รวยชั่วข้ามคืน?! 535 กำแพงเมืองจีนโบราณ

ตอนที่ 535 กำแพงเมืองจีนโบราณ

บทที่ 535 กำแพงเมืองจีนโบราณ

ฉินหลั่งนอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากการนอนเลยแม้แต่น้อย

มาถึงเขตแดนเขา การได้นอนแค่2-3ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว

บ่ายวันถัดมา ฉินหลั่งไปกำเพียงเมืองจีนคนเดียว

ส่วนนี้ของกำแพงในวันธรรมดามีนักท่องเที่ยวน้อยมาก ดูร้างหน่อยๆ ทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้ทำการบำรุงรักษามากนัก

อาจเพราะเป็นฤดูหนาว เลยไม่มีนักท่องเที่ยวแม้แต่คนเดียว

สายลมจากภูเขาพัดผ่าน การจู่โจมก็เข้ามา

ฉินหลั่งเดินรอบๆป้อมปราการ จากนั้นก็นั่งลงแล้วปรับลมหายใจ

เขาออกมาเร็วมาก ไม่เหมือนที่จ้านอู๋หยาครั้งที่แล้ว ที่โกลาหลกันเป็นเวลานาน ครั้งนี้เขานังบนกำแพงเมืองจีน พลางมองพระจันทร์สีเลือดนั่น

จู่ๆก็รู้สึกเบื้องหน้ามองไม่เห็นอะไร ย้อนกลับไปไม่เห็นผู้ใด มีเพียงโลกที่ไร้ที่สิ้นสุด และรู้สึกโดดเดี่ยว

ความรู้สึกแบบนี้คงคล้ายกับแสงสว่างของอาจารย์ยายทุกยุคทุกสมัยที่สาดส่องมา

ตนเพียงสืบทอดศิลปะการต่อสู้ที่คิดค้นจากอาจารย์ยาย แต่อาจารย์ยายเป็นผู้บุกเบิกที่ทำให้มีวันนี้

เขาออกมาก่อนเวลา หนึ่งเพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกอาจารย์ยาย สองเพื่อสร้างภาพลวงตา ให้เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเข้าใจผิด คิดว่าเขาวิตกมากๆ

ด้านยุทธศาสตร์สบประมาทคู่ต่อสู้ ด้านกลยุทธ์ต้องให้ความสำคัญกับศัตรู ครั้งนี้ฉินหลั่งประมาทเลย

คิดไม่ถึง ฉินหลั่งเพิ่งนั่งสมาธิได้แค่15นาที ด้านล่างกำแพงจะมีเสียงคำรามดัง พลางขับขบวนรถเข้ามา

เมื่อเปิดประตูรถ จั่วเฉินบิงก็ปรากฏตัวพร้อมเหล่าลูกศิษย์ของแผนกบังคับใช้กฎหมาย

“ฉินหลั่ง!ฉินหลั่ง!ฉินหลั่ง!”

จั่วเฉินบิงออกมาจากรถก็เห็นฉินหลั่งทันที จึงตะโกนขึ้นด้วยความเดือดดาล:“ฉันจะฆ่าแก ฉันจะฆ่าแก ”

เขากลับสำนักใหญ่ได้ไม่กี่วัน พันธมิตรศิลปะการต่อสู้แห่งเย็นจีนไม่เพียงเปลี่ยนเจ้าของ จั่วหู่ลูกชายแท้ๆของตนก็ตายด้วยเช่นกัน

ไม่ว่ายังไงเขาก็จะฆ่าฉินหลั่งให้ได้ ลูกน้อง2-3คนขวางเขาไว้ไม่ให้วู่วาม

“จั่วเฉินบิง คุณไม่ต้องรีบรนหาที่ตายหรอก”

ฉินหลั่งพูดกับจั่วเฉินบิงพลางเบิกตาโต:“รอให้ผมจัดการเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเสร็จ คุณค่อยตายก็ยังไม่สาย”

“ไอ้หมอนี่!ไอ้หมอนี่!”

จั่วเฉินบิงพูดคอขึ้นเอ็น:“ฉันจะบอกแกให้ วันนี้ไม่ว่าแกจะตายหรือไม่ ฉันก็จะเอากระดูกแกไปเผาให้เป็นเถ้าถ่าน”

เขาไม่ได้นอนทั้งคืน พอหลับตาก็เห็นภาพร่างของจั่วหู่ร่วงลงมาจากกำแพง ใจแทบจะขาด

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจ ว่าฉินหลั่งเอาความกล้ามาจากไหน มาเป็นปฏิปักษ์กับแผนกบังคับใช้กฎหมาย และเอาพลังจากไหนมาฆ่าจั่วหู่?

“เกรงว่าจะไม่มีโอกาสนั้นนะ”

ฉินหลั่งพูดทั้งที่ไม่ลืมตา:“แต่ถ้าเป็นคุณ ผมจะให้คุณไปอยู่กับจั่วหู่”

“ฮ่าๆๆ……”จั่วเฉินบิงเดือดมากแต่ก็ยังหัวเราะ:“พ่อหนุ่ม บ้าดีจริงๆ ฉันจะให้แกมีชีวิตต่ออีกสัก1ชั่วโมง ดูซิว่าคุณเสี่ยวฉวนจะฆ่าแกยังไง”

เขาระงับความคิดที่จะฆ่าฉินหลั่งในตอนนี้ เพื่อไม่ให้พอลงมือฉินหลั่งก็ตายไปซะก่อน จากนั้นใช้โอกาสนี้ยกเลิกศึก

“แปะๆ—-”จั่วเฉินบิงปรบมือเสียงดัง จากนั้นรถบรรทุกด้านหลังก็ขับมาจอดด้านหน้า เปิดประตูตู้ ด้านในเป็นโลงศพสีดำสนิท

“ฉินหลั่ง เห็นรึยัง นี่เป็นโลงศพที่ฉันซื้อให้แก”

“พอแกตายแล้ว ฉันจะสับแกเป็นชิ้นๆแล้วยัดลงโลงด้วยมือของฉันเอง”

“จากนั้นเผาแกให้เหมือนเนื้อย่าง ให้เหล่าเพื่อนพี่น้องแกลิ้มรส”

ฉินหลั่งทำให้จั่วเฉินบิงโกรธมากอย่างเห็นได้ชัด หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง แล้วพูดอย่างดุเดือด:“ฆ่าลูกชายฉัน ฉันจะฆ่าแกทั้งตระกูล”

ฉินหลั่งทำตัวปกติ:“จากสิ่งที่คุณพูด ผมจะฆ่าคุณแน่ๆ”

“ไอ้สารเลว!”

“ใครให้แกกล้าพูดคำพวกนี้?”

ทันใดนั้นเอง บนกำแพงเมืองจีนก็มีชายหญิงชุดจีนจำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เครื่องแต่งกายงดงาม ท่าทางไม่ธรรมดา แล้วยังมีบอดี้การ์ดด้วย

คนที่เดินนำมาเป็นผู้ชายผมขาวคนหนึ่ง หน้ากว้างปากใหญ่ ท่าทางน่าเกรงขาม ดูรวยมาก

และเขาก้ท่าทีเย็นชาลงทันที พลางตำหนิฉินหลั่ง:“ฉินหลั่ง แกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงมาทำศึกโดยพลการ ทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง กับพันธมิตรศิลปะการต่อสู้และการต่อสู้ของจีน”

“ตอนนี้ยังดูหมิ่นพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ พูดเรื่องบ้าๆ ความผิดครั้งนี้มีโทษมหันต์นัก”

“ฉันขอสั่งให้แกรีบขอโทษท่านจั่วเดี๋ยวนี้”

เขาสั่งฉินหลั่ง

ฉินหลั่งมองเขา ไม่ต้องถามก็พอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายคือใคร เสิ่นชิงซานนั่นเอง ที่เป็นผู้นำสังเกตการณ์จากจีนในครั้งนี้

ฉินหลั่งไว้หน้าเช่นเคย:“เขาเอาโลงศพมาแช่งผม ยังให้ผมไขอโทษอีก คุณคิดว่าผมเสียสติไปแล้วเหรอ?”

“มันเหมือนกันยังไง?”

เสิ่นชิงซานสายตาเยือกเย็น:“ศึกครั้งนี้แกแพ้แน่นอน ท่านจั่วเอาโลงศพมาให้แก ก็เพื่อไม่ให้ศพแกโดนสัตว์ป่าทำลาย”

“หรือแกคิดว่าตัวเองยังมีโอกาสชนะอยู่งั้นเหรอ?

ไม่ดูตัวเองหน่อยเหรอว่าเป็นยังไง!”

“แค่ประธานกระจอกๆ มาทำศึกกับปรมาจารย์แดนฟ้าญี่ปุ่น ถ้าไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วจะเรียกว่าอะไร?”

“หนึ่งสัปดาห์ก่อน โดนคุณเสี่ยวฉวนสั่งสอนยังไม่พอเหรอ?

“เขาซัดแกเละได้ด้วยมือเดียว”

“ถ้าวันนี้แกชนะได้ ฉันจะปีนจากตรงนี้ลงไป”

“ยังหนุ่ม ยังหนุ่มน่ะเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าใช้อำนาจบาตรใหญ่ก็ไม่ดีแล้วล่ะ”

เสิ่นชิงซานไม่พอใจที่ฉินหลั่งดูถูกอำนาจของเขาเอามากๆ:“ฉันจะให้โอกาสอีกครั้ง ถ้าแกยังไม่ขอโทษท่านจั่ว ผลที่ตามมารับผิดชอบเองก็แล้วกัน”

นับว่าเสิ่นชิงซานยังมีเหตุผล ไม่ว่าที่เย็นจีนหรือที่อื่น ทุกคนล้วนเคารพเขา แต่ฉินหลั่งกลับไม่รู้ผิดชอบชั่วดี

ผู้หญิง2-3คนที่อยู่ข้างๆก็มองบนใส่ฉินหลั่ง โดนเสี่ยวฉวนอัดซะเละ ยังกล้าเหิมเกริมแบบนี้อีก ไม่มีใครทำแบบนี้แล้วจริงๆ

จั่วเฉินบิงยิ้มหยอกล้อ:“ใช่ ฉันเอาโลงมาให้แกก็ถือเป็นเรื่องดี”

“ฉันใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกคนอื่นหรือไม่นั้นแกคงไม่ต้องยุ่งหรอกนะ?”

ฉินหลั่งมองเสิ่นชิงซานอย่างไม่เกรงใจ:“แล้วก็ เรื่องของฉันไม่ต้องให้แกมาสอด!”

เสิ่นชิงซานได้ยินเช่นนั้นยิ่งดีใจเข้าไปอีก:“ฉินหลั่ง แกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?

“ไม่งั้นใครจะกล้าให้แกพูดกับฉันแบบนี้?”

“เป็นใครแล้วไง”

ฉินหลั่งมองไปที่กลุ่มคนที่ปรากฏตัวบนถนน:“ถ้าคุณไม่มีเหตุผล ผมก็ไม่ฟังคุณหรอก ”

“แล้วก็ผมจะบอกคุณสักคำนะว่า!”

“ไสหัวออกไป!”

เสิ่นชิงซานเดือดมาก:“ดีนี่ๆ ประธานกระจอกกล้าพูดแบบนี้กับฉัน วันนี้ฉันจะดูซิว่าแกน่าเชื่อถือแค่ไหนกัน”

เขาไม่เคยโดนพูดใส่ต่อหน้าคนแบบนี้มาก่อน?

แล้วยังบอกให้เขาไสหัวออกไป?

พันธมิตรศิลปะการต่อสู้มีผู้นำและลูกศิษย์มากมายขนาดนั้น ไม่มีคนไหนที่เห็นเขาแล้วไม่เคารพ?

ตอนนี้ผู้นำคนใหม่ที่เพิ่งดำรงตำแหน่ง เป็นคนที่เคยโดนเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งซัดจนเละ คิดไม่ถึงว่าจะพูดให้เขาไสหัวออกไปต่อหน้าทุกคน แบบนี้?

ถ้าวันนี้ไม่ได้จัดการไอ้หมอนี่ละก็ เสิ่นชิงซานก็จะรู้สึกว่าความแค้นนี้ไม่ถูกทำลาย!เขาพูดกับลูกน้องข้างๆ:“เสี่ยวจาง ตบปาก”

ในขณะนั้นเองจั่วเฉินบิงก็หันมาเห็น แล้วรีบพูดขึ้น:“คุณเสิ่น คุณเสี่ยวฉวนกับคุณจั่วเถิงมาถึงแล้ว”

จั่วเฉินบิงพูดเปลี่ยนเรื่อง แน่นอว่าไม่ใช่เพื่อกู้หน้าให้ฉินหลั่ง เขาเกรงว่าหากลงมือ หลังจากฉินหลั่งโดนเสิ่นชิงซานสั่งสอนแล้ว การประลองอาจโดนยกเลิก ฉินหลั่งก็จะสามารถถอนตัวออกไปได้

“ที่จริงไม่ต้องลำบากคุณเสิ่นหรอก คุณเสี่ยวฉวนจะสั่งสอนฉินหลั่งเอง”จั่วเฉินบิงยิ้มด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

จากนั้นกลัวเสิ่นชิงซานไม่เข้าใจ จึงอธิบายความเก่งกาจให้เสิ่นชิงซานฟัง เสิ่นชิงซานพยักหน้าหงึกๆ เป็นเชิงบอกว่าเข้าใจความคิดของจั่วเฉินบิง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset