รวยชั่วข้ามคืน?! 213 แค่ได้เห็นเขาครั้งเดียวฉันก็พอใจแล้ว

ตอนที่ 213 แค่ได้เห็นเขาครั้งเดียวฉันก็พอใจแล้ว

บทที่ 213 แค่ได้เห็นเขาครั้งเดียวฉันก็พอใจแล้ว

ฉินหลั่งยิ้มให้เล็กน้อย “คุณชายซุน คำถามของฉันคุณยังไม่ได้ตอบเลย ถ้าฉันสตาร์ทรถเฟอร์รารี่ได้จริงๆ คุณจะทำยังไง?”

ซุนเจี้ยนส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอ พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง “ถ้ามึงสตาร์ทรถได้จริง กูจะเขียนชื่อกลับหัว กูจะคลานออกไปจากที่นี่ แล้วให้มึงจัดการได้อย่างสบายใจ! ถ้าคนอย่างมึงสตาร์รถไม่ได้ เหอะ ๆ ฉันก็ไม่ได้ต้องการให้มึงทำห่าอะไร แต่ไปนั่งคุกเข่ากลางสนาม แล้วมุดหัวร้องเพลงชาติ แล้วก็ด่าตัวเองไปว่า “กูมันโง่ฉิบหาย” สุดท้ายมึงก็ต้องอยู่ให้ห่างจากคุณหลง เข้าใจไหม!”

ฉินหลั่งพยักหน้าให้ “ได้”

เจียงฮุ่ยและอีกหลายคนต่างหัวเราะกันยกใหญ่ พวกเขารู้สึกว่าฉินหลั่งตกหลุมพรางของคุณชายซุนเข้าให้แล้ว รถเฟอร์รารี่หรูหราระดับนี้แล้วจะให้ไอ้คนขี้แพ้อย่างฉินหลั่งมันสตาร์ทรถติดได้อย่างไรกัน

“ไอ้นี่มันโง่ฉิบหาย”

“ไม่ ฉันเชื่อว่าฉันสตาร์ทได้ ได้แน่ ฮ่าๆ”

“ฉินหลั่ง เมื่อครู่เจ้าของรถเป็นหญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้น ถ้าแกอยากจะสตาร์ทรถ งั้นแกก็ทำเสียงให้เป็นผู้หญิงก่อนถึงจะใช้ได้”

……

หลงเย้นได้แต่เป็นห่วงฉินหลั่งอยู่ในใจ เลยโอบเอวของฉินหลั่งอย่างแผ่วเบา พร้อมทั้งพูดกระซิบกับเขา “ไม่จำเป็นต้องไปพนันกับเขา เรากลับกันดีไหม?”

“ไม่ต้อง คุณก็ยืนรอดูอยู่ข้างๆ ฉันก็แล้วกัน ฉันไม่เป็นไร” ฉินหลั่งยิ้มให้แล้วยิ้มไปด้วย จากนั้นก็เดินไปที่ด้านหน้าของรถเฟอร์รารี่ พร้อมทั้งสัมผัสกระโปรงรถ พร้อมทั้งหันกลับมาพูดกับซุนเจี้ยน แล้วยิ้มให้เล็กน้อย “คุณชายซุน จำคำพูดเมื่อครู่ของคุณไว้ให้ดี”

ฉินหลั่งหันกลับไป พร้อมทั้งพูดอย่างคล่อง “ไซโคลนสตาร์ทรถ”

เมื่อสิ้นเสียงฉินหลั่ง ไฟด้านรถเฟอร์รารี่ก็กระพริบให้! จนทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นตกใจกันหมด พวกเขาต่างหยุดการกระทำทั้งหมดที่อยู่ในมือ พร้อมทั้งหันไปมองรถเฟอร์รารี่อย่างสงสัย หรือว่ารถเฟอร์รารี่มันสตาร์ทติดแล้วจริงๆ?

ตอนที่ทุกคนได้แต่สงสัยอยู่ในใจ เสียง “ฮึ่ม” เสียงตัวเครื่องยนต์ก็เริ่มส่งเสียงร้องเหมือนเสียงเด็กน้อย!

คนที่อยู่ใกล้รถเฟอร์รารี่ต่างตกใจจนล้มนั่งจมปุกกับพื้น

“ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม!” เสียงดังคำรามของรถเฟอร์รารี่ดังขึ้นมาอย่างกับสายฟ้าฟาด ไฟหน้ารถก็กะพริบไปมา!

ทุกคนที่เข้ามามุงดูต่างตกใจกันยกใหญ่ พร้อมทั้งแววตาที่ตกใจและอิจฉามองมาทางฉินหลั่ง

“รถเฟอร์รารี่มันสตาร์ทติดแล้ว!”

“แม่ง คนคนนี้มันทำให้รถเฟอร์รารี่สตาร์ทติด”

“มันโชคดีจริงๆ”

……

ฉินหลั่งงมองไปทางซุนเจี้ยน เมื่อเห็นซุนเจี้ยนกับพวกๆ ของเจียงฮุ่ยแล้ว ทำคนต่างทำหน้าตกใจ ไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อมองมาทางฉินหลั่งได้แต่ตัวสั่นเล็กน้อย ส่วนซุนเจี้ยนอาการหนักกว่าทุกคนเพราะเขาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ฉินหลั่งได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อย “คุณชายซุน ฉันสตาร์ทรถติดแล้ว คุณก็น่าจะทำสิ่งที่คุณสัญญาออกมาได้แล้วสิ?”

“อะไรนะ…” ซุนเจี้ยนเริ่มออกอาการกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที พร้อมทั้งพยายามบังคับอารมณ์ให้นิ่งสนิท เขาได้แต่หัวเราะแบบขอไปที “ไอ้ขี้แพ้ มันก็แค่ระบบรถเฟอร์รารี่มันรวนเท่านั้นแหละ แกถึงได้สตาร์ทระติด ยังต้องการให้ฉันมารักษาสัญญาที่พูดไว้ ฉันล่ะอยากจะถามแกจริงๆ แกมันสมควรไหม?”

หลงเย้นเดินมาทางด้านข้างฉินหลั่ง พร้อมทั้งชี้นิ้วด่าซุนเจี้ยน “ซุนเจี้ยน แกนี้มันหน้าด้านจริงๆ ไม่สนใจเรื่องสัญญา แกมันไม่ใช่ผู้ชาย” หลงเย้นเดินจูงมือฉินหลั่งออกไป แล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ ไม่ต้องไปสนใจพวกคนอันธพาล”

ฉินหลั่งยังไม่ยอมขยับ แล้วพูดขึ้นมา “รอฉันจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก็ก่อนแล้วค่อยไปก็ยังไม่สาย” จากนั้นก็หันมาทางซุนเจี้ยน สีหน้าเย็นยะเยือก พร้อมทำหน้าเหมือนจะยิ้มให้แต่ไม่ยิ้ม “คุณชายซุน เตรียมตัวเสียใจหรือยัง?”

ซุนเจี้ยนได้แต่หัวเราะร่า “ฮ่า ฉันเตรียมตัวเสียใจไว้แล้ว แกจะจัดการฉันยังไง? ไอ้ขี้แพ้ กูจะเหยียบและขยี้มึงให้จมดินเหมือนเหยียบมด มึงยังกล้ามาต่อปากต่อคำกับกู!”

“ได้ งั้นก็อย่าโทษฉันแล้วกัน” ฉินหลั่งพูดจบ ก็หันไปหาเฟอร์รารี่ พร้อมทั้งตะโกนเสียงดัง “เปิดประตู!”

“ฟิ้ว” เสียงเครื่องจักรดังขึ้น ประตูทั้งสองข้างของรถเฟอร์รารี่ก็ค่อยๆ เปิดออกมา! ทุกคนที่มุงอยู่รอบๆ ต่างตกใจกันเป็นแถว พวกเขามองไปที่แววตาของฉินหลั่งยิ่งแสดงความนับถือเข้าไปให้ เด็กอายุน้อยคนนี้ไม่ได้ใช้โชคช่วยในการสตาร์ทรถเฟอร์รารี่ หรือว่าเขาเป็นเจ้าของรถเฟอร์รารี่คันนี้?

ฉินหลั่งดึงมือหลงเย้น เพื่อให้ขึ้นรถ ส่วนมือของฉินหลั่งก็จับพวงมาลัย เพื่อขยับรถสปอร์ต แล้วขับพุ่งมาทางซุนเจี้ยน

“ทำไมมัน…เดี๋ยวนะ มันจะทำอะไร!” ซุนเจี้ยนเห็นแล้วว่า ฉินหลั่งขับรถทะยานมาทางตนเอง สติก็หลุดลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว เจียงฮุ่ยและพวกต่างตกใจกันจนตัวชา พร้อมทั้งแยกย้ายกันวิ่งหนี เพราะกลัวว่ารถเฟอร์รารี่จะมาชนตนเอง

“โอ๊ย!” ซุนเจี้ยนเห็นรถเฟอร์รารี่วิ่งมาทางตนเองด้วยความเร็ว เขาก็ยังคงยืนตะลึงอยู่ที่เดิม แล้วก็หลับตาลง ตัวแข็ง ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง พร้อมทั้งรู้สึกว่าอีกอึดใจเดียวก็จะโดนรถเฟอร์รารี่ชนจนปลิวขึ้นท้องฟ้า ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างก็ตะโกนกู่ร้องดังลั่น พร้อมทั้งเอามือปิดตาอย่างตกใจกัน

ซุนเจี้ยนไม่ได้รู้สึกว่าตนเองถูกรถชน เขาค่อยลืมตาอย่างระมัดระวัง ก็เห็นว่าท้ายรถเฟอร์รารี่ห่างจากตัวเขาไป ประมาณสิบเซนติเมตรได้ เมื่อครู่ฉินหลั่งแค่เลี้ยวรถเข้าโค้งแค่ 180 องศา ซุนเจี้ยนตื่นเต้นเกินขนาด เลยไม่ได้ยินเสียง

ซุนเจี้ยนเห็นฉินหลั่งที่นั่งอยู่ในรถสปอร์ตแล้วส่งยิ้มให้ตัวเองอย่างเย็นชา หัวใจของเขาเต้นโครมคราม แล้วรู้สึกว่าบนเท้ามีสิ่งของบางอย่างมาทับอยู่ พอก้มศีรษะลงมามอง ก็เห็นเส้นเอ็นสีเงินสองเส้นที่ออกมาจากใต้ท้องรถ กำลังมัดเท้าของตนเองอยู่

คนที่อยู่โดยรอบต่างกระซิบกระซาบกันไม่หยุดปาก

“แม่ง รถเฟอร์รารี่คันนี้มันโคตรเจ๋งสุดๆ มีเทคนิคโคตรล้ำสมัยเลย”

“เท่ฉิบหาย ถ้าฉันมีเงิน แค่สิบล้านยี่สิบล้าน ก็จะซื้อรถสักคันเอามาให้เท่!”

ฉินหลั่งขับรถเฟอร์รารี่ไปทางด้านหน้า ซุนเจี้ยนก็ถูกเส้นเอ็นดึงไปด้วย หลังจากเสียการทรงตัว ก็มีเสียง “โครม” ดังอยู่ที่พื้น ฉินหลั่งขับวันรอบสนามอยู่สองรอบ ซุนเจี้ยนก็นอนอยู่ที่พื้น ทั้งแสบร้อน แผ่นหลังก็ถูกลากถูลู่ถูกังไปกับพื้นถนน มันเจ็บแสบเป็นระยะ

หลังจากที่ฉินหลั่งจอดรถแล้ว ความเจ็บปวดของซุนเจี้ยนถึงได้คลายลง เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวเขาขาดวิ่นเป็นรูไปทั่ว เหมือนกับขอทานเลยทีเดียว

เมื่อเห็นสภาพของซุนเจี้ยนที่แสนเวทนา ผู้คนรอบๆ ต่างอดใจมองไม่ได้ ส่วนเจียงฮุ่ยกับพวกได้แต่ตกใจจนยืนตะลึง เพราะเกรงว่าฉินหลั่งจะใช้วิธีจัดการแบบนี้กับตนเอง

ซุนเจี้ยนลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างโซซัดโซเซ แผ่นหลังของเขาโผล่ออกมาด้านนอก จนมันขูดกับพื้นถนนจนไม่ถลอกไม่เหลือชิ้นดี แถมยังมีเลือดสดไหลซึมออกมาอยู่หลายรอย!

หลังจากที่ฉินหลั่งมองกระจกหลังแล้วเห็นว่าซุนเจี้ยนลุกขึ้นมาได้แล้ว จากนั้นกดใช้มือที่อยู่บนปุ่มกดเร่งเครื่อง เครื่องสูบสี่เครื่องของรถเฟอร์รารี่ ก็ส่งเสียง “ฮึ่ม ฮึ่ม” และก็พ่นไฟออกมาทั้งสี่ท่อ พ่นลงบนตัวซุนเจี้ยน ผมของซุนเจี้ยนมีเสียง “ฉี่” ดังขึ้น รอยแผลหลายรอยที่ยังมีเลือดไหลซึมอยู่บน ตัวเขา การถูกลมไฟเป่า ตอนแรกก็เป็นความเจ็บแสบลดน้อยลงไปมาแล้วมันยิ่งเจ็บซ้ำหนักกว่าเก่า! ซุนเจี้ยนได้แต่ปิดตาลง พร้อมทั้งตะโกนแหกปากด้วยความทรมานแต่ไม่มีเสียงออกมา เสียงที่ได้ยินเสียงนึกว่าเหมือนเวลากำลังเชือดหมูอยู่

ไฟที่ปะทุออกมาเริ่มลดระดับลง แต่มันก็ไม่ได้ทำร้ายคนจริงๆ

เมื่อเห็นสภาพซุนเจี้ยนที่โดนตนเองทรมานแทบตายแบบนั้น ฉินหลั่งได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อย จากนั้นก็เปิดประตูรถแล้วก้าวเท้าลงจากรถพร้อมกับหลงเย้น

ในเวลานั้นคนที่มามุงดูอยู่มีทั้งเคารพและยำเกรงฉินหลั่ง พร้อมทั้งพูดกระซิบกระซาบอยู่ข้างๆ

“ที่แท้เขาก็เป็นเจ้าของรถเฟอร์รารี่”

“ใช่ เขาช่างถ่อมตัวจริงๆ”

“เมื่อครู่คนที่โดนเผาอยู่นั้นยังชี้นิ้วด่าทอคนเขาอยู่เลย ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว มาโดนไฮโซตัวจริงจัดการให้ การเป็นมนุษย์รู้จักถ่อมตัวลงบ้างก็ถือว่าเป็นการดี”

……

เจียงฮุ่ยและพวกมองฉินหลั่งที่ก้าวลงจากรถ พวกเขาไม่กล้าวิ่ง ฉินหลั่งขับรถประเภทนี้ได้ เห็นได้ชัดว่ามีความสามารถมากมาย จนสามารถไปตามตัวพวกเขาได้แน่ มีหลายคนที่ยืนอยู่ทางด้านหน้าฉินหลั่งแล้วขาสั่นมือไม้อ่อนทีเดียว เมื่อคิดได้ว่าขนาดคุณชายซุนที่เป็นคุณชายลูกไฮโซยังถูกฉินหลั่งจัดการได้แสบสันขนาดนี้ ขาของเจียงฮุ่ยถึงกับอ่อนระทวย จากนั้นก็คุกเข่าลงด้านหน้าฉินหลั่ง “คุณชายฉิน ขอโทษจริงๆ ฉันผิดไปแล้ว ฉันมีตาหามีแววไม่ ปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะ”

เพื่อนๆ ของเจียงฮุ่ยก็คุกเข่าตาม และทำท่าคำนับโขกหัวอยู่ที่พื้น

“คุณชายฉิน ฉันผิดไปแล้ว”

“จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”

“ฉันไม่ใช่คน ขอร้องให้คุณยอมใจกว้างกับพวกเรา ปล่อยพวกผู้น้อยอย่างเราไปเถอะ”

……

เมื่อคิดถึงคำพูดของคนเหล่านี้ก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งก็อยากให้พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติเดียวกันเหมือนซุนเจี้ยน

หลงเย้นดึงแขนของฉินหลั่งเอาไว้ พร้อมทั้งพูดและมองด้วยแววตาอ่อนโยน “ฉินหลั่ง ปล่อยเธอไปเถอะ ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเพื่อนของฉัน”

ฉินหลั่งพ่นลมออกจากปาก จากนั้นก็พยักหน้าให้ เจียงฮุ่ยและพวกต่างดีใจกันยกใหญ่ พร้อมทั้งโขกหัวคำนับขอบคุณไม่เลิก

“ขอบคุณมาก” ใบหน้าหลงเย้นดีใจ พร้อมทั้งมองไปทางเจียงฮุ่ยที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น พร้อมทั้งพูดเสียงดังฟังชัด “เจียงฮุ่ย ฉันรู้ว่าแกชอบเงิน แต่ว่าต่อจากนี้ต่อไปอย่าไปช่วยใครบางคนในการทำวิธีให้ฉันสนใจเลย ไม่งั้น พวกเราก็คงเป็นเพื่อนกันไม่ได้”

“ได้ ได้ ฉันเข้าใจแล้ว หลงเย้น ขอบคุณแกนะที่ช่วยพูดแทนฉัน” เจียงฮุ่ยรีบพูด คนอื่นๆ ก็ส่งเสียง “ขอบคุณ” “ขอบคุณที่ช่วยพูดให้พวกเรา…”

“ได้ พวกแกไสหัวไปซะ!” ฉินหลั่งพูดอย่างเย็นชา

เจียงฮุ่ยและพวกได้ยินน้ำเสียงดูถูกจากปากฉินหลั่ง ก็เหมือนได้ยินเทวดาที่กำลังมีความสุข จากนั้นพวกเขาก็ลุกขึ้นจากพื้น แล้วหันไปหาฉินหลั่งและโค้งคำนับทันเพื่อเป็นการขอบคุณ จากนั้นก็วิ่งหายวับไปทันที

หลงเย้นมองมาทางฉินหลั่ง แววตาที่มองมาทางฉินหลั่งก็เพื่อจะวิเคราะห์อยู่หลายครั้ง แล้วยิ้มให้เล็กน้อย “ที่แท้นายก็มีเงินทองมากมาย ทำไมนายต้องทำตัวแกล้งจนด้วยล่ะ”

คำพูดของหลงเย้นเน้นย้ำให้ฉินหลั่งทันที ว่ารถเฟอร์รารี่คันนี้ยังเป็นของเผิงเมิ่ง เธอจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์แล้วฉุกคิดได้แล้วเดินออกมาหรือเปล่า หมดกัน ตอนเองอยู่ในสภาพนี้ แล้วจะไปเจอเธอได้อย่างไรกัน?

“เอ่อ…ความจริงแล้วฉันเป็นเพื่อนกับเจ้าของรถคันนี้แค่นั้นเอง เรารีบไปกันเถอะ” ฉินหลั่งพยายามดึงหลงเย้นให้ออกไปจากที่นี่ พลันก็ได้ยินเสียงเรียกอันอ่อนโยนทางด้านหลัง “ฉินหลั่ง!”

ฉินหลั่งตัวสั่น เขาจดจำเสียงของเผิงเมิ่งได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ความสับสนที่อยู่ใจ เมื่อได้ยินเสียงเธอในวินาทีนั้น พลันนิ่งสงบลงทันที

ฉินหลั่งหันหลังกลับไปอย่างช้าๆ ก็เห็นว่าเผิงเมิ่งยืนห่างจากเขาห้าเมตรได้ สายตาจับจ้องมองแต่ตนเอง แววตาเปล่งประกาย สีหน้าของเธอแสดงความตื่นเต้นออกมาสามเปอร์เซ็นต์ มีความเขินอายอยู่สามเปอร์เซ็นต์ และมีความยินดีอยู่อีกสามเปอร์เซ็นต์ และยังมีความรู้สึกที่ตนเองพยายามปกปิดไว้ตลอดมานั่นคืออาการหลงรัก แววตาที่สื่อออกมานั้นมีทั้งความอ่อนโยนปนความรัก คนอื่นๆ ต่างไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกนี้ได้ แต่ว่าฉินหลั่งสัมผัสความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี

เผิงเมิ่งเดินมาด้านหน้าของฉินหลั่ง อารมณ์ที่กำลังตื่นเต้นของเธอ แต่ตัวเธอเองก็พยายามข่มใจเอาไว้ พลันเอ่ยปากถาม “คุณสบายดีไหม?”

“สบายดี! แล้วคุณล่ะ?” ฉินหลั่งพยายามเก็บอาการเอาไว้ พร้อมทั้งยิ้มให้เล็กน้อย

“ฉันก็สบายดีครั้งนี้ฉันมาดูการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมที่หลินอาน ไม่คิดเลยว่า…จะมาคุณด้วย” เผิงเมิ่งหน้าแดง พร้อมทั้งถามกลับ “คุณเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าถึงได้ให้ผู้จัดการชือของธนาคารซิตี้แบงก์เอารถเฟอร์รารี่คันนี้มาให้ฉัน”

“มีปัญหาบางอย่างนิดหน่อย แต่ว่าก็สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว” ฉินหลั่งก็ไม่อยากให้เผิงเมิ่งมาคอยเป็นกังวลกับตนเอง ถ้าให้เธอรู้ว่าตนเองตกอยู่ในสภาพไอ้ขี้แพ้ข้างถนนอยู่อย่างนี้ เธอคงต้องลดตัวลงมาช่วยเหลือตนเองอยู่ข้างกายตนเองเป็นแน่

ฉินหลั่งคิดอยู่ในใจ “รถเฟอร์รารี่คันนี้ก่อนหน้านี้ฉันได้อัดเสียงเผิงเมิ่งเอาไว้ และจัดการโอนชื่อให้เป็นชื่อของเธอไปแล้ว เจ้าของรถยนต์คันนี้คือเผิงเมิ่ง ดังนั้นชือฮุยที่เป็นผู้จัดการทางธนาคารซิตี้แบงก์เลยเอารถไปให้เธอตามนั้นมั้ง?”

“งั้นหาจงยู่เจอหรือยัง?” เผิงเมิ่งถามอีกครั้ง

“อืม หาเจอแล้ว แต่ตอนนี้เราสองคนมีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อยยังไม่ได้กลับมาคืนดีกัน แต่ไม่นานก็จะกลับมาดีกันแล้ว!” ฉินหลั่งยิ้มเล็กน้อย

“งั้นดีเลย ฉันกับกู่ซาจะกลับแล้ว ต่อไปเมื่อคุณกับจงยู่กลับไปที่เมืองจีนหลิง มาหาฉันได้นะ” เผิงเมิ่งพูดด้วยน้ำเสียงปกติ

พูดจบ เผิงเมิ่ง ฉินหลั่ง และหลงเย้นก็พยักหน้าให้กันอย่างเป็นมิตร จากนั้นก็ขับรถเฟอร์รารี่ แล้วออกไปจากสนามกีฬา

บนรถ กู่ซาเอ่ยปากถาม “เผิงเมิ่ง ที่แกมายังหลินอานไม่ใช่ว่ามาหาฉินหลั่งหรอกเหรอ? ทำไมพอเจอกับเขาแล้ว ไม่กินข้าวกันสักมือล่ะ?”

สีหน้าอันขมขื่นของเผิงเมิ่งยิ้มเล็กน้อยพร้อมทั้งตอบกลับไป “เห็นหน้าเขาสักครั้ง ฉันก็พอใจแล้ว เขากับจงยู่ถือว่าเป็นคนที่เหมาะสมกันที่สุดแล้ว ฉันอวยพรให้พวกเขา”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

Score 10
Status: Completed
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Options

not work with dark mode
Reset