บทที่ 680 ลับลมคมใน
ผู้หญิงอีกคนก็เห็นแล้วก็ไม่ชอบใจที่ฉินหลั่งถูกผู้คนล้อมรอบยกยอ “เย้นนี ไปกันเถอะ พวกประธานหวางจะสร้างเทพเจ้า พวกเราสู้ไม่ได้หรอก”
“ใช่ เรื่องที่ไร้ยางอายแบบนี้ ยังมีหน้าที่จะมาคุยโวโอ้อวดอีก”
เพื่อนอีกคนที่หน้าตางดงามก็มองฉินหลั่งด้วยสายตาดูแคลน “คนสมัยนี้เพื่อชื่อเสียงและผลประโยชน์แล้วไม่มีขอบเขตเลยจริง ๆ”
“แพทย์แผนจีนจบแล้ว!”
“เบื้องหลัง!”
เย้นนียิ้มให้ฉินหลั่งอย่างเหยียดหยาม หันหลังเตรียมที่จะจากไป!
เบื้องหลัง?
แพทย์แผนจีนจบแล้ว?
“หยุดนะ!”
ฉินหลั่งยิ้มอย่างเยือกเย็น “พูดให้ชัดเจน สร้างเทพเจ้าอะไร เรื่องไร้ยางอายอะไร?”
“นายทำอะไรนายไม่รู้เหรอ?”
เย้นนีท่าทางดุร้าย “นายหน้าไม่อาย แต่พวกเราอาย แพทย์แผนจีนก็อายเหมือน”
ได้ยินเสียงคนขัดแย้งกันอยู่ตรงนี้ ผู้เข้าแข่งขันไม่น้อยขยับเข้ามามุงดู
ท่านหล่านสีหน้าเคร่งเครียด “คุณเย้น มีเรื่องอะไรทางที่ดีพูดให้ชัดเจน อย่าพูดแค่ครึ่งเดียว”
นับจากที่เข้ามาในสมาคมแพทย์แผนจีน ท่านหล่านและฉินหลั่งยังไม่ได้พูดกันเลย เพียงแค่พยักหน้านิดหน่อยในตอนนี้นี่เอง ฉินหลั่งจำชายชราคนนี้ขึ้นมาได้ทันที คนที่ยึดหลักการความเป็นจริงคนหนึ่ง ผู้อาวุโสแพทย์แผนจีนที่ไม่ปั้นน้ำเป็นตัวคู่ควรแก่การเคารพนับถือ
เขาจะไม่ทนกับเรื่องที่ไม่เป็นธรรมอย่างแน่นอน
“ท่านหล่าน เรื่องแบบนี้ยังจะให้พูดออกมาอีกเหรอ?”
เย้นนีสีหน้าท่าทางองอาจผึ่งผาย “ทุกคนล้วนไม่ใช่คนโง่ คุณคิดว่าพวกเราดูไม่ออกว่ามีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังงั้นเหรอ?”
“ใช่ ท่านหล่าน พวกเราพูดออกมา ชื่อเสียงของฝ่ายผู้จัดงานก็คงไม่เหลือแล้ว”
ผู้หญิงสวมแว่นคนหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “เรื่องบางเรื่องคุณก็คงรู้อยู่แก่ใจ”
เบื้องหลัง?
เมื่อได้ยินคำนี้ ผู้คนต่างแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นานา และมองพวกท่านหล่านและฉินหลั่งด้วยท่าทางประหลาดใจ
ท่านหล่านสีหน้าเคร่งเครียด “คุณเย้น วันนี้คุณจะต้องพูดให้ชัดเจน”
“คุณบอกว่าพวกเราฝ่ายผู้จัดงานมีเบื้องหลัง ทางที่ดีคุณหาหลักฐานที่ชัดเจนออกมาแสดงให้ได้”
เขาตวาดออกมา “ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่คุณกำลังกล่าวหาแล้ว แต่เป็นการใส่ร้าย”
“หึหึ……”
เย้นนีไม่พูดอะไรแล้วหัวเราะเยาะขึ้นมา “ใส่ร้าย? ฉันจำเป็นต้องใส่ร้ายฉินหลั่งด้วยเหรอ?”
