รวยชั่วข้ามคืน?！ 611 คลื่นใต้น้ำ

บทที่ 611 คลื่นใต้น้ำ

เห็นได้ชัดว่าหลงเย้นตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าหยางจ้างกั๋วพูดจริงหรือเปล่า

น้ำเสียงของหยางจ้างกั๋วมีร่องรอยของความคลุมเครือ สายตาที่มองเธอมันมีความล้อเล่นแฝงอยู่ด้วย

หลงเย้นรู้ดีอยู่แก่ใจถ้าหากว่าตัวเองพยักหน้า ต่อไปหยางจ้างกั๋วก็จะมารบกวนเซ้าซี้เธออย่างไม่สามารถปฏิเสธได้

นี่เป็นเรื่องที่รู้ดีอยู่แก่ใจแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้และยังเป็นการแลกเปลี่ยนอีกด้วย

เพียงแต่เวลาไม่ปล่อยให้เธอคิดมาก ภายใต้สายตาของสวี่วีเหวินและอิงจิ่งหลิงที่จ้องมองเธอด้วยความเร่าร้อน ในที่สุดหลงเย้นก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น

“คุณชายหยาง โปรช่วยฉินหลั่งด้วย ช่วยพี่ใหญ่ของฉันด้วย…….”

ทันใดนั้นในแววตาของหยางจ้างกั๋วก็ปรากฏให้เห็นถึงความเยือกเย็นที่ไม่มีใครสามารถมองเห็น…….

ในขณะที่ด้านนอกตกอยู่ในความวุ่นวาย ฉินหลั่งกำลังหลับตาลงเพื่อพักสายตาอยู่ในห้องสอบสวน

เมื่อคืนหลังจากที่เขาถูกส่งตัวมาที่นี่ก็ถูกล็อคตัวอยู่ที่ด้านข้าง

ทางตำรวจให้ความสำคัญกับที่เกิดเหตุและคำพูดของพยาน แต่ฉินหลั่งที่เป็นคนเจ้าเรื่องกับถูกมองข้ามอย่างไม่ใส่ใจ

ไม่รู้ว่าเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาหรือพวกเขากำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อไม่ให้ฉินหลั่งพูดโกหก

แต่ไม่ว่ายังไงทั้งคืนไม่มีใครสนใจเขาเลย

ฉินหลั่งก็ไม่ได้ใส่ใจเขานอนหลับอย่างสบายใจทั้งคืน หลังจากนั้นก็เริ่มคิดวิเคราะห์พิจารณาเรื่องทั้งหมด

ในมุมมองของเขามั่นใจมากว่าเมิ่งเหมิงเหมิงเป็นคนรนหาที่ตายเองและไม่ได้เป็นเพราะตัวเองพลั้งมือ ฉินหลั่งรู้ดีเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำซ่อนอยู่

นี่เป็นเหตุผลที่เขายังคงรออยู่ในคุก ถ้าหากเขาคิดจะหลบหนี ถึงแม้ว่าจะเป็นคุกสิบแห่งก็ไม่สามารถขังเขาไว้ได้

เพียงแต่ว่าถ้าหากเขาแหกคุกตอนนี้ เกรงว่าต่อไปมีเรื่องมากมายที่ไม่สามารถทำอย่างเปิดเผยแล้ว อย่างเช่นพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ อย่างเช่นคลินิก…….

เขาพยายามนึกย้อนถึงจุดสำคัญของเรื่องนี้

ในที่สุดฉินหลั่งก็ตัดสินใจ วินาทีที่เขารับช่วงร้านยาปุ่นฉ่าวก็มีคนต่อต้านเขาและวางเกมนี้เอาไว้แล้ว

เมิ่งเหมิงเหมิงอาศัยบุญคุณความแค้นมาท้าทายร้านยาปุ่นฉ่าวครั้งแล้วครั้งเล่า จุดประสงค์ก็เพื่อกระตุ้นให้ฉินหลั่งสูญเสียสติสัมปชัญญะจนต้องไปคิดบัญชีกับเขาถึงที่ หลังจากนั้นการตายของเขาจะนำหายนะมาสู่ตัวของฉินหลั่ง

สามารถจินตนาการได้เลยว่าเมิ่งเหมิงเหมิงต้องมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ใช้วิธีการที่รุนแรงและโหดร้ายแบบนี้มาสร้างความวุ่นวายให้กับฉินหลั่ง

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการตายของเมิ่งเหมิงเหมิงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงคิดจะลากผู้เคราะห์ร้ายไปด้วยอีกคน

ฉินหลั่งไม่เข้าใจ ตระกูลเมิ่งแปลกประหลาดมากไม่เคยใช้ตัวแทนมาก่อนเลย พวกเขามักจะทำทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างเช่นเมิ่งฮุ่ยเสียนพยายามดันตัวเองให้ไปอยู่ในแนวหน้าเพื่อเป็นนักฆ่า สุดท้ายมีความเป็นไปได้มากที่เกือบจะถูกเมิ่งเหมิงเหมิงฆ่าปิดปาก

มันช่างเป็นคู่ลูกพี่ลูกน้องที่ประสาทมา บนโลกนี้ไม่มีคนที่สองอีกแล้ว

แผนการที่พวกเขาวางแผนก่อนหน้านี้มีความละเอียดอ่อนมาก

ตั้งแต่ตาแก่ร่างผอมฆ่าตัวตายโดยการกินยาพิษ ชายร่างใหญ่กำยำถูกวางยาพิษพร้อมกัน ต่อมาก็เป็นการท้าทายที่ล้มเหลวของหมอทั้งแปด สุดท้ายก็มาถึงเรื่องของคนขับรถพุ่งตรงเข้ามาชนใส่คลินิกชนคนได้รับบาดเจ็บ

ทุกย่างก้าวของพวกเขาเป็นเรื่องเล็กที่ไม่ควรจะเอ่ยถึงแต่ไปเป็นตามขั้นตอนทีละก้าว มันค่อยๆกระตุ้นความโกรธของฉินหลั่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการสร้างบุญคุณความแค้นครั้งใหม่ของฉินหลั่งและเมิ่งเหมิงเหมิง

เมื่อเป็นแบบนี้หลังจากที่เมิ่งเหมิงเหมิงตาย ทางตำรวจเข้ามาตรวจสอบ แรงจูงใจการฆ่าคนของฉินหลั่งก็จะบรรลุผล

สิ่งที่ทำให้ฉินหลั่งรู้สึกเหนื่อยใจนิดหน่อยก็คือ เงามืดที่อยู่เบื้องหลังยังตั้งใจทำให้เมิ่งเหมิงเหมิงตายในงานเลี้ยง ทำให้เขากับตระกูลที่อยู่ในเมืองหลินอานเกิดความไม่ลงรอยไปต่างๆนาๆ

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจในตัวฉินหลั่งมาก?

ถ้าหากเข้าใจมาก ตอนที่รู้ว่าฉินหลั่งไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้ มีความเป็นไปได้พวกเขาจะให้ความสำคัญและต่อกรกับฉินหลั่งโดยยกให้เขาเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด

เพราะการโต้กลับของฉินหลิงจะต้องทำให้ถึงขั้นฟ้าถล่มดินทลายอย่างแน่นอน บางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่าตัวเองกำลังไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรจะไปยุ่งด้วย

ฉินหลั่งค่อยๆลืมตาขึ้น “เกมนี้ส่งผลกระทบต่อตระกูลเมิ่ง ตระกูลเสี้ยง และยังมีพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ พี่เหลิ่ง หมอเทพสวี่ หลินอาน และอาจจะมีกลุ่มอิทธิพลอื่นอีกมากมาย……เป็นแผนการที่ไม่ใช่ย่อย……”

“เตรียมตัวอธิบายเถอะ!”

ในตอนนั้นเองประตูห้องถูกเปิดออก มีชายสองหญิงหนึ่งในเครื่องแบบเดินเข้ามา พวกเขานั่งลงตรงข้ามของฉินหลั่ง

“อายุยังน้อยก็โหดร้ายป่าเถื่อนได้ขนาดนี้ รู้สึกผิดต่อหลงเย้นบ้างหรือเปล่า?”

ก่อนที่ฉินหลั่งจะมองพวกเขา ผู้หญิงที่คิ้วคมเข้มก็พูดด้วยใบหน้าที่เย็นชา “ลืมบอกไป ฉันเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยของหลงเย้น ฉันชื่อข่งซิงน่าเป็นหัวหน้าหน่วยย่อย”

“ก่อนที่ฉันจะเข้ามาหลงเย้นโทรศัพท์มาหาฉัน บอกให้ฉันดูแลนายให้ดี อย่าปล่อยให้ต้องลำบาก”

“นายดูสิ นายทำร้ายเธอมากขนาดนี้และยังสร้างปัญหาใหญ่มากมาย แต่เธอก็ยังช่วยนาย”

“ขอพูดนอกประเด็นหน่อย ตกลงพวกนายมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”

“ไนท์คลับเพิ่งจะเปิดกิจการได้เดือนกว่า เพราะนายฆ่าคนจึงต้องปิดกิจการไปชั่วคราว”

“ดังนั้นถ้าหากตอนนี้นายยังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง งั้นก็ช่วยอธิบายให้พวกเราอย่างตรงไปตรงมา”

เธอมองฉินหลั่งด้วยสายตาที่อยู่เหนือกว่า “สารภาพวิธีการฆาตกรรมของนายออกมาให้หมด”

เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของหลงเย้น?

ฉินหลั่งชำเลืองมองข่งซิงน่าหลังจากนั้นก็ยิ้มอย่างเย็นชา “ถ้าผมจะบอกว่าผมไม่ได้ฆ่า เขารนหาที่ตายเองคุณเชื่อหรือเปล่า?”

ชายสูงอายุคนหนึ่งผงะไปชั่วขณะ หลังจากนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชา “สายตาหลายสิบคู่จ้องมองอยู่ แกคิดว่าพวกเขาตาบอดหรือยังไง?”

ฉินหลั่งพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ตาไม่ได้บอด แค่อุทานเรื่องราวไปเองบวกกับมีจุดยืนที่ต่างกัน”

“ยังจะเล่นลิ้นอีกใช่หรือเปล่า?”

ชายหนุ่มทรงลานบินคนหนึ่งตบโต๊ะ “พวกเราได้ทำการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว สร้างความวุ่นวาย ทำร้ายคน ฆ่าคน ทั้งหมดนี้แกเป็นคนทำ”

“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่พวกคุณ”

ฉินหลั่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย “สำหรับผมไม่มีอะไรให้รู้สึกผิด”

“ไม่มีอะไรให้รู้สึกดี?”

“คำให้การทุกคนเป็นเสียงเดียวกัน หลงเย้นก็เห็นว่าพวกนายมีความขัดแย้งกัน นายเล่นลิ้นแบบนี้มีความหมายอะไร?”

ใบหน้าที่สวยงามของข่งซิงน่าเคร่งขรึมลง “ฉินหลั่งตอนนี้โทษของนายหนักมากและมีชื่อเสียงที่ไม่ดี ถ้านายยังไม่ไขว่คว้าโอกาสนี้ก็อย่าเสียใจทีหลัง”

พวกเขาล้วนแต่ได้รู้เรื่องทั้งหมดมาจากข้อมูลเบื้องต้น ฉินหลั่งและเมิ่งเหมิงเหมิงทั้งสองคนแตกต่างกันมาก

พรรคพวกของเมิ่งเหมิงเหมิงล้วนแต่เป็นลูกหลานคนรวย พวกเขาไม่มีอะไรทำถึงขั้นมาให้ร้ายคนที่ด้อยกว่าพวกเขาทำไม?

ฉินหลั่งไม่ได้โต้แย้งกับพวกเขา “ผมขอโทรศัพท์ก่อน”

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว!”

ช่งซิงน่าพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็น “ตอนนี้อยู่ในช่วงของการสอบสวน โทรศัพท์บ้าบออะไร?”

“ผมเคยบอกไปแล้วเมิ่งเหมิงเหมิงเป็นคนโดดลงไปเอง ไม่ใช่ผมเป็นคนโยนเขาลงไป”

ฉินหลั่งมองข่งซิงน่าแล้วพูด “ความจริงผมก็พูดไปทุกอย่างแล้ว จะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็เรื่องของพวกคุณ”

“ตอนนี้ผมต้องการโทรศัพท์ นี่เป็นสิทธิ์ในฐานะพลเมืองของผม”

“ก่อนที่หลักฐานทั้งหมดจะได้รับการยืนยันพวกคุณไม่มีสิทธิ์มาจำกัดเสรีภาพในการสื่อสารของผม ”

เขาพูดเสริม “ไม่งั้นผมสามารถร้องเรียนคุณได้”

“ความรู้ทางด้านกฎหมายใช้ได้ แล้วยังจะทำผิดกฎหมายอีก?”

ข่งซิงน่าหลุดหัวเราะออกมา “ฉันจะบอกให้ ถึงแม้นายจะมีความรู้ด้านกฎหมายมากกว่านี้ แต่ครั้งนี้ยังไงนายก็หนีไม่พ้นข้อกล่าวหา”

“นายอย่าคิดว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลงเย้น แล้วฉันจะคอยปกป้องนาย”

“ฉันจะบอกให้ ฉันข่งซิงน่าไม่มีทางปกป้องนาย มีแต่จะบังคับใช้กฎหมายลงโทษนายอย่างหนัก”

“มีแต่แบบนี้เท่านั้นที่จะแสดงความรับผิดชอบต่อประธานหลงและต่อนายได้!”

ข่งซิงน่าทำท่าทางเหมือนคนที่มีคุณธรรมสูง คิดจะตัดความคิดของฉินหลั่งที่จะพึ่งพาตัวเธอ

“คุณไม่สามารถเป็นคนที่จะปกป้องผมได้หรอ”

ฉินหลั่งพูดยังไม่ใส่ “ผมขออีกครั้ง ผมต้องการโทรศัพท์”

“ฮื่มๆ ฉันเป็นคนที่ปกป้องนายไม่ได้ พูดเหมือนกับว่านายเป็นคนที่มีความสามารถมากเลยนะ”

ข่งซิงน่ารู้สึกโกรธจนหัวเราะ “โทรเถอะ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายจะสามารถหาคนแบบไหนมาปกป้องได้”

เธอโยนโทรศัพท์ของตัวเองไปให้ฉินหลั่ง

ทั้งตัวเต็มไปด้วยสินค้าแผงลอย ยังจะมาขี้โม้ต่อหน้าเธออีก แบบนี้มันไม่น่าขำไปหน่อยเหรอ?