รวยชั่วข้ามคืน?！ 234 พิสูจน์พวกนักต่อสู้

บทที่ 234 พิสูจน์พวกนักต่อสู้

ว่าไงนะ！ฉินหลั่งบอกให้กษัตริย์เอาเงินไปลงทุนที่จีนหลิง？

ใบหน้าของคนจากตระกูลใหญ่ต่างแข็งทื่อไปหมด หัวใจพวกเขาบีบรัดกันแน่น บางคนที่ควบคุมตัวไม่อยู่ ก็นั่งลงไปกับเก้าอี้อย่างแรง

ฉาวหนิงสมองขาวโพลนไปหมด ถ้าเงิน5หมื่นล้านนี้ได้ลงทุนในหลินอาน อย่างน้อยครอบครัวเขาก็จะได้เงินปันจากการลงทุน1-2ร้อยล้านเหรียญ งั้นขอบข่ายของกิจการตระกูลเขาก็จะยิ่งแผ่ขยายมากขึ้น！แต่ตอนนี้ไม่มีหวังแล้ว เงินสักแดงเดียวก็ไม่มี

ซุนเจี้ยนโกรธจนด่าทอเขาเบาๆ พลางจ้องฉินหลั่งด้วยความโมโห อยากให้เขากลับไปทักทายบรรพบุรุษทั้ง18รุ่นของเขา แทบจะอยากขึ้นไปฟาดฉินหลั่งบนเวทีสักยก

หม่าหยางยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างกับรูปปั้น มันเจ็บปวดเหมือนรางวัลลอตเตอรี่50ล้านที่ตัวเองถูก หายไปกับชักโครกตอนเข้าห้องน้ำอย่างไรอย่างนั้น

เถียนซิงเห็นสีหน้าของหม่าหยาง ดำเหมือนก้นหม้อ จึงถามอย่างระมัดระวัง “คุณชายหม่า คุณเป็นไรไหมคะ？”

หม่าหยางไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยไฟที่โกรธเกรี้ยว จนอยากเผาไหม้ฉินหลั่งให้ตายไปข้างนึง

หลินจูตบหลังฉินหลั่งเบาๆ พลางยิ้มและยกนิ้วโป้งให้เขา แล้วพูดเสียงเบา “ทำได้ดีมาก”

เมื่อคนตระกูลใหญ่ต่างๆ และผู้นำมณฑลเจ้อเจียงตกตะลึงกันเสร็จ ก็รีบขอร้องฉินหลั่งและกษัตริย์

“คุณฉิน คุณพิจารณาให้รอบคอบเถอะครับ”

“พวกเราก็ขอโทษคุณแล้ว คุณยังไม่ปล่อยพวกผมไปอีกเหรอ”

“ฝ่าบาท การลงทุนต้องให้ท่านเป็นคนตัดสินใจนะครับ จะเล่นเป็นเด็กขายของไม่ได้！”

……

ฉินหลั่งจะอธิบายให้กษัตริย์ฟัง ถึงเหตุผลที่ลงทุนในจีนหลิง “ฝ่าบาท คืออย่างนี้ครับ จีนหลิงเมื่อเทียบกับหลินอาน ด้านจำนวนประชากร……”

ฉินหลั่งยังไม่ทันพูดจบ ก็โดนกษัตริย์ขัดซะก่อน “ไม่ต้องพูดแล้ว คุณบอกว่าจีนหลิง ฉันก็จะลงทุนที่จีนหลิง”

ฉินหลั่งยิ้มเจื่อนๆแล้วพูด “ครับ ขอบคุณท่านที่เชื่อใจ ผมมีความมั่นใจถึง80% ถ้าท่านลงทุนเงิน50พันล้านเหรียญนี้ในจีนหลิง ไม่เกิน10ปีก็จะเพิ่มมูลค่าได้ถึง1หมื่นล้านเหรียญ”

การตัดสินใจลงทุนของกษัตริย์บรูไนเป็นเช่นนี้ คนตระกูลใหญ่ต่างๆของหลินอาน และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของมณฑลเจ้อเจียง ล้วนโกรธกันเหมือนหัวใจโดนเปลวไฟแผดเผา แต่ต่อหน้ากษัตริย์บรูไน ไม่มีใครกล้ากำเริบเสิบสาน

กษัตริย์บรูไนก็รู้ว่าทุกคนไม่พอใจกับการตัดสินใจนี้ของตน อาหารมื้อนี้ให้จบลงเร็วหน่อยจะดีกว่า เขาพูดบนเวทีไม่กี่ประโยค จากนั้นผู้นำมณฑลเจ้อเจียงก็ประกาศจบงาน

กษัตริย์บรูไนให้ฉินหลั่งออกไปพร้อมตน

คนตระกูลใหญ่ต่างๆในโถงงานเลี้ยง ด่าทอกันสนั่นหลังจากที่กษัตริย์บรูไนออกไปแล้ว กษัตริย์บรูไนเป็นคนปลิ้นปล้อนไม่รักษาคำพูด และฉินหลั่งนั่นยิ่งน่ารังเกียจเข้าไปอีก ทุกคนต่างส่งเสียงโวยวาย ถ้ามีโอกาสจะสั่งสอนฉินหลั่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย！

กษัตริย์บรูไนและฉินหลั่งพูดคุยกันนิดหน่อย ก็ขึ้นรถไป ฉินหลั่งถามหลินจู “พรุ่งนี้กษัตริย์กลับประเทศแล้ว คุณกลับไปพร้อมเขาเลยเหรอ？”

หลินจูส่ายหน้า พลางพูด “ก่อนหน้านี้ที่ฉันรับใช้พระราชินี ก็เพื่อตามหาคนที่อยู่ในใจคนนั้นของฉันที่จีน ตอนนี้พระราชินีไม่อยู่แล้ว ฉันกลับบรูไนไปก็ไม่มีความหมายอะไร ฉันจะอยู่ที่จีน ขายขนมไปด้วยตามหาคนคนนั้นไปด้วย ถึงแม้จะหาเขาไม่เจอ แต่เที่ยวเล่นกับไอ้ขี้แพ้อย่างคุณ ก็น่าสนุกออก”

ฉินหลั่งเมื่อได้ยินว่าหลินจูไม่กลับไป ก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

หลินจูหน้าแดงเล็กน้อย แล้วยื่นมือไปเขกศีรษะฉินหลั่ง พลางพูดเสียงน่ารัก “ยิ้มอะไร！ฉันจะบอกให้นะ คุณเคยบอกว่าคุณจะไม่ให้ใครมารังแกฉัน！ถ้าฉันโดนคนอื่นรังแกละก็ ฉันจะตีคุณ！”

พูดจบก็จ้องฉินหลั่งด้วยความเขินอายเล็กน้อย แล้ววิ่งขึ้นรถไป จากไปพร้อมกับขบวนรถกษัตริย์บรูไน

อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่15เดือนกันยายนแล้ว ตระกูลหยูและตระกูลหลงกำลังจัดพิธีแต่งงานกันอย่างขยันขันแข็ง

หยูหมิงอยากหานักต่อสู้ฝีมือดีจากการแต่งงานของตนครั้งนี้ ไว้ทำงานให้ตระกูลหยู ยังไงซะสังคมสมัยนี้ เปลือกนอกดูเหมือนสังคมสงบสุขที่ปกครองด้วยกฎหมาย แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย

ในตระกูลชั้นสูงบางตระกูล ต้องมีนักต่อสู้ที่แข็งแกร่งด้วย เพราะความสามารถของนักต่อสู้นั้น แข็งแกร่งกว่าบอดี้การ์ดปรกติมากก็เช่นการปกป้องบุคคลสำคัญ การแย่งชิงเขตอิทธิพลและธุรกิจ และทำงานลับบางอย่าง ล้วนต้องใช้คนพวกนี้ทั้งนั้น！

ตระกูลใหญ่อันดับต้นๆเกือบครึ่งของจีนก็มีคนพวกนี้อยู่ เพียงไม่กี่ปีมานี้ คนฝีมือดีเหล่านี้ไม่อาจปรากฏได้ และก็มีเงินเดือนสูง แต่ตระกูลใหญ่อันดับต้นๆกลับยอมจ่าย！มีคนแบบนี้อยู่ก็เหมือนเป็นเกราะป้องกันอย่างหนึ่ง และเป็นความมั่นใจของตระกูลด้วย

ก่อนหน้านี้ตระกูลหยูกระจายข่าวออกไปว่าจะหานักต่อสู้ จากสถิติของแม่บ้านในตระกูลหยู ตอนนี้ในหลินอานมีนักต่อสู้อยู่10คน ตระกูลหยูล้วนจัดให้ทุกคนอยู่ที่โรงแรมใหญ่ต่างๆในหลินอาน

ฝีมือของคนกลุ่มนี้เป็นอย่างไร วันนี้หยูหมิงจะพิสูจน์หน่อย แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะใช้งานคนไหน

วันนี้เขาเชิญนักต่อสู้ทั้ง10คนมายังบ้านตระกูลหยู บ้านตระกูลหยูเป็นวิลล่าสไตล์ตะวันตกอันหรูหรา ครอบคลุมพื้นที่4ไร่ วิลล่ามีประตูใหญ่ที่สง่างาม มีสิงโตหินสองตัวที่ประตู และยังมีสวนดอกไม้ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง และโรงจอดรถ

เพื่อการดูแลวิลล่าขนาดใหญ่แบบนี้ให้ดีขึ้น ตระกูลหยูได้จ้างแม่บ้านสาวสวยมา10คน ส่วนพนักงานฝ่ายอื่นๆก็เยอะตามไปด้วย

10โมงเช้า นักต่อสู้ทั้ง10คนก็มาถึง มีทั้งชายหญิง คนแก่และคนหนุ่มสาว

หยูหมิงสังเกตนักต่อสู้ทั้ง10คนอย่างละเอียด ก็เห็นว่าการแต่งตัวและหน้าตาของพวกเขา ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เช่นในพวกเขามีทั้งคนเปลือยหน้าท้องโต มีทั้งบาดแผลเต็มหน้า และยังมีคนที่หน้าตาเหี่ยวเฉา อย่างกับพ่อแม่ที่ตายไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น

หยูหมิงแปลกใจมาก ไม่รู้ว่าคนพวกนี้ตั้งใจทำตัวลึกลับ หรือเป็นผู้เจนโลกจริงๆกันแน่

หยูหมิงยิ้มบางๆพลางพูด “อาจารย์ทุกท่าน ตอนนี้ขอเชิญทุกคนไปยังสวนดอกไม้กับผม ให้ผมได้เห็นทักษะที่แข็งแกร่งของพวกคุณที่นั่น”

นักต่อสู้ทั้ง10คนตอบตกลงอย่างอวดดี แล้วเดินตามหยูหมิงไป พวกเขาเดินตามมาถึงสวนดอกไม้ จึงพบว่าในสวนดอกไม้มีผู้ชายวัยรุ่นร่างสูงใหญ่ยืนอยู่20คน

ทั้ง20คนนี้สวมเสื้อแขนยาวลายพราง หน้าตาน่าเกรงขาม รูปร่างสูงใหญ่กำยำ

ชายวัยกลางคน หน้าผอมเรียวผมยาว สวมเสื้อเชิ้ตสีเทา หนึ่งในนักต่อสู้ทั้ง10พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน “คุณชายหยูนี่ช่างคิดจริงๆ เรียกพวกวัยรุ่นร่างกายแข็งแรงเยอะขนาดนี้ เพื่อมาทดสอบพวกเรา！”

และมีนักต่อสู้หลายคนหัวเราะเยาะตามชายวัยกลางคน

หยูหมิงไม่พอใจเล็กน้อย พลางคิดในใจ “ในอนาคตผมอาจจะเป็นนายจ้างของพวกคุณ แต่พวกคุณไม่เคารพผมขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนผมก็เคยได้ยิน ว่าพวกนักต่อสู้มักจะเย่อหยิ่ง จึงปฏิบัติต่อนายจ้างแบบนี้ ช่างเถอะ ลองดูฝีมือที่แท้จริงของคนพวกนี้ก่อนดีกว่า หลังจากใช้งานพวกเขาอย่างเป็นทางการ ค่อยให้พวกเขารู้จักเคารพกฎของตน！”

หยูหมิงยิ้มบางๆ แล้วเดินหน้าชายหนุ่ม20คนนั้น จากนั้นก็พูดกับนักต่อสู้ทั้ง10คน “หากทำให้ขุ่นเคือง ขอให้อาจารย์ทุกคนอภัยด้วย ผมจะแนะนำให้พวกคุณรู้จัก ทั้ง20คนนี้เป็นทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษ ในหน่วยทหารของมณฑลเจ้อเจียง ทุกคนล้วนเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด！ผมคิดว่าฝีมือของคุณ คงจัดการกับทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษ5คนนี้ได้ไม่ยากใช่ไหม？”

หยูหมิงเพิ่งพูดเสร็จ 2-3คนในหมู่นักต่อสู้ทั้ง10คนก็หัวเราะออกมา

“คุณชายหยูสามารถเชิญทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษในหน่วยทหารมาได้ ความสัมพันธ์คงแน่นแฟ้นพอดู”

“คุณว่าพวกเราจัดการได้แค่5คนเหรอ เหอะ คุณชายหยูคุณดูถูกพวกเราเกินไปแล้วล่ะ”

“ทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษเก่งกาจนักเหรอ？สำหรับผมแล้วไม่เห็นจะได้เรื่อง”

……

พวกทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษ เมื่อได้ยินคนพวกนี้พูดให้ร้ายพวกเขา ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก สีหน้าเดือดดาล บางคนก็กำหมัดแน่นเตรียมที่จะจัดการพวกหน้าตาแปลกๆพวกนี้สักยก

หยูหมิงกลับรู้สึกชอบใจมาก คิดในใจว่าถ้านักต่อสู้พวกนี้ไม่ใช่พวกชอบคุยโม้สิถึงจะดี！จึงพูดขึ้น “โอเค เห็นทุกท่านมีความมั่นใจอย่างเปี่ยมล้น ผมชอบมาก ไม่ทราบว่าอาจารย์คนไหน จะออกมาประลองฝีมือกับทีมปฏิบัติการพิเศษนี้ก่อน ให้พวกเราเห็นเป็นขวัญตา ？”

ทีมปฏิบัติการพิเศษเงยหน้าขึ้นสูง อดใจรอไม่ไหวที่จะเริ่มประลองฝีมือ และสั่งสอนคนพวกนี้

“ผมเอง”นักต่อสู้คนหนึ่งก้าวออกมา เป็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาเมื่อครู่นั่นเอง

ชายหน้าผอมซูบมองหยูหมิงพลางพูด “สวัสดีครับคุณชายหยู ผมชื่อห่าวจู๋ทอง！เมื่อครู่ที่คุณชายหยูบอก ว่าให้ประลองกัน5คนผมว่ามันน้อยเกินไป ผมว่า10คนดีกว่า！”

หยูหมิงปรบมือพลางพูด “อาจารย์มิห่าวอาจหาญมาก มาถึงก็ขอ10คนเลย ตกลง ผมจะรอดูวิชาอันยอดเยี่ยมของอาจารย์มิห่าว！”

พูดจบก้หันไปพูดกับทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษทั้ง20คน “พวกคุณออกมา10คน มาสู้กับอาจารย์มิห่าว！”

ทีมสำรองปฏิบัติการพิเศษ10คน เดินมาตรงหน้าห่าวจู๋ทองอย่างสง่าผ่าเผย คนอื่นๆก็ถอยหลังไป2-3ก้าว ปล่อยลานนี้ให้

“อาจารย์มิห่าว พวกเราไม่เกรงใจแล้วนะครับ！”หัวหน้าทีมปฏิบัติการพิเศษพูดอย่างเย้ยหยัน พูดจบก็ขยิบตาให้คนอื่นๆ พลางพูด “ลุย！”

ทันใดนั้น ทีมปฏิบัติการพิเศษร่างกำยำทั้ง10คนมุ่งไปยังห่าวจู๋ทอง

ห่าวจู๋ทองยิ้มบางๆ รอให้ทั้ง10คนมาถึงตรงหน้าตนก่อน เขาถึงออกตัวอย่างเร็วจนเห็นเงาความโหดเหี้ยม！

ห่าวจู๋ทองยื่นมือตบเข้าไปที่ทีมปฏิบัติการพิเศษคนหนึ่ง คนคนนั้นร้องออกมาดัง“โว่”แล้วล้มไปอีกด้านหนึ่ง ห่าวจู๋ทองโบกมือทั้งสองข้าง ทั้งเป็นวงกลมและโค้ง

เขาหาโอกาสที่จะโจมตีฝั่งตรงข้ามได้เสมอ ทีมปฏิบัติการพิเศษทั้ง10คนนั้น เหมือนหมีตัวอ้วนโง่ๆหลายตัวกำลังสู้กับชะมด1ตัวอย่างไรอย่างนั้น โดนชะมดเล่นงานกันจนหัวหมุน！แต่พวกเขากลับแตะเสื้อห่าวจู๋ทองไม่โดนแม้แต่น้อย

ห่าวจู๋ทองเคลื่อนไหวไปมาท่ามกลางทีมปฏิบัติการพิเศษทั้ง10คนนั้น ทีมปฏิบัติการพิเศษโดนเขาอัดทีละคนๆ

ไม่ถึง3นาที ทีมปฏิบัติการพิเศษทั้ง10ล้วนโดนห่าวจู๋ทองซัดจนล้มไป พวกเขานอนเจ็บอยู่กับที่ที่โดนห่าวจู๋ทองซัด และมองเขาอย่างหวาดกลัว

นักต่อสู้คนอื่นๆก็มีสายตาที่อิจฉาและชื่นชม

“ดีมาก！”หยูหมิงเดินไปหาห่าวจู๋ทองพลางพูด “อาจารย์มิห่าวสุดยอดอย่างที่คิดไว้จริงๆ หากตระกูลหยูมีคนที่ทรงพลังอย่างคุณนับว่าเป็นเรื่องโชคดีมาก！”

ที่หยูหมิงพูดหมายถึง เขาจะใช้งานห่าวจู๋ทองแน่นอน

ห่าวจู๋ทองพูด “ผมจะทำงานให้ตระกูลหยูได้หรือไม่นั้น ต้องดูความจริงใจของคุณชายหยูแล้วล่ะ”พูดจบก็พยักหน้าให้หยูหมิงและเดินกลับมายังกลุ่มนักต่อสู้อย่างภาคภูมิ

จากนั้นก็มี‘จงฉี’หนึ่งในกลุ่มนักต่อสู้ออกมาประลอง เขาก็เมือนห่าวจู๋ทอง ทำให้ทีมปฏิบัติการพิเศษทั้ง10พ่ายแพ้อย่างราบคาบแต่จากกระบวนท่าของเขา วิชากังฟูยังเทียบห่าวจู๋ทองไม่ได้

หยูหมิงดีอกดีใจอย่างมาก แต่ตอนนี้ทีมปฏิบัติการพิเศษทั้ง20 ล้วนโดนห่าวจู๋ทองและจงฉีซัดจนกลัวกันหมด จนไม่มีใครมาประลองกับนักต่อสู้ที่เหลือต่อ

หยูหมิงฉุกคิดขึ้น แล้วพูดกับนักต่อสู้ที่เหลือ “อาจารย์ทุกท่าน คนที่เหลือก็ประลองกับอาจารย์มิห่าว อาจารย์ฉีเถอะ เมื่อประลองเสร็จ ก็ให้อาจารย์มิห่าวและอาจารย์ฉีพัก สับเปลี่ยนกับอาจารย์ทั้งสองไปเรื่อยๆ ทุกคนแค่ทำการประลอง ให้ผมเห็นฝีมือที่แท้จริงของทุกคน！แต่อย่าหักโหมเกินไป”