“การทดสอบทฤษฎีได้คะแนนเต็ม ทำให้ทุกคนตกตะลึง พวกคุณคิดที่จะสร้างเทพเจ้า ต้องการที่จะทำให้เย็นจีนมีชื่อเสียงขึ้นมา”
“ดังนั้นสนามแข่งขันการตรวจวินิจฉัยระดับเมืองในครั้งนี้ พวกคุณเลยจัดเตรียมผู้ป่วยหน้ามาให้ฉินหลั่ง”
“ผู้เชี่ยวชาญอย่างพวกเรายังมีผิดพลาด แผนการในการรักษาก็ไม่สมบูรณ์ หมอที่จบวิทยาศาสตร์ช่างอุตสาหกรรมที่ออกบวชกลางทางอย่างฉินหลั่ง เมื่อก่อนก็คือนักเรียนที่ไม่เคยมีภูมิหลังด้านแพทยศาสตร์มาก่อนเลย ไม่มีแม้แต่พื้นฐานด้วยซ้ำ เป็นไปได้ยังไงที่จะถูกหมด?”
เย้นนีคิดว่าตัวเองรู้จักเบื้องหลังของฉินหลั่ง กล่าวอย่าหัวเราะเยาะเย้ย ทำให้ฉินหลั่งโมโหจนหัวเราะออกมา เธอเองก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรือ? แล้วทำไมเธอถึงเป็นหมอได้ล่ะ?
“ทฤษฎีได้คะแนนเต็มพอจะเข้าใจได้ อ่านหนังสือเยอะหน่อย ท่องจำให้แม่น ก็ยังพอจะทำได้”
“แต่การตรวจวินิจฉัย ต้องใช้ประสบการณ์ เทคนิคในการตรวจรักษา จะเป็นไปได้ยังไงที่มือใหม่คนหนึ่งจะมีความสามารถในรักษาผู้ป่วยถึงขนาดนี้? ทั้งยังรักษาได้ทั้งสิบคน?”
เธอลากเสียงไปทางผู้คนที่อยู่ตรงนั้น “แม้แต่ตัวท่านหล่านเองก็คงทำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
ท่านหล่านสีหน้าเคร่งเครียด “ผมทำไม่ได้จริง ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉินหลั่งจะทำไม่ได้!”
“พอเหอะ”
เย้นนีเอ่ยปากอย่างเบื่อหน่าย
“เมื่อปีที่แล้วฉินหลั่งยังไม่รู้เรื่องเทคนิคในการรักษาโรคเลย หนึ่งปีให้หลังก็กลายเป็นหมอเทวดา คุณกล้าพูด พวกเราก็ไม่กล้าเชื่อหรอก”
“ที่เขาเปลี่ยนเป็นหมอเทวดามีคำอธิบายเพียงหนึ่งเดียว สมาคมแพทย์แผนจีนของเราต้องการสร้างเทพเจ้า สร้างธงในชื่อหมอเทวดาฉินหลั่ง ดังนั้นพวกคุณเลยทำเบื้องหลังที่มืดดำขึ้นมา”
เธอมองฉินหลั่งอย่างเอือมระอา “คนที่ใช้เส้นสาย และใช้เบื้องหลังในการไต่เต้าขึ้นมา ฉันรู้สึกเอือมระอากับคนแบบนี้จริงๆ”
บนใบหน้าของพวกเพื่อนสาวที่ใส่แว่นตาก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม พวกเธอเห็นว่าฉินหลั่งต้องใช้ความสัมพันธ์ระหว่างหวางเสินหนงเพื่อเข้ารอบอย่างแน่นอน
เย้นนีคิดไม่ออกมาโดยตลอด ว่าทำไมฉินหลั่งถึงได้เก่งขึ้นมาในทันทีทันใดแบบนี้ ได้อันดับหนึ่งในการทดสอบ การตรวจวินิจฉัยโรคก็ได้อันดับหนึ่ง ยังกับเปิดใช้โปรไม่มีผิด
มันทำให้เธออึดอัดและไม่สบายมากเลย
จากนั้น เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่ได้เห็นในตอนเช้า
เย้นนีสะดุ้งขึ้นมา มั่นใจว่าฉินหลั่งจะต้องติดสินบนหวางเสินหนงอย่างแน่นอน และก็ตัดสินว่าหวางเสินหนงจะต้องคุ้มครองฉินหลั่งให้ผ่านด่าน
ดังนั้นเธอจึงหาเรื่องต่อต้านฉินหลั่งอย่างเต็มที่
“อะไรนะ? เบื้องหลัง? ฝ่ายผู้จัดงานจะสร้างเทพเจ้า?”
