่านั้น พวกเราเดินเร็วขึ้นหน่อยเถอะ รีบหาสถานที่หลบพายุลมกัน พายุลมใกล้ที่จะเคลื่อนตัวมาแล้ว” ผู้ที่เดินอยู่ด้านหน้า คือผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น ใช้น้ำเสียงที่แหบตอบคำตอบ

เขาคือหัวหน้าทีมท่องเที่ยวผจญภัยในครั้งนี้ ชื่อว่าเคชิ

“ตกลง แต่ฉันเหมือนจะรู้สึกว่าด้านบนของหุบเขานั้น มีคนล่องลอยอยู่กลางอากาศ”

นาตาชาบ่นพึมพำ เห็นคนรอบข้างต่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากันแล้ว ไม่มีใครสนใจคำพูดของเธอ จึงทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาเดินทางต่อไป

แต่ว่าความสงสัยนั้นยังคงอยู่ในจิตใจของเธอตลอด

ครู่เดียว ทีมนักท่องเที่ยวก็ค้นพบถ้ำแห่งหนึ่งในภูเขา

ทุกคนได้ช่วยกันก่อกองไฟขึ้น กางเต้นท์ หยิบนำวัตถุดิบออกมา เริ่มปรุงต้มอาหารกัน

“เคชิ คุณเคยรับประกันอย่างหนักแน่นว่า ในบริเวณทะเลทรายแห่งนี้ มีเมืองโบราณแห่งหนึ่ง ภายในมีชนเผ่าหมาป่าอาศัยอยู่ แต่ว่าพวกเราต่างก็เห็นกันแล้วว่า เป็นเพียงแค่เมืองโบราณร้างก็เท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่ามีมนุษย์หมาป่าเลย เพียงแค่เส้นขนก็ยังไม่มี ตอนนี้รถก็พังแล้ว นายเตรียมที่จะให้พวกเราใช้สองเท้านี้ เดินออกไปจากทะเลทรายอันแห้งแล้งนี้ใช่ไหม? ”

มีคนพูดบ่นขึ้น

ส่วนคนอื่นก็มองไปยังเคชิด้วยสายตาที่สงสัย

ที่ทุกคนเดินทางกันในระยะไกล มายังทะเลทรายแห่งนี้ ก็เพราะต้องการจะมาเยือนเมืองโบราณตามตำนานที่เล่าลือ

แต่เสียดายที่เมื่อมาถึงเมืองโบราณแล้ว กลับไม่มีแม้แต่เงาของคน ทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดทรายสีเหลือง ดูเหมือนว่ารกร้างมาเป็นเวลานานแล้ว

“เรื่องนี้ ฉันเองก็ยังไม่แน่ชัด เมื่อปีก่อนฉันเดินทางมาเพื่อทำสัญญาข้อตกลงกับพวกเขา พวกมนุษย์หมาป่าก็ยังมีอยู่ คาดว่าพวกเขาคงจะกลัวถูกผู้คนรบกวน จึงได้เคลื่อนย้ายไปยังที่อื่นแล้ว” เคชิหน้านิ่วคิ้วขมวด รอยย่นบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก “แต่ว่าพวกคุณวางใจได้ เดินทางไปด้านทิศตะวันตกอีกราวหนึ่งร้อยกิโลเมตร ที่นั่นมีจุดพักผ่อน เวลานั้นพวกเราก็สามารถนั่งรถ เดินทางกลับเข้าเมืองได้อย่างรวดเร็วแล้ว”

ทุกคนได้ยินดังนั้น ก็ทำได้เพียงตอบรับอย่างน่าเศร้าใจ

ในทะเลทรายที่แห้งแล้งของทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทุกคนต่างต้องพึ่งพาประสบการณ์ของเคชิ

“นาตาชา ไส้กรอกชิ้นนี้ย่างสุกแล้ว ฉันช่วยหั่นแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้นะ” ชายผู้หล่อเหลาคนหนึ่ง แสดงท่าทางสุภาพต่อนาตาชาที่นั่งอยู่ข้างกองไฟ

กลุ่มคนเหล่านี้ต่างเป็นลูกหลานของเศรษฐีจากนานาประเทศที่มารวมตัวกัน มุ่งมั่นตั้งใจที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายและการผจญภัยอย่างจริงจัง แต่ถ้าหากมาพบเจอกับความรักที่สวยงามระหว่างการเดินทาง ทุกคนก็คงไม่ปฏิเสธ

นาตาชาสวยงดงาม และยังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ อีกทั้งเป็นถึงนักสำรวจและนักโบราณคดีชื่อดังอีกด้วย หญิงสาวที่เพียบพร้อมทั้งหน้าตาและการศึกษาแบบนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วไป

ไม่เพียงแต่เขา ผู้คนโดยรอบ นอกจากเคชิแล้ว สายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องมาที่นาตาชากันทั้งหมด

นาตาชาทำท่าทางขมวดคิ้ว เธอเองนั้นยังคงครุ่นคิดถึงแต่ภาพที่เห็นก่อนหน้านั้น

เธอสาบานว่า เธอเองมองเห็นเงาร่างคนสีม่วงยืนอยู่ในอากาศด้านบนของหุบเขานั้นจริง ๆ แม้กระทั่งยังเห็นแบบเลือนลางว่า คนผู้นั้นอยู่ในชุดสีดำและมีผมดกดำ เหมือนกับว่าเป็นเทพมาร

แต่ว่า ผู้ร่วมเดินทางของเธอไม่มีแม้แต่คนเดียวที่เชื่อ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้นาตาชาทุกข์ใจ

เวลานี้ มีเสียงจากลมทะเลทรายดังผ่านเข้ามาอย่างกะทันหัน:

“พวกคุณมีใครที่จะทราบไหมว่า ตอนนี้คือช่วงเวลาไหนแล้ว? ”

“เป็นใครกัน?”

ทุกคนที่นั่งกันอยู่บริเวณรอบกองไฟ ตกใจขึ้นพร้อมกัน เคชิผู้ที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรีบลุกยืนขึ้น แล้วรีบชักปืนล่าสัตว์ออกมาจากกระเป๋าเดินทาง ส่วนคนอื่นต่างก็นำอาวุธของตนที่เตรียมไว้ออกมา

ในพื้นที่ทะเลทรายอันไกลโพ้น กว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตา ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ทำไมถึงปรากฏคนขึ้นมาได้ ซึ่งจะไม่ทำให้ทุกคนตะลึงหวาดผวาได้อย่างไรกัน?

ทุกคนหันไปมองด้วยความตื่นเต้น ก็เห็นว่าในทะเลทราย มีชายวัยรุ่นผู้หนึ่งเอามือไขว้หลังและเดินเข้ามา

ชายผู้นี้อยู่ในชุดสีดำที่บาง และมีหน้าตาที่หล่อเหลา มีผมดกดำและลูกตาสีดำ ราวกับว่าเทวดาได้ลงมาจุติยังโลกมนุษย์

ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยงุนงงอยู่นั้น เคชิผู้มีประสบการณ์กว้างขวาง เหมือนกับว่าคิดออกอะไรบางอย่าง จึงรีบวางปืนล่าสัตว์ลง และพูดอย่างเคารพนอบน้อม:

“คุณท่าน วันนี้คือวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2019”

“ปี ค.ศ.2019……ถ้าอย่างนี้ ข้าอยู่ที่นี่ ก็เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มแล้วเหรอเนี่ยะ?” ฉินหลั่งพูดเสียงเบา

ผู้คนรอบข้างได้ยินดังนั้น เห็นว่าเขาสามารถพูดคุยได้ มีเหตุมีผล ไม่เหมือนเป็นวิญญาณ ก็ค่อย ๆ วางใจลงได้ แต่ที่ได้ยินว่าเขาอยู่ที่ทะเลทรายแห่งนี้มาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ทำเอาทุกคนถึงกับสูดหายใจโดยพลัน

ที่นี่คือสถานที่ที่อากาศร้อนที่สุดในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แทบจะไม่เป็นรองพื้นที่บริเวณวงกลมเส้นศูนย์สูตร คนทั่วไปพักอยู่เพียงสัปดาห์เดียวก็ทนไม่ไหวแล้ว คาดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะอยู่ที่นี่หนึ่งปีเต็ม ๆ ซึ่งทำให้จินตนาการไม่ออกเลยจริง ๆ

ส่วนเคชิเมื่อได้ยินดังนั้น ศีรษะยิ่งก้มลงไปต่ำขึ้นอีก ท่าทางยิ่งมีความเคารพเลื่อมใสมากขึ้น

