รวยชั่วข้ามคืน?！ 286 สองฝ่ายตกลงการต่อสู้

บทที่ 286 สองฝ่ายตกลงการต่อสู้

“ ผมคิดว่าคุณจงและคุณท่านจงเข้าใจแล้วว่าเราหมายถึงอะไรเมื่อวานนี้” ซ่งอวี่พูดขณะมองไปที่จงจิ่วเจิน

“ ผมจะพูดให้ชัดเจนตอนนี้”

ซ่งอวี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ตระกูลซ่งของเราต้องการควบคุมพื้นที่ใต้ดินของเย็นจีน และตอนนี้เราต้องการต่อสู้กับตระกูลจงของคุณ เราเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องตัดสินว่าพื้นที่ใต้ดินเย็นจีน ใครคือเจ้าเหนือหัว!”

จงจิ่วเจินตะคอกเบา ๆ และถามว่า “คุณคิดว่าตระกูลซ่งของคุณมีความสามารถนี้หรือ”

“แน่นอน”

ซ่งอวี่ยักไหล่เล็กน้อยและพูดง่ายๆว่า:

“ ถ้าเราไม่มีความสามารถ เราคงไม่เลือกโอกาสนี้เปิดไพ่ ถ้าพ่อและลูกตระกูลจงคิดว่า ตระกูลซ่งของเราไม่เข้มแข็งพอก็ไม่เป็นไร เรามาต่อสู้กันสักครั้ง และทุกอย่างจะชัดเจนในตอนนั้น”

ท่าทางการพูดของซ่งอวี่ดูเหมือนจะไม่สนใจจงจิ่วเจิน

“คุณซ่ง คุณปากไวแบบนี้อาจจะไม่ดีนะ!” จงเส่นซานกล่าว มีบางสิ่งที่พ่อของเขาไม่เหมาะที่จะพูด ดังนั้นเขาในฐานะลูกชายจึงต้องพูดแทน

ในเวลานี้เขาไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับซ่งอวี่อีกต่อไป

“ คุณท่านจง การต่อสู้ระหว่างตระกูลซ่งกับตระกูลจงในครั้งนี้ ท่านต้องการใช้รูปแบบใด” ซ่งอวี่ไม่ได้แยแสคำประชดประชันของจงเส่นซาน เขามาที่นี่เพื่อเจรจา

“พ่อของคุณ ได้คิดเรื่องนี้แล้วใช่ไหม บอกมาสิ!” จงจิ่วเจินกล่าว

เขารู้ดีว่าหากซ่งจงผิงไม่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน เขาก็คงไม่ส่งลูกชายของเขามาประจันหน้ากับตน

ไม่เสียแรงที่จงจิ่วเจินเป็นมือเก่าในสังคม ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ทันพ่อของเขาทุกอย่าง ซ่งอวี่แอบชื่นชมในใจ

“เราได้หาวิธีแก้ปัญหาสามวิธี ฉันจะบอกพวกคุณ และดูว่าพวกคุณต้องการใช้วิธีไหนในการแก้ปัญหานี้” ซ่งอวี่กล่าว

“วิธีแรกคือตระกูลซ่งและตระกูลจง เริ่มการต่อสู้นองเลือดในสังคมอิทธิพลมืดเย็นจีน จนกว่าคนใดคนหนึ่งจะยอมจำนน มิฉะนั้นไม่ตายไม่เลิกรา!” ซ่งอวี่กล่าว

จงจิ่วเจินก็คิดแผนนี้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามในฐานะที่ทั้งสองเป็นกองกำลังที่ทรงพลังที่สุดในสังคมอิทธิพลมืดของเย็นจีน เมื่อทั้งสองฝ่ายเริ่มนองเลือด และไปถึงจุดแห่งความตาย สถานที่หลายแห่งที่ควบคุมโดยทั้งสองฝ่ายจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความตายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเวลานั้นมันจะขยายขอบเขตไปกว้างขวาง ส่งผลกระทบอย่างมาก แม้ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลจงและตระกูลซ่งก็ไม่สามารถระงับข่าวได้

เย็นจีนเป็นเมืองหลวง หากดึงดูดความสนใจจากเบื้องบนแล้ว ทั้งตระกูลจงและตระกูลซ่งมีแนวโน้มที่จะถูกทำลาย

แม้จะไม่ได้รับความสนใจข้างต้น ไม่ว่าใครจะชนะ การสูญเสียจะมากเช่นกัน

สรุปแล้วแผนนี้เป็นแผนที่มีความเสี่ยงสูง และมีแต่เสียกับเสีย

“ยังมีอะไรอีก” จงจิ่วเจินถาม ในฐานะ “ผู้นำ” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก จงจิ่วเจินไม่เลือกทางนี้แน่นอน

“วิธีที่สองคือ การตัดสินชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ผ่าน “การต่อสู้ด้วยศิลปะการต่อสู้”! ตระกูลจงและตระกูลซ่งส่งคนมาทีมละหนึ่งคน คนชนะจะได้เป็นเจ้าเหนือหัวในสังคมอิทธิพลมืดของเย็นจีน” ซ่งอวี่กล่าว

สิ่งที่เรียกว่า “การต่อสู้ด้วยศิลปะการต่อสู้” หมายความว่าทั้งสองฝ่ายส่งนักรบไปต่อสู้เพื่อชีวิตและความตาย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกฆ่าหรือยอมแพ้ การตัดสินคือชัยชนะของนักรบคือชัยชนะของนายจ้าง

วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการแบ่งที่ดินขนาดใหญ่ในขอบเขตใต้ดิน

เป็นเพราะจงจิ่วเจินคิดว่าตระกูลซ่งจะใช้วิธีนี้อย่างแน่นอน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากฉินหลั่ง

“แล้ววิธีที่สามล่ะ” จงจิ่วเจินถาม ในความคิดของเขามีเพียงสองวิธีนี้เท่านั้น จงจิ่วเจินรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีที่สามที่ตระกูลซ่งกล่าวถึง

“มีอยู่แล้ว และฉันคิดว่านี่อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลจง!” ซ่งอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

จงจิ่วเจินมองไปที่ซ่งอวี่รอให้เขาพูดต่อ

“วิธีที่สามคือ … ”

ซ่งอวี่ชะงัก จ้องมองเข้าไปในดวงตาของจงจิ่วเจินและพูดด้วยเสียงต่ำ “ตระกูลจงยอมจำนนและมอบอิทธิพลในมือให้กับตระกูลซ่ง!”

“อะแฮ่ม!”

จงจิ่วเจินโกรธและไออย่างรุนแรง ซ่งอวี่กำลังยั่ว

“พ่อเป็นอย่างไรบ้าง” จงเส่นซานรีบก้มลงตรวจสอบอาการของพ่อ จงจิ่วเจินจับมือเขา

“ซ่งอวี่ คุณไสหัวออกไป!” จงเส่นซานพูดอย่างโกรธ ๆ เขาอยากจะรีบขับซ่งอวี่ออกไป แต่จงจิ่วเจินยกมือขึ้นห้ามเขา ซ่งอวี่เป็นผู้เยาว์และพูดจาหยาบคาย แต่ในฐานะราชาผู้ครองสังคมอิทธิพลมืดของเย็นจีนมานานหลายปี เขาไม่สามารถละความเอื้ออาทรได้

“อย่าเพิ่งตื่นเต้นเลยครับคุณท่านจง ตระกูลซ่งของเรามีการคิดแทนตระกูลจงไว้แล้ว หากตระกูลจงยอมถอนตัวจากสังคมอิทธิพลมืดเย็นจีน ตระกูลซ่งจะโอนเงิน 1 พันล้านไปยังบัญชีธนาคารของตระกูลจง ตระกูลจงมีทั้งเงินทองและชื่อเสียง ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่ใช่สิ่งสวยงามเหรอครับ?” ซ่งอวี่กล่าว

“ตระกูลซ่งคิดว่าหากเกิด“ สงครามศิลปะการต่อสู้” ตระกูลจงจะแพ้หรือ?” จงจิ่วเจินถาม

“ไม่ ไม่แน่นอน แต่ความเป็นไปได้ที่จะแพ้นั้นค่อนข้างสูงประมาณ 90%”

ซ่งอวี่พูดง่ายๆว่า

“ผมสามารถบอกคุณได้ว่า หัวหน้าแก๊งจ้านอู๋หยาของแก๊งหัวชิงอเมริกา ได้ตกลงเป็นการส่วนตัวที่จะสนับสนุนตระกูลซ่งของเราในการยึดสังคมอิทธิพลมืดของเย็นจีน แก๊งหัวชิงมีพลังงานมากแค่ไหน ผมคิดว่าพ่อและลูกตระกูลจงคงเคยได้ยินมาบ้าง”

ที่แท้ก็ได้รับการสนับสนุนจากแก๊งหัวชิง จงจิ่วเจินแอบพูดในใจ

“แก๊งหัวชิงมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม ผลิตคนเก่งออกมาจำนวนมาก และเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในชีวิตที่มีโอกาสต่อสู้กับเขา แม้จะแพ้แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ โลกนี้ไม่มีอะไร แน่นอน ใครชนะและใครแพ้ยังไม่รู้” จงจิ่วเจินกล่าวอย่างสบาย ๆ

“งั้นท่านจงจะทำสงครามศิลปะการต่อกับตระกูลซ่งไหม” ซ่งอวี่ยืนยัน

“ท่าทีของฉันยังไม่ชัดเจนเพียงพอหรือ?” จงจิ่วเจินยิ้ม

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว”

ซ่งอวี่ยืนขึ้นและกล่าวว่า “อีกสามวันเจอกันที่เวทีมวยใต้ดินฮุ่ยจ้ง ผมจะรอการปรากฏตัวของพ่อและลูกตระกูลจง!”

“ผมพูดชัดเจนแล้ว คุณท่านจง ประธานจง ขอตัวครับ!” หลังพูดจบซ่งอวี่ก็หันและจากไป

“พ่อ …” เมื่อเห็นพ่อของเขากังวล จงเส่นซานรู้สึกอึดอัดเป็นพิเศษ

“ฉันสบายดี โปรดออกมาคุณฉิน” จงจิ่วเจินกล่าวอย่างเรียบๆ

“ครับ” จงเส่นซานตอบ เปิดประตูห้องหนังสือและเชิญฉินหลั่งออกมา “เชิญครับคุณฉิน”

“คุณฉิน คุณคงได้ยินมาทั้งหมดแล้ว ดังนั้นฉันจะไม่พูดซ้ำอีก ฉันอยากจะขอให้คุณช่วยครอบครัวจง คุณคิดเห็นอย่างไร?” จงจิ่วเจินมองไปที่ฉินหลั่งและถาม

“ขอโทษนะคุณท่านจง แก๊งหัวชิงนี้เป็นแบบไหน และจะเกิดอะไรขึ้นหากเราแพ้” ฉินหลั่งถาม

เขารู้ว่าสถานการณ์เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่มีข้อสงสัยบางอย่างอยู่ในใจ

“แก๊งหัวชิงเป็นแก๊งชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีคนที่มีความสามารถมากมายในแก๊ง เท่าที่ฉันรู้มีปรมาจารย์หลายคนเช่น 'โสงเทียนป้า' 'ลี่ไห่ซา' และ 'กานเล่โหก 'พวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าปรมาจารย์ในประเทศจีนเลย จ้านอู๋หยาหัวหน้าแก๊งของเขายังเป็นปรมาจารย์ในตำนาน ยากที่จะเอาชนะ!”

เมื่อฟังการวิเคราะห์ของเขา จงจิ่วเจินก็รู้สึกว่าอนาคตช่างเยือกเย็น

“เมื่อคุณล้มเหลวในสังเวียน นั่นหมายถึงความตาย แน่นอนคุณสามารถยอมแพ้ได้ สิ่งที่ฉันทำได้คือรับประกันชีวิตของคุณ หากคุณไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้เช่นกัน”

ฟังดูเหมือนเป็นความท้าทายที่อันตราย

“คุณท่านจง ผมรับปาก” หลังจากคิดชั่วครู่ฉินหลั่งก็พูดทางเลือกของเขา

“ทำไมล่ะ ถ้าคุณไม่ตกลง ฉันจะไม่บังคับคุณ!” จงจิ่วเจินกล่าว อันที่จริงในใจของเขา เขาหวังว่าฉินหลั่งจะเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

“เพราะจงยู่ ผมรู้ดีว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตระกูลจง จงยู่จะไม่สามารถทนได้ ผมสัญญากับเธอว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจหรือร้องไห้อีก ดังนั้นผมจึงอยากรักษาตระกูลจง นอกจากนี้ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนตระกูลจงแล้ว” ฉินหลั่งพูดในสิ่งที่เขาคิด

เมื่อฟังสิ่งที่ฉินหลั่งพูดจากก้นบึ้งของหัวใจ จงจิ่วเจินก็รู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อยว่าหลานสาวของเขาเลือกคนไม่ผิด

“โอเค” จงจิ่วเจินพูดช้าๆ “ตอนนี้คุณคือคนตระกูลจง ฉันจะเรียกคุณว่าฉินหลั่ง ไปกินข้าวกันก่อน แล้วครอบครัวของเราค่อยคุยกัน!”

ฉินหลั่งพยักหน้า ขณะนี้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวอีกครั้ง เมื่อคิดถึงเรื่องที่ถูกไล่ออกจากตระกูลฉิน เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย

กินข้าวทีละคำ ทีละคำ อาหารอร่อยเช่นนี้นี่เอง

“ฉินหลั่ง ในสองวันนี้เราจะเร่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปรมาจารย์ที่ตระกูลซ่งกำลังมองหา เมื่อถึงวันนั้นเราจะไปที่นั่นด้วยกัน นอกจากนี้ฉันไม่ต้องการให้จงยู่รู้เรื่องนี้” จงจิ่วเจินกล่าว

“ผมเข้าใจครับ” ฉินหลั่งพยักหน้าและพูด

เขาไม่ได้คิดจะบอกให้จงยู่ทราบ ถ้าเธอรู้ว่าชีวิตของเขาตกอยู่ในอันตราย เธอจะกังวลมาก นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉินหลั่งต้องการเห็น

ถ้าเขาตายในสังเวียน ฉินหลั่งนึกไม่ออกว่าตอนนั้นเขาจะเสียใจแค่ไหน และจงยู่จะเสียใจแค่ไหน …

ซ่งอวี่นั่งอยู่ใน Mercedes-Benz S-Class อารมณ์ของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาค่อนข้างพอใจกับการเผชิญหน้ากับจงจิ่วเจินเมื่อตะกี้ ซ่งอวี่วางมือบนที่วางแขนและพยักหน้าเบา ๆ

Mercedes-Benz S-Class ขับมาจนถึงหน้าวิลล่าข้างถนนคดเคี้ยวในภูเขาอู้หลิง

ซ่งอวี่ผลักประตูและเดินเข้าไปในวิลล่า ซ่งจงผิงหัวโล้นนั่งอยู่บนโซฟา มีก้นบุหรี่เป็นโหลกระจัดกระจายอยู่ในที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะกาแฟ ซึ่งซ่งจงผิงเพิ่งสูบไป

เขาไม่ได้กังวลว่าเกี่ยวกับการเจรจาของซ่งอวี่ แต่เขารู้สึกว่าวันที่เขายึดครองสังคมอิทธิพลมืดเย็นจีนใกล้เข้ามาทุกที แค่นึกภาพสถานการณ์ตอนที่จงจิ่วเจินกำลังเจรจากับซ่งอวี่ ซ่งจงผิงก็รู้สึกตื่นเต้นทันที

“พ่อ พูดจบแล้ว ตามที่คาดไว้ จงจิ่วเจินเลือกต่อสู้ด้วยศิลปะการต่อสู้!” ซ่งอวี่เดินไปหาซ่งจงผิงและพูดอย่างตื่นเต้น

“ ดี ” ซ่งจงผิงกล่าวว่า “ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน ไม่ว่าตระกูลจงจะเลือกทางใด ก็ต้องแพ้ให้กับตระกูลซ่งของเรา”

“ผมคิดว่าตระกูลจงจะส่งปรมาจารย์“ ฝู้คาย” ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาไปร่วมต่อสู้ในวันนั้น เราไม่มีนักต่อสู้ในมือที่สามารถเอาชนะฝู้คายได้ แล้วแก๊งหัวชิงจะส่งใครไป?” ซ่งอวี่ถาม สำหรับข้อมูลของตระกูลจงนั้น ตระกูลซ่งเข้าใจดี

“อย่ากังวลไปเลย หากจ้านอู๋หยาตกลงจะช่วยเรายึดสังคมอิทธิพลมืดเย็นจีน เขาจะต้องทำอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นสัญลักษณ์สีทองของแก๊งหัวชิงของพวกเขาจะเสียชื่อแน่นอน!" ซ่งจงผิงพูดเบา ๆ

เขานั่งบนโซฟาและครุ่นคิด สักพักเดินไปที่โทรศัพท์บ้านในห้องนั่งเล่น แล้วกดโทรหาแก๊งหัวชิงในแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา

ผ่านผู้ช่วยของจ้านอู๋หยา ในไม่ช้าเสียงของจ้านอู๋หยาก็ดังมาทางโทรศัพท์

“สวัสดีครับคุณซ่ง เชิญว่ามาครับ …”

เสียงของจ้านอู๋หยาเต็มไปด้วยความเป็นชาย ซึ่งทำให้ผู้คนนึกถึงหินแข็งบนหน้าผาหลังฝนตกได้อย่างง่ายดาย