“มิน่าล่ะ ฉินหลั่งม้าดำตัวนี้ถึงได้ฆ่าออกมาได้ ที่แท้พวกประธานหวางได้เตรียมคนไว้นี่เอง” “นี่ก็สามารถอธิบาย อันดับหนึ่งในการทดสอบทฤษฎี อันดับหนึ่งการตรวจวินิจฉัยโรคได้แล้ว”
“การปลอมแปลงในครั้งนี้ อันดับหนึ่งในการทดสอบทฤษฎีเมื่อครั้งที่แล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นการปลอมแปลงเช่นกัน”
“ครั้งที่แล้วพวกประธานหวางมีท่าทางดุดัน ก็เป็นเพียงแค่การแสดงละครที่นัดกันไว้แล้ว”
“แบบนี้ดูแล้ว คนที่มีคุณธรรมกลับเป็นผู้อำนวยการอู๋เสี่ยวฮุยที่ต้องการเตะฉินหลั่งออกไป”
จากการใส่ร้ายของพวกเย้นนี ผู้เข้าร่วมแข่งขันไม่น้อยที่อยู่ตรงนั้นทยอยวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา สายตาที่หมองฉินหลั่งเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
เห็นได้ชัดว่าในความเข้าใจของพวกเขา การแข่งขันทั้งสองครั้งนี้มีลับลมคมใน และเป็นที่ยอมรับจากผู้คนมากกว่าการที่ฉินหลั่งได้อันดับหนึ่งทั้งสองครั้ง
ฉินหลั่งไม่ได้เอ่ยปากใด ๆ เพียงแค่ยิ้มและจ้องมองเย้นนี ผู้หญิงคนนี้ ช่างหาทางตันให้ตัวเองจริง ๆ
“พูดจาเหลวไหล! ฝั่งผู้จัดงานจากต้นจนจบบริสุทธิ์เปิดเผย ไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกละอายใจมาโดยตลอด”
“คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดมาเมื่อกี้ เป็นเพียงแค่การคาดคะเนที่เจตนาร้ายของเธอ”
ได้ยินที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ ท่านหล่านได้ยินแล้วก็โมโหเป็นอย่างมาก “เธอจะฟ้องร้อง เธอก็เอาหลักฐานออกมา ไม่เช่นนั้นนี่ก็คือการใส่ร้ายของเธอ”
“หลักฐาน ไม่มี!”
เย้นนีมองฉินหลั่งอย่างท้าทาย
“แต่ว่าฉันสามารถยืนยันกับทุกคนได้ว่าฉินหลั่งก็คือเศษสวะ”
“ฉินหลั่ง ฉันท้าประลองกับนาย ประลองกันอยู่ตรงนี้ซักตั้ง……”
“ถ้าหากเทคนิคการตรวจวินิจฉัยของนายสู้ฉันไม่ได้ นายก็ไสหัวไปเองซะ ไม่เข้าร่วมการแข่งขันอีก และนับจากนี้เป็นต้นไปก็ห้ามให้การรักษาผู้คน”
กลุ่มเพื่อนผู้หญิงของเธอยิ้มมุมปากมองไปที่ฉินหลั่ง “ใช่ กล้าประลองไหม?”
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดก็มองไปที่ฉินหลั่งอย่างพร้อมเพรียง
การประลองในครั้งนี้เกี่ยวพันถึงศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของฉินหลั่งและสมาคมแพทย์แผนจีนแห่งเย็นจีน
ถ้าหากฉินหลั่งแพ้ ไม่เพียงจะต้องสูญเสียคุณสมบัติในการแข่งขันไป ชื่อเสียงของสมาคมแพทย์แผนจีนก็จะถูกทำลาย
“ประลอง แน่นอนว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ไม่รอให้ท่านหล่านเอ่ยปาก ฉินหลั่งก้าวไปข้างหน้าจ้องมองเย้นนี
“แต่ว่าถ้าฉันแพ้ ฉันไสหัวไป ถ้าเธอแพ้ เธอจะต้องขอโทษพวกท่านหล่าน ขณะเดียวกันเธอก็ต้องไสหัวไป และไม่ให้การรักษาอีกเลย”
“เป็นยังไง?”
เขาไม่ปฏิเสธที่จะสั่งสอนฝั่งตรงข้ามสักหน่อย
เย้นนีเปลือกตาเหลือกขึ้น จากนั้นก็ยืดคอและกล่าว “ได้ คำไหนคำนั้น ทุกคนเป็นพยาน”
เธอไม่เชื่อ ประสบการณ์ด้านการตรวจรักษาโรคของเธอจะสู้ฉินหลั่งไม่ได้
ทั้งสองฝั่งตั้งกติกาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็คัดเลือกผู้ป่วยจากประตูเพื่อตรวจวินิจฉัย ดูว่าฝีมือใครจะยอดเยี่ยมว่ากัน
วันนี้ถือเป็นการตรวจรักษาฟรี ดังนั้นจึงมีผู้ป่วยสารพัดโรคและสลับซับซ้อนมากมายอยู่ที่หน้าประตู ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นหาคนไข้คนที่หนึ่งมาได้อย่างรวดเร็ว
ชายคนหนึ่งถูกห่อด้วยเสื้อหนาวขนเป็ดจนคล้ายบ๊ะจ่างนั่งอยู่บนรถเข็นวีลแชร์ถูกเข็นเข้ามา
เขาอายุราวสี่สิบกว่า ลมหายใจถี่ ร่างกายสั่นเทา สวมผ้าปิดปาก มีแววความเจ็บปวดปรากฏออกมาจากสายตาเป็นครั้งคราว
แต่ว่าทั้งตัวเขาสวมชุดหรูหรา อากัปกิริยาสง่าน่านับถือ ถึงแม้อาการของเขาจะไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังพยักหน้าให้กับผู้คนอย่างมีมารยาท ดูมีการศึกษาอย่างมาก
ดูแล้วน่าจะเกิดในบ้านผู้ดีมีสกุล
ฉินหลั่งเดินไปข้างหน้าสองสามก้าวจากนั้นก็เข็นชายในเสื้อหนาวขนเป็ดไปที่หน้าเย้นนี “คุณหมอเย้น เธอเริ่มก่อนเถอะ”
เขาทำตามกติกา ใส่ที่อุดหู เพื่อไม่ให้ได้ยินการตรวจวินิจฉัยของเย้นนี
เย้นนีก็ไม่ได้กระบิดกระบวน ยื่นมือออกมาจับชีพจรให้กับชายในเสื้อหนาวขนเป็ด และยังสอบถามเขาอย่างละเอียด
หลังจากนั้นไม่นาน ถือก็เอามือกลับมา นำกระดาษและปากกาออกมาเขียน
![เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]](https://i2.wp.com/www.xn--q3cmiag1gmn.com/wp-content/uploads/2022/08/bmn54u2yvhx9x9it.jpeg?resize=60,85 "เจ้าของร้านพิศวง [我真不是邪神走狗]")