เขาเคยได้ยินมาว่า มีนักบู๊ที่เก่งกาจจำนวนมาก สามารถเดินท่ามกลางหิมะ ฆ่าหมีขาวขั้วโลกเหนือด้วยมือเปล่า ใช้มือสังหารฉีกเสือดาวออกเป็นชิ้น ๆ ทนต่อความร้อนและความหนาวได้ เป็นต้น โดยผู้ที่เก่งกาจเหล่านี้มักจะบำเพ็ญฝึกฝนอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูง เมื่อพบเห็นฉินหลั่งครั้งแรก เคชิก็คาดเดาว่าฉินหลั่งคงจะเป็นผู้เก่งกาจแบบนี้เช่นกัน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาเพียงผู้เดียวจะใช้ชีวิตอยู่อาศัยที่ทะเลทรายแห้งแล้งเป็นเวลานับปี นั่นแสดงว่าฉินหลั่งนับเป็นหนึ่งในผู้เก่งกาจที่มีฝีมืออันล้ำเลิศเป็นอย่างมาก

“พวกคุณมีใครรู้บ้างว่า ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนี้มีองค์กรอะไรอยู่บ้าง? ”

ฉินหลั่งเงยหน้าขึ้นแล้วสอบถาม

การแก้แค้นก็ต้องหาที่ตั้งของผู้ร้ายให้เจอ ฉินหลั่งไม่คุ้นเคยหรือมีคนรู้จักอยู่ในที่แห่งนี้ ซึ่งคงไม่มีทางจะตามหาแหล่งที่อยู่ของนักฆ่าภูตผีได้

ดังนั้นเขาจึงต้องคิดหาวิธีที่จะตามหาร่องรอยของนักฆ่าภูตผี

“คุณท่าน ห่างจากทะเลทรายนี้ออกไปไกลหน่อยจะมีฐานกองกำลังลับแห่งหนึ่ง ได้ยินว่าที่นั้นมีปีศาจร้ายอะไร……”

เคชิกล่าวอย่างระมัดระวัง

“ตำแหน่งที่ตั้งที่ชัดเจนล่ะ” ฉินหลั่งถาม

เคชิได้ยินดังนั้น ไม่กล้าที่จะตอบออกไป จึงรีบนำออกมาแผนที่เพื่อค้นหา

ส่วนนาตาชาที่อยู่ด้านข้าง เอามือกุมปิดปากอย่างมิดชิด เกรงว่าตัวเองจะกรีดร้องออกมา ซึ่งตั้งแต่ที่ฉินหลั่งปรากฏตัวขึ้น เธอก็เบิกตาโพลง เสมือนว่าพบเจอกับเทพในตำนาน:

“ชุดดำ ผมดำ ลูกตาดำ……เขาคงจะใช่คนนั้นที่ฉันเห็นลอยอยู่ในอากาศด้านบนหุบเขาแน่เลย? ”

“แต่ถ้าหากว่าเป็นมนุษย์ ทำไมถึงลอยตัวได้? เขาคงเป็นเทวดาหรือเทพมารใช่ไหม! ”

คิดถึงตรงนี้ จิตใจที่รักการผจญภัยของนาตาชา ก็เริ่มตื่นเต้นร้อนรนขึ้น

เธอเป็นสาวน้อยที่ชื่นชอบความตื่นเต้นท้าทาย เธอปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาทั่วไป

“คุณท่าน นี่คือแผนที่ คุณเดินตามทิศทางนี้ไป เดินทางไปประมาณหนึ่งพันกิโลเมตร ก็ถึงสถานที่นั้นแล้ว” เคชินำแผนที่ออกมา มอบให้กับฉินหลั่งอย่างเคารพ จากนั้นก็ชี้ทิศทางบอกให้กับฉินหลั่ง

“อืม”

ฉินหลั่งพยักหน้าเล็กน้อย

กวาดสายตามองแผนที่หนึ่งรอบ แล้วก็จดจำทุกอย่างโดยพลัน จากนั้นก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในลมทะเลทราย คนที่อยู่โดยรอบไม่มีใครกล้าออกเสียง ไม่มีมีใครกล้าพูดออกมา ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัว กับแขกที่ลึกลับผู้นี้

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset