รวยชั่วข้ามคืน?! 675 กลับขึ้นไปอีกครั้ง

ตอนที่ 675 กลับขึ้นไปอีกครั้ง

บทที่ 675 กลับขึ้นไปอีกครั้ง

ผู้คนมากมายต่างก็เป็นห่วง

ในอากาศ ฉินหลั่งหมุนตัวผู้หญิงกลับมา แล้วกอดไว้กับอก จากนั้นก็ยกมือซ้ายขึ้น ถุงน่องพันเข้ากับท่อน้ำพอดี

แควก!

ถุงน่องรับน้ำหนักของทั้งสองไม่ได้ พึ่งรัดแน่นก็ขาดออกเป็นสองท่อนทันที

แต่ถึงยังไงความเร็วที่ฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉินตกลงสู่พื้นก็ชะงักลงบ้าง ตามมาด้วยเสียงตกลงกระทบพื้นดังตุบ

ฉินหลั่งกอดผู้หญิงไว้แน่น ใช้แผ่นหลังของตัวเองรองรับแรงกระแทกที่ตกกระทบพื้น

“ตุ๊บ—-”

เสียงดังตุบตับ ทั้งสองตกลงมากระแทกพื้น เศษหญ้าปลิวว่อน

เลือดสด ๆ พ่นออกมาจากปากของฉินหลั่ง

หลู่เหม่ยเฉินมองเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้าของฉินหลั่งได้อย่างชัดเจน

พวกหยูชิงเห็นดังนั้นก็อุทานออกมาอย่างอดไม่ได้ “ว้าย—-”

บุคลากรทางการแพทย์รีบวิ่งเจ้าไปทันที

“ฉินหลั่ง ฉินหลั่ง!”

หลู่เหม่ยเฉินกอดฉินหลั่งไว้และน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับสายฝน “คุณอย่าเป็นอะไรไปนะ คุณอย่าเป็นอะไร……”

นี่เป็นครั้งแรกที่หลู่เหม่ยเฉินมีความรู้สึกสับสนหวาดกลัวต่อฉินหลั่ง สับสนหวาดกลัวที่จะเสียเขาไป

“แค่ก ๆ ……”

ฉินหลั่งไอค่อกแค่กอยู่สองสามครั้ง จากนั้นเขาก็เช็ดเลือดที่มุมปากออก

“วางใจเถอะ ผมไม่เป็นอะไร บาดเจ็บแค่นี้ผมทนได้”

หากไม่ใช่เพราะกอดหลู่เหม่ยเฉินอยู่ เป็นห่วงว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ ฉินหลั่งสามารถทำได้ ที่จะกระโดดลงมาจากชั้นสี่แบบไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลย

ดังนั้นแผ่นหลังที่กระแทกในครั้งนี้ ถึงแม้จะเหมือนกับกระดูกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ซ้ำยังกระอักเลือด แต่เขาก็ยังสามารถควบคุมได้

“จนกระอักเลือดแล้ว ยังไม่เป็นอะไร?”

หลู่เหม่ยเฉินทั้งกังวลทั้งหวงแหน “ทำไมคุณถึงเอาตัวไปกระแทกพื้นคนเดียวล่ะ?”

“คุณบอบบางแบบนี้ ถ้าเกิดกระแทกจนบาดเจ็บขึ้นมา ก็คงไม่ต้องลำบากผมรักษาอีกเหรอ?”

ฉินหลั่งกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ผมไม่อยากจะต้องเจอหน้าคุณทุกวันหรอกนะ”

“ไปไกล ๆ เลย!”

หลู่เหม่ยเฉินเอ็ดฉินหลั่งเล็กน้อยสำหรับความเล่นไม่เป็นเวลาของเขา จากนั้นเธอก็จูบลงไปบนริมฝีปากที่เปื้อนเลือดอย่างห้ามตัวเองไม่ได้……

ฉินหลั่งพูดไม่ออก

เห็นทั้งสองคนใกล้ชิดแบบนี้ หยูชิงที่วิ่งเข้ามารู้สึกไม่พอใจ

“แย่แล้ว แย่แล้ว”

“อะไร?”

“พี่สาวของฉันยังอยู่ข้างบน”

หยูชิงพึ่งจะพบว่าพี่สาวของตัวเองไม่ได้อยู่ตรงนั้น เธอคิดว่าได้กลับไปแล้ว แต่สุดท้ายพี่สาวของเธออยู่ข้างบนได้โทรหาเธอหลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงแล้ว

หลู่เหม่ยเฉินและฉินหลั่งได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองมองไปที่หยูชิงอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ฉินหลั่งตะลึงงัน จากนั้นก็เข้าใจเรื่องราวขึ้นมาในทันที

ช่วงบ่ายของวันนี้ หยูชิงได้ขอร้องหลู่เหม่ยเฉินให้โอกาสพี่สาวของเธอได้เข้าร่วมโปรเจคในครั้งนี้

หลู่เหม่ยเฉินได้นึกถึงคำที่ฉินหลั่งกำชับ ไม่ยอมให้หยูชิงนำคนที่ภูมิหลังไม่ค่อยชัดเจนเข้ามา เพราะความใจร้อนหยูชิงจึงไม่พอใจ ดังนั้นสองฝั่งจึงได้ปะทะอารมณ์

หยูชิงบอกว่าพี่สาวของตัวเองมีชีวิตยากลำบาก อีกทั้งยังเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขายาและการรักษา ตัวเองกับบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขนาดนี้ ทำไมไม่สามารถให้ญาติตัวเองเข้าร่วมโปรเจคที่อนาคตค่อนข้างจะกว้างขวางได้? เธอไม่เข้าใจจริง ๆ

หลู่เหม่ยเฉินบอกว่าบริษัทมีกฎ ห้ามมีการใช้ความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ไม่จ้างพนักงานที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ที่จริงแล้วหลังจากที่เธอได้เจอพี่สาวคนนี้ของหยูชิงในใจของเธอก็รู้สึกไม่สบายอย่างบอกไม่ถูก หลังจากนั้นในตอนที่หยูชิงวิงวอนขอร้อง หลู่เหม่ยเฉินก็ไม่ได้สนใจ แต่ตรงขึ้นไปเดินเล่นที่ชั้นเจ็ด หยูชิงก็นั่งดื่มชากับพี่สาวอยู่ในห้อง

ในตอนที่เผชิญหน้าไฟไหม้ เพราะแรงระเบิดน่าหวาดกลัว และลุกลามอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเกิดปรากฏการณ์กาลักน้ำ หยูชิงที่ออกไปดูสถานการณ์ที่หน้าประตู ตกใจจนวิ่งตามผู้คนลงมา

จนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอถึงพบว่าพี่สาวคนนี้ยังอยู่ข้างบน จะว่าไปก็น่าแปลกใจจริง ๆ อยู่ต่อหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่รุนแรงเช่นนี้เธอกลับไม่ได้นึกถึงพี่สาวของตัวเอง จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ถึงนึกขึ้นมาได้?

แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ใครล่ะที่จะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้

“หยูชิง เมื่อกี้เธอโง่ไปแล้วเหรอ? ! พึ่งมาออกเอาตอนนี้?!”

หลู่เหม่ยเฉินอดไม่ได้ เธอตะคอกหยูชิง และหยูชิงรู้สึกไม่ดีอย่างมาก ใบหน้าของเธอแม้จะร้องไห้ก็งดงาม เธอโศกเศร้าเสียใจมาก

หลู่เหม่ยเฉินหันหน้ากลับไปมองตกสำนักงานที่มีควันโขมงลอยออกมา ใบหน้างดงามนั้นอดไม่ได้ที่จะสิ้นหวัง……

ถึงแม้ทุกคนจะช่วยกันดับไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความแรงของไฟลดลง ไฟยังคงลุกโชนไปทั่วทั้งตัวอาคาร

พี่สาวของอยูชิงอยู่ข้างใน มีโอกาสรอดน้อยมา

“ฉันทิ้งพี่ไว้แล้วหนีออกมา เป็นเพียงสัญชาตญาณของมนุษย์เท่านั้น คุณหลู่ฉันผิดไปแล้ว” หยูชิงกล่าวอย่างน่าสงสาร

สายตาของฉินหลั่งในตอนนี้มองไปที่ตัวอาคารที่ไฟลุกโชน “สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือช่วยเขาออกมา”

หลู่เหม่ยเฉินหันหน้ามองไปทางคนอื่น ๆ ที่อยู่ข้างฉินหลั่ง “ทำไมรถดับเพลิงยังไม่มาอีก?”

“วินาทีแรกผมก็โทรหาพวกเขาแล้ว และพวกเขาก็ออกมาตั้งนานแล้ว แต่มีรถBWMคันหนึ่งจอดขวางทางอยู่หน้าปากทาง” หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยก้าวออกมาและกล่าวอย่างตื่นกลัว

หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยกล่าวต่อ “พวกเขากำลังชนรถBWMสีขาวคันนั้นออกจากทาง แต่ต้องใช้เวลาหน่อย”

“รถBWMสีขาว?”

หยูฉิงหยุดร้อง เธอตะลึงงัน “หรือว่าจะเป็นรถของฉัน?”

เธอประหลาดใจ ทำไมรถของเธอถึงได้จอดขวางทางรถดับเพลิงพอดี?

“เธอมันไม่มียารักษาจริง ๆ”

หลู่เหม่ยเฉินตวาดหยูชิง “หยูชิงเธอเป็นอะไรไป ทำไม่ดูไม่เหมือนเธอเลย”

“หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย รีบเร่งพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกครั้ง รถที่จอดขวางทางอยู่ชนออกให้หมด”

“ต้องชดใช้เท่าไหร่ ฉันจ่ายเอง!”

น้ำเสียงของเธอสั่นสะท้าน ชีวิตคนเรื่องใหญ่ จะชักช้าไม่ได้แม้แต่น้อย

“ไม่ทันแล้ว!”

ฉินหลั่งหายใจออกยาว ๆ ครั้งหนึ่ง “ผมจะขึ้นไปอีกรอบ”

“คุณจะขึ้นไปอีกรอบ?”

“ห้ามไปนะ!”

หลู่เหม่ยเฉินยื่นมือออกไปดึงข้อมือของฉินหลั่งไว้ เธอใช้กำลังทั้งหมดที่มี “ฉันไม่อนุญาตให้คุณขึ้นไปอีกรอบ”

“ไม่เป็นไรหรอก ผมช่วยคุณออกมาได้ ก็สามารถช่วยคนอื่นออกมาได้เช่นกัน”

ฉินหลั่งก็ไม่อยากช่วยคนอื่น แต่รู้ว่าจะให้มีคนตายในตึกนี้ไม่ได้ มันไม่เป็นมงคล

ใบหน้างดงามของหลู่เหม่ยเฉินซีดขาว “ห้ามไปนะ!”

สำหรับเธอในตอนนี้แล้ว จะเสียใครไป ก็ไม่อาจที่จะเสียฉินหลั่งไปได้

“ตึก—-”

ฉินหลั่งยื่นนิ้วออกมา ทิ่มลงไปที่จุดจุดหนึ่งบนตัวของหลู่เหม่ยเฉิน

ตัวผู้หญิงอ่อนลงทันที ร่างกายไม่มีแรง ฉินหลั่งยื่นมือออกไปกอดเธอไว้

หลู่เหม่ยเฉินตระโกนอย่างร้อนใจ “ฉินหลั่ง คุณทำอะไรของคุณ?”

“หยูชิง กอดเขาไว้!”

“แค่สองนาทีก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว!”

ฉินหลั่งส่งหลู่เหม่ยเฉินที่อ่อนแรงให้กับหยูชิง จากนั้นก็หมุนตัววิ่งเข้าไปในอาคารที่เปลวไฟกำลังลุกโชน

“ฉินหลั่ง!”

หลู่เหม่ยเฉินกรีดร้องหนึ่งครั้งอย่างอดไม่ได้ อยากจะวิ่งเข้าไปขัดขวางแต่ร่างกายไม่มีแรงเลยแม้แต่น้อย

เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีให้ฉินหลั่งตอนนี้เป็นความรู้สึกแบบไหนกันแน่ แต่ว่าวินาทีที่ฉินหลั่งวิ่งเข้าไป ร่างกายพลันรู้สึกราวกับถูกสูบไปจนหมดสิ้น

มีความคิดหนึ่งกระโดดขึ้นมาในหัวหลู่เหม่ยเฉินเป็นครั้งแรกก็คือเธอสามารถไปตายแทนฉินหลั่งได้

เธอรู้ดี ห้องเก็บของใกล้จะระเบิดแล้ว เงาด้านหลังนี่ อาจจะเป็นการจากลาอย่างตลอดไป

น้ำตาของเธอร่วงลงมาราวกับสายฝนอีกครั้ง

ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ทะลักออกมาในใจของหยูชิง ไม่รู้ว่าเป็นความโมโหหรือตื้นตันใจ

“ผ้าห่ม หมวกนิรภัยและโล่กำบังให้ฉันยืมหน่อย!”

ฉินหลั่งไปเอาเสื้อนวมทหารที่เปียกโชกกับพนักงานรักษาความปลอดภัย และสวมหมวกนิรภัยที่ใช้สำหรับลาดตระเวนยามค่ำคืน จากนั้นก็กดเปิดไฟฉายที่อยู่ข้างบน

หลังจากนั้นก็ถือเอาโล่กำบังและวิ่งเข้า

“พ่อหนุ่มคนนี้ทำไมถึงกลับเข้าไปอีกแล้วละ?”

“เมื่อกี้เขาช่วยประธานลู่ออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วยังเข้าไปช่วยใครอีกล่ะ?”

“ได้ยินว่าพี่สาวของเลขาหยูยังอยู่ข้างใน……”

“พ่อหนุ่มคนนี้กล้าหาญมากจริง ๆ รอดตายมาได้ ยังคงไม่ลังเลที่จะเข้าไปอีกครั้ง”

“ถ้าหากยังไม่แต่งงานล่ะก็ ฉันจะต้องยกน้องสาวของฉันให้แต่งกับเขาอย่างแน่นอน

กลุ่มพนักงานที่มุงดูทอดถอนใจต่อฉินหลั่งรอบหนึ่ง บนใบหน้าของทุกคนล้วนปรากฏความเลื่อมใสศรัทราอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ฉินหลั่งไม่ได้ยินถ้อยคำยกยอเหล่านี้ เขาเพียงแค่ต้องการที่จะรีบไปให้ถึงชั้นสาม และพาคนออกมาก่อนที่ห้องเก็บของจะระเบิด

เปลวไฟในตัวอาคารแรงกว่าเมื่อสักครู่ กว่าจะมาถึงชั้นสามได้ฉินหลั่งใช้เวลาไปสามนาที เสื้อนามทหารที่อยู่บนร่างกายตอนนี้ได้กลายเป็นแผ่นเหยียบรองบันไดไปแล้ว

ควันไปปกคลุมไปทั่วทั้งทางเดิน ยื่นมือออกไปแทบมองไม่เห็นนิ้วมือ ไอความร้อนที่อยู่รอบ ๆ จู่โจมเข้ามาเป็นระยะ ร้ายผ่าวกว่าตอนที่ข้ามาในครั้งแรก

ตอนที่พาหลู่เหม่ยเฉินกระโดดออกไปเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรที่แสดงว่ามีคนอยู่เลย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตะโกนเรียกอีก เขามุ่งหน้าไปที่ห้องประชุม

ในขณะเดียวกัน สายตาเขาก็มองไปที่ห้องเก็บของที่อยู่ตรงข้ามแวบหนึ่ง ประตูนิรภัยได้พังลงแล้ว เปลวไฟกำลังเผากล่อง

สถานการณ์อันตรายอย่างมาก

ฉินหลั่งกัดฟัน เท้าหนึ่งเตะประตูใหญ่ห้องประชุมออก เขาบุกเข้าไปโดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตนเอง……

“ฉินหลั่ง!”

ในเวลานี้ ที่ด้านล่าง หลู่เหม่ยเฉินจ้องมองอาคารและตะโกนเรียกอย่างร้อนใจอยู่ไม่หยุด

“คุณจะต้องไม่เป็นอะไร จะต้องไม่เป็นอะไร”

หากไม่ใช่เพราะทุกคนดึงเธอเอาไว้แน่น เธอก็คงวิ่งตามเข้าไปแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset