ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง 424 อนุ หืม?

ตอนที่ 424 อนุ หืม?

“แน่นอนว่า ……ต้องเล่นให้หนักอยู่แล้ว” ว่าแล้วสายตาของนางก็ทอประกายโหดร้ายขึ้นมา  

 

 

ในชั่วแวบนั้น เยี่ยเฉินก็รู้สึกถึงไอสังหารที่พวยพุ่งขึ้นมาจากร่างของนาง และในชั่วพริบตานั้นทรวงอกของเขาก็เย็นวาบขึ้นมาในทันที  

 

 

เห็นกริชเล่มหนึ่งพุ่งออกมาจากในแขนเสื้อของนาง ปักเข้าใส่ทรวงอกของเขาอย่างไม่มีลังเล  

 

 

ตัวกริชที่แฝงพลังจิตจากร่างที่เปี่ยมไปด้วยไอสังหารของตู๋กูซิงหลัน ปักลงไปในผิวเนื้อของเขา…..  

 

 

ทรวงอกของเยี่ยเฉินรับมีดนั่นเข้าไปเต็ม แต่ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่ง มีดนี้ของตู๋กูซิงหลันจึงเจาะได้เพียงผิวชั้นหนึ่งของเขาเท่านั้น  

 

 

เลือดสดไหลออกจากทรวงอก เยี่ยเฉินพลิกมือเป็นคว้าจับมือของนางเอาไว้  

 

 

แต่ตู๋กูซิงหลันใช้มือข้างหนึ่งยันเอาไว้แต่แรก คนลอยละลิ่วยืนห่างออกไปอีกหลายเมตร  

 

 

ดวงตาดอกท้อคู่นั้นมองดูเยี่ยเฉินด้วยสายตาเย็นชา “ไท่จื่อ ที่บ้านของพวกเรา นี่เรียกว่า ความสนุกสนานอย่างหนึ่ง ท่านไม่รู้จักสนุกบ้างหรืออย่างไร?”  

 

 

เยี่ยเฉินสีหน้ามืดครึ้มขึ้นมา เหลือบตาดูปากแผลแวบหนึ่ง เขายกมือขึ้นมา ในกลางฝ่ามือมีพลังขุมหนึ่ง เพียงชั่วแวบเดียวก็ทำให้ปากแผลปิดสนิทดังเดิม  

 

 

ไม่เหลือร่องรอยเลยแม้แต่น้อย  

 

 

จากนั้นก็จ้องไปยังสตรีที่ขวัญกล้าอย่างบังอาจผู้นั้น “งั้นให้ข้าแทงเจ้าดาบหนึ่ง ดูสิว่าเจ้ายังจะสนุกอยู่อีกหรือไม่?”  

 

 

ทันทีที่สิ้นเสียง เขาก็สะกิดร่างพุ่งมาถึงเบื้องหน้าตู๋กูซิงหลันในทันที มือข้างหนึ่งพุ่งเข้าหาลำคอของนาง  

 

 

ปลายนิ้วของเขามีกรงเล็บยาวงอกเงยขึ้นมา ทันทีที่กรงเล็บพุ่งเข้ามาเส้นผมของตู๋กูซิงหลันก็ถูกตัดขาดลงไปหลายเส้น  

 

 

ตู๋กูซิงหลันไม่ต่อสู้กับเขาตรงๆ เดิมนางคิดว่าจะทำให้เขาบาดเจ็บ ค่อยหาทางหลบหนี อาณาเขตของเผ่ามังกรทมิฬทั้งกว้างใหญ่และมืดมิด ย่อมต้องมีสักที่ที่ให้นางสามารถหลบซ่อนตัวได้  

 

 

พิษในร่างของนางยังไม่หมดสิ้นไป หากว่าสามารถขับพิษได้หมดสิ้น บางทีนางอาจจะทำให้เขาบาดเจ็บได้จริงๆ  

 

 

ไท่จื่อแห่งเผ่ามังกรทมิฬผู้นี้ยังแข็งแกร่งกว่าที่นางคาดคิดเอาไว้มากนัก  

 

 

สีหน้าของนางเย็นชา สะกิดปลายเท้าเพียงเล็กน้อย ก็ถอยหลังไปทางประตูบานใหญ่อีกหลายเมตร   

 

 

เยี่ยเฉินไหนเลยจะยอมปล่อยนางไป?  

 

 

เขาอยู่ในเผ่ามังกรมานาน กลับไม่เคยเจอะเจอสตรีเช่นนี้มาก่อน!  

 

 

ถูกเขาระบุตัวให้มาเป็นอนุ แล้วยังจะคิดฆ่าเขา?  

 

 

ตอนนี้เผ่ามังกรในสี่ทะเลกล้าเหิมเกริมถึงเพียงนี้เลยหรือ?  

 

 

หากจะฆ่าสตรีเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องใช้อาวุธด้วยซ้ำ แค่กรงเล็บก็สามารถดับชีวิตนางให้สิ้นไปได้แล้ว!  

 

 

นัยตาสีน้ำเงินเข้มของเขาเปล่งประกายสังหารขึ้นมา ตู๋กูซิงหลันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ว่าเขายังเหนือกว่านางก้าวหนึ่ง  

 

 

กรงเล็บนี้พอพุ่งออกไป ก็มุ่งเป้าไปที่ช่องท้องของนาง!  

 

 

สตรีที่บังอาจถึงเพียงนี้ หากฆ่าตายในครั้งเดียวย่อมไม่มีความหมายอะไร  

 

 

ต้องเก็บเอาไว้ค่อยๆเล่นด้วย จึงจะสนุกสนานมิใช่หรือ?  

 

 

พลังอันแข็งแกร่งที่เปี่ยมไปด้วยแรงกดดันครอบคลุมออกไป ราวกับจะทำให้คนสิ้นไร้หนทางหลบหนี  

 

 

ดาบยักษ์ของตู๋กูซิงหลันไม่รู้ว่าหล่นไปอยู่ที่ใดแล้ว ตอนนี้จึงได้แต่อาศัยแรงกายเข้าต่อสู้  

 

 

นางถอยมาถึงประตูแล้ว ด้านนอกมีแต่ความมืดและเงียบเชียบ ราวกับปากของสัตว์อสูร ที่มองไม่เห็น  

 

 

นางเหลือบตาดูอย่างไม่ประมาท มือข้างหนึ่งก็ยังขับพิษที่คั่งค้างอยู่เล็กน้อยออกไป มืออีกข้างหนึ่งก็หยิบยันต์ขึ้นมา  

 

 

เพียงพริบตาเดียวก็ปะทะเข้ากับกรงเล็บของเยี่ยเฉิน  

 

 

ทันทีที่แผ่นยันต์กระทบถูกกรงเล็บของเยี่ยเฉินก็เกิดเสียงระเบิดกึกก้อง  

 

 

เสื้อผ้าและเส้นผมของตู๋กูซิงหลันฉีกขาดจนปลิวขึ้นมา กระดูกในร่างของนางส่งเสียงเลื่อนลั่น คนละลิ่วถอยไปด้านหลังอีกหลายต่อหลายก้าว  

 

 

บุรุษผู้นี้แข็งแกร่งจนน่าตระหนกแล้ว!  

 

 

นางกัดฟันเอาไว้ ยันต์ในมือถูกเยี่ยเฉินฉีกจนขาดวิ่น  

 

 

เขาหรี่ตาลง มองดูสตรีที่ฝืนต้านทานตรงหน้า  

 

 

ในเผ่ามังกรยังมีผู้ที่สามารถใช้ยันต์ได้ด้วยหรือ?  

 

 

องค์หญิงจากทะเลตะวันตกผู้นี้ยิ่งทีจะยิ่งสร้างความประหลาดใจเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้……..  

 

 

ยันต์แผ่นนั้นถึงกับสามารถต้านทานพลังของเขาได้ชั่วแวบหนึ่ง  

 

 

เขาหรี่ตาลง วาดกรงเล็บออกไปอีกครั้ง  

 

 

ครั้งนี้ใช้กำลังถึงสิบส่วน  

 

 

เยี่ยเฉินกระทำเรื่องใดล้วนไม่ชอบความยืดเยื้อ หากจบเรื่องได้ในครั้งเดียว ย่อมต้องไม่ปล่อยให้มีฝ่ามือที่สองอีกเด็ดขาด  

 

 

ขณะที่ตู๋กูซิงหลันกำลังหยิบยันต์แผ่นที่สองขึ้นมา กรงเล็บนั้นก็พุ่งมาถึงแล้ว แม้แต่เสือหิมะที่สลักจากก้อนหินที่อยู่นอกประตูคู่นั้นก็ยังแตกสลายเป็นผุยผง   

 

 

ตู๋กูซิงหลันรับฝ่ามือนี้เข้าไปอย่างเต็มที่ คนแทบจะลอยละลิ่วออกไป  

 

 

ช่วงท้องเจ็บร้าว นางถอยไปด้านหลังอีกหลายก้าว ทันใดนั้นที่ด้านหลังก็ปรากฏมือข้างหนึ่ง เข้ามาประคองนางเอาไว้  

 

 

ทันใดนั้นเอง ไอหยินที่หนักแน่นและแข็งแกร่งขุมหนึ่งก็แผ่ออกมาจากด้านหลัง ไหลผ่านร่างกายและ พุ่งเข้าไปในแผ่นยันต์ของนาง  

 

 

“ปั้ง!” ทันทีที่ได้ยินเสียง ยันต์แผ่นนั้นก็บินออกไป พุ่งเข้าสู่ร่างของเยี่ยเฉิน และระเบิดเป็นประกายแสงสว่างและเย็นวาบอย่างรุนแรง  

 

 

ตำหนักของไท่จื่อทั้งหลังสั่นสะเทือน เหล่านางกำนัลต่างก็ยืนไม่อยู่ รู้แต่ว่ามีสิ่งที่รุนแรงระเบิดออกมา แทบจะกวาดล้างผู้คนออกไปราวฝุ่นผง  

 

 

“เกิดเรื่องอันใดกัน?”  

 

 

ผู้คนทั้งหมดต่างตกตะลึง รีบมองหาต้นเหตุอย่างเร่งด่วน  

 

 

คราวนี้ หัวไหล่ของเยี่ยเฉินถูกระเบิดจนเลือดไหลทะลัก  

 

 

พลังที่เย็นยะเยือกสายนั้นยังฝังลึกลงไปในปากแผลอีกด้วย  

 

 

เขาขมวดหัวคิ้ว มองไปทางตู๋กูซิงหลันที่ยืนอยู่นอกประตู  

 

 

ทันทีที่กวาดตามองออกไป ก็เห็นที่ด้านหลังของนางมีบุรุษชุดดำประกายทองยืนอยู่ผู้หนึ่ง  

 

 

ริมฝีปากของเขายังเป็นสีม่วงจางๆ ทั่วทั้งร่างมีแต่ละอองหมอกสีดำกำจายออกมาอย่างเข้มข้น แทบจะทำให้ตำหนักของไท่จื่อจมอยู่ในความมืดมิด  

 

 

เยี่ยเฉินไม่เคยได้เจอบุรุษผู้นี้มาก่อน  

 

 

และก็ไม่เคยเห็นบุรุษที่หล่อเหลางดงามถึงเพียงนี้  

 

 

เขาใช้มือข้างหนึ่งประคบปากแผลเอาไว้ อาศัยพลังจิตรักษาบาดแผล เพียงแต่ระดับความเร็วในการรักษาช้ากว่าตอนที่โดนกรีดบนทรวงอกอย่างมาก  

 

 

“ผู้ใดกัน?” เขามองดูบุรุษผู้นั้นอย่างเย็นชา  

 

 

พอเอ่ยปาก ก็เห็นอีกฝ่ายโอบกอดอนุคนที่สองร้อยห้าสิบเอาไว้ ดวงตาหงส์คู่นั้นกวาดมองมา  

 

 

แฝงด้วยไอสังหารที่เย็นยะเยือก ที่พร้อมจะทำลายเขาให้กลายเป็นผุยผง!  

 

 

เยี่ยเฉินเกิดความสนใจขึ้นมาแล้ว……  

 

 

บุรุษผู้นี้กำลังสะท้อนความโกรธเกรี้ยวในร่างออกมา พลังของเขาก็แข็งแกร่งอย่างยิ่ง  

 

 

ในมือของเขาปรากฏแสงสีดำกลุ่มหนึ่งขึ้นมา จากนั้นท่ามกลายแสงสีดำก็ปรากฏดาบยาวเล่มหนึ่ง  

 

 

เยี่ยเฉินขยับร่างเพียงวูบเดียวก็พุ่งเข้ามาถึงด้านหน้าของพวกเขา กระบี่เล่มนั้นชี้ออกไป ขณะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “แม้แต่อนุตัวน้อยของข้าก็ยังกล้ามายุ่งเกี่ยว เกรงว่าเจ้าคงจะมีชีวิตอยู่อย่างสบายเกินไปละมั้ง?”  

 

 

จีเฉวียนโอบกอดตู๋กูซิงหลันเอาไว้ ไม่ได้หลบหลีกแม้แต่น้อย พอดาบสีดำลายทองปรากฏขึ้นในมือ ก็พลิกมือต้านทานกระบี่ของเยี่ยเฉินเอาไว้  

 

 

“อนุตัวน้อย หืม?”  

 

 

น้ำเสียงของเขาเหมือนจะถูกย้อมด้วยเลือด ทั้งอหังการและโหดเ**้ยม  

 

 

เพราะก่อนหน้านี้โดนพิษ แถมยังถูกโยนทิ้งลงไปในความมืดมิดแห่งหนึ่ง  

 

 

ขณะที่ยังไม่ทันหล่นลงไป ก็แขวนอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาอาศัยด้ายผูกชะตาตามหาตู๋กูซิงหลันจนเจอ ก็พบว่านางกำลังตกอยู่ในอันตรายพอดี  

 

 

ที่แท้ก็ถูกจับตัวมาเป็นอนุ?  

 

 

 

 

 

พอมองเห็นว่าบุรุษผู้นั้นเปลือยร่างท่อนบนอยู่ หมอกดำบนร่างของจีเฉวียนก็ยิ่งเข้มข้นยิ่งขึ้นไปอีก  

 

 

แม้แต่ดาบในมือก็ยังถูกย้อมด้วยหมอกสีดำ พอตวัดดาบนั้นออกไป ก็แทบจะผ่าเยี่ยเฉินออกเป็นสองส่วน!  

 

 

 

 

 

กระบวนท่าทั้งร้ายกาจและโหดเ**้ยม!  

 

 

 

 

 

ตู๋กูซิงหลันถูกเขาโอบเอาไว้ในอกด้วยมือข้างเดียวอย่างไม่ทันได้มีปฏิกริยาใดๆ  

 

 

ฝ่ามือที่มีไอหยินที่ลึกล้ำและแข็งแกร่งเมื่อครู่ เป็นพลังของฮ่องเต้สุนัข…..  

 

 

นางคิดไม่ถึงว่า เขาจะสามารถตามหาจนเจอด้วยเวลาสั้นๆเพียงเท่านี้  

 

 

ดูจากท่าทางแล้ว คล้ายมิได้รับผลใดๆจากพิษแมงกระพรุน  

 

 

……………………………….  

 

 

 

 

 

ตอนต่อไป “นางพบว่าจีเฉวียนนั้นมีปัญหา”  

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1-220


คำโปรย 

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา  

ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร  

Options

not work with dark mode
Reset