รวยชั่วข้ามคืน?! 594 ผู้บริหารฉินคนสำคัญ

ตอนที่ 594 ผู้บริหารฉินคนสำคัญ

บทที่ 594 ผู้บริหารฉินคนสำคัญ

หยูนชิงชิงหน้าซีดขาว เธอคิดไม่ถึงว่าเรื่องในคืนนี้มันจะบานปลายได้ขนาดนี้

เพียงแต่ว่าเรื่องนี้เธอย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ จะโทษฉินหลั่งไม่ได้เพราะผู้จัดการจี้เป็นคนสร้างปัญหาก่อน

เธอรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้น “ผู้จัดการจี้ ถึงแม้ว่าฉินหลั่งจะวู่วามเกินไปแต่เขาไม่ผิด”

“หยูนชิงชิงเธอมันไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ฉันจะบอกให้ ฉันจะไปกดดันยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สให้พวกเขาทำให้เธอถูกสั่งแบน”

จี้หงชวนเผยให้เห็นถึงแววตาที่เย็นชาและใบหน้าที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “คราวนี้เธอจบแน่!”

เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะไม่สามารถเหยียบฉินหลั่งให้จมดินได้

ฉินหลั่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “คุณก็จบแล้วเหมือนกัน……”

“ฮ่าๆๆๆ——”

เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้จี้หงชวนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับแววตาเต็มไปด้วยความดูถูก

“นายคงบ้าไปแล้วมั้ง?”

“เขาคือผู้จัดการจี้ คนสำคัญของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินและยังเป็นคนของตระกูลจี้แห่งเย็นจีน!”

“นายมันก็แค่ไอ้คนไร้อนาคต ว่าเขาจบแล้วล้อเล่นหรือเปล่า?”

“ตกลงรู้จักคำว่าผู้จัดการจี้หรือเปล่า?”

ผู้คนหลายสิบคนหัวเราะเยาะฉินหลั่ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกว่าเขาคิดตื้นเกินไป

สีหน้าของหยูนชิงชิงเย็นชาลง “พวกคุณหุบปากให้หมด”

ฉินหลั่งพูดติดตลก “หลงตูเป็นเมืองเสือซ่อนเล็บมังกรซ่อนรูป นับประสาอะไรกับแค่ผู้จัดการคนเดียว”

“คำพูดอวดดีใช้ได้”

ซุนหงอี๋ที่มองอยู่ด้านข้างด้วยสายตาที่เย็นชาหัวเราะ “ไม่ ไร้เดียงสาต่างหาก ฉันอยู่มาตั้งหลายปีนี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนไร้เดียงสามากขนาดนี้”

“ฟังจากคำพูดของแกแล้วหมายถึงแกมีปัญญาเหยียบฉัน?”

จี้หงชวนลูบใบหน้าที่ปวดของตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเย็นชา

ฉินหลั่งพยักหน้า “เหยียบคุณไม่ต่างอะไรกับเหยียบหมาตัวหนึ่ง”

ผู้จัดการจี้หันไปมองหยูนชิงชิงแล้วพูด “หยูนชิงชิง เธอแน่ใจนะว่าเพื่อนของเธอสมองไม่ได้มีปัญหา?”

แล้วหันไปตะคอกใส่ฉินหลั่ง “ลองมาเหยียบฉันดูหน่อย?”

ซุนหงอี๋และเพื่อนผู้หญิงคนอื่นของเธอเอามือปิดปากแล้วหัวเราะ ทุกคนรู้สึกว่าฉินหลั่งหยิ่งยโสเกินไป

ฉินหลั่งไม่พูดมากเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา “”ฉันจะเหยียบผู้จัดการจี้ ไล่เขาออกเดี๋ยวนี้……

มองดูท่าทางที่กำลังโทรศัพท์ของฉินหลั่ง จี้หงชวนและคนอื่นๆหัวเราะไม่หยุด

ซุนหงอี๋ก็เผยให้เห็นถึงสายตาที่ดูถูกเช่นกัน เพียงแค่หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรก็สามารถไล่จี้หงชวนที่มีอิทธิพลด้านมืดและขาวออก?

นี่มันเรื่องไร้สาระสิ้นดี

เธออยู่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินมาตั้งหลายปีไม่เคยเห็นเรื่องบ้าบอคอแตกแบบนี้มาก่อน

สีหน้าของหยูนชิงชิงยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อในตัวของชิงหลั่งแต่รู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไป

ฉินหลั่งสามารถจัดแจงคนของบริษัทบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินได้ตามใจชอบ?

สามารถไล่เจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างผู้จัดการจี้ออกได้?

“เด็กน้อยฉันจะให้เวลาแก ฉันจะรอแกไล่ฉันออก”

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจี้หงชวนกำลังรอดูฉินหลั่งกลายเป็นตัวตลก เขาลูบหน้าของตัวเองพร้อมกับจะยิ้มไม่ยิ้ม “ดูซิว่าแกจะทำอะไรฉันได้”

เขาหยิบบุหรี่ซิก้าขึ้นมาจุดพร้อมกับหันไปมองหยูนชิงชิง “หยูนชิงชิง เดิมทีฉันก็รู้สึกว่าเธอเป็นคนที่ใช้ได้ อยากจะช่วยเธอเกี่ยวกับเรื่องของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังสักครั้ง”

“แต่วันนี้เธอทำให้ฉันรู้สึกผิดหวัง”

“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปไม่เพียงแต่ฉันจะยุยงให้ประธานหลู่ฟ้องร้องบริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังให้ถึงที่สุด และยังจะจัดการแถลงข่าวความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของเธอกับบริษัทอุตสาหกรรมไวน์ป้าหวังอีกด้วย”

“และฉันถึงขั้นจะใช้เส้นสายทำให้ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์สไล่เธอออก”

“พวกเธอรอต้อนรับความซวยได้เลย”

“ฉันไม่แสดงฤทธิ์ ก็เห็นฉันเป็นแค่แมวป่วย”

คำพูดประโยคนี้ทำให้พวกซุนหงอี๋มองหยูนชิงชิงด้วยความสะใจที่จะได้เห็นหายนะของเธอ

ไม่แน่อีกไม่กี่วันข้างหน้าหยูนชิงชิงอาจจะกลายเป็นของเล่นที่รอให้ผู้อื่นมาเหยียบซ้ำ

เพราะยังไงจี้หงชวนก็เป็นถึงคนที่มีอิทธิพลด้านมืดและขาว

ฉินหลั่งจับมือของหยูนชิงชิงเพื่อบ่งบอกว่าสบายใจได้ “วางใจได้ คนที่ซวยต้องไม่ใช่เธอ”

“ปัง—–”

ในตอนนั้นเองประตูห้องของงานเลี้ยงทุกคนเปิดออกพร้อมกับกลุ่มคนชายหญิงหลายสิบคนที่ดูไม่ธรรมดาเดินเข้ามา

คนที่เดินอยู่ด้านหน้าสุดก็คือหลู่เหม่ยเฉิน

เมื่อเทียบกับภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนและเป็นผู้หญิงต่อหน้าฉินหลางแล้ว คืนนี้หลู่เหม่ยเฉินดูเย็นชาและน่ากลัวกว่ามากโดยใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มเลยสักนิด

“ประธานหลู่ คุณมาแล้ว?”

จี้หงชวนไม่สนใจใบหน้าที่กำลังเจ็บปวดรีบเดินเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้ม “มาได้พอดีเลย มีไอ้เวรคนหนึ่งมาก่อกวนงานเลี้ยง”

พวกซุนหงอี๋ก็พยักหน้าเช่นกัน “สวัสดีประธานหลู่”

“เพี๊ยะ”

หลู่เหม่ยเฉินก้าวมาข้างหน้าแล้วตบหน้าของจี้หงชวน

เสียงดังฟังชัด จี้หงชวนเซถอยหลังและใบหน้าของเขาบวมขึ้นมาอีกเล็กน้อย

“จี้หงชวน คุณถูกไล่ออกแล้ว”

หลู่เหม่ยเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็น “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินขอยกเลิกสัญญาทั้งหมดที่ทำกับคุณ”

ร่างกายของจี้หงชวนสั่นสะท้านหลังจากนั้นก็พูดด้วยความโกรธ “ไล่ผมออก?”

“ประธานหลู่ เพราะอะไร?”

พวกซุนหงอี๋ก็รู้สึกตกใจเช่นกัน ชั่วขณะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“ก็เพราะคุณไปสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่ไม่ควรไปยุ่งด้วย”

หลู่เหม่ยเฉินโยนภาพลักษณ์ของกระต่ายน้อยทิ้งไปแล้วแสดงให้เห็นถึงสไตล์ของหญิงแกร่ง “ฉันขอแนะนำอย่างเป็นทางการให้ทุกคนรู้จัก”

“ฉินหลั่งคือผู้บริหารกิตติมศักดิ์ของบริษัทบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน โดยทั่วไปแล้วเขาจะไม่เข้ามาแทรกแซงเรื่องภายในของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน แต่เมื่อไหร่ที่ถามหาขึ้นมาการตัดสินใจของเขาจำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด”

“ใครที่เสียมารยาทกับผู้บริหารฉินก็เหมือนกับเสียมารยาทกับฉัน”

เธอพูดประกาศยังเปิดเผย “ผู้บริหารฉินต้องการไล่ใครออกฉันก็จะไล่คนนั้นออก”

“หา——”

เมื่อได้ฟังคำพูดประโยคนี้ทุกคนถึงกับอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกันและหันไปมองฉินหลั่งด้วยความประหลาดใจ

ไอ้บ้านนอกคนนี้ได้รับความเคารพจากหลู่เหม่ยเฉินถึงขนาดยกให้เขาเป็นถึงผู้บริหารกิตติมศักดิ์

ทุกคนย่อมรู้ดีผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารกิตติมศักดิ์อะไรพวกนี้ นั่นหมายถึงบุคคลเก่าแก่ที่ทางบริษัทให้ความสำคัญหรือผู้ที่ให้การสนับสนุนบริษัทเพื่อใช้มาข่มขวัญบริษัทคู่แข่ง

นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก

แต่ว่าความจริงมันก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคนแล้ว

การแสดงออกของหลู่เหม่ยเฉินบ่งบอกทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

หลู่เหม่ยเฉินเวลาอยู่ในบริษัทเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเองและไม่เห็นใครอยู่ในสายตา

แต่เมื่อยืนอยู่ข้างกายของฉินหลั่งกลับไม่หลงเหลือความเย่อหยิ่ง ในทางกลับกันยังแสดงให้เห็นถึงความเชิดชูและปกป้องอีกด้วย

จี้หงเฉินคราวนี้ถือว่าจบสิ้นแล้ว

จบแล้ว จบแล้ว

สีหน้าของจี้หงเฉินดูน่าเกลียดมาก คิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะเป็นคนที่เจ๋งมากขนาดถึงขั้นทำให้หลู่เหม่ยเฉินต้องทำตาม

บุคลากรสำคัญของบริษัทหลายสิบคนก็มองตาค้างเช่นกัน มันยากที่จะเชื่อ ใครจะไปรู้ว่าฉินหลั่งสามารถไล่จี้หงชวนออกจริงๆ

หยูนชิงชิงก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน ฉินหลั่งมักจะทำให้เธอคาดไม่ถึงอยู่บ่อยๆ

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์เผยให้เห็นถึงความรู้สึกหวาดกลัวที่มีต่อฉินหลั่ง

เพียงแต่ว่าฉินหลั่งก็ดูสับสนมึนงงไม่เข้าใจ เขากลายมาเป็นผู้บริหารกิตติมศักดิ์ของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินตั้งแต่เมื่อไหร่ แบบนี้ก็เท่ากับว่าต่อไปเขาฉินหลั่งต้องมีส่วนร่วมกับบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน

น่ารำคาญ เขาไม่เคยตอบตกลงด้วยซ้ำ นี่หลู่เหม่ยเฉินกำลังจับเขาขึ้นคันธนูแล้วค่อยว่ากัน

ในขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธอย่างหัวชนฝา แต่ในตอนนั้นเองก็มีคนเสนอหน้าขึ้น

“ผู้จัดการจี้ไม่ได้ทำอะไรผิดก็แค่พูดมากไปหน่อย แต่ผู้บริหารฉินลงมือทำร้ายคน ประธานหลู่ไล่เขาออกแบบนี้มันไม่ยุติธรรม”

ซุนหงอี๋นอกจากเป็นพวกเดียวกับฉินหลั่ง ยิ่งไม่พอใจที่ฉินหลั่งมองพวกเธอด้วยสายตาที่ดูถูก “ถ้าหากประธานหลู่ยืนยันจะไล่ผู้จัดการจี้ออก งั้นก็ไล่ฉันออกไปด้วยเถอะ”

“แต่ว่าประธานหลู่คิดจะทำอะไรต้องไตร่ตรองให้ดี……”

“ตอนนี้บริษัทมีเรื่องสำคัญมากมาย……”

“ไม่มีฉันกับผู้จัดการจี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขายหรือวิจัยพัฒนารวมไปถึงชื่อเสียงและความเชื่อมั่นของบริษัทจะต้องดิ่งลงสู่เหวแน่นอน”

“ถึงเวลานั้นไม่ต้องพูดถึงกำไรหนึ่งพันล้านแค่สามารถประคองให้บริษัทไม่ขาดทุนก็ถือว่าดีมากแล้ว”

เธอเป็นพนักงานเก่าแก่และยังเป็นถึงฝ่ายพัฒนาและวิจัยหลักของบริษัท เธอรู้สึกว่าตัวเองมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะต่อรอง

“ขู่ฉันเหรอ?”

หลู่เหม่ยเฉินหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หลังจากนั้นก็พยักหน้าให้ซุนหงอี๋ “ได้ ฉันจะทำให้คุณสมปรารถนาไล่คุณออกด้วยอีกคน”

“จี้หงชวนและซุนหงอี้ไม่ใช่คนของบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินอีกต่อไป เชิญพวกคุณส่งมอบงานแล้วไปได้”